วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ดร

สำนักดิศกุล หัวหิน

วันที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๖

ทูล สมเด็จกรมพระนริศ ฯ

ได้รับลายพระหัดถ์ตรัสเล่ารายการที่เสด็จตรวจเมืองนครศรีธรรมราชทั้งรูปฉายาลักษณ์ และเหรียญ น. เทียนสิน ขอบพระทัยมาก

หม่อมฉันรู้สึกยินดีที่ได้เห็นรูปปรากฎว่าพระวิหารหลวงได้ปฏิสังขรณ์สำเร็จแล้ว ด้วยได้เคยวิตกเกรงจะพังมาช้านาน ปลาทใจอยู่นิดว่าเหตุใดจึงเรียกวิหารหลวง เพราะคำว่าวิหารกับโบสถเป็นวัตถุต่างกัน สันนิษฐานว่าเดิมจะเป็นวิหาร เพราะวัดพระมหาธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราชนั้นเดิมไม่มีที่พระสงฆ์อยู่ มีวัดพระสงฆ์อยู่ทั้ง ๔ ทิศ (พึ่งมาสร้างกุฎีพระสงฆ์อยู่ในวัดพระมหาธาตุเมื่อหม่อมฉันออกจากเสนาบดีมหาดไทยแล้ว พระครูปาน พระครูร่วม ก็อยู่วัดอื่นตรงหน้าวัดพระมหาธาตุ) ชะรอยจะมีผู้ศัทธาแก้พระวิหารหลวงให้เป็นพระอุโบสถเมื่อภายหลัง อาจจะเป็นครั้งเจ้านครก็เป็นได้ จึงยังคงเรียกว่าพระวิหารหลวงตามเดิม

ในวิหารที่เขาเรียกว่าวิหารพระม้าที่มีบันไดขึ้นชั้นทักษิณ วิหารพระม้านั้นมีรูปภาพหลายอย่าง คือรูปเรื่องพระมหาพิเนษกรม รูปมาร รูปสิงห์ รูปครุธและหัวนาค เครื่องแต่งตัวมนุษย์และมาร ได้ทรงสังเกตหรือไม่ว่าเป็นสมัยสุโขทัยหรือสมัยไหน หม่อมฉันได้เคยปรารภกับพระครูปาน ว่าหัวนาคนั้นเป็นของเขาทำที่เชิงบันได เหตุใดจึงมาอยู่ข้าง ๆ อย่างนั้น พระครูปานบอกว่าเมื่อสร้างวิหารนั้นได้ขุดพื้นตรวจดูยังมีขั้นบันไดลงไปอีกลึก บันไดเดี๋ยวนี้เป็นของทำชั้นหลัง หม่อมฉันจึงคิดเห็นว่ารูปมารและรูปสัตว์เหล่านั้น เดิมจะมีอยู่ที่อื่นเก็บรวบรวมมาไว้ด้วยกันที่นั่นเมื่อสร้างวิหารพระม้าชั้นหลัง บานประตูชั้นทักษิณ (ของเดิมไฟไหม้เสียแล้ว ที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ทำเทียมขึ้นภายหลัง) เป็นรูปเทวดาหน้ามากอย่างทศกรรฐ เดิมเข้าใจกันว่า ทำรูปพรหมสัททาสิทธิ์ หม่อมฉันพึ่งมาคิดได้ต่อภายหลังว่า เดิมคงทำรูปพระโพธิสัตว์อวโลเกศวร พระมหาธาตุเมืองนครนี้พิจารณาตามตำนานและตามคำของพระครูปานประกอบกับวัตถุที่มีอยู่ เข้าใจว่าองค์เดิมเป็นของสร้างในสมัยศรีวิชัย เมื่อถือศาสนาลัทธิมหายาน อย่างเดียวกับพระมหาธาตุเมืองไชยา ต่อเมื่อพวกลังกามาตั้งลัทธิลังกาวงศขึ้นเมื่อล่วงสมัยพระร่วงจึงมาสร้างพระมหาธาตุองค์นี้ครอบพระเจดีย์เดิม มีคดีเรื่อง ๑ ซึ่งหม่อมฉันจะได้ทูลแล้วหรือยังจำไม่ได้ หม่อมฉันได้เคยชวนพระครูร่วมให้ขนทรายออกจากวัด ด้วยเห็นว่าก่อพระทรายกันมาจนพื้นวัดสูงขึ้นไปกลบฐานของโบราณเสียมาก เมื่อลองขุดดูที่รอบองค์พระมหาธาตุจะชัณศูจน์หาพื้นเดิม เห็นฐานทับเกษษลอยก่อนสิ่งอื่น จึงเข้าใจว่าทับเกษษรอบชั้นทักษิณเป็นของสร้างใหม่ทีเดียว อาจจะสร้างเมื่อครั้งพระเจ้ากรุงธนบุรีลงไปติดมรสุมอยู่ที่นครก็เป็นได้.

เรื่องเครื่องถมนครนั้น ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเกิดเข้าใจกันว่าวิชชาทำเครื่องถมเกิดขึ้นที่เมืองนคร กรุงเทพ ฯ ไปเอาอย่างเข้ามา แต่ก่อนหม่อมฉันได้เคยเรียกเครื่องถมของเก่าที่เจ้าพระยาสุธรรมมนตรีมาตรวจ ไม่มีลวดลายและฝีมือเก่ากว่าครั้งรัชชกาลที่ ๒ อีกประการหนึ่ง พวกช่างถมที่เมืองนครนั้นเป็นเชื้อสายแขกมะลายูเป็นพื้น เครื่องถมนครที่ถือเป็นหลักฐานได้ในกรุงเทพ ฯ ก็มีแต่ของเจ้าพระยานครทำถวาย อีกฝ่ายหนึ่งได้พบในจดหมายเหตุของฝรั่ง ปรากฎว่าวิชชาเยนทร์ได้ให้ทำไม้กางเขนด้วยถมส่งไปถวายโป๊ป มีสำคัญอยู่อย่างนี้ จึงเข้าใจว่าเมืองนครได้วิชชาทำถมไปจากกรุงเทพ ฯ เมื่อครั้งเจ้าพระยานครน้อยในรัชชกาลที่ ๒ ไปเกณฑ์ให้พวกแขกเชลยหัดเป็นช่างถมขึ้น จึงได้เกิดเครื่องถมขึ้นที่เมืองนคร ที่ฝีมือดีนั้นก็เพราะเจ้าพระยานครน้อยเป็นคนจู้จี้ และช่างก็เป็นเชลยเห็นจะเฆี่ยนกันมาตั้งพันจึงทำประณีต

หมู่นี้ไม่มีข่าวอันใดนอกจากที่เขาโฆษณาในหนังสือพิมพ์แล้วจะทูล แต่มีความคิดถึงอยู่เหลือประมาณ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (หนูพร้อม ณ นคร)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ