ผัวขายเมีย

สินค้าในยามยากของสังคมเมืองไทยในสมัยยังไม่เลิกทาสที่สำคัญมีอยู่อย่างหนึ่งคือ เมียและลูก ซึ่งผัวมีสิทธิที่จะขายเมียได้ และพ่อแม่มีสิทธิที่จะขายลูกให้แก่ใครก็ได้ ทำเสมือนว่าผู้หญิงและผู้เยาว์ เป็นผักปลาวัวควายอะไรทำนองนั้น แสดงให้เห็นถึงความเอาเปรียบของเพศชายอย่างรุนแรงและเห็นแก่ตัวที่สุด

คดีตัวอย่างคดีหนึ่งที่ร้อนถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ จนต้องทรงมีประกาศให้ทราบทั่วกันนั้นมีความว่า

เมื่อ ณ วันพฤหัสบดี แรม ๑๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะ นพศก (พ.ศ. ๒๔๑๐) อำแดงจันทำฎีกาทูลเกล้า ฯ ถวาย กล่าวโทษนายเอี่ยมผัวว่า ลักเอาชื่ออำแดงจั่นไปขายไว้แก่ผู้มีชื่อ อำแดงจั่นไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นด้วย ครั้นความทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทดังนี้ จึงทรงพระราชดำริว่าผัวลักเอาชื่อภรรยาไปขาย ภรรยาไม่ได้รู้ได้เห็นด้วย จะเรียกว่าเป็นเรือนเบี้ยไม่ควร แต่กฎหมายเก่านั้นว่าไว้อย่างไร หาทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทไม่ ณ วันอังคาร แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะ นพศก จึงมีพระราชหัตถเลขาให้พระอินทรเทพไปถามลูกขุน ๆ พร้อมกันคัดกฎหมายทูลเกล้า ฯ ถวายเข้ามาดังนี้

“ถ้าผัวแลพ่อแม่นายเงินเอาชื่อลูกเมียข้าคนลงในกรมธรรม์ขาย ท่านว่าเป็นสิทธิ์ แม้นว่าเจ้าสินบอกก็ดี มิได้บอกก็ดี แต่ตัวเรือนเบี้ยซึ่งมีชื่ออยู่ในกรมธรรม์นั้น ท่านว่าเป็นสิทธิ์ได้โดยกระบิลเมืองท่าน เหตุว่าเจ้าผัวแลพ่อแม่นายเงินนั้นเป็นอิสรภาพ บทหนึ่งว่าเมียก็ดีลูกก็ดีเอาชื่อพ่อแม่ผัวลงในกรมธรรม์ขาย ท่านว่ามิเป็นสิทธิ์ เหตุว่าเมียแลลูกนั้นมิได้เป็นอิสระแก่ตัวแลพ่อแม่นั้น”

กฎหมายเดิมมีอยู่เช่นนี้ จึงทรงพระราชดำริว่า กฎหมายบทนี้ เมื่อพิเคราะห์ดูเหมือนผู้หญิงเป็นควาย ผู้ชายเป็นคนไป หาเป็นยุติธรรมไม่ ให้ยกเสีย จึงมีพระราชบัญญัติใหม่ว่า ถ้าผัวจะเขียนชื่อเมียลงในสารกรมธรรม์ขาย ถ้าเมียมิใช่เมียทาสมีค่าตัวมีสารกรมธรรม์อยู่ในมือผัวแล้ว ต่อเมียยอมให้ขาย ลงลายมือแกงไดด้วยเป็นสำคัญ ผู้เขียนสารกรมธรรม์หรือผู้นั่งเป็นพยานรู้เห็นด้วย จึงเป็นอันขาย ควรถือว่าเป็นตัวเรือนเบี้ยได้ ถ้าเมียไม่ยอมให้ขายหรือลักเอาชื่อไปขาย ไม่มีพยานรู้เห็น ไม่เป็นอันขาย แต่ถ้าเมียอยู่กับผัวไม่ได้หย่าร้างค้างขายแยกย้ายกัน ผัวลักเอาชื่อเมียไปทำสารกรมธรรม์ขายแล้วหนีไป นายเงินจะมาฟ้องร้องให้เกาะครองเมียมา เร่งให้ส่งตัวผัวตามกระบิลเมืองได้ ถ้ามันยอมเป็นจำนำแทนตัวมัน ให้ใช้ต่างกระยาดอกเบี้ยค่าป่วยการ หรือยอมเป็นทาสต่อภายหลังลงแกงไดทำใบยอมให้ จะยึดเอาตัวเป็นทาสก็ได้ ถ้าไม่ยอม จะเกาะเป็นจำนำได้แต่ในโรงศาล จะยึดเอาตัวเป็นทาสไม่ได้ ถ้าเมียหย่าร้างขาดจากตัวเมียกันก่อนแต่มันหนี ถ้ามีชื่อในสารกรมธรรม์มันไม่รู้เห็นด้วยก็ดี หรือเมียผัวมันไปขายเป็นทาสท่านผู้อื่นไว้แต่ก่อน ยอมเป็นทาสใช้อยู่ในเรือนนายเงินแล้ว ก่อนแต่ผัวลักเอาชื่อมาทำสารกรมธรรม์ขายที่อื่นอีกแล้วก็ดี จะเกาะมันเอามาเป็นจำนำไม่ได้ ให้เกาะเอาแต่ผู้นายประกัน แลผู้รับเรือนนายประกันเงินของตัว ในการเรื่องผัวลักเอาชื่อเมียมาขายนั้นเถิด ในการอย่างนี้ต้องเป็นความลำบากแก่ผู้มักง่ายเชื่อกฎหมายเก่า ว่าผู้หญิงเป็นควายผู้ชายเป็นคน ถ้าเมียเป็นทาสมีค่าตัว ผัวยังไม่ได้ฉีกสารกรมธรรม์ยกค่าตัวให้ ถึงเป็นเมียก็ไม่ให้ว่าเมีย ให้ว่าทาส ทาสเป็นเมียก็ดี ไม่ได้เป็นเมียก็ดี สารกรมธรรม์มีนายเงินซึ่งเป็นผัวแลไม่ได้เป็นผัว จะเอาชื่อไปขายให้ยิ่งกว่าค่าตัวเดิม เพียงเสมอค่าตัวเดิม หรือหย่อนกว่าค่าตัวเดิมก็ได้ ต้องมอบสารกรมธรรม์เก่าให้ไปแก่ผู้นายเงินใหม่เป็นสำคัญ ทาสที่ยอมเป็นเมียนายเงินสารกรมธรรม์ยังไม่ได้ฉีกยกให้ จะผิดกับทาสที่ไม่ได้เป็นเมียนายเงิน แต่เมื่อถ้านายเงินผู้เป็นผัวตายควรจะได้มรดกบ้างเล็กน้อยในฉันภรรยาทาส โดยว่าทรัพย์มรดกไม่มีผู้ที่รับทรัพย์มรดก หรือเจ้าหนี้ของผู้ตายจะต้องลดค่าตัวให้เป็น ๑๐ ลด หรือ ๑๒ ลด ๑๕ ลด สมมติว่าเป็นมรดกของผู้ตายยกให้แก่มันที่เป็นเมีย แต่ในการขายนั้นเหมือนกับทาส ถ้าผัวขายเมียทาสหรือนายเงินขายทาส แรงกว่าค่าตัวเดิมไป ไม่ให้สารกรมธรรม์เดิมไปเป็นสำคัญ ถ้ามันลงแกงไดยินยอมด้วยดังว่าก่อนก็เป็นอันขายได้ ถ้ามันไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย ต้องพิจารณาเอาความจริงเร่งรัดเอาแต่ตามค่าตัวเดิม เงินที่เกินให้เร่งเอาแต่ผู้ขายผู้ที่รับเงินไป ถ้านายเงินเอาชื่อทาสที่เป็นเมียก็ดีไม่เป็นเมียก็ดี ที่หลบหลีกหนีไปแล้วมาขาย ผู้ช่วยถ่ายไว้ได้ตัวเรือนเบี้ยมา ให้เรียกค่า ตัวเดิมแลค่าป่วยการตั้งแต่หนีไปได้แต่ดันชนดอกตามกฎหมาย ถ้าพ่อ แม่เอาชื่อลูกมาขาย ถ้าลูกอายุยังไม่ถึง ๑๕ ปี แลอยู่กับพ่อแม่มัน ถึง ไม่ถึงแกงไดเลยยอมด้วย ก็เป็นอันขายได้ แต่ถ้าลูกแยกย้ายไปจากพ่อ หรือแม่ที่เป็นผู้ชายแล้ว คือพ่อแม่โกรธกัน หย่าร้างกัน ถูกตกไปอยู่ข้าง อื่นจากผู้ขาย หรือญาติของฝ่ายอื่นจากผู้ขาย จะลอบเอาชื่อมาขายไม่ได้ ไม่เป็นอันขาย ให้เร่งเงินเอาแต่ผู้ขายแลผู้นายประกัน จะเกาะเรือนเบี้ยไม่ได้ ก็ถ้าลูกชายก็ดีลูกหญิงก็ดีอายุถึง ๑๕ ปีขึ้นไปแล้ว ถ้าพ่อแม่จะเอามาขาย ต่อมันลงแกงไดยินยอมมีผู้รู้เห็นด้วย ซึ่งเป็นอันขาย การก็เหมือนกับเมียที่ไม่มีค่าตัว ถ้าพ่อแม่มันผู้ชายนั้นหนี มันยังอยู่ในเรือนพ่อแม่มัน จะเกาะเอาตัวมันมาเป็นจำนำในโรงศาลได้ ถ้ามันลงแกงไดทำใบยอมเป็นทาสแทนพ่อแม่มันให้ใช้ จะเอาเป็นทาสตามสารกรมธรรม์ก็ได้ ถ้ามันไม่ยอมจะเกาะเป็นจำนำไว้ได้ในโรงศาล ให้มันนำตัวพ่อแม่มันมาที่นี่ แต่ถ้ามันแยกย้ายตกไปฝ่ายอื่นขาดไปแล้วจากพ่อแม่มัน ผู้ขายจะเกาะเอาเป็นจำนำก็ไม่ได้ ต้องเร่งเอาแต่ผู้นายประกัน แลผู้รับเรือนประกันฝ่ายเดียว ถ้าผู้ขายตาย ผู้รับมรดกเป็นผัวหรือเป็นเมีย หรือเป็นลูกหรือเป็นญาติของผู้ตาย ต้องรับใช้หนี้แทนผู้ตายโดยสมควรแก่กฎหมายมรดก ถ้าเมียขายตัว ๆ เป็นทาสของเมีย มีค่าตัวมีสารกรมธรรม์ ยังไม่ได้ฉีกยกให้เหมือนกับเรื่องขายทาส จะเอาเรื่องที่เป็นตัวมาเถียงไม่ได้ เมียขายผัวก็ดี ลูกชายพ่อแม่ก็ดี พี่น้องขายกันก็ดี เพื่อนฝูงชอบพอกันก็ดี ถ้าลงกำแพงแกงไดยินยอม ด้วยมีผู้รู้เห็นก็เป็นอันขาย ถ้าไม่ได้ยินยอมรู้ เห็นด้วย ไม่เป็นอันขาย ลูกที่ไม่มีพ่อแม่ ผู้ขายเอามาเลี้ยงเหมือนลูกของตัวแต่อายุได้ ๗ ขวบลงมา สิทธิ์ขาดไม่มีใครเถียง ก็ขายได้เหมือนกับลูกตัว เพราะมันจะได้มรดกด้วยความเป็นลูกเลี้ยง ขายได้ในอายุ ๑๕ ปีลงมา เมื่อพ้นอายุ ๑๕ ปีขึ้นไปแล้ว ต่อเรือนเบี้ยมันยอมด้วยจึงขายได้ ลูกผู้อื่นที่ผู้ชายเอามาเลี้ยง เมื่ออายุมันกว่า ๗ ขวบ ถึงอายุได้ ๑๕ ปี ลงมา มันไม่ยอมด้วย จะเอาไปขายไม่ได้ เพราะมันไม่ควรได้มรดกของผู้เลี้ยง

ให้ลูกขุนตระลาการ ซึ่งพิพากษาความต่อไปเบื้องหน้าว่าตามพระราชบัญญัติซึ่งประกาศไว้นี้ อย่าให้เอากฎหมายเดิมมาว่าเป็นอันขาด ถ้าลูกขุนตระลาการผู้ใดยังว่าตามกฎหมายเดิมอยู่ ไม่พิพากษาความตามพระราชบัญญัตินี้ จะให้มีโทษตามโทษานุโทษแต่ผู้นั้น ๆ

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ