วันที่ ๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๗

สวนดุสิต

วันที่ ๑ ตุลาคม รัตนโกสินทร๔๑ศก ๑๒๗

ถึงพระยาสุขุม

วันนี้พระยาบริบูรณมาหา ได้ไต่ถามด้วยการงานต่างๆ ไปได้ความรู้ที่เราควรรู้อย่างหนึ่ง หวังว่าเข้ามาจะเล่าให้ฟัง แต่รู้ข่าวจากลูกโตว่าเปียกฝน ขอให้รวังตัวอย่าให้เจ็บ เรื่องราวนั้นดังนี้

คำที่เรียกว่าเชมเบอร์ออฟคอมเมิสของพวกจีน ไม่ใช่อย่างยุโรเปียนเซ็นสเขาเรียกว่าหลงกงเซียง คือคำสี่แซ้ยกสือออกเสีย เพราะสือนั้นเป็นฝ่ายข้างนักเรียน หลงเป็นฝ่ายข้างเพาะปลูก กงเป็นฝ่ายข้างหัตถกรรม เซียงเป็นฝ่ายข้างพานิชกรรม กงสีนี้บำรุง ๓ อย่างข้างหลัง ยกที่ ๑ เสีย จึงได้ยี่ห้อว่าหลงกงเซียง

กงสีหลงกงเซียงนี้ได้จดบาญชีต่อรัฐบาลสเตรตเป็นคอมเมอเชียลโซไซเอตี แลได้รับดีกรีฤๅชาเตอร์จากรัฐบาลจีน เป็นปับลิกกงสีขึ้นต่อกรมค้าขาย อันตั้งตำแหน่งใหม่ในรัฐบาลจีน กงสีอาจจะเลือกไดเรคเตอร์ กรรมการเปลี่ยนแชร์แมนแลกอมมิตีทุกปี ลูกค้ายี่ห้อต่างๆ จะไปจดชื่อเข้าบาญชีกงสีนี้ต้องลงเงินตั้งแต่ ๓๐ เหรียญขึ้นไป ถ้าเป็นกงสีใหญ่ๆ ให้ตั้งพันเหรียญก็มี กงสีนี้มีที่แผ่นดินตึกรามเป็นสมบัติของกงสี ตั้งออฟิศใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ในสเตรตแลยวาเข้ารวมในกงสีสิงคโปร์ แต่ไซ่ง่อนจะเป็นอย่างไรพระยาบริบูรณไม่ทราบ

ประโยชน์ในการเข้ากงสีนี้ ถ้ามีข้อขัดขวางในการค้าขายของกงสีเดียวกัน แชร์แมนแลกอมมิตีของกงสีว่ากล่าวไกล่เกลี่ยเป็นความเถ้าแก่สำเร็จได้มาก สดวกขึ้นแก่การค้าขาย ส่วนประโยชน์ที่สำคัญแท้จริงนั้นกงสีนี้บอกส่งยี่ห้อแลตำบล จำนวนทุนทรัพย์แลการค้าขายที่ทำไปยังบอดออฟเทรดในเมืองจีน บอดออฟเทรดจดบาญชีนั้นไว้ ถ้าเมื่อจะเข้าไปค้าขายฤๅไปมาในเมืองจีน มีความขัดข้องอย่างใด ฤๅถูกเจ้าเมืองกรมการกดขี่ประการใด กงสีหลงกงเซียงแจ้งความไปยังบอดออฟเทรด ๆ เอาเป็นธุระออกท้องบัดใบตรามายังจ๋งต๊กตามหัวเมืองต่างๆ ให้ช่วยทนุบำรุง พวกจีนรู้สึกกันว่ากงสีนี้มีประโยชน์มากดังนี้

ส่วนในเมืองเรากงสีเช่นนี้ยังไม่มี พิเคราะห์ดูก็เห็นจะไม่ใคร่มีขึ้นได้เร็วนัก ด้วยการค้าขายของจีนเมืองเราไม่ได้ตรงต่อเมืองจีน เป็นค้าสิงคโปร์และฮ่องกงโดยมาก ข้อที่ขุนนางจีนเข้ามาตรวจตราในเรื่องการค้าขาย ที่ว่าจะตั้งเชมเบอร์ออฟคอมมัสนั้นคือเช่นนี้ ถ้าหากว่าเมืองเรามีกงสีเช่นนี้จะได้ประโยชน์แต่ที่ว่าความเถ้าแก่ให้สำเร็จกันไปได้ แต่ยังไม่เห็นว่าจีนจะเข้ากันได้ถึงเช่นนั้น เราควรจะรู้เรื่องนี้ไว้สำหรับสกดรอยฟังดู ถ้าหากว่าจะมีขึ้นจริงในบางกอกดูน่าจะแก้ยาก เพราะเหตุที่ทางดำเนินก็ดูเป็นธรรมดีอยู่ เว้นไว้แต่จีนเมื่อรู้สึกมีกำลังขึ้นแล้ว จะใช้กำลังแต่โดยทางธรรมฤๅไม่ เป็นข้อที่เราจะต้องรวังต่อไป แต่ในเร็วๆ นี้หวังใจว่าจะยังไม่มี

สยามินทร์

  1. ๑. พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (มิ้น เหลาหเศรษฐี)

  2. ๒. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ