วันที่ ๑๔ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๔

สวนดุสิต

วันที่ ๑๔ ธ.ค. รัตนโกสินทรศก ๑๒๔

ถึง พระยาสุขุมนัยวินิต

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายนนั้นแล้ว

เรื่องนี้ตรงกันกับที่อ้ายคนังเล่า เดี๋ยวนี้เข้าใจภาษามากขึ้น ไล่เลียงค่อยได้ความ ถามถึงเวลาที่จะเอามานั้นอย่างไร ให้การเชือนๆ ไปบ้าง เมื่อเวลาพูดถึงใดที่เกี่ยวข้องแก่เรื่องที่จะมาคงได้รูปว่า เมื่อแม่ตายแล้วนั้นตัวอยู่กับพี่ ไปเที่ยวป่ากับอ้ายไม้ไผ่ซึ่งเป็นเพื่อนเพื่อจะตัดกระบอก มีเสียงคนเอะอะไล่เข้าไปวิ่งหนีกันหกล้มหกลุก คืออ้ายยาง ซึ่งมันเรียกว่าอ้ายยัง ชวนให้มาดูโนราที่บ้านอ้ายยาง มันหายตกใจเลยมาดูโนรา อ้ายยางให้กินมะพร้าว แล้วมันหาวนอนๆหลับ อ้ายยางไปอุ้มทั้งหลับส่งให้คนคุณพ่อหลวง มันตื่นขึ้นถามว่าอ้ายยางทำพรือ อ้ายยางบอกว่าเขาจะเอาตัวไป เวลานั้นมันกำลังตกใจ ดิ้นรนเท่าไรเขาก็ไม่ปล่อย ได้ทำหอบรวนอะไรเต็มที่เหมือนอย่างที่มาทำเมื่อจะเข้ามาอยู่ในวัง แล้วเขาเอาไปใส่คุกไว้หลายคนด้วยกัน ภายหลังคุณพ่อหลวงจึงไปรับ ให้สนับเพลาให้นุ่ง

ข้อที่มันอยากพบพวกพี่น้องเหล่านั้น อยากจะถามว่า เมื่อเขาจับมัน พากันไปอยู่ที่ไหนเท่านั้น พูดถึงอ้ายยาง แสดงกิริยาไม่ชอบมาก ทั้งที่พูดว่าไม่ชอบใครไม่เป็น แต่สังเกตได้ จึงสันนิษฐานกันว่า ไนยหนึ่งอ้ายยางจะตกลงกับพี่ แต่ไม่บอกให้อ้ายคนังรู้ แต่สังเกตดูข้อที่ย้ายที่ไป น่ากลัวจะเป็นด้วยเข็ด บางทีจะไม่ได้บอกให้รู้ทีเดียว ก็เอาเป็นถูกตามที่ได้ข่าวนี้ เรื่องที่จะเอารูปไว้แห่งใดนั้น อ้ายคนังได้คิดแล้วเหมือนกัน มันคิดถึงแปลนบ้านเก่า ว่าจะเอาไว้ในทับไม่ได้ เปียกฝน จะต้องเอาไปไว้ที่ซอกหินในถ้ำ ซึ่งเป็นที่เคยหลบฝน การที่แสดงกิริยาเศร้าโศรกเวลาพูดถึงบ้านอย่างแต่ก่อนไม่มี ด้วยว่ารู้จักคนกว้างขวาง ตั้งแต่เจ้านายข้าราชการผู้ใหญ่ลงไปจนถึงผู้น้อย ทั้งข้างหน้าข้างในเขาแสดงความเมตตาปรานีเล่นหัวได้ทั่วไป อยู่ข้างจะเพลิดเพลินมาก อดนอนก็ทน แลคุณสมบัติในส่วนตัวซึ่งได้สังเกตเห็นแต่แรกไม่มีเสื่อมทรามลงไป คือตาไวความคิดเร็ว จงรักภักดีฤๅกตัญญูมาก นับว่าเป็นเฟเวอริตของราชสำนักนิ์ได้ ได้ถ่ายรูปแต่งตัวเป็นเจ้าเงาะละคอน สำหรับจะให้มันขายเองในงานวัด แล้วแบ่งเงินเป็น ๓ ส่วนๆ หนึ่งเป็นค่ากระดาษค่าน้ำยา ส่วนหนึ่งให้ทำบุญเข้าในงานวัด อีกส่วนหนึ่งจะเป็นทุนซึ่งคิดจะรวบรวมไว้ให้ เสียแต่อย่างไรๆ ก็ยังนับเงินไม่ถูกอยู่เช่นนั้นเอง หนังสือเห็นจะพอสอนง่ายกว่าเลข เลขนั้นดูเหมือนไม่มีกิฟสำหรับชาติของมันทีเดียว ได้ลองให้ขายของซ้อมกันอยู่หลายวันก็ยังรางๆ อยู่เช่นนั้น สาเหตุนั้นด้วยเรื่องมันไม่รู้จักรักเงิน ยังไม่รู้เลยว่าเงินมีราคาอย่างไรจนเดี๋ยวนี้

ผู้หญิงอีกคนหนึ่งนั้น ถ้าได้มาก็ดี ถ้าเด็กเสียทีเดียวดูเหมือนจะง่าย แต่นึกกลัวอยู่ว่าอ้ายพวกนี้จะเข็ดเสีย ขอให้คิดการให้ดี ถ้าจะไม่ชอกช้ำตกอกตกใจจึงค่อยเอามา แต่การเลี้ยงนั้นเห็นจะไม่เป็นไร อ้ายคนังตั้งแต่มายังไม่ได้เจ็บเลย เจ้าสายนั้นรักหลงเหลือเกินทีเดียว เพราะมันไม่ไปเที่ยวข้างไหนเลย อยู่แต่บนเรือน ช่างประจบด้วยความรู้ประมาณตัวมีเองในสันดานทั้งที่ถือตัวว่าเป็นลูก ก็พูดอยู่เสมอว่าเป็นลูกข้า ไม่ได้ไว้ตัวเทียบเทียมเจ้านายลูกเธอ รักแลนับถือไม่เลือกว่าใคร ไว้ตัวของตัวเสมอหม่อมเจ้าไม่ได้มีใครสั่งสอนเลย

รูปน่าเทวดาที่ส่งมานั้นดี แต่มัวไปสักหน่อย หวังใจว่าคงจะได้ส่งรูปเข้ามาโชในครั้งนี้ เวลานี้กำลังชุลมุนกันไปทุกหนทุกแห่ง แต่ค่าปิดรูปทำกรอบ อ้ายเลนซ์เห็นจะรวยสักร้อยชั่ง รูปที่ออกประมาณกันว่าจะถึง ๑๐๐๐ รูป แต่ฝรั่งยังมากกว่าไทย

สยามินทร์

  1. ๑. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

  2. ๒. ภาษาชาวใต้ แปลว่า “อะไร”

  3. ๓. พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ

  4. ๔. โรเบิตเลนซ์ ช่างถ่ายรูป

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ