สรรคที่ ๑๙

๏ ศ๎รุต๎วา วจห์ สุเทวัส๎ย ๏ ได้ทรงสดับสุนทร กลอนสุเทพทูลแถลงข่าว ๏ ฤตุปร๎โณ นราธิปห์ ๏ จึ่งท่านท้าวฤตุบรรณ ธรรมิกนราธิปนาถ จึ่งมีราชบรรหาร โดยอ่อนหวานวาจา แด่วาหุกสารถี ดังนี้ ฯ

๏ วิทร๎ภาม์ ยาตุม์ อิจ์ฉามิ ทมยัน์ต๎ยาห์ ส๎วยํวรัม์  
เอกาห๎นา หยตัต์ต๎วัช๎ญ มัน๎ยเส ยทิ วาหุก ฯ  
๏ ดูราวาหุกยอด สารถี
ผู้ฉลาดขับพาชี ยิ่งยวด
นางทมะยันตี อรเอก
จะสยมพรรวด เร่งเร้าเวลา
๏ ข้าหวังจักสู่ราษฎร์ วิทรรภ์
ทันพิธีแจ่มจันทร์ เลือกชู้
จำจะถับในวัน เดียวนี่
ขอพึ่งวาหุกผู้ เชี่ยวฉลาดหัยการ ฯ

๏ เกาน์เตย ๏ ดูกรภูบาลทรงยศ ผู้โอรสนางกุนตี ขอภูมีจงนึกถึงใจ แห่งภูวนัยจอมนิษัธ ๏ เอวัม์ อุก์ต๎วา ๏ เมื่อเธอฟังดำรัสราชา จอมอยุธยาดังนั้น พระนลพลันพูลทุกข์ สุขสิ้นสูญจากใจ พระไนษัธดำริห์ ตริในมโนโอ้ชํ้า แสนระกำกรมโศก ยิ่งกว่าโรคใด ๆ พระจึ่งคำนึงใน ดังนี้ ฯ

๏ ทมยัน์ตี วเทท์ เอตัท์ กุร๎ยาท์ ทุห์เขน โมหิตา  
๏ ฉันใดนาเรศร์แก้ว ทมยัน ตีแม่
จึ่งประกาศความทราม เช่นนั้น
ฤๅว่าแจ่มจันทร์เฟือน ฟั่นสติ แล้วนอ
เพราะโศกกระชั้นช่วย ชักเฉ
อัส๎มทร๎เถ ภเวท์ วายัม์ อุปายัศ๎จิน์ติโต มหาน์  
๏ ฤๅเปนเล่ห์ล่อข้า คืนเวียง
หวังเพื่อให้หึงหวง ห่วงสวาท
จึ่งป่าวว่าเนียงจะ เลือกคู่ ใหม่แฮ
เปนอุบายอาจคิด สกิดใจ
น๎ฤศํสํ วต ไวทร๎ภี กร๎ตุกามา ตปัส๎วินี  
๏ ไวทรรภีผู้เลิศ นารี
ไยจะคิดกิจเชิง ชั่วได้
มยา ก๎ษุเท๎รณ นิก๎ฤตา ก๎ฤปนา ปาปพุท์ธินา  
ฤๅเพราะบดีทราม ทำชั่ว เองแล
ยังบาปแลให้จิต คลาศดี
ส๎ต๎รีส๎วภาวัศ๎จโล โลเก มม โทษัศ๎จ ทารุณห์  
๏ โอ้สตรีใจโยกโย้ โลเล สิ้นฮือ
กูก็กอปร์ทารุณ คุรุโทษ
ส๎ยาท์ เอวัม์ อปิ กุร๎ยาต์ สา วิวาสาท์ คตเสาห๎ฤทา  
ยามนางเที่ยวเซซัด โสดอยู่ นั่นฤๅ
เคลิ้มจิตคิดโหดเพื่อ ผ่อนเข็ญ
มม โศเกน สํวิค๎นา ไนราศ๎ยาต์ ตนุมัธ๎ยมา  
๏ ฤๅเปนเพื่อโศกเศร้า ทรวงหมอง
เพราะว่าห่างสวามี นิราศ
ไนวํ สา กร๎หิจิต์ กุร๎ยาต์ สาปัต๎ยา จ วิเศษตห์  
แต่มีลูกสองสุด วิเศษ แล้วนา
คงบ่ชั่วชาตอย่าง กากหญิง
ยัท์ อัต๎ร สัต๎ยํ วาสัต๎ยํ คัต๎วา เวต์ส๎ยามิ นิศ๎จยัม์  
๏ จริงบ่จริงเรื่องนี้ เปนไฉน
จำจะไปดูคง ทราบเค้า
ฤตุปร๎ณัส๎ย ไว กามัม์ อาต๎มาร๎ถํ จ กโรม๎ยหัม์  
จะยอมดั่งใจองค์ ฤตุ บรรณแฮ
เพื่อประโยชน์เจ้าอีก ตัวกู ฯ
๏ อิติ นิศ๎จิต๎ย มนสา วาหุโก ทีนมานสห์  
๏ ตรองดูใจระบมทุกข์ วาหุกใจยิ่งเศร้า ทรวงโศกเหมือนโรคเร้า ราญฤดี
ก๎ฤตาญ์ชลิร์ อุวาเจทัม์ ฤตุปร๎ณํ นราธิปัม์ ฯ  
๏ อัญชลีพระทรงธรรม์ ฤตุบรรณราชไท้ นบนอบระยอบไหว้ จำนรรจา ฯ
๏ ป๎รติชานามิ เต วาก๎ยํ คมิษ๎ยามิ นราธิป  
๏ ข้าแต่พระนั่งเกล้า มงกุฎ เกศนา
ข้าจะไปตามพระ ประศาสน์
เอกาห๎นา ปุรุษว๎ยาฆ๎ร วิทร๎ภนครึ น๎ฤป  
จะเชิญบุรุษพยัคฆ์ สู่วิทรรภ เที่ยงเฮย
วาระเดียวอาจถับ เวียงไชย ฯ

๏ ตตห์ ปรีก์ษาง อัศ๎วานาง จัก๎เร ๏ ปางนั้นไซ้รเสวี วาหุกศรีสูตราช รับอนุญาตแห่งราชา ภางคาสุรียศยง จึ่งตรงไปอัศวศาลา เพื่อเลือกม้ามีฝีเท้า ฝ่ายพระเจ้าฤตุบรรณ ทรงธรรม์เร้าเร่งเตือน บ่มิให้เชือนเฉื่อยช้า วาหุกอัศวโกวิท ก็ตั้งจิตเลือกฟั้น สรรอัศดรที่จรไว เลือกได้สี่ม้าดี มีกำลังยังยง คงแขงทางกลางวิถี มีพลังยังยวด ทั้งสี่รวดเร็วนัก เล็งลักษณ์ไร้โทษต่าง ๆ นาสิกกว้างคางใหญ่ถนัด อีกเห็นชัดสิบขวัญ อันกำเนิดเลิศดี ที่ริมฝั่งสินธู จรจู่เร็วราวลมกล้า ๏ ท๎ฤษ๎ฏ๎วา ตาน์ อัพ๎รวีต์ ราชา ๏ ฝ่ายพระราชาดูสินธพ ทรงภพตรัสปฤจฉา ดังว่าไม่พอพระไทย เธอดำรัสตรัสไป ดังนี้ ฯ

๏ กิม์ อิทัม์ ป๎ราร๎ถิตํ กร๎ตุม์ ป๎รลัพ์ธว๎ยา น เต วยัม์  
๏ ฉันใดวาหุกผู้ สารถี
จึ่งบ่รีบทำดัง สั่งไว้
อีกอย่าคิดทีลวง หลอกเล่น หน่อยเลย
กูจะหลงได้ดั่ง คิดนั้นเจียวหือ
กถัม์ อัล๎ปพลป๎ราณา วัก์ษ๎ยัน์ตีเม หยา มม  
๏ ดังฤๅเจ้าจึ่งฟั้น หัยอ่อน แอนอ
แรงหย่อนลมหย่อนผอม ดุจพยาธิ์
ม้านี้จะจรไป ได้เท่า ใดพ่อ
น่าจะล้มพลาดคว่ำ อยู่แข้เขตคู
มหทัธ๎วานัม์ อปิ จ คัน์ตว๎ยํ กถัม์ อิท๎ฤไศห์ ฯ  
๏ อันผลูกระทั่งแคว้น วิทรรภ์
ฤๅก็ไกลอยุธยา ใช่น้อย
ม้าซึ่งบ่ขันแขง แรงเก่ง
เทียมรถจะคล้อยถับ ที่ได้ฉันใด ฯ
เอโก ลลาเฏ เท๎วา มูร๎ธ๎นิ เท๎วา เท๎วา ปาร๎โศ๎วปปาร๎ศ๎วโยห์  
๏ ฟังไท้วาหุกนอบ ทูลฉลอง
ขวัญหนึ่งตรงหน้าผาก ผ่องสล้าง
ขวัญศรีอีกสองบน ศีร์ษะ
ขวัญที่สีข้างเหมาะ สถิตข้างละสอง
เท๎วา เท๎วา วัก์ษสิ วิช๎เญเยา ป๎รยาเณ ไจก เอว ตุ  
๏ มองเห็นอีกคู่ไซ้ร อกขวา ซ้ายเฮย
อีกหนึ่งที่โคนหาง แจ่มแจ้ง
รวมขวัญสิบราศี สถิตเที่ยง แท้นา
ข้าบาทบ่แกล้งกล่าว ปดโป้ภูมี
เอเต หยา คมิษ๎ยัน์ติ วิทร๎ภาน์ นาต๎ร สํศยห์  
๏ ทั้งสี่หัยรัตน์เลิศ เลอสรร
หาเทียบใดบ่เหมือน มุ่งมาตร์
จะไปวิทรรภ์รวด เร็วถับ ถึงแล
ขอมหาราชหมด ซึ่งข้อสงไสย
ยาน์ อัน๎ยาน์ มัน๎ยเส ราชัน์ พ๎รูหิ ตาน์ โยชยามิ เต ฯ  
๏ ฤๅไท้ธิราชเจ้า จอมปราณ
จะประสงค์ม้าตัว อื่นไส้ร
ขอพระประทานรา โชวาท
รู้แน่จะได้รีบ ผูกม้าดังถวิล ฯ
ต๎วัม์ เอว หยตัต์ต๎วัช๎ญห์ กุศโล ห๎ยสิ วาหุก  
๏ ภูมินทร์สดับถ้อย คลายแหนง
ตรัสตอบว่าวาหุก โกวิท
เชิงอัศวะแขงขัน ใครเปรียบ เจ้าฤๅ
ปวงอัศวกิจไส้ร ฉลาดแท้ทําเปน
ยาน์ มัน๎ยเส สมร๎ถางส๎ ต๎วํ ก๎ษิป๎รํ ตาน์ เอว โยชย ฯ  
๏ แม้เห็นถนัดม้า ใดดี
กูบ่ขัดอัชฌา แห่งเจ้า
จงจัดอัศว์สี่เทียม รถราช เร็วเทอญ
เพื่อด่วนจรเต้าสู่ ซึ่งแคว้นแดนวิทรรภ์ ฯ

๏ ตตห์ สทัศ๎วางศ๎จตุรห์ ๏ ครานั้นองค์พระนล ผู้จำแลงตนเปนวาหุก ทุกสิ่งได้สมฤดี จึ่งนำสี่อัศดร สุนทรกุลสุดสง่า ทั้งกิริยาดีเสมอกัน พลันเข้าผูกเทียมรถราช ฝ่ายพระภูมินาถยงยศ พอเห็นรถผูกเสร็จ ก็เสด็จขึ้นทรง เพราะประสงค์จะรีบไป ครานั้นไซ้รหัยรัตน์ เห็นถนัดก้มกายอยู่ เข่าคู้แทบพื้นแผ่นดิน จึ่งพระพงศ์พิรนลราช ตรัสประภาษปลอบวอน ด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน จึ่งอัศวชาญเดโชพลัง ฟังพิระราชแล้วชื่นใจ ภูวนัยจับสายขับ กระชับหัดถ์ถนัดดี แล้วภูมีเรียกให้ นายวาร์ษไณยผู้ฉลาด เชิงขับชาติพาชี ขึ้นมณีรถด้วย เพื่อช่วยขับอาชาไนย แล้วทรงไชยเคลื่อนรถ จรดเร็วไปในมรรคา จากนครอโยธยา บัดนั้นแล ฯ

๏ เต โจท๎ยมานา วิธิวาวัท์ วาหุเกน หโยต์ตมาห์ ๏ ครานั้นยามวาหุก เร่งรุกม้าทั้งสี่ ให้จรลีเต็มฝีเท้า เก้าไปเร็วเต็มสามารถ จึ่งหัยราชเผ่นโผน ราวจะกระโจนสู่อากาศ ผงาดแขงแรงถนัด ราวจักสลัดสารถี ให้หลุดที่รถทรง ฝ่ายองค์วรราชา อโยธยาธิบดี เห็นทั้งสี่อัศวรัตน์ วิ่งไวถนัดราวพายุผัน ทรงธรรม์นั่งพินิศ คิดประหลาทหลากเหลือ เพื่อความเร็วนั้นไซ้ร ๏ วาร๎ษ๎เณยัศ๎จิน์ตยามาส ๏ ฝ่ายวาร์ษไณยคงยศ ยินเสียงรถลั่นอุโฆษ ยลม้าโลดแล่นไป อาไศรยด้วยผู้ขับ บังคับได้ดังจิต เห็นหัยกิจชาญกล้า แห่งวาหุกตัวดี วาร์ษไณยมีความหลากใจ จึ่งได้นึกตรึกใน ดังนี้ ฯ

๏ กึ นุ ส๎ยาท์ มาตลิร์ อยํ เทวราชัส๎ย สารถิห์  
๏ นี่ใครขับรถแม้น มาตลี
ฉลาดเทียบสารถีเท วราช
ตถา ตัล์ลัก์ษณํ วีเร วาหุเก ท๎ฤษ๎ยเต มหาต์  
นายวาหุกมีเสร็จ สรรพลักษณ์
แห่งพระมหาตม์เทพ สูตเพ็ญ
ศาลิโหโต๎รถ กึ นุ ส๎ยาท์ ธยานาง กุลตัต์ต๎ววิต์  
๏ ฤๅเปนศาลิโหตร์ ครูบา ใหญ่แฮ
รู้ชาติแรงพาชี หมดหมั้น
มานุษํ สมนุป๎ราป์โต วปุห์ ปรมโศภนัม์  
ชรอยแปลงอาตมาเปน มนุษ นี่แล
พิศท่วงทีนั้นสุด โสภณ
อุตาโห ส๎วิท์ ภเวท์ ราชา นลห์ ปรปุรัญ์ชยห์  
๏ ฤๅนลนฤราชเจ้า จอมขวัญ
องค์เอกบุรัญชัย บิดอาตม์
โสยํ น๎ฤปติร์ อายาต อิต๎เยว สมจิน์ตยัต์  
มิ่งคนฤฉันใด จักทราบ จริงนอ
ดังนี่สูตราชเฝ้า ตรึกใน
อถ วา ยาง นโล เวท วิท๎ยาง ตาม์ เอว วาหุกห์  
๏ เวทใดนลราชรู้ ชินชาญ
วาหุกชำนาญวิทย์ นั่นไซ้ร
ตุล๎ยํ หิ ลัก์ษเย ช๎ญานํ วาหุกัส๎ย นลัส๎ย จ  
วาหุกเชี่ยวปานนล ทุกสิ่ง
สองเทียบเปรียบได้เท่า ถึงกัน
อปิ เจทํ วยัส๎ ตุล๎ยํ วาหุกัส๎ย นลัส๎ย จ  
๏ อันวัยวาหุกนี้ โดยประมาณ
เท่าพระภูบาลนล นฤนาถ
นายัม์ นโล มหาวิรัส์ ตัท์วิท๎ยัศ๎จ ภวิษ๎ยติ  
๏ แม้มิใช่ศานติ บพิตร์ นลนอ
ก็เชี่ยวฉลาดเท่า ทรงธรรม์
ป๎รัจ์ฉัน์นา หิ มหาต๎มานัศ๎จรัน์ติ ย๎ฤถิวีม์ อิมาม์  
๏ อันมหาตม์มักแสร้ง แปลงองค์
ท่องเที่ยวณวงดิน แด่นนี้
ไทเวน วิธินา ยุก์ตาห์ ป๎รัจ์ฉัน์นาศ๎จาปิ รูปตห์  
เทวะย่อมทรงทิพย์ กำเนิด
หากรูปเชิงชี้เช่น นรชน
ภเวต์ ตุ มติเภโท เม คาต๎รไวรูป๎ยตาม์ ป๎รติ  
๏ กูฉงนที่รูปแผก นายกู
หลังค่อมแขนดูโกง และสั้น
ป๎รมาณาต์ ปริหีนัส๎ตุ ภเวท์ อิติ มติร์ มม  
ที่ยังขาดอยู่เพียง รูปแผก นี้นา
กูจะเชื่อนั้นแน่ ฉันใด
วยห์ป๎รมาณํ ตัต์ ตุล๎ยํ รูเปณ ตุ วิปร๎ยยห์  
๏ อันวัยชนมะนั้น เท่ากัน แน่นา
แม้รูปจะผันแผก อยู่มาก
นลํ สร๎วคุไณร์ ยุก์ตัม์ มัน๎เย วาหุกัม์ อัน์ตตห์ ฯ  
วาหุกกอปร์สรรพะ คุณเช่น นลนอ
ควรเชื่อว่าหากพระ นลแปลง ฯ

๏ เอวํ วิจาร๎ย พหุโศ ๏ ย้อนแย้งแยกย้ายยัก ตระหนักนึกตรึกไตร นายวาร์ษไณยนั่งนึก เห็นพิฦกลานตา ยิ่งตรึกตรายิ่งฉงน อันพระนลกับวาหุก แทบทุกสิ่งเสมอกัน แต่รูปนั้นและผิดแผก แปลกกันไกลไฉนนี่ นายสารถีพระบุญโศลก เศร้าโศกคิดหลายครั้ง ยังกลับตรองอีกเล่า ๏ ฤตุปร๎ณัส๎ ตุ ราเชน์โท๎ร ๏ ฝ่ายพระเจ้าฤตุบรรณ ทรงธรรม์นั่งเคียงกาย นายวาร์ษไณยสารถี ภูมีเพ่งพิศเพลิน จำเริญตาดูวาหุก แสนสนุกชอบหฤทัย ดูว่องไวหัยการ ภูบาลดูสารถี ขับพาชีแกล้วกล้า ดูท่วงท่าเหมาะเนตร์ เหลือวิเศษบ่มีปาน ภูบาลปลื้มฤทัย ในการดูผู้สามารถ น่าปลาดยินดี โปรดวาหุกสารถี นั้นแล ฯ

๏ เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๙ ดังนี้ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ