วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๔๗๖

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัดถ์ลงวันที่ ๑๔ เดือนนี้ ได้รับประทานแล้ว เปนยาหอมอันหนึ่ง ซึ่งได้รับประทานแล้วทำให้ชื่นชูใจ เพราะในกรุงเทพฯ ก็ไม่มีใคร กรมขุนชัยนาทเคยไปมาหาสนทนากันเล่นอยู่บ้าง เดี๋ยวนี้ก็เปิดไปเขาเต่าเสียแล้ว แต่บอกว่าจะกลับปลายเดือนนี้

พระปรารภเรื่องที่เขาจะตั้ง “ราชบัณฑิตยสถาน” กันขึ้นใหม่ เกล้ากระหม่อมคิดว่าไกลจากเราตั้งร้อยโยชน์แสนโยชน์ ถ้าหากเขามาเชิญแล้วจะเปนการมหัศจรรย์อย่างล้นพ้น เสมอเหมือนราชรถมาเกย

เรือเรโสลูตที่เสด็จไปทอดพระเนตรนั้น ภายหลังได้ไปทอดที่นอกสันดอน พวกนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวกรุงเทพ ฯ เกล้ากระหม่อมพบเข้าไปชมพระบรมมหาราชวังกันอยู่มาก รู้สึกแปลกใจที่เปนเวลาบ่าย ๒ โมง แดดร้อนเปรี้ยงจนไม่อยากไปข้างไหน แต่เขาแช่มชื่นประพฤติดั่งว่าเปนเมืองหนาว ใส่เสื้อสักหลาดไปนั่งเล่นกันตามเก้าอี้ใต้ต้นไม้ริมสนามหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามก็มี พวกผู้หญิงไปนั่งเล่นกันเปนกลุ่ม ๆ ที่กระถางต้นไม้ดัดหน้าพระที่นั่งจักรีก็มี ดูน่าสนุก

สงสารหญิงพิลัย จะต้องไปนุ่งผ้าทำหน้าปุเหลี่ยน ๆ แต่ก็จะเปนประโยชน์อันล้ำเลิศเพราะจะสิ้นโรคภัยไข้เจ็บนั้นอย่างหนึ่ง กับทั้งจะเปนผู้นำไทยให้ดำเนินทันสมัยไม่ล้าหลังอีกอย่างหนึ่ง หญิงพูนนั้นถึงจะมีอาการค่อยยังชั่วขึ้นก็ไม่สู้น่าวางใจ เพราะสมุฎฐานแห่งความเจ็บย่อมประกอบด้วยเหตุภายนอกมากระทบด้วย ถ้าหากมีอะไรมากระทบก็อาจทำให้กลับไม่สบายไปอีกก็ได้

เรื่องแขกกลิงค์นั้น เปนแน่ที่ระบาทลงมาปนกับพวกทมิฬอย่างที่ทรงพระดำริ ชื่อกลิงค์จึงมาปนเลอะอยู่กับพวกทมิฬ อ้ายบุญเรือนที่กราบทูลนั้น กราบทูลเท่าที่เห็นมันเปนอยู่ในบัดนี้ ต่อไปจะเปลี่ยนแปลงสำแดงฤทธิไปตามสันดานของพวกมันอย่างไรก็อาจเปนได้ เกล้ากระหม่อมอยากจะโทษพ่อเจ้าประคุณฝรั่งที่มาเปนนาย ที่แกทำแก่พวกบ่าวชาวตะวันออกเหมือนหนึ่งว่าเปนสัตว์เดียรฉาน มันหมดปัญญาก็ต้องต่อสู้ด้วยดื้อด้วยโกง เปนเหตุให้เลยเปนสันดานไปได้ เกล้ากระหม่อมจำได้ว่าเกล้ากระหม่อมเคยฉุนใหญ่โตทีหนึ่ง ครั้งกับตันบุช ฝ่าพระบาททรงรู้จัก เปนนายทหารเดนมารกที่มาคราวเดียวกับกับตันเชา ทำอะไรไม่เปนแก่นสาร พระยาชลยุทธโต้หลงเอาไปเปนนายทหารมรีน เขามีประสงค์จะให้ทหารเรือตัดผมอันควรจะสั่งเสียกันโดยดี แต่หาทำเช่นนั้นไม่ เอาตะไกรเที่ยวตัดผมทหารเรือให้แหว่งเหว้าเสียโฉมเพื่อจะได้ตัดใหม่ พวกทหารเหล่านั้นพากันแห่มาหาเกล้ากระหม่อมให้ดูการกระทำของฝรั่งมากมาย เกล้ากระหม่อมสั่งให้ไล่กับตันบุชออกจากราชการทันที หากพระยาชลยุทธมาขอโทษว่าเจ้าตัวรู้สึกแล้วว่าทำผิด เกล้ากระหม่อมเหนแก่พระยาชลยุทธจึงยอมยกโทษให้ แต่ก็ไม่อยู่ในราชการไปได้นานเท่าใดก็ต้องออก

เรื่องเขาจะมีงานปีใหม่กัน ตามที่ได้กราบทูลมาก่อนนั้น มีเรื่องอนุสนธิสืบต่อมา แต่ก็เฟเลียไม่รู้ว่างานของใครอยู่นั่นเอง เจ้าพระยาวรพงศส่งหนังสือพระยาประมวญวิชาพูลมาให้ เขียนชื่อลงตำแหน่งตนว่าเปนกรรมการแผนกการพิธี ใครตั้งก็ไม่ทราบ เจ้าพระยาวรพงศหนักหลายตัน ว่าเปนการใหม่ยังไม่เคยมี ขอหารือว่าจะตอบไปอย่างไรดี ข้อความในหนังสือนั้นมีคำขอสองข้อ ข้อหนึ่งว่าวันที่ ๑ เมษายน เวลาเช้า จะมีการตักบาตรพระสงฆ์ ๕๐๐ ที่ท้องสนามหลวง ขอให้ทูลเชิญเสด็จเจ้านายฝ่ายในออกไปทรงบาตร ราษฎรจะได้เฝ้า ข้อสองกรรมการจะไปสรงน้ำสมเด็จพระพันวัสสา กับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรในวันที่ ๑ นั้น จะไปเฝ้าได้เวลาไร เกล้ากระหม่อมแนะนำให้ตอบไปว่า ในข้อหนึ่งเขาควรจะทำเปนฎีกาแผ่กุศลส่งมา จะช่วยนำขึ้นถวาย เจ้านายพระองค์ใดทรงพระศรัทธาจะทรงจัดอาหารส่งไปประทานช่วย หรือจะเสด็จออกไปทรงบำเพ็ญพระกุศลด้วยพระองค์เองนั้นก็แล้วแต่จะโปรด ข้อสองเปนการยากที่จะบอกได้ ด้วยในวันที่ ๑ เมษายนนั้นเจ้านายมีพระธุระอยู่มาก ยากที่จะบอกกำหนดเวลาได้ อีกประการหนึ่ง ประเพณีถวายน้ำสรงปีใหม่นั้น เปนการฉะเพาะแต่ในวงพระญาต ผู้ที่มิได้เปนพระญาตจะไปถวายน้ำจะไม่ทรงรับก็อาจเปนได้

เมื่อวานนี้มีการถวายบังคมพระบรมรูปปัญจมราชานุสสรณ์ ดูผู้คนน้อย ดอกไม้ที่ทำไปถวายก็น้อย อาจเปนด้วยผิดกำหนดคนไม่รู้ทั่วถึงกันก็เปนได้

ที่ท้องสนามหลวงมีติดว่าวพะนันตามเคย แต่พระยาภิรมไม่เปนนายบ่อน เห็นจะเปนด้วยติดธุระทำมาหากิน นายยิ้ม ศรีหงส์ เปนนายบ่อนแทน ดูกร่อยไป น่าจะเปนด้วยลมไม่ค่อยดี อากาศติดจะมีเมฆฝนอยู่ไม่ค่อยโปร่ง

คำ “เถร” ได้เกณฑ์ตางั่วค้นในกฎหมายพระสงฆ์ คัดมาให้ทุกแห่งปรากฏอยู่ในระหว่างภิกษุสงฆ์กับเณร เปนพระภิกษุสงฆ์เถรเณร จะได้เอาไปเรียนถามสมเด็จพระวันรัตนดู แต่กลัวจะบอกอะไรไม่ได้เพราะแก่ไม่พอ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. พระยาชลยุทธโยธิน (เอ ดู เปลลิศ เดอรี ชี เลียว)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ