วันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๖ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๔๗๖

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

การไปเที่ยวของเกล้ากระหม่อม ทำให้การเขียนหนังสือมาถวายเป็นกำหนดต้องหยุดไป บัดนี้กลับมาถึงบ้านแล้ว จึงได้จับเขียนถวายอีกตามกำหนดเดิม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

รายงานในการไปเที่ยว ได้เขียนถวายมาบ้างตามหัวเมืองที่ไปถึงเป็นกะท่อนกะแท่น และตอนที่ควรจะกราบทูลละเอียดก็ไม่ละเอียด เพราะไม่มีเวลาจะเขียน จึงจะเขียนกราบทูลใหม่แต่ต้นไปเป็นลำดับ แต่เป็นรายงานยาว จะให้จบในคราวเดียวเห็นจะเป็นความหนักในการเขียนและการอ่าน จึงจะเขียนถวายเป็นตอน ๆ ตามสมควร แต่ให้ติดต่อกัน

วันที่ ๖ พฤษภาคม บ่าย ๒ โมง ไปลงเรือมาลินีที่ท่าราชวงศ์ นายฆริสเตียนเซนคอยรับอยู่ที่เรือ พามอบห้องหับแล้วกลับไป เวลาบ่าย ๒ โมงครึ่งเรือออกแล่นไปในทะเล

วันที่ ๗ พฤษภาคม เรือแวะรับบรรทุกสินค้าที่ตำบลสระพลีและชุมพร

วันที่ ๘ พฤษภาคม เรือหยุดรับบรรทุกสินค้าที่ตำบลบ่อคา ตะโก หลังสวน กับตำบลอะไรฝรั่งเรียกว่า กวี (กุยกระมัง) แล้วถึงอ่าวบ้านดอน รับบรรทุกของแล้วเลยหยุดจอดนอนเสียที่นั้น ว่ามาเร็วไป ถ้าออกเดิรจะถึงสงขลาวันที่ ๙ เวลา ๘ ทุ่มผิดกำหนด ผู้ที่คอยรับเขาจะโกลาหล วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา แต่อยู่ในเรือกลางทะเลทำอะไรไม่ได้ นอกจากบูชาไหว้พระสวดมนต์ไปตามแกน

วันที่ ๙ พฤษภาคม เรือออกเดิรต่อไป หยุดรับสินค้าที่สิชล นครศรีธรรมราช

วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ถึงสงขลาเวลาโมงเช้า สมุหเทศาภิบาลกับผู้ว่าราชการลงมารับ พาขึ้นไปให้พักอยู่ที่ตำหนักสมเด็จหญิงน้อย ซึ่งตรัสสั่งให้สร้างขึ้น แต่พระองค์เองก็ยังมิได้ทอดพระเนตรเห็น ตั้งอยู่ใกล้สถานีวิทยุโทรเลข องค์ชายภาณุได้มาพักอยู่ก่อน เพิ่งกลับไปเมื่อวันที่ ๕ นี้เอง เวลาบ่าย ๕ โมงขี่รถไปเที่ยวชมเมือง ที่สุดขึ้นชมโฮเตลบนเขาน้อยแล้วกลับที่พัก

วันที่ ๑๑ พฤษภาคม เวลาเย็นไปไหว้พระและชมวัดมัชฌิมาวาส เป็นวัดที่ตั้งใจทำอย่างดี มีรูปเขียนในอุโบสถ ฝีมือช่างรัชชกาลที่ ๓ ไม่ล้ำเลิศอะไร แต่ทำแปลกสดุดใจ ที่เบื้องบนเขียนทั้งปฐมสมโพธิและเทพชุมนุมประสานกันแบ่งด้วยสินเทา อันยังไม่เคยเห็นที่ไหนเขียนทำนองนี้ ห้องข้างล่างเขียนสิบชาติ พระประธานเป็นศิลาขาวฝีมือไทยฉลัก ออกจากวัดขึ้นรถไปเที่ยวตามถนน ที่สุดสมุหเทศาภิบาลพาแวะสโมสรสงขลา แล้วกลับที่พัก

วันที่ ๑๒ พฤษภาคม เวลาบ่ายไปเที่ยวเกาะยอ ดูเขาทำกระเบื้อง อยู่ข้างจะตื่นใจ เพราะว่าทำง่ายเหลือเกิน และได้ของดีเหลือเกิน เพราะว่าดินดีเหลือเกิน ไม่ต้องผสมอะไร ขุดขึ้นมาก็ทำได้ทีเดียว เป็นอันได้ความเข้าใจว่าที่เขาไปตั้งทำที่เกาะยอนั้นไปหาที่ดินดีเท่านั้นเอง

วันที่ ๑๓ พฤษภาคม สมุหเทศาภิบาลพาไปเที่ยวสวนหลวงศุภไสยสโมธาน กรมการพิเศษอันตั้งอยู่ทางร่วมที่จะไปหาดใหญ่และสะเดา เป็นสวนยาง แต่เขาแบ่งกั้นไว้ส่วนหนึ่งเป็นเขตต์ที่พัก มีเรือน มีต้นไม้ดอกผลปลูกล้อมอยู่โดยรอบ เป็นที่น่าเจริญใจ ดูเขาสับยางและผสมกรดอัดเป็นแผ่นแล้วรมควัน จนเป็นของสำเร็จที่จะส่งไปขายได้ ได้ความรู้ตลอด

วันที่ ๑๔ พฤษภาคม เวลาเย็นนี้ สมุหเทศาภิบาลชวนไปดูที่ว่าการมณฑล แต่เกล้ากระหม่อมไม่ยอมไปกลัวเขาจะว่ายื่นไปตรวจ “รัฐการ” เลี่ยงไปดูกำแพงและประตูเมืองสงขลาที่ยังเหลืออยู่เสีย แล้วไปเยี่ยมพระเพชรคิรีผู้ว่าราชการที่บ้านพระยาวิเชียรคิรี (แจก) ซึ่งเขาอยู่ที่นั้นด้วยภรรยาเขาได้มรดกปกครองอยู่ เขารักษาไว้คงอยู่ตามเดิมด้วยดีจำได้ทุกแห่ง ไม่มีเปลี่ยนแปลงเลย เป็นแต่ประหลาดใจที่ได้พบศพพระยาวิเชียรคิรีกับศพคุณหญิงสมบุญยังอยู่ในบ้านนั้น ตายนานแล้วยังไม่ได้ทำอะไร ว่าได้ไปทำห้วงจุ๊ยไว้ที่สวนตูนเสร็จแล้ว ยังไม่ได้นำไปฝัง ออกจากบ้านพระเพชรคิรีไปบ้านสมุหเทศาภิบาลเยี่ยมเยียนแล้วกลับที่พัก

เห็นจะยาวมากอยู่แล้ว คราวหน้าจึงจะทูลถวายตอนนครศรีธรรมราชต่อไป

ตั้งใจจะหาอะไรมาถวายเป็นของฝากก็ข้นเต็มที หาที่แปลกประหลาดไม่ได้ จะมีควรถวายอยู่ก็แต่รูปถ่ายลางอัน ยังไม่พร้อมที่จะถวายได้ในวันนี้

ได้ไปเยี่ยมราชบัณฑิตยสภาและศิลปากรสถานเมื่อวันที่ ๕ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลกไป เรียนทราบว่าเป็นแต่มีพระราชกฤษฎีกา ให้กระทรวงธรรมการจัดตั้งกรมศิลปากร แบ่งเป็น ๕ กอง คือกองกลาง กองสถาปิตยกรรม กองศิลป กองพิพิธภัณฑและโบราณคดี กับกองหอสมุด แต่จะล้มราชบัณฑิตยสภาย้ายไปตั้งขึ้นหรืออย่างไรยังไม่มีคำสั่ง การจึงยังคงอยู่ตามเดิม

กองโฆษนานั้นมาตั้งอยู่ในศิลปากรสถาน ที่ห้องกองอำนวยการทางชั้นบนปีกขวา ย้ายของในกองอำนวยการไปไว้ห้องช่างเขียนทางปีกซ้าย นอกกว่านั้นก็คงอยู่ตามที่เดิมหมด เรียนทราบว่าพระยามโนปกรณขอยืมให้พักทำการอยู่ชั่วคราว

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. หลวงศุภไสยสโมธาน (เอี้ยนเบี้ยน เหาตะวานิช)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ