สรรคที่ ๒

๏ ทมยัน์ตี ตุ ตัจ์ฉ๎รุต์วา ๏ ตั้งแต่กาลเมื่อนั้น นางทมยันตีวิลาศ ฟังพจนาทหงส์ทอง ช่างพลอดพร้องจับใจ ดวงหฤทัยบ่อยู่กับตน เวียนวนใคร่ใฝ่ฝัน ถึงทรงธรรม์นลราช ผู้เชื้อชาติอาชาไนย ใจนางเฝ้าจินดา ถวิลหาพระบ่มิวาย แก้มโฉมฉายก็ซีดสลด หมดเลือดเผือดเสียสี ทมยันตีบังอร หล่อนนั้นนั่งแต่คำนึง รำพึงพลางถอนฤทัย ด้วยฤทธิ์ใจสร้านรัก นงลักษณ์ตั้งแต่จ้อง มองประหนึ่งใคร่เห็นคู่ ดูท่าทีนารีรัตน์ เห็นถนัดเหมือนไข้หนัก ผิวพักตร์เคยนวลลออง ก็หม่นหมองซีดโทรม โฉมพระธิดาทรามวัย หฤทัยท่วมด้วยเจตนา ยามไสยาก็ทุกข์ถนัด ยามดำรัสก็ข้องเข็ญ ยามเสวยเล่นฤๅยามใด ความสนุกไซ้รบ่มี ทั้งราตรีทิวะกาล นงคราญนอนบ่มิหลับ ตั้งแต่ส่งศัพท์ครวญครํ่า ร่ำว่าโอ้โอ๋อกกู โฉมตรูสอื้นรำพรรณ ฝ่ายฝูงกำนัลบริพาร แห่งนงคราญลำนักเนตร์ สังเกตเห็นโฉมเฉลา ทรงสร้อยเศร้าพักตร์สลด เห็นปรากฎกิริยา ว่าพระธิดาไร้สราญ คณนงคราญรีบไปเฝ้า พระผ่านเผ้าจอมวิทรรภ ทูลเสร็จสรรพทุกสิ่งอัน ฝ่ายทรงธรรม์นฤบดี ภีมราชได้สดับ สรรพสิ้นซึ่งเหตุการณ์ ภูบาลนิ่งดำริห์ใน เหตุไฉนหนอธิดากู ดูกิริยาวิปลาศ คลาดเคลื่อนไปบ่มิเสบย ทรามเชยแปลกกว่าเก่า ครั้นผ่านเผ้ามหิบาล เพ่งนงคราญผู้สุดา ราชาจึ่งเข้าพระไทย อ้ออ๋อทรามวัยอายุรุ่น สุนทรลักษณ์เปล่งศรี ทมยันตีบังอร ควรสยมพรเลือกคู่ อยู่เปนที่ภิรมย์กัน ปางนั้นพระนฤปนาถ ก็ให้ป่าวประกาศโกลา เชิญกษัตราน้อยใหญ่ ให้มาแต่ทิศานุทิศ เชิญบพิตร์จอมเมือง ผู้กระเดื่องเดชะ มาประชุมสโมสร เพื่อสยมพรพระธิดา ฯ

๏ ศ๎รุต๎วา ตุ ปาร๎ถิวาห์ สร๎เว ๏ ครานั้นวีรกษัตริย์ ทราบถนัดกิติกำจร เรื่องสยมพรพิธี ทมยันตีนงเยาว์ ทวยลูกเจ้าทั้งนั้น พร้อมกันมาสู่บุรี ตามภีมะสุรราช ตรัสประศาสน์เชิญมา เสียงพสุธาเสทือนสท้าน ด้วยฝีเท้าสารแสะรถ อันรีบจรดสู่วิทรรภ อุโฆษศัพท์โกลา ราชาแต่ละองค์ ทรงมาลัยวราภรณ อ่าอลงกรณอวดกัน พลนี่นันท์แห่แหน ครั้นถึงแคว้นธานี ภีมะมหาพาหุวร ต้อนรับทุก ๆ องค์ จำนงรับโดยดี สมประเพณีทั้งหมด สมพระยศทุกกษัตร์ บ่มิข้องขัดสักน้อย รับเรียบร้อยควรยศ สิ้นแล ฯ

๏ เอตัส๎มิน์เนว กาเล ตุ ๏ ปางเมื่อมีสมาคม แห่งเหล่าบรมขัตติยะ จึ่งองค์พระเทพมุนี ผู้มีปัญญาประเสริฐ เลิศด้วยฤทธิสามารถ เปนมหาตมะมหันต์ พะเอินผันผายกระทั่ง ยังเมืองแมนแดนอินทร์๏ นารทห์ ปร๎วตัศ๎ ไจว ๏ หนึ่งคือมุนินทร์นารท หนึ่งพระบรรพตพรตกล้า เปนมหาปราชญ์ทั้งสอง เกียรติก้องทั้งแดนไตร ยามเข้าไปสู่ปราสาท แห่งเทวราชจอมสวรรค์ ทั้งสองพลันรับบูชิต ด้วยเต็มจิตทุกประการ

๏ ตาวร๎จยิต๎วา มฆวา ๏ จึ่งมัฆวานเทวราช ก้มอภิวาทน์วันทา ปราไสยถามความร้ายดี แห่งมุนีเกียรติขจาย ว่าอยู่สบายเกษมสุข ฤๅทุกข์ภัยแผ้วพาล ในสถานถิ่นมนุษ อยู่ดีดุจเคยมา ฤๅว่าภัยพิบัติพาล ในสถานถิ่นใดมี บ้างฤๅ ฯ

๏ อาวโยห์ กุศลํ เทว สร๎วัต๎ร คตมีศ๎วร

๏ พระมุนีนารท เฉลยพจน์เทพไท้ อันมนุษยโลกไซ้ร สุขแม้นเคยมา ฯ

โลเก จ มฆวา ก๎ฤต์ส๎เน น๎ฤปาห์ กุศลิโน วิโภ ฯ

๏ มัฆวาอย่าฉงน ในแดนชนนั่นแล้ ทวยกษัตร์สุขแปล้ ไปล่ทั่วดินแดน ฯ

๏ นารทัส๎ย วจห์ ศรูต๎วา ปป๎รัจ์ฉ พลว๎ฤต๎รหา ฯ  

๏ จอมแมนฟังพรตเจ้า จึ่งถามเพื่อทราบเค้า ใคร่รู้เหตการณ์ ฯ

๏ ธร๎มัช๎ญาห์ ป๎ฤถิวีปาลาส์ ๏ ปัถวีบาลทั้งผอง ผู้เดินคลองเที่ยงธรรม์ อันอาจศึกบ่มิย่อ ต่อสู้ศึกบ่มิหยอน แม้ยามศรแหลมคม ยิงระดมโปรยปรู ย่อมแลดูบ่พริบตา ตั้งหน้าสู้บ่ถอยหนี ต่างตนมีดินแดน แว่นแคว้นยงคงมั่น อย่างแดนสวรรค์โอฬาร์ เปนของข้านี้ไซ้ร เหตุไหนเล่าทวยขุน สุนทรวรขัตติยา จึ่งไม่มาชุมนุมเฝ้า ตูข้าเจ้าอย่างกี้ ขอมุนีแถลงให้ทราบความ สิ้นเทอญ ฯ

๏ เอวัม์ อุก์ตัส๎ ตุ ศัก๎เรณ นารท ป๎รต๎ยภาษต ฯ

๏ ฟังคำถามศักรินทร์ พระมุนินทร์นารทเจ้า จึ่งแถลงแห่งเค้า ครบถ้วนทุกประการ ฯ

๏ ศ๎ฤณุ เม มฆวัน์ เยน ๑๖ ดูกรท่านท้าวมัฆวาน ฟังข้อไขขาน อันข้าแถลงด้วยดี ๏ อันทวยเจ้าจอมธรณี ไม่มาอัญชลี ดังเช่นที่เคยขึ้นมา ๏ เหตุด้วยองค์ราชธิดา วิทรรภราชา ผู้ทรงสิริเลอสรร ๏ นางนี้ขึ้นชื่อทมยัน ตีสุดสวาทอัน วิศรุตะทั่วภพตรี ๏ มีรูปศุภลักษณ์ราศี ในพื้นปฤถิวี บ่มีจะเทียบเปรียบปาน ๏ ดูกรศักระมหาศาล อันองค์นงคราญ จะทำซึ่งกิจสยมพร ๏ เพื่อให้เยาวลักษณ์บังอร เลือกคู่สมร สมัคเปนคู่ชีวี ๏ ราชะราชาธิบดี ต่างตนเกษมศรี ต่างรีบไปสู่กรุงวิทรรภ์ ๏ ทวยเจ้าลูกจอมเขตขัณฑ์ ตั้งจิตเหมือนกัน ประสงค์เปนคู่นงพงา ๏ ต่างตนต่างเตรียมกายา ต่างคิดเปนสวา มีผู้พิทักษ์นงคราญ ๏ นี้แลเปนข้อเหตุการณ์ ขอพระผู้ผลาญ อสุระจุ่งแจ้งคดี ฯ

๏ เอตัส๎มึ ๏ พอพระมุนีนารท เผยพจน์หมดถ้อยลง พะเอินองค์โลกปาลา มาพร้อมด้วยพระอัคนี ต่างมีอานุภาพถนัด จัดเปนอมโรดม ต่างมาประนมอภิวาทน์ ท้าวเทวราชจอมสวรรค์ ครั้นยืนนิ่งฟังวจี แห่งมุนีนารท ทราบเหตุหมดทุกประการ เรื่องเยาวมาลย์เลอสรร สามเทพพลันยินดี เปล่งวจีแจ่มจ้า ว่าข้านี้ก็จะไป ในที่สยมพรนาง ตรัสพลางท้าวเทวราช ผู้องอาจแขงขลัง ต่างสั่งเกณฑ์สุรคณา และสุรพาหนเสร็จ จึ่งรีบเสด็จสู่วิทรรภ์ อันเปนที่สมาคม ปวงบรมกษัตร์ไส้ร ปราถนาจักได้ สนิทเจ้าแจ่มจันทร์ นั่นแล ฯ

๏ นโลปิ ราชา เกาน์เตย ศ๎รุต๎วา ราช๎ญาง สมาคมัม์  
๏ ปางนั้นนลราชเจ้า จอมนิษัธ ท่านเอย
ทราบข่าวสมาคม แน่แล้ว
อัภ๎ยคัจ์ฉัท์ อทีนาต๎มา ทมยัน์ตีม์ อนุว๎รตห์ ฯ
ทรวงเปี่ยมประดิพัทธ์ พลันรีบ ไปแฮ
ทมะยันตีแก้ว ปราถนา ฯ

๏ อถ เทวาห์ ปถิ นลํ ๏ ฝ่ายเทวาทั้งสี่ เห็นภูมีนลมหิศร์ สถิตยังพื้นภูวดล ดูวิมลกษัตร์ราช เห็นสิริวิลาศแง่งาม รูปดังกามเทวะ งามแจ่มจะเจนดี บมีที่ติได้ เทพไทยผู้โลกบาล ทัศนาการเพ่งพินิศ ดูบพิตร์เปล่งศรี ราวแสงระวีรุ่งเช้า เทวราชเจ้าตลึงดู นิ่งอยู่บ่มิติงกาย ดูโฉมฉายราชา รูปใครหาไม่มีทัน เทวัญต่างเพลินพิศ พินิศพลางให้หยุดขบวน ทั้งมวลอยู่ท่ามกลาง หว่างอากาศะมรรคา แล้วลงมาจากนภดล กล่าวยุบลแด่ไท้ ผู้ผ่านนิษัธให้ สดับถ้อยสุนทร ฯ

๏ โภ โภ ไนษธ ราเชน์ท๎ร นล สัต๎ยว๎รโต ภวาน์  
๏ ดูก่อนขัตติยะผู้ นิษัธรา เชนทร์แฮ
นามว่านลสัตยพรต ท่านไท้
อัส๎มากํ กุรุ สาหาย์ยํ ทูโต ภว นโรต์ตม ฯ
จงเปนทูตสื่อสา ราช่วย เราเทอญ
เทวราชควรแต่ใช้ ปิ่นคน ฯ

๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๒ ดังนี้ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ