สรรคที่ ๑๖

๏ ภีมห์ ๏ ฝ่ายจุมพลภีมราช วิทรรภนาถนาถา ๏ ห๎ฤตราช๎เย นเล ๏ ราชาแจ้งอุปัทวเหตุ ว่านลนเรศร์ไร้สมบัติ ๏ สภาร๎เย เป๎รษ๎ยตางคเต ๏ อีกองค์รัตนนารี ผู้มหิษีก็ตกยาก แสนลำบากยากเข็ญ บ่เปนสุขทั้งสองรา ๏ ท๎วิชาน์ ป๎รัส๎ถาปยามาส ๏ จึ่งราชาภีมะ ธตรัสใช้ทิชาจารย์ ผู้ชำนาญเดินดง ให้แสวงองค์นลกษัตร์ ให้สมบัติไปใช้สอย บ่มิน้อยพอแก่การ แล้วภูบาลภีมะราช จึ่งประภาษสั่งพราหมณ์ ดังนี้ ฯ

๏ ม๎ฤคยัธ๎วํ นลํ ยูยํ ทมยัน์ตี จ เม สุตาม์  
๏ สูจงไปเที่ยวค้น หานล
วรราชผู้เรือง ฤทธิเลิศ
อีกนิ่มนฤมล สุดารัตน์
ทมยันตีเพริศ เพรางาม ฯ
อัส๎มิน์ กร๎มณิ สัม์ปัน์เน วิช๎ญาเต นิษธาธิเป  
๏ เมื่อยามสฤษดิได้ ดังจินต์
คือประสบไนษัธ ยอดภพ
ควาง สหัส๎รํ ทาส๎ยามิ โย วัส๎ ตาวานยิษ๎ยติ  
ใครนำสู่ธานินทร์ ทั้งคู่
กูจะให้โคครบ หนึ่งพัน ฯ
อค๎รหารางศ๎จ ทาส๎ยามิ ค๎รามํ นครสัม์มิตัม์  
๏ ปางนั้นกูจะเอื้อ เอาภาร
ให้ทรัพย์หิรัญจา รุมาษ
เพื่อยังนิคมสถาน ที่อยู่
ให้เปนสุขแม้นราช ธานี ฯ
น เจจ์ฉัก๎ยาวิหาเนตุํ ทมยัน์ตี นโลปิ วา  
๏ แม้ชีจะมิได้ พบนล นาถแฮ
ฤๅมิ่งทมยันตี ศิรินาฎ
ช๎ญาตมาเต๎รปิ ทาส๎ยามิ ควาง ทศ ศตํ ธนัม์ ฯ  
ขอเพียงแต่รู้หน แห่งยับ เธอเทอญ
โคสิบร้อยประสาท ไป่หวง ฯ

๏ อิต๎ยุก์ตาส๎ เต ๏ ปวงพราหมณ์ได้ฟังสาร แห่งภูบาลบพิตร์ ต่างก็มิจิตปรีดา พากันท่องเที่ยวไป ในทิศานุเทศ เข้ายังเขตภารา และมหานคร ค้นภูธรนลราช และรัตนนาฎมหิษี แต่เหล่าชีบ่มิพบ ประสบองค์ท้าวนล ฤๅนฤมลภีมะสุดา นั้นเลย ฯ

๏ สุเทว ๏ ครานั้นสุเทพทิชะ ๏ ตตัศ๎เจทิปุรึ รัม๎ยาง ๏ มาถึงพระเวียงราช แห่งภูวนาถเจที อันเปนที่รมเยศร์ วิเศษแม้นเมืองสวรรค์ ๏ วิจิน๎วาโนถ ไวทร๎ภีม์ ๏ ครานั้นพราหมณ์ได้ยล นิ่มนฤมลนารี ไวทรรภีศรีสอาด อยู่ในราชนิเวศน์ อันวิเศษโสภิต นางสถิตเคียงกายา แห่งสุนันทานารี ราชบุตรีศรีวิลาศ พิศนางนาฎเลอสรร อันเคยมีรูปวิไลย บัดนี้ไซ้รมัวหมอง บ่มิผ่องเพียงเก่า เศร้าเหมือนแสงตวัน อันมีเมฆฝนบัง ยังมีแสงแต่อ่อน ผ่อนเผยออกแต่น้อย พราหมณ์ชะม้อยดูนาง อันสำอางลออเนตร์ เห็นเยาวเรศหมองศรี ทั้งอินทรีย์ซูบผอม ย่อมเปนที่ จับใจ พราหมณ์ตรึกไตรในจิต นี่ฤมิ่งมิตร์ไภมี ดูเปนที่น่าสมเพช เวทนาสาวคำ จึ่งรำพึงในใจ ดังนี้ ฯ

๏ ยเถยัม์ เม ปุรา ท๎ฤษ๎ฏา ตถารูเปยัม์ อังคนา  
๏ เราไซ้รเห็นรูปเจ้า ธิดา
คล้ายเมื่อนางอยู่เวียง บิตุราช
ก๎ฤตาร๎โถส๎ยัท๎ย ท๎ฤษ๎เฏ๎วมาง โลกกาน์ตาม์ อิว ศ๎ริยัม์  
นับว่าสิทธิ์ปราถนา เปนแน่
เพราะประสบนางสวาท โลกล้วนนิยมดู
ปูร๎ณจันท๎รนิภาง ศ๎ยามาง จารุว๎ฤต์ตปโยธราม์  
๏ แสนตรูงามมาตร์แม้น เพ็ญจันทร์
งามพระถันดังดวง สะโรช
กุร๎วัน์ตีม์ ป๎รภยา เทวี สร๎วา วิติมิรา ทิศห์  
เทวีสิริฉายฉัน ฉายเฉิด
ศรีสว่างทุกทิศโชติ ช่วงเพี้ยงเพ็ญแข
จารุปัท๎มวิศาลาก์ษีม์ มัน๎มถัส๎ย รตีม์ อิว  
๏ แลดูนัยเนตร์แม้น บัวทอง
งามเปรียบนางรตี วิจิตร์
อิษฏาม์ สมัส๎ต โลกัส๎ย ปูร๎ณจัน์ท๎รป๎รภาม์ อิว  
เปนที่พะวงปอง แห่งโลก
เหมือนหนึ่งจันทราทิตย์ ส่องหล้ายินดี
วิทร๎ภสรสัส๎ ตัส๎มาท์ ไทวโทษาท์ อิโวท์ธ๎ฤตาม์  
๏ จากที่สะรัสแก้ว ในวิทรรภ์
ทวยเทพธปลิดนาง บุษปมาษ
มลปังกานุลิป์ตางคีม์ ม๎ฤณาลีม์ อิว โจท์ธ๎ฤตาม์  
เหมือนรึ้งกุสุมพรรณ พ้นสระ
เปื้อนแปกดวงบุบผชาติ แปกเปื้อนโคลนตม
เปาร๎ณมาสีม์ อิว นิศาง ราหุค๎รัส๎ตนิศากราม์  
๏ ทรามชมมัวหม่นแม้น ราตรี
ราหุจับนิศากร ขบคาบ
ปติโศกากุลาง ทีนาง ศุษ๎กโส๎รตาง นทีม์ อิว  
อีกเหมือนอย่างนที แห้งผาก
เพื่อโศกศัลยพิลาป ห่างห้องมาหึง
วิธ๎วัส๎ตปร๎ณกมลาง วิต๎ราสิตวิหังคมาม์  
๏ เหมือนบึงบัวเหี่ยวแห้ง ห่างชม
ฝูงวิหคเหินไกล บ่พัก
หัส๎ติหัส๎ตปราม๎ฤษ๎ฏาง ว๎ยากุลาม์ อิว ปัท๎มินีม์  
นํ้าแห้งขุ่นเปนตม แสนขุ่น
เพราะคชเอางวงควัก ดูดน้ำมากิน
สุกุมารีม์ สุชาตางคึ รัต๎นคร๎ภค๎ฤโหจิตาม์  
๏ ยุพินฤแน่งน้อย สุกุมาร
ควรแต่อยู่หอคำ คฤหรัตน์
ทัห๎ยมานาม์ อิวาร๎เกณ ม๎ฤณาลีม์ อิว โจท์ธ๎ฤตาม์  
โอ้นางดั่งบัวบาน ถูกเด็ด
ไหม้แดดที่ร้อนจัด จึ่งแห้งเหือดสี
รูเปาทาร๎ยคุโณเปตาม์ มัณ์ฑนาร๎หาม์ อมัณ์ฑิตาม์  
๏ มีรูปงามอีกทั้ง งามใจ
ควรประดับไป่มี ประดับ
จัน์ท๎รเลขาม์ อิว นวาง โว๎ยม๎นิ นีลาภ๎รสํว๎ฤตาม์  
เหมือนจันทร์แรกขึ้นใน โพยมเด่น
มืดเพราะดวงลี้ลับ เมฆก้อนใหญ่บัง
กามโภไคห์ ป๎ริไยร์ หีนาง หีนาม์ พัน์ธุชเนน จ  
๏ ทั้งครอบครัวห่างเจ้า แจ่มจันทร์
ยังมิหนำซ้ำประยูร วิโยค
เทหํ ธารยตึ ทีนาม์ ภร๎ต๎ฤทร๎ศนกางก๎ษยา  
หวังอยู่แต่พบภรร ดาเสน่ห์
นางจึ่งสู้ทนโศก อยู่ได้โดยดี
ภร๎ตา นาม ปรํ นาร๎ยา ภูษณาม์ ภูษไณ วินา  
๏ นารีแม้ไร้สรรพ ภูษณา
ผัวก็เปนอาภรณ พิลาศ
เอษา หิ รหิตา เตน โศภมานา น โศภเต  
แม้ไร้ซึ่งภรรดา งามเหือด
ถึงจะแต่งรัตนมาษ ไป่พร้อมโสภา
ทุษ๎กรํ กุรุเตต๎ยัน์ตํ หีโน ยัท์ อนยา นลห์  
ธารยัต๎ยาต๎มโน เทหํ น โศเกนาวสีทติ  
๏ อ้านางจะยากแค้น ใดปาน
อีกพระนลผู้ห่าง คู่สวาท
จะคงพระชนมาน มั่นอยู่ แลฤๅ
ฤๅโศกจวบชีพขาด โศกซ้อนฤดี
อิมาม์ อสิตเกศาน์ตาง ศตปัต๎รายเตก์ษณาม์  
สุขาร์หาง ทุห์ขิตาง ท๎ฤษ๎ฏ๎วา มาปิ ว๎ยถเต มนห์  
๏ อ้าศรีสุรรัตน์เลิศ กัญญา
ขำเกศเนตร์ฤๅปาน ศัตบตร์
สมควรแต่สุขา มาทุกข์ แม่เอย
ยิ่งพิศยิ่งกําสรด โศกเศร้าแทนนาง ฯ
กทา นุ ขลุ ทุห์ขิตาง ปรํ ยาส๎ยติ ไว ศุภา  
๏ ปางใดศุภลักษณ์แก้ว กานดา
จึ่งจะข้ามพ้นห้วง แห่งทุกข์
ภร๎ตุห์ สมาคมาต์ สาธ๎วี โรหิณี ศศิโน ยถา  
เมื่อใดจะพบสา มีเสน่ห์
ดังพระโรหิณีสุข เสน่ห์ด้วยศศี
อัส๎ยา นูนัม์ ปุนร๎ลาภาท์ ไนษธห์ ป๎รีติเมษ๎ยติ  
๏ ภูมีนลราชได้ โฉมยง คืนแฮ
พระจะได้เสวยรมย์ ประโมท
ราชา ราช๎ยปริภ๎รัษ๎ฏห์ ปุนร์ ลัพ์ธ๎วา จ เมทินีม์  
ถึงแม้พระยังคง ไร้ราชย์ อยู่นา
ก็จะเรืองศรีโรจน์ รุ่งแม้นงำเวียง
ตุล๎ยศีลวโยยุก์ตาง ตุล๎ยาภิชนสํว๎ฤตาม์  
๏ คู่เคียงสมคู่เผื้อ ศีลธรรม์ สม่ำนา
อายุเท่ากันกอปร์ อภิชาต
ไนษโธร๎หติ ไวทร๎ภึ ตํ เจยัม์ อสิเตก์ษณา  
ไนษัธสิควรกัน กับหน่อ วิทรรภแฮ
นางก็ควรแก่ราช เกียรติก้องเมทนี
ยุก์ตํ ตัส๎ยาป๎รเมยัส๎ย วีร๎ยสัต์ต๎ววโต มยา  
สมาศ๎วาสยิตุม์ ภาร๎ยาม์ ปติทร๎ศนลาลสาม์  
๏ เห็นทีนางเลิศลํ้า ธรณิน
คงจะอยากพบองค์ สวามิศร์
เพื่อปลอบมหาพิร ทรงสัตย์
สมตำแหน่งผู้นิตย์ แนบเนื้อเสนหา
อหัม์ อาศ๎วาสยาม๎เยนาม์ ปูร๎ณจัน์ท๎รนิภานนาม์  
อท๎ฤษ๎ฏปูร๎วาม์ ทุห์ขัส๎ย ทุห์ขาร๎ตาง ธ๎ยานตัต์ปราม์  
๏ อ้านางผ่องพักตร์เพี้ยง เพ็ญจันทร์
นางบ่เคยทุกข์กรำ กรากเทวศ
บัดนี้สิมาศัลย์ ทรวงโศก แม่เอย
จำจะทูลอรรคเรศ ปลอบด้วยคำดี ฯ

๏ เอวํ วิม๎ฤษ๎ย ๏ ครั้นธชีไตร่ตรอง มองดูลักษณนาง พลางดูรูปศริระตระการ ทั่วสงสารบ่เทียมถึง ๏ สุเทโว พ๎ราห๎มโณพ๎รวีต์ ๏ จึ่งสุเทพพราหมณ์ดี ทูลบุตรีภีมะราช ด้วยวาทอันสุนทร เพื่อบังอรทราบกิจจา ดังนี้ ฯ

๏ อหํ สุเทโว ไวทร๎ภิ ภ๎ราตุส๎ เต ทยิตห์ สขา
๏ ข้าแต่ไวทรรภราช สุดา
ข้าสุเทพเพื่อนพระ พี่ไซ้ร
ภีมัส๎ย วจนาท์ ราช๎ญัส๎ ต๎วาง อัน๎เวษ๎ฏุม์ อิหาคตห์
มาแสวงนิ่มนารี วรรัตน์
โดยภีมะใช้ด่วน ดลมา
กุศลี เต ปิตา ราช๎ญิ ชนนี ภ๎ราตรัศ๎จ เต
๏ พระบิดาชนนิราช อยู่สราญ
อีกพระพี่ยาอยู่ สุขพร้อม
อายุษ๎มัน์เตา กุศลิเนา ตัต๎รเส๎ถา ทารเกา จ เตา
อีกสองกุมารองค์ ลูกแห่ง นางฤๅ
มีเพื่อนเล่นห้อมนิตย์ แน่นนันท์
ต๎วัต์ก๎ฤเต พัน์ธุวร๎คาศ๎จ คตสัต์ต๎วา อิวาสเต
๏ ปวงประพันธุญาติ แห่งนาง
ต่างนั่งทุกข์ถึงเธอ ละห้อย
อัน๎เวษ๎ฏาโร พ๎ราห๎มณาศ๎จ ภ๎รมัน์ติ ศตโศ มหีม์ ฯ
ใช้ทวิชตรวจทางดู ทุกแหล่ง
รวมนับได้ร้อยเที่ยว หาอร ฯ

๏ ยุธิษ๎ฐิร ๏ ดูกรยุธิษฐิร ๏ อภิช๎ญาย สุเทวํ ตํ ทมยัน์ตี ๏ ครั้นยุพินทมยันตี รู้จักธชีสุเทพแล้ว นางแก้วก็ดำรัสถาม ถึงความสุขสมบูรณ แห่งประยูรญาติและสหาย จึ่งโฉมฉายวิทรรภสุดา ทอดทัศนาสุเทพ ผู้เพื่อนเสพยสามัคคี กับพระพี่ผู้รัก นงลักษณ์ทรงพระโศกา ๏ สุนัน์ทา ๏ ฝ่ายสุนันทานารี เห็นโฉมศรีโศกาดูร พูลเทวศทวีจัด ยามดำรัสด้วยธชี ๏ ชนิต๎ร๎ยาห์ กถยามาส ๏ พระกุมารีสุนันทา ถามพระมารดาทรงวัย ๏ ไสรัน์ธ๎รี โรทีติ ๏ เหตุฉันใดนางรูปงาม จึ่งมีความโศกสอื้นไห้ เพื่อเหตุไฉนพูดกับพราหมณ์ นงรามจึ่งต้องหมองศรี นางนี้คือ นางใด ทำไฉนจักได้ทราบคดี ๏ อถ เจทิปเตร๎ มาตา ๏ ปางนั้นพระศรีมาตุราช แห่งพระภูมินาถเจทินคร จึ่งเสด็จจรจากห้องใน ไปยังที่พราหมณ์สถิต อยู่ด้วยมิ่งมิตร์นงราม บอกให้พราหมณ์ยืนจำเภาะหน้า แล้วนางพระยาวุฒิวัย จึ่งตรัสถามสุเทพไป ดังนี้ ฯ

๏ ภาร๎ยา กัส๎เยยํ สุตา วา กัส๎ย ภาวินี
๏ อรไทยผู้แน่งน้อย งามองค์ เอกแฮ
เปนมหิษีใคร อยากรู้
สุดาเผ่าพงศ์ดี ฤๅถ่อย ฉันใด
ไยจึ่งมาสู้กราก อยู่เพี้ยงทาสี
กถํ จ ภ๎รัษ๎ฏา ช๎ญาติโภ๎ย ภร๎ตุร๎ วา วามโลจนา
๏ นารีไยพรากญาติ วงศา
ไยพรากภรรดาครอง คู่เคล้า
ต๎วยา จ วิทิตา วิป๎ร กถัม์ เอวํคตา สตี
นางนี้วิปราจารย์ รู้จัก อยู่ฤๅ
ไยจึ่งมาเศร้าโศก ดั่งนี้เปนไฉน
เอตัท์ อิจ์ฉาม๎ยหํ โศ๎รตุํ ต๎วัต์ตห์ สร๎วัม์ อเศษตห์
๏ เราไซ้รจงจิตรู้ เรื่องราว
แห่งอนงค์นี้จง ถี่ถ้วน
ตัต์เต๎วน หิ มมาจัก์ษ๎ว ป๎ฤจ์ฉัน์ต๎ยา เทวรูปินีม์ ฯ
เหตุไฉนจึ่งสาวคำ รูปเลิศ ฟ้าแฮ
ตกลำบากล้วนแต่ โศกเศร้าฤๅวาย ฯ
๏ เอวัม์ อุก๎ตัส๎ ตยา ราชัน์ สุเทโว ท๎วิชสัต์ตมห์
๏ ฝ่ายสุเทพทวิช สิทธิปัญญาเยี่ยมเค้า ฟังสารพระแม่เจ้า ตรัสถาม
สุโขปวิษ๎ฏ อาจัษ๎เฏ ทมยัน์ต๎ยา ยถาตถัม์ ฯ
๏ พราหมณ์นั่งลงโดยควร ทูลทั้งมวลหมดไซ้ร เรื่องนางวิทรรภให้ เสร็จสรรพ์ ฯ

เรื่องพระนลสรรคที่ ๑๖ ดังนี้ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ