สองนักสิทธ์

(โคลงวชิรมาลี-สัมผัสเหมือนจัตวาทัณฑีดั้น ไม่นิยมเอกโท)

นักสิทธ์สถิตถ้ำ บำเพ็ญ ตบะ[๑]พ่อ
เพ่งไฉนไพล่เห็นบิณ- ฑบาตม้าน
เอมโอชเปียกเป็น ปาน[๒]ฉ่ำ
วางตบะผละเข้าบ้าน ย่านเมือง
บริหารการขบเคี้ยว ควรฉัน ฉันจริง
ค่ำมืดมิทันคืน เถื่อนถ้ำ
อาศัยอย่างอาคัน- ตุกะ[๓]
อยู่กับช่างหม้อร่ำ ร่ายมนตร์
ราตรีพอที่สุข ฉุกมี
รูปชื่อฤๅษีผลุน จุ้นจ้าน
มาขอร่วมราตรี ที่พัก อยู่พ่อ
ฝ่ายข้างเจ้าของบ้าน ก็ยอม
ราตรีชีคู่นั้น เข้านอน
ชีใหม่นิทรตอนใน แห่งห้อง
มาก่อนท่านเลือกก่อน นอนนอก
สองนั่งสองสวดท่อง สองนอน
ดึกดื่นตื่นขึ้นถ่าย ปัสสา- วฤๅ
ชีหนุ่มดุ่มหาทวาร วุ่นว้า
เตะคอต่อขรัวตา เถรถ้ำ
เธอทลึ่งไล่ไขว่คว้า ด่าโขมง
สติตั้งยั้งหยุดเพื่อ ให้อภัย
ผู้ผิดจนจิตต์รับ ผิดแล้ว
เดิรออกนอกห้องไป โดยด่วน
ทุกข์หนึ่งอยู่หนึ่งแคล้ว คลาศไป[๔]
เถรเฒ่าเจ้าสติรู้ ระงับโทษ
ทอดกายหายโกรธกลับ ระลึกได้
ขืนนอนท่าเดิมโหด คอหัก เป็นแน่
จึงกลับเศียรเปลี่ยนให้ บาทแทน
บัดเถรเจ้าทุกข์เท้ง ทุกข์สลาย[๕]
เพียรกลับทางปลายตีน แต่ว่า
กลับเตะเอาศอสหาย เข้าอีก
ต่อแต่นี้ไม่น่า อภิปราย

พฤศจิก. ๗๓


[๑] ตบะ เดชที่เผาผลาญกิเลสให้เสื่อมศูนย์ไป เกิดแต่เพียรภาวนาจนเกิดฌานแก่กล้า ซึ่งสมมุติเป็นรูปว่าร้อนถึงพระอิศวรต้องเสด็จมาประทานพร

[๒] ......ปาน น้ำ (ในที่นั้นหมายถึงน้ำลายไหล)

[๓] อาคันตุกะ ผู้เดิรทาง

[๔] ......ไป มีสองทุกข์ ๆ หนึ่งพ้นไปแล้ว เพราะได้อภัย แต่อีกทุกข์หนึ่งยังอยู่จึงต้องออกไปโดยรีบด่วน

[๕] สลาย เสร็จกิจที่ออกไปเพื่อกระทำแล้ว

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ