วันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เพ็ชรบุรี

วันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

มาตามทางร้อนเต็มที ฝนตกเป็นช่องเป็นเหล่า บางตอนก็เปียกเป็นน้ำนอง บางตอนก็แห้งเป็นผง ฝนปีนี้เห็นจะไม่เอาการ เป็นด้วยลม มีเมฆตั้งมาลมเฉภาะมีแรงเท่าใด ก็พัดส่งไปตกที่สุดแรงลม ลมเหมือนกันไปทุกวันๆ ฝนจึงได้ตกซ้ำอยู่ในที่แห่งเดียวจนขังนอง ที่อื่นแห้งเป็นผง คั่นกันมาเช่นนี้ ๒ ตอน จึงถึงเพ็ชรบุรี ๆ นี้ถูกอยู่ในตอนแห้ง

งานที่ทำส่วนของเราด้านพระยาเพชรชฎาพระรัถยา ด้านพระยาวรพงษ์ทำงานดีน่ารักมาก เร็วเกินคาดเสียอีก สังเกตว่าทำได้เร็วกว่ากรุงเทพฯ เพราะเหตุที่ต้องถมดินไม่มาก แลเป็นด้วยชำนาญด้วย ให้การทีเดียวแล้ว

ส่วนงานถนนราชดำเนินนั้น มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ดูช่างเป็นการใหญ่หนักหนา เทศาผู้ว่าราชการเมือง กรมการผู้ใหญ่ยืนออกสพรั่ง พอรถผ่านถนนไปแล้ว มีคนถือสามเกลอประมาณ ๓๐ คนกระทุ้งพรึบๆ ดูคึกคักมาก ที่รอยหนูแทะก็ถมเต็มแล้ว พระยาวรพงษ์ถมดินต่อ แต่เมื่อว่ารวบยอดก็คงยังเสียใจอยู่นั่นเอง เหตุด้วยถนนนี้ทั้งที่แก้แล้วยังจะเป็นอนุสาวรีของความโง่ให้คนข้างน่าทักเสมอ เว้นไว้แต่คนที่เป็นลูกศิษย์วัดจะไม่แลเห็น แลจะโจทย์กันด้วยว่าท่านแก้ของท่านว่าดีแล้ว เมื่อก่อนนี้สูงกว่านี้ แต่ที่แก้แล้วเดี๋ยวนี้ ยังชเง้อสูงอยู่กว่าข้างฟากวังสัก ๒ ศอก ดูเหมือนตัดลงไปสัก ๘ นิ้วฤๅ ๑๐ นิ้วเท่านั้น ไม่หมดความขายหน้า นึกขึ้นมาละให้ขุ่น ถ้าหากว่าจะตัดใหม่อีกครั้งหนึ่งก็เท่ากับทำ ๒ หน ถ้าไม่ตัดก็เป็นมอนิวเมนต์ ถ้าตัดใหม่อ้ายแรงที่เสียไปแล้วก็เสียเปล่า ถนนก็จะไม่ได้ใช้ในเวลานี้ ถ้าจะทำเวลาเสด็จไม่อยู่ไม่มีใครบัญชา ตั้งแต่พูดกันมากับใครๆ เห็นมีคนเข้าใจแต่กรมหลวงนเรศ แต่แกก็เกรงใจน่ากลัวงานจะไม่สำเร็จ จะขอเปลี่ยนชื่อถนนราชดำเนินให้เรียกถนนอนุสาวรี.

สยามินทร์

พลับพลาก่อฤกษ์ก็ดันลงไปปลูกในถนนวงกลม เลยทำไม่สำเร็จ เพราะพลับพลาเข้าไปขวางอยู่กลาง หมายว่าจะเอาไว้เป็นที่นั่งดูงานต่อไป เอาไว้ไม่ได้ต้องรื้อ.

จ.ป.ร.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ