วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ดร

สำนักดิศกุล, หัวหิน.

วันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๖

ทูล สมเด็จกรมพระนริศรฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ลงวันที่ ๑๔ ทรงหารือระยะทางที่จะเสด็จประพาสหัวเมืองมณฑลนครศรีธรรมราชนั้น ขอทูลสนองดังต่อไปนี้

๑. ทางที่จะเที่ยวเตร่จากเมืองสงขลาได้ภายในเวลา ๑๐ วันโดยไม่รีบร้อนให้ลำบากพระองค์นั้นมี ๔ ทาง คือ

ไปเที่ยวมณฑลปัตตานี เดี๋ยวนี้มีถนนไปได้ตลอดทั้งมณฑล มีพระนอนของโบราณครั้งศรีวิชัยอยู่ที่เมืองยะลา ไปไม่ห่างสถานีรถไฟนัก เที่ยวได้ ๓ วัน ๔ วัน

ทางที่ ๒ ไปเมืองปีนังโดยทางรถยนต์ เขาไปกัน ๒ อย่าง ถ้าลอบไปเขาไปค้างที่อำเภอสะเดา พอรุ่งเช้าขึ้นรถยนต์ไปทางราว ๔ ชั่วโมงเศษถึงปีนัง กินเข้ากลางวันที่ปีนังแล้วกลับมาอำเภอสะเดาในวันนั้น ถ้าไปตรงๆออกจากสงขลาไปทางราว ๖ ชั่วโมงเศษ ถึงปีนังไปพักที่บ้านพระยารัตนเศรษฐี (ซึ่งหม่อมฉันรับจะจัดการได้) อยู่เที่ยวปีนัง ๒ วัน ๓ วันแล้วจึงกลับมาสงขลา

ทางที่ ๓ เที่ยวเมืองพัทลุง ได้ดูทะเลสาบตอนใน (แต่ที่เกาะสี่เกาะห้า เดี๋ยวนี้น้ำตื้นไปยากเสียแล้ว) แต่มีทางรถยนต์อาจข้ามเขาบรรทัดทางช่องไปเที่ยวเมืองตรัง อาจไปมาได้ในวันเดียวกัน หรือถ้าไปค้างที่เมืองตรังอาจไปเที่ยวถ้ำเขาปีนา ซึ่งเปนที่น่าดูมาก แล้วจึงกลับมาเมืองพัทลุง

ทางที่ ๔ ไปเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช ไปรถไฟจากสงขลาได้จนถึงเมืองนครศรีธรรมราช มีที่เที่ยววัดพระมหาธาตุที่ในเมือง และไปดูทำเหมืองดีบุก-ด้วยวิธีใช้เรือขุด และวิธีใช้แรงน้ำเป่าที่ร่อนพิบูลย์แล้วจึงกลับไปสงขลา

ทางที่ ๕ ถ้ากลับทางรถไฟจากสงขลามาหัวหิน มาจับรถไฟเวลาเช้าที่ทุ่งสงมาลงที่เมืองไชยาเก่า พักแรมที่วัดมหาธาตุ มีที่เที่ยวคือวัดมหาธาตุและวัดแก้ว แล้วจับรถไฟด่วนวันจันทรหรือวันศุกรมาถึงหัวหินวันศุกรหรือวันจันทรเวลาเช้า ๗ นาฬิกา

๒. ถ้าเสด็จกลับทางเรือจากสงขลา มีเวลาเที่ยวได้ ๑๐ วัน คงจะต้องประทับที่สงขลาราว ๓ วัน เหลือเวลาที่มีสำหรับเที่ยว ๗ วัน อาจจะเที่ยวได้ทั้งเมืองนครศรีธรรมราชและเมืองพัทลุง คือ วันที่ ๑ ออกจากสงขลาทางรถไฟถึงเมืองนครศรีธรรมราชในวันนั้น วันที่ ๒ อยู่เมืองนครศรีธรรมราช วันที่ ๓ กลับจากเมืองนครศรีธรรมราช ถึงเมืองพัทลุงในวันนั้น วันที่ ๔ ไปเมืองตรังทางรถยนต์ วันที่ ๕ เที่ยวเมืองตรัง วันที่ ๖ กลับจากเมืองตรังมาเมืองพัทลุง (หรือจะไปถ้ำเขาปีนาอีกวัน ๑ วันที่ ๗ ขึ้นรถยนต์แต่เข้ามาให้ทันเวลารถไฟก็ได้) วันที่ ๗ กลับไปถึงเมืองสงขลาดังนี้

๓. ในการที่เสด็จประพาสทางบก-ควรบอกให้เทศาทราบ เพราะต้องอาศัยพักในสถานของหลวง ที่เมืองสงขลาเขาทำคล้ายๆโฮเตลไว้ที่เขาน้อย อยู่สบายดี ที่เมืองพัทลุงก็มีที่พัก แต่จะอยู่ตรงไหนหม่อมฉันไม่ทราบ ที่เมืองนครศรีธรรมราชนั้นเคยไป อยู่ที่พลับพลาเก่าหน้าเมือง สบายดี ที่เมืองตรังก็มีที่พักหลายหลัง หม่อมฉันเคยไปอยู่แล้วสบายดี เรื่องการกินขอให้เขาช่วยซื้อหาของสด เราให้เงินและทำกินเอง รถยนต์ก็ขอให้เขาช่วยหาจ้างให้ และขออย่าให้เขาทำพิธีรับรองในทางราชการ เท่านี้ก็จะพอสดวก

๔. โดยถ้าวันมี ๑๐ วันที่บริษัทกะถวายไม่พอจะเที่ยวได้ จะขยายวันออกไปอีก หม่อมฉันก็เห็นว่าพอจะขยายได้ ด้วยเรือบริษัทเขาเดินทุกอาทิตย์ ที่เขาจัดเรือมาลินีถวายเพราะสบายและเดินเร็วกว่าลำอื่น ถ้าจะเสด็จกลับลำอื่นเขาก็คงจัดถวายได้

๕. ขอทูลความนอกเรื่องเพิ่มเติมในจดหมายฉะบับนี้ คือเรื่องที่บรรจุพระอัษฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกที่ทูลไปในจดหมายฉะบับก่อนนั้น ยังขาดวินิจฉัยไม่ได้ทูลอยู่ข้อ ๑ ว่าคงบรรจุพระอัษฐิไว้เบื้องต่ำในองค์พระมหาธาตุ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้เบื้องสูง ให้สักการบูชาพระมหาธาตุเปนพุทธเจดีย์ด้วย อันนี้เปนประเพณีมีมาแต่โบราณ เห็นตัวอย่างได้เมื่อเร็วๆ นี้ที่พระมหาสถูปบรรจุพระบรมอัษฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาทที่วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์

๖. เมื่อวานนี้ หม่อมฉันได้รับบัตรอำนวยพรปีใหม่มาจากราชบรรณาลัยกรุงกัมพูชา และดี ได้ส่งมาถวายทอดพระเนตร์พร้อมกับจดหมายฉะบับนี้ด้วย

๗. เมื่อวันเถลิงศก มีการเลี้ยงเข้าแช่พระราชทานเจ้านายที่มาอยู่หัวหิน รวมได้ถึง ๖๔ พระองค์ด้วยกัน น้อยกว่าจำนวนที่มารับพระราชทานน้ำสังข์เมื่อวันที่ ๑ เพียง ๔ พระองค์

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ