วันที่ ๒๒ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี

วันที่ ๒๒ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้เห็นหนังสือพิมพ์ลงเรื่อง เบรีเบรี พออ่านก็ฉิวรู้สึกกว่านี่เองที่เจ้าพระยายมราชว่าหมอไฮเอตจะแก้ พอจะเขียนหนังสือก็นึกได้ว่าหนังสือพิมพ์นี้เขาคัดจากรายงานประจำปีซึ่งเจ้าพระยายมราชก็ส่งมาให้เมื่อก่อนจะมานี้เอง ยังไม่ได้อ่านจึงเห็นแปลก ได้งดหนังสือไว้เมื่อวานนี้อ่านต่อถึงเรื่องโรคประจุบัน เลยออกจะหายโกรธ กลายเป็นเกิดความสังเวช..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................กล่าวคือกวาลาลุมปอ แล แประ ซึ่งเขามีผู้คนมากมาเป็นหลักความสัณนิษฐาน ก็ลงว่าที่จะให้มนุษย์รอดจากไภยอันตรายก็ด้วยออกพระราชบัญญัติห้ามไม่ให้สีเข้าขาว ให้ไทยกินเข้านึ่งให้หมด ประโยชน์ที่จะได้คือป้องกันคนไม่ให้ตายด้วยโรคบวม ซึ่งคิดดูป่วยการคนหนึ่งอยู่ใน ๒๐ บาทยิ่งกว่าที่จะได้ภาษีผลประโยชน์จากเข้าขาวได้ไม่เท่าเสีย ถ้ากินเข้านึ่งเสียแล้วก็นั่งอมยิ้มสบายเห็นว่าเจ้าพระยายมราชควรจะร่างพระราชบัญญัติเข้ามาหาฤๅในที่ประชุม ใครสีเข้าขาว กินเข้าขาวน่าจะเอาโทษเหมือนต้มฝิ่นเถื่อนกินฝิ่น

อีกอย่างหนึ่งนั้น อหิวาตกโรคเกิดเพราะน้ำเค็ม ตามที่สังเกตได้ว่าน้ำเค็มขึ้นมาน้อยโรคประจุบันก็น้อย จึงเป็นของที่ไม่มีอะไรจะแก้ นอกจากตั้งประปาเสียที่กรุงเทพฯ อหิวาตกโรคจะไม่มีเลยทั่วพระราชอาณาเขตร ข้อที่หัวเมืองเป็นอยู่แทบทั่วทุกหัวเมือง ตั้งแต่เหนือที่สุดจนใต้ที่สุด เป็นเพราะน้ำเค็มที่ในแม่น้ำบางกอกเท่านั้น เมื่อปิดหูปิดตาเสียเช่นนี้ ไม่แลเห็นที่จะมีทางเอาแน่เอาจริงอะไรได้ ใส่ใจว่ากระไรก็พูดไปหาประโยชน์ไม่ได้เลย เมื่อเห็นเรื่องนี้เข้าก็ต้องทอดธุระว่าเรื่องเข้าต้องปล่อยให้แกเพ้ออยู่อย่างนั้นเอง เพราะเป็นเรื่องที่แอบแฝงลึกซึ้งยิ่งกว่าที่จะเห็นอหิวาตกโรคเกิดด้วยความร้อนได้

ที่นี่ไม่มีฝนเลย เดือดร้อนรำคาญเต็มที ไม่บอกข่าวบางกอกมาให้รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง กลับเข้าไปก็หายเงียบทีเดียว.

สยามินทร์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ