นิทานวัจนะ

จักขอไขดำนาน เปนนิทานวัจนะ เพื่อจะแจ้งแถลงความ

ตามเหตุเรื่องพระนล อันปนอยู่ณที่ คัมภีร์มหาภารตะ

คละอยู่ในวันะบรรพ นับเปนส่วนหนึ่งนั้น อันเปนนิพนธกถา

แห่งมหามุนี นามเธอมีประกาศิต กฤษณะไทวปายน

ประพนธ์เปนคำฉันท์ อันเรียกนามว่าโศลก ประโยคคำสำนวน

ล้วนเปนที่น่าฟัง ทั้งไพเราะเหมาะกลอน ศัพท์สุนทรจับใจ

ในนั้นไซ้รไขขาน ว่าดำนานนลนี้ พระมุนีหนึ่งไซ้ร

เล่าให้ปาณฑพนาถ ผู้นิราศไร้รัฐ ซัดเซอยู่กลางป่า

เรื่องมีมามากมาย จะบรรยายมากมวล ก็มิควรที่นี้

ควรที่เพียงยกเอา มาเล่าสังเขปไว้ พอแต่เพียงจักได้

ทราบคดี ฯ

๏ กรุงศรีนามออกอ้าง หัสดิน
ที่สถิตขุนหลวง เด่นด้าว
ปิ่นจันทรวงศ์วิน ทุราช
เผยพระเดชอะคร้าว หื่นหรรษ์ ฯ
๏ ปางนั้นมีเจ้าอยู่ สองสกุล
ต่างอิทธิกำยำ กลั่นกล้า
ล้วนเปนหน่อพระสุน ทรราช สองแฮ
ล้วนเลิศสุรเดชจ้า แจ่มงาม ฯ
๏ นามสกุลหนึ่งนั้น โกรพ
ลูกธตรฐภู วนาถไท้
อีกกุลชื่อปาณฑพ วรกษัตร์
เปนลูกปาณฑุไซ้ร สิทธิ์ศิลป์ ฯ
๏ ภูมินทร์ธตรฐท้าว เชษฐา
พระเนตร์ธมืดมัว แต่กี้
จึ่งองค์พระอนุชา ปาณฑุ
ทรงราชย์จังหวัดนี้ ก่อนมา ฯ
๏ ราชาปาณฑุไซ้ร มีบุตร์
ปัญจะประเสริฐไว ว่องแท้
ทั้งห้ากษัตร์สุด สุรแกว่น
นามะปาณฑพแล้ เลิศสม ฯ
๏ ประถมธรรมสุตเจ้า ยุธิษ เฐียรแฮ
ทุติยะพระภีมะเสน เกียรติก้อง
อีกอรชุนฤทธิ์ เรืองรุ่ง
สหเทพนกูลน้อง แฝดสอง ฯ
๏ พี่น้องอันชื่อชี้ โกรพ นั่นฤๅ
มีอยู่รวมร้อยองค์ อะคร้าว
ทุรโยธนะลบ เลิศเหล่า นั้นแล
เปนลูกธตรฐท้าว เทิดธรรม์ ฯ
๏ ปางนั้นปาณฑุเจ้า ภพนาถ
มีโรคพยาธิเบียฬ เบียดไท้
จึ่งละซึ่งวรราช สมบัติ
ฝากราชมนตรีให้ รักษา ฯ
๏ ราชาประเวศด้าว แดนพน
แต่พระโรคเธอมวล มากกล้า
ปาณฑุก็วายชนม์ กลางพนัส นั่นแล
โอรสจึ่งกำพร้า แต่เยาว์ ฯ
๑๐๏ เขาจึ่งเชิญท่านท้าว ธตรฐ
ทรงราชย์ประศาสน์แทน พระน้อง
ท้าวเธอสถิตทศ ธรรมเที่ยง
ปาณฑพจึ่งไป่ต้อง ขุกเข็ญ ฯ
๑๑๏ ร่มเย็นเพราะท่านท้าว บิตุลา
เลี้ยงเท่าบุตร์เธอเอง บัดนั้น
ปัญจะกษัตร์ผา สุกสถิต
เอาเดชพระลุงกั้น เกศหรรษ์ ฯ
๑๒๏ สรรพ์ศิลปศาสตร์พร้อม ไพบูลย์
เรียนรอบรู้เร็วไว วิริยกล้า
จึ่งพระบิตุลาพูล พิศวาส
เพราะพระหลานทั้งห้า ถูกใจ ฯ
๑๓๏ ครั้นวัยวุฒิเสร็จซ้อม สรรพเรียน
จึ่งธตรฐจอม จักร์กว้าง
สมมตยุธิษเฐียร ธรรมสุต
เปนพระเยาวราชอ้าง ออกนาม ฯ
๑๔๏ ต้องตามระเบียบเบื้อง เบาราณ
ขุนเลือกเอายอดทวย ลูกเจ้า
แม้มิใช่กุมาร ลูกท่าน เองนอ
ขุนบ่เกี่ยงฤๅเข้า แก่ตน ฯ
๑๕๏ ฝูงชนก็แซ่ซร้อง สาธุการ
ขุนเลือกเยาวราชดี แน่แท้
เพราะยุธิษเฐียรชาญ เชิงประชิต
คงบ่มีที่แพ้ เศิกไหน ฯ
๑๖๏ แต่ใจทุรโยชน์นั้น อิจฉา
ข้องจิตคิดอาธรรม์ โหดเหี้ยม
อีกปวงพระอนุชา ช่วยเจ็บ แค้นฮือ
ควรฤพระพ่อเสี้ยม ส่งหลาน ฯ
๑๗๏ กุมารทั้งร้อยจึ่ง คิดกัน
จะทะลายปาณฑพ กษัตร์ห้า
หมั่นท้าประลองขัน แข่งยุทธ ศาสตร์แฮ
ปางปะราชิตบ้า บ่หาย ฯ
๑๘๏ ปองร้ายฤไป่เว้น ว่างคิด
ตั้งแต่เอาเปรียบปาณ ฑพเจ้า
ก่อวิวาทหงุดหงิด ทุกเมื่อ
ฤๅพระพ่อเธอเว้า บ่ฟัง ฯ
๑๙๏ ตละครั้งวิวาทแล้ว เลยโกรธ กันนา
ต่ออีกและนานกาล ไป่เว้น
ธตรฐจะเอาโทษ ทัณฑ์รํ่า ไปฤๅ
การก็เกินกว่าเหล้น หยอกกัน ฯ
๒๐๏ ปางนั้นทุรโยธน์ตั้ง เพียรพาล
ยงยุพระบิตุรงค์ ท่านไท้
ธตรฐก็รำคาญ ข้องขัด
เกรงบุตร์และหลานไซ้ร เข่นกัน ฯ
๒๑๏ ครั้นจะรออีกไส้ร เกรงความ มากแฮ
เยียจะรบกลางเวียง แน่แท้
ศัตรูจะวู่วาม ซ้ำส่ง ด้วยนอ
จำจะคิดอ่านแก้ บัดใจ ฯ
๒๒๏ จอมไผทจึ่งเรียกห้า องค์หลาน
มาตรัสธิบายความ ถี่ถ้วน
อันหลานก็เห็นปาน โอรส ลุงนา
ลุงฤรักเจ้าล้วน อย่าแหนง ฯ
๒๓๏ แต่งธรรมะสุตให้ เปนทา ยาทพ่อ
นี้พยานว่าลุง รักเจ้า
แต่ลูกแห่งลุงอา ธรรม์โหด เหี้ยมฮือ
จงจิตฤษยาเร้า เร่งราญ ฯ
๒๔๏ การยุทธ์ระหว่างเชื้อ วงศ์เดียว
เครื่องจะนำฉิบหาย สู่ด้าว
แม้เราสิมัวเทียว แทงยุทธ์ กันนา
เยียปัจจามิตร์ห้าว หื่นหรรษ์ ฯ
๒๕๏ เหตุฉนั้นดูก่อนเจ้า หลานชาย
เจ้าอย่าคิดเดียจฉันท์ เคียดขึ้ง
เชื่อลุงเถิดลุงหมาย ดีต่อ เจ้านา
หวังจะตัดการรึ้ง เร่าราญ ฯ
๒๖๏ หลานเอยทั้งห้าจุ่ง จรลี
จากนครหัสดิน อย่าช้า
อีกนำแม่กุนตี มาตุ เจ้าเอย
ไปกับหลานทั้งห้า เถิดหลาน ฯ
๒๗๏ ฟังสารสมเด็จไท้ บิตุลา
จึ่งพระยุธิษเฐียร นอบเกล้า
ทูลว่าพระราชา ธิบายแจ่ม แจ้งแล
ขอพระลุงผ่านเผ้า อย่าแหนง ฯ
๒๘๏ การแก่งแย่งยุทธห้าว เหิมหาญ
ในระหว่างราชวงศ์ บัดนี้
แน่แท้จะนำการ เข็ญขุก มานา
เหมือนช่วยศัตรูชี้ ช่องมลาย ฯ
๒๙๏ ขอถวายความสัตย์ซํ้า ปฏิญญา
ต่อภักตร์เทพสักขี ทั่วด้าว
ทั้งข้าและอนุชา จงรัก พระเอย
จะไม่ทำให้ท้าว ขุ่นเคือง ฯ
๓๐๏ จอมเมืองเนืองนิตย์เอื้อ เอนดู ข้านา
ฤๅจะไม่รู้คุณ ท่านไท้
ทั้งห้ากตัญญู ยงมั่น จิตเฮย
ขอจะปฏิบัติให้ พระสราญ ฯ
๓๑๏ ภูบาลจงได้โปรด อนุญาต
ให้ออกจากเวียงไชย บัดนี้
อีกขอพระประศาสน์ สั่งบุตร์ พระเอย
จงอย่าตามจู้จี้ ต่อไป ฯ
๓๒๏ ทรงไชยธตรฐเจ้า จอมปราณ
ตอบว่าลุงจะสั่ง บุตร์ให้
ไปดีเถิดนะหลาน เปนสุข
ไป่เนิ่นคงจะได้ กลับมา ฯ
๓๓๏ จึ่งห้ากษัตร์ก้ม อัญชลี
ลาพระราชบิตุลา เลิศเกล้า
ไปเชิญพระชนนี เธอเสด็จ
เดินจากหัสดินเข้า เขตไพร ฯ
๓๔๏ ไปถึงณหมู่บ้าน กลางดง
อันชื่อวารณาวัต เหมาะแท้
พอเปนที่พักคง อยู่สุข ได้นา
สร้างที่พักพอแก้ ขัดพลาง ฯ
๓๕๏ ปางนั้นทุรโยธน์ร้าย แรงอิจ ฉาแฮ
ทราบแห่งห้าปาณฑพ อยู่แล้ว
จึ่งพร้อมอนุชาคิด การกาจ
เพื่อมิให้เธอแคล้ว คลาศภัย ฯ
๓๖๏ จงใจคิดเสร็จถ้วน เภทุบาย
ส่งพวกผู้ร่วมใจ หยาบช้า
คิดกันจะทำลาย ปาณฑพ
ด้วยฤทธิ์อัคคีกล้า แผดเผา ฯ
๓๗๏ ให้เขาสร้างทับขึ้น ใหม่สราญ
ฝาชุบนํ้ามันยาง แต่งไว้
ให้ล่อกษัตร์ปาณ ฑพสถิต นั่นนา
แล้วจะเผาจงไหม้ หมดพลัน ฯ
๓๘๏ ปางนั้นมีผู้รัก กษัตร์ปาณ ฑพแฮ
ฅือวิทูรผู้อา นั่นไซ้ร
แต่งทาสหนึ่งนำสาร ไปบอก
ปัญจะปาณฑพให้ ระวัง ฯ
๓๙๏ ดังนั้นกษัตร์ห้า รู้ตน
จึ่งบ่เข้าอยู่ทับ ใหม่นั้น
ล่อพราหมณ์หกตนดล เข้าอยู่ แทนฮือ
ปิดทวารทับหมั้น เหมาะงาม ฯ
๔๐๏ ครั้นยามคํ่ามืดแล้ว ทุรโยธน์
ให้จุดอัคคีเผา ทับไหม้
แสงเพลิงเถกิงโรจน์ ลามลุก
จึ่งพระทุรโยธน์ไส้ร หื่นหรรษ์ ฯ
๔๑๏ ปางนั้นปาณฑพห้า ปรีดี
เห็นว่าทุรโยธน์หลง แน่แล้ว
จึ่งเชิญพระชนนี รีบรุด
เข้าสู่แถวเถื่อนแคล้ว คลาศภัย
๔๒๏ อาไศรยแห่งอื่นได้ โดยศานต์
โกรพบ่ติดตาม มุ่งร้าย
เหตุคิดว่าวายปราณ ทั้งหก แล้วแล
จึ่งบ่คิดโยกย้าย หักหาญ ฯ
๔๓๏ ไป่นานมีข่าวก้อง เกริกมา
ว่าพญาปัญจาล ผ่านเผ้า
ป่าวร้องกษัตร์รา ชันยบุตร
ไปสยัมพรเจ้า ธิดา ฯ
๔๔๏ ครานั้นจึ่งพี่น้อง ต้องใจ กันแฮ
คิดใคร่ไปในงาน ท่านท้าว
ลามาตุครรไล โดยด่วน
จรสู่ปัญจาลด้าว ดั่งใจ ฯ
๔๕๏ ไป่นานถึงซึ่งหน้า เวียงไชย
ปัญจะกษัตร์แปลง แปลกหน้า
เปนพราหมณะวีไสย ทรงเศวต
ศรธนูครบอ้า โอ่งาม ฯ
๔๖๏ พราหมณ์แปลงจึ่งเข้าสู่ วังรัตน์
สู่พิธีมณฑล ไป่ช้า
ลูกเจ้าเหล่ากษัตร์ ต่างเยาะ หยันฮา
ว่าทวิชฤๅจะบ้า กระมัง ฯ
๔๗๏ พราหมณ์ยังมิทราบเค้า กฏิกา ท่านฤๅ
ใครประสงค์บุตรี ท่านไท้
จำแสดงซึ่งศักดา ธนุรเวท
คนเก่งจึ่งจะให้ บุตรี ฯ
๔๘๏ ชีแปลงแสร้งตอบถ้อย ทวยกษัตร์
เราก็เคยลองยิง อยู่บ้าง
ขอท่านอย่าขุกขัด โอกาศ เราเลย
เราบ่อยากโอ่อ้าง อวดดี ฯ
๔๙๏ บุตรีภูธเรศร์ท้าว ทรุบท
ทราบข่าวว่างามลบ เลิศแล้
เราจะละทางหมด ทางเสน่ห์ ได้ฤๅ
จำจะลองเผื่อแม้ โชคไชย ฯ
๕๐๏ ไม่ช้าทวยลูกเจ้า ต่างตน
ขันแข่งฝีมือปืน เหมาะหมั้น
กษัตร์ทั่วสากล ประกวด กันแฮ
การประชุมที่นั้น น่าดู ฯ
๕๑๏ อันธนูศาสตร์ล้วน ชำนาญ
แต่มิช้าชนเห็น ถ่องแท้
ใครบ่เชี่ยวชาญปาน ห้าทวิช นั่นเลย
ต่างเปล่งอุทานแส้ ศัพท์ชม ฯ
๕๒๏ ปฐมฉลาดชั้น เชิงธนู
คือทวิชที่สาม นั่นไซ้ร
ต่างตนก็มองดู เปนหนึ่ง ตาแฮ
ทั้งพระภูธเรศร์ไท้ โปรดปราน ฯ
๕๓๏ บรรหารประกาศก้อง กลางชน
พราหมณ์หนุ่มสูคือใคร อยากรู้
ไวว่องคล่องกว่าคน มือเอก เจียวพ่อ
กูบ่เห็นใครขู้ แข่งดี ฯ
๕๔๏ พราหมณ์มีกำเนิดนั้น เปนไฉน
จึ่งเชี่ยวฝีมือชาญ ชดช้อย
สำนักคุรุใด จงบอก กูเทอญ
จงอย่าอำพรางน้อย หนึ่งเลย ฯ
๕๕๏ เฉลยมธุรศท้าว ปัญจาล
ข้าชาติจันทรวงศ์ เลิศแล้ว
ชื่ออรชุนปาณ ฑุบุตร์
โทณะพราหมณ์ครูแก้ว ประสาทศิลป์ ฯ
๕๖๏ ภูมินทร์ทรุบทแผ้ว ผ่องใจ
สร้วมกอดพระอรชุน ไป่ช้า
พ่อเอยเก่งกะไร น่ารัก จริงพ่อ
งามรูปและงามหน้า หนุ่มนวล ฯ
๕๗๏ สมควรเปนคู่เจ้า กฤษณา
ผู้ธิดายอดรัก เลิศไซ้ร
ตัวเราสิปรีดา เกินกล่าว แล้วพ่อ
เต็มจิตจะยกให้ ฉับพลัน ฯ
๕๘๏ ครานั้นจึ่งยุวเจ้า อรชุน
นอบเกศเฉลยคำ ท่านเว้า
ขุนทรงพระการุญ เหลือขนาด
จำจะทูลเงื่อนเหง้า สัจจา ฯ
๕๙๏ ข้าไซ้รและพี่น้อง รวมห้า คนเฮย
ล้วนบ่มีถิ่นฐาน อยู่หมั้น
พักอยู่อรัญทา รุณเถื่อน
ความยากลำบากนั้น มากมวล ฯ
๖๐๏ อันนวลนาเรศร์แก้ว ขวัญเมือง
ฤๅจะไปอยู่วัน เวิกว้าง
เครื่องแต่จะขุ่นเคือง เข็ญขัด
ขอจุ่งพระเจ้าช้าง ตริดู ฯ
๖๑๏ พระภูมินาถไท้ ทรุบท
ยิ้มตอบพระอรชุน ลูกเจ้า
เราไซ้รได้ลั่นพจน์ ไว้แน่ แล้วนอ
เราจะถอนคำเว้า อย่างไร ฯ
๖๒๏ แม้ใครชำนะชั้น เชิงธนู
เราจะยกบุตรี แต่งให้
ครานี้ละแน่สู ชำนะ
เราจึ่งเห็นควรได้ ธิดา ฯ
๖๓๏ กฤษณาจงตอบแท้ จริงใจ เจ้าเอย
เจ้าจะถูกจิตฤๅ ดั่งนั้น
ฤๅเจ้าชอบอย่างไร จงบอก พ่อเทอญ
พ่อจะมิกางกั้น กีดใจ ฯ
๖๔๏ อรไทยนามออกอ้าง กฤษณา
ทูลตอบด้วยจริงใจ ถ่องแท้
ลูกบ่ขัดบิดา เกิดเกศ
ลูกจะยอมตามแม้ ขุกเข็ญ ฯ
๖๕๏ เห็นลูกเธอแน่แท้ ปราถนา
จงรักพระอรชุน แม่นแล้ว
ขุนสั่งกิจวิวาห์ ปาณฑพ
กับพระบุตรีแก้ว ไป่รอ ฯ
๖๖๏ พอเสร็จสมโภชพร้อม สิทธิ์สรรพ์
จึ่งพระอรชุนลา ผ่านเผ้า
พานางนิ่มนวลจันทร์ จรจาก เวียงแฮ
พร้อมกับพี่น้องเข้า เขตดง ฯ
๖๗๏ จึ่งองค์ทรุบทเจ้า ปัญจาล
ตรัสแด่พระทุรโยธน์ ไป่ช้า
เราขอฝากทูลสาร แด่พระ พ่อนา
เรื่องวิวาห์ลูกข้า กับหลาน ฯ
๖๘๏ ขอท่านจอมเขตแคว้น หัสดิน
เอาเดชปรกบุตรี นิ่มเนื้อ
ขอฝากมิ่งนารินทร์ แทบบาท
ขอพระองค์โอบเอื้อ อุปถัมภ์ ฯ
๖๙๏ ฟังคำแห่งท่านท้าว ทรุบท
ทุรโยธน์ขัดใจ ยิ่งลํ้า
จำเปนก็จำอด กลั้นโกรธ
ลาพระภูมิศร์กลํ้า กลับเมือง ฯ
๗๐๏ ทราบเรื่องตลอดเค้า มวลมี
ธตรฐหลากพระไทย ไป่น้อย
ด้วยคิดว่าชีวี หลานวอด แล้วนา
เพราะว่าเธอเชื่อถ้อย บุตรา ฯ
๗๑๏ คิดว่าไฟป่าไหม้ ในดง แล้วแล
จึ่งขาดความอนุเคราะห์ โอบเอื้อ
บัดนี้ทราบว่าคง ชนมชีพ อยู่ฮือ
จำจะรีบให้เชื้อ กลับมา ฯ
๗๒๏ ราชาจึ่งใช้ราช บุรุษ
ให้รีบเร็วรวดไป อย่าช้า
สู่อรัญญิกสุด แดนนี่
เชิญพระหลานทั้งห้า กลับพลัน ฯ
๗๓๏ ครานั้นวรทูตเร้า เร่งจร
ถึงที่พระหลานพัก ไป่ช้า
ทูลพจนะสุนทร ตามพระ สั่งเฮย
เชิญพระหลานทั้งห้า กลับวัง ฯ
๗๔๏ ฟังคำวรทูตพร้อง พาที
จึ่งพระปาณฑพเศรษฐ เพรียกพร้อง
น้องเอยพระภูมี เชิญกลับ
เราจะกลับฤๅน้อง กล่าวมา ฯ
๗๕๏ อนุชาทั้งสี่พร้อม ใจกัน
ทูลพระธรรมสุตองค์ เอกไซ้ร
เห็นควรจะกลับพลัน บ่เนิ่น
เพื่อพระแม่เราได้ สุขสราญ ฯ
๗๖๏ ปาณฑพกษัตร์ทั้ง เบญจางค์
พร้อมพระนางกุนตี แม่เจ้า
รีบเสด็จเดินทาง แถวเถื่อน
ไป่เนิ่นเสด็จเข้า หัสดิน ฯ
๗๗๏ ภูมินทร์ธตรฐผู้ ทรงธรรม์
กอดพระหลานห้าองค์ เสร็จแล้ว
ถามว่าพระหลานผัน ผายกลับ แล้วแล
เจ้าจะอยู่เมืองแก้ว ฤไฉน ฯ
๗๘๏ ไหว้พลางทางยุวเจ้า ยุธิษ เฐียรนา
ทูลพระปิ่นศศิพงศ์ ครอบด้าว
อันข้าจะสถิต เปนสุข ได้ฤๅ
เครื่องจะทำให้ท้าว ขุ่นเคือง ฯ
๗๙๏ เหตุเรื่องวิวาทด้วย ปิยบุตร์ ท่านนา
ฤๅจะเหือดหายพลัน ห่อนได้
ทุรโยธน์จะยั้งหยุด หยุกหยิก ได้ฤๅ
อีกอนุชข้าไซ้ร จัดเจน ฯ
๘๐๏ ภีมะเสนจิตเหี้ยม หาญดุ นักนอ
ฤๅจะอดโทโส หยุดยั้ง
ทุรโยธน์ก็มุทลุ ตอแหย่ อยู่นา
ใครจะคอยรึงรั้ง จากกัน ฯ
๘๑๏ เหตุฉนั้นพระผ่านเผ้า การุญ ด้วยเทอญ
ขอฝากพระมารดร ที่นี้
ข้าห้าจะลาสุน ทรราช
ประเวศวนะลี้ หลบภัย ฯ
๘๒๏ ภูวนัยฟังถ้อยจับ หฤฟัย
จึ่งเฉลยวาจา ลูกเจ้า
หลานเอยจะอยู่ไพร พงเถื่อน
เจ้าจะมีแต่เศร้า โศกศัลย์ ฯ
๘๓๏ เขตขัณฑ์ลุงนี้กว้าง ขวางมี
ลุงจะแบ่งให้หลาน กึ่งได้
จะสร้างสุรธานี ให้สถิต เจ้าเอย
เพื่อพระหลานทรงไว้ อิศะรีย์ ฯ
๘๔๏ ภูมีพลันสั่งพร้อม อมาตย์รัตน์
เกณฑ์พหลพลไกร กึกก้อง
สร้างนครอินทปัต รมเยศร์
ทวยราษฎร์ก็พลันซร้อง ศัพท์ชม ฯ
๘๕๏ บุรีรมย์สมเกียรติ์เจ้า วงศจันทร์
อยู่แทบฝังยมนา น่านนํ้า
พร้อมปราสาทรัตนบรร ยงก์โอ่ โถงแล
คูค่ายรายเลืศค้ำ เขตสรรค์ ฯ
๘๖๏ ปางนั้นธตรฐเจ้า จอมประชา
อภิเษกยุธิษเฐียร กลั่นแกล้ว
ให้งำสุรภารา อินทปัต
อีกสมบัติพัสดุแก้ว แบ่งบูรณ์ ฯ
๘๗๏ เพื่อพูลพระยศท้าว ภราตรีย์
จัดสรรพสุรโยธิน กาจกล้า
อีกอมาตย์เสวี วุฒิภาพ
มวลมอบให้เปนข้า พระหลาน ฯ
๘๘๏ ภูบาลแบ่งนรทั้ง สี่ตระกูล
ไปนครอินทปัต อะคร้าว
ทุกสิงส่ำสมบูรณ จัดเพื่อ หลานเฮย
สมพระไทยท่านท้าว บิตุลา ฯ
๘๙๏ ครานั้นจึ่งท่านท้าว ยุธิษ เฐียรแฮ
รับภิเษกสมโภช เสร็จแล้ว
จึ่งโอนอ่อนโมลิต ไหว้พระ ลุงแล
พร้อมอนุชกลั่นแกล้ว กราบลา ฯ
๙๐๏ พากันเสด็จเข้า ครองเวียง
อินทปัตมหารม เยศร์ไซ้ร
เปนสุขสนุกเพียง เมืองมัฆ วานแฮ
ปัญจะปาณฑพได้ หื่นหรรษ์ ฯ
๙๑๏ อันองค์ธรรมราชเจ้า จอมเมือง
ทรงทศพิธธรรม เที่ยงเท้
ทวยราษฎร์บ่มีเคือง ข้องจิต น้อยเลย
ต่างเกษมสุขแปล้ ไปล่ใจ ฯ
๙๒๏ แดนไกลฦๅเดชก้อง กังวาล
ชนนิยมบารมี ท่านท้าว
รู้ว่าบุรีศาน ติสุข
ต่างก็ชวนกันก้าว สู่กรุง ฯ
๙๓๏ รุ่งเรืองกระเดื่องด้วย เดชะ
จึ่งพระธรรมราชา นฤปไท้
คิดการราชสูยะ ยงยศ
เพื่อประกาศเกียรติ์ไท้ เกริกแดน ฯ
๙๔๏ ทุกแคว้นทุกเขตด้าว ภารต
ขุนต่างประมวลมา กึกก้อง
เพื่อช่วยเผยอยศ ธรรมราช
แน่นนครแซ่ซร้อง สนั่นเวียง ฯ
๙๕๏ ดูเพียงทวยเทพพร้อม กันมา
เฝ้าพระศักรินทร์จอม ฟากฟ้า
สํ่าสุระเสนา เนืองแน่น
ส่ำคชรถและม้า มากอุดม ฯ
๙๖๏ ท้าวบรมจักรกฤษณ์แก้ว อวตาร
มาจากทวาระกา ช่วยไท้
เพิ่มพูลพระยศปาณ ฑพเศรษฐ
ราชสูยะไซ้ร เสร็จดี ฯ
๙๗๏ ปางนี้ทุรโยธน์ข้อง ขัดใจ
เสร็จช่วยยุธิษเฐียร กลับแคว้น
ยิ่งคิดจิตคือไฟ เผาแผด
ยิ่งคิดจิตยิ่งแค้น ขุ่นหมอง ฯ
๙๘๏ นึกปองจักใคร่ล้าง ธรรมราช
จึ่งปฤกษาศกุนี เพื่อนแก้ว
ตัวเพื่อนสิฉลาด เชิงดวด สกาแฮ
กูก็หมดทางแล้ว จะหวัง ฯ
๙๙๏ ยังมีแต่คิดท้า ยุธิษ เฐียรเฮย
เล่นสกาพนันกัน สักเทื้อ
ขอเพื่อนจุ่งช่วยคิด การเสร็จ
แม้ว่าเพื่อนเอื้อเฟื้อ จักดี ฯ
๑๐๐๏ ศกุนีจึ่งรับถ้อย ปลงใจ ด้วยนา
ทุรโยธน์ก็ยินดี ไป่น้อย
แต่งทูตรีบเร็วไป อินทปัต
ให้แถลงแห่งถ้อย ถ่องขาน ฯ
๑๐๑๏ สารพระทุรโยธน์เจ้า วงศ์จันทร์
มาแด่พระอนุชา เกียรติ์ก้อง
เชิญเล่นสกากัน พอเพลิด เพลินนา
เชิญเสด็จพระน้อง สู่นคร ฯ
๑๐๒๏ ภูธรธรรมราชไซ้ร ยินสาร
ฤๅจะยอมจำนน ห่อนได้
จึ่งเสด็จจากสถาน อินทปัต
สู่หัสดินไซ้ร ฉับพลัน ฯ
๑๐๓๏ ปางนั้นจึ่งเริ่มเหล้น ดวดสกา
โกรพให้ศกุนี ทอดให้
ศกุนีเชี่ยววิชา เชิงดวด
อาจจะพลิกแพลงได้ ดั่งถวิล ฯ
๑๐๔๏ กองสินสินับด้วย หมื่นพัน
ธรรมราชบ่ชำนะ สักเทื้อ
ไป่นานก็เสียสรรพ์ พัสดุ
ดูสกานิตย์เกื้อ ศกุนี ฯ
๑๐๕๏ ปางนี้ทุรโยธน์ทั้ง อนุชา
ต่างก็ปลื้มปรีดี ไม่น้อย
เห็นเพื่อนพลิกสกา โกงเหมาะ แน่แฮ
ทุรโยธน์จึ่งกล่าวถ้อย ปฤจฉา ฯ
๑๐๖๏ ดูราพระน้องเอก องค์กษัตร์
อันว่าแก้วเงินทอง หมดไซ้ร
เอาอินทปัตรัฐ กองแลก เทอญพ่อ
เผื่อจะเหมาะโชคได้ กระมัง ฯ
๑๐๗๏ ฟังคำทุรโยธน์ท้า ขุ่นเคือง
ธรรมราชพนันเวียง ดั่งท้า
โอ้เคราะห์ก็เสียเมือง ในบัด เดียวแฮ
จึ่งพระปาณฑพห้า เหือดศรี ฯ
๑๐๘๏ ยินดีชนะได้ ดังหมาย
ทุรโยธน์ก็กล่าวไป อีกซ้ำ
นางเมียพระน้องชาย งามยอด หญิงฮา
ทรงสิริเลอล้ำ เลิศสรร ฯ
๑๐๙๏ พนันเอาหล่อนไซ้ร เปนทุน เทอญพ่อ
เผื่อว่ากุศลนาง จะเกื้อ
พี่ปองจะได้สุน ทรเอก อนงค์แฮ
มาเปนทาสีเผื้อ จุใจ ฯ
๑๑๐๏ ดาลฤทัยพ่างเพี้ยง เพลิงเผา
ท้าวยุธิษเฐียรยอม ดั่งท้า
ทอดดวดก็เสียเยา วะลักษณ์ อีกฮือ
ปาณฑพประหนึ่งบ้า บัดสี ฯ
๑๑๑๏ ปางนี้โกรพพร้อม กันหัว ขึ้นฮา
ทุรโยธน์เรียกกฤษณา เพี่อใช้
เฮ้ยอีกฤษณาตัว เปนบ่าว เราแฮ
ยังตะบอยอยู่ได้ บ่าวเรา ฯ
๑๑๒๏ นงเยาว์ฟังเจ็บแค้น แสนอาย
จึ่งบ่ออกมาตาม เรียกร้อง
ทุรโยชน์ผู้จิตร้าย ร้องด่า
มันไม่มาแล้วน้อง ฉุตมา ฯ
๑๑๓๏ อนุชาทุศาสน์ไหว้ แล้วไป
มือจิกเกศานาง แน่นแล้ว
ฉุดคร่าห์กระทั่งใน พระโรงรัตน์
พลางด่าอยู่แจ้ว ๆ หยาบคาย ฯ
๑๑๔๏ ใจร้ายซํ้าฉุดผ้า ทรามไวย
อีทาสนุ่งห่มเกิน กว่าหน้า
นางจะร้องเท่าใด กลับเยาะ ให้แฮ
ฉุดกระชากฉีกผ้า ห่มนาง ฯ
๑๑๕๏ ปางนั้นองค์ท่านห้าว จักร์กฤษณ์
สมเพชเห็นนางอาย แน่แท้
พระจึ่งช่วยนิรมิตร์ ผ้าห่ม ให้นา
แม้กระชากฉีกแล้ กลับดี ฯ
๑๑๖๏ ดังนี้ทุรโยธน์ข้อง พาที
กฤษณะท่านไฉน เช่นนี้
นางนี้ก็ทาสี ทรามยศ
ควรแต่มันจะปี้ ป่นไป ฯ
๑๑๗๏ ไท้วาสุเทพเจ้า ทวารา วดีเฮย
ตอบว่ามึงนี้ใจ โหดเหี้ยม
กูเชื้อกษัตรา ชายชาติ ทหารแฮ
กูบ่วานมึงเสี้ยม สั่งสอน ฯ
๑๑๘๏ กูรอนราญแต่ด้วย บุรุษ
อันจะรังแกหญิง หยาบแท้
อัปปรีละที่สุด น่าบัด สีฮือ
อันอนุชนั่นแล้ หยาบคาย ฯ
๑๑๙๏ นึกอายคำท่านท้าว จักร์กฤษณ์
ทุรโยธน์จึ่งอวดดี เดาะหน้า
เชษฐาสิเปนมิตร์ ปาณฑพ
จึ่งมาดุดันบ้า บ่นไป ฯ
๑๒๐๏ จะให้ยกย่องแม้ ทาสี เจียวฤๅ
เอาเถิดจะตามใจ พี่ได้
เฮ้ยอีแม่ตัวดี เอกอุ
กูจะยกย่องให้ ฦๅชา ฯ
๑๒๑๏ มาเถิดมาเจ้านั่ง เหนือตัก กูเทอญ
กูจะเลี้ยงมึงชู เชิดหน้า
จะยอมเผยอศักดิ์ ยิ่งทาส อื่นนา
เลี้ยงอย่างเมียน้อยข้า อย่าฉงน ฯ
๑๒๒๏ นฤมลยินถ้อยเจ็บ ดวงแด
ร้องเรียกสามีจง ช่วยน้อง
ปาณฑพตลึงแล จนจิต จริงฮือ
ครั้นจะช่วยขัดข้อง ประเพณี ฯ
๑๒๓๏ เทวีเทวศร้อง รำพรรณ
โอ้พระธรรมราชา เกียรติ์ก้อง
พระจะปล่อยเมียขวัญ อัปรยศ แน่ฤๅ
ทูลเกศสมเพชน้อง สักครา ฯ
๑๒๔๏ อ้าภีมะอีกทั้ง อรชุน
พระก็นิ่งดูดาย อยู่ด้วย
สหเทพนกุล เฉยอยู่ ได้นอ
พระจะปล่อยให้ม้วย ชีพเสีย ฯ
๑๒๕๏ แม้เมียมีโทษแล้ว ควรลง โทษนา
นี่บ่เคยผิดเลย สักเทื้อ
ปรนิบัติทุกองค์ สมจิต พระเอย
ยามทุกข์ไยบ่เกื้อ กรุณา ฯ
๑๒๖๏ ครานั้นทุรโยธน์แย้ม เย้ยสรวล
เยาะว่าชะสำออย ออดแท้
ผัวเจ้าบ่กล้าลวน ลามแก่ กูนา
เพราะว่าหน้าขี้แพ้ บัดสี ฯ
๑๒๗๏ มาดี ๆ อย่าดื้อ ดันไป
มาเถิดนั่งตักกู อย่าขึ้ง
แม้ทุศาสน์ขัดใจ ขึ้นอีก แล้วฤๅ
เขาก็จะจิกรึ้ง เกศมา ฯ
๑๒๘๏ ครานั้นภีมะข้อง เคืองโกรธ
จับคทากวัดไกว แกว่งเงื้อ
หมายตีพระทุรโยธน์ ตายบัด นั้นแล
เยียจะทุบให้เนื้อ แหลกลง ฯ
๑๒๙๏ แต่องค์ธรรมสุตห้าม อนุชา
อันจะทำทุรโยธน์ นั่นไซ้ร
เหมือนหมิ่นพระบิตุลา ทรงศักดิ์
อีกหนึ่งตัวพี่ไซ้ร ผิดเอง ฯ
๑๓๐๏ แผนเพรงกษัตร์เหล้น กิจพนัน
ฤๅต่อพระกรยุทธ์ กาจกล้า
ใครแพ้ต้องยอมสรรพ์ ตามจิต เขาแฮ
บ่มิมีทางอ้า โอษฐเถียง ฯ
๑๓๑๏ อ้าเนียงนาเรศร์แก้ว กลอยจิต
ผัวกระทบเคราะห์ยาม ยิ่งร้าย
แต่มิอาจทำผิด แบบเยี่ยง ธรรมนา
สุดจะคิดโยกย้าย ต่อไป ฯ
๑๓๒๏ อรไทยฟังพจน์ท้าว ทรงธรรม
อัสสุชลหลั่งไหล ละห้อย
โอ้เคราะห์เฉภาะกรรม แกล้งข่ม เหงฮือ
โอ้สุดจะบุญน้อย อกเอย ฯ
๑๓๓๏ ไม่เคยต้องยากแค้น รำคาญ
พระบิดาเคยถนอม กล่อมเกลี้ยง
สมชาติสุกุมาร กุลกษัตริย์
มาต่ำเสียศักดิ์เพี้ยง แพศยา ฯ
๑๓๔๏ ภรรดามีอยู่แม้ ห้าองค์
เหมือนไม่มีผัวเพียง ดั่งหม้าย
ชายใดจะประสงค์ พึงเสพย์ ได้แฮ
โอ้สุดจะเคราะห์ร้าย สุดแสน ฯ
๑๓๕๏ แค้นใจกำเนิดแล้ว เปนนา รีฮือ
แม้ว่าเปนชายชาญ ชาติไซ้ร
ใครเหิมหมิ่นชายา ยอดเสน่ห์
คงบ่ยอมนิ่งให้ ข่มเหง ฯ
๑๓๖๏ เกรงพระไทยท่านท้าว ธรรมราช
จึ่งบ่พูดให้จัง กว่านี้
แม้ภีมะคนกาจ ยังนิ่ง อยู่แฮ
ขืนพูดคงจักปี้ ป่นพลัน ฯ
๑๓๗๏ ปางนั้นภีมะข้อง ฟังความ พ้อนา
ตอบว่าพี่จนใจ แน่แล้ว
พระพี่ธห้ามปราม จำอด ใจแม่
หาไม่มันไม่แคล้ว หัดถา ฯ
๑๓๘๏ แก้วตาจงอย่าได้ สงไสย พี่เลย
พี่ไม่ลืมเหตุการณ เหล่านี้
เมื่อน่าอีกต่อไป โอกาศ มีฤๅ
ใครจะคิดหลีกลี้ อย่าหมาย ฯ
๑๓๙๏ อันอ้ายทุรโยธน์เหี้ยม อหังการ์
บังอาจชวนขึ้นตัก เดาะเหล้น
พี่จะตีน่าขา ทั้งคู่
คงจะคอยเขม้น อย่าหมอง ฯ
๑๔๐๏ ส่วนน้องทุศาสน์ห้าว เหิมผิด
บังอาจจิกเกศา นิ่มน้อง
พี่จะดื่มโลหิต มันต่าง นํ้านา
เพี่อให้สาจิตข้อง ขัดใจ ฯ
๑๔๑๏ ทันใดทุรโยธน์แค้น เคืองดุจ เพลิงฮือ
อีกทุศาสน์โกรธา ตวาดก้อง
สององค์ก็ต่างผุด ยืนอยู่
แกว่งดาบวะวาบท้อง พระโรง ฯ
๑๔๒๏ ผึงโผงทุรโยธน์ท้า ราวี
ชะ ๆ อ้ายสามาญ หยาบแท้
มึงฤๅจะกล้าตี ขาหัก
กูบ่ย่อมให้แม้ แตะตัว ฯ
๑๔๓๏ จะกลัวอ้ายถ่อยนั้น อย่าหมาย
กูก็รู้เพลงยุทธ์ กาจแกล้ว
ตัวมึงสิฉิบหาย จนหมด ตัวแฮ
ยังแต่ชีพไป่แคล้ว หัดถา ฯ
๑๔๔๏ อนุชาทุศาสน์ซ้ำ เติมต่อ ด้วยเอย
อันจะกินเลือดกู ห่อนได้
ตัวกูแหละจะขอ ผัดอึด ใจเดียว
คงจะทำเจ้าให้ สะใจ ฯ
๑๔๕๏ จะไว้ชีวิตนั้น อย่าหมาย
จะต่อยหั่นฟันที ละน้อย
กูจะสับทั่วกาย จนขาด ใจฮา
เพื่อจะลงโทษถ้อย อหังการ ฯ
๑๔๖๏ ฟังสารภีมะแค้น พันทวี
แกว่งคทากำยำ กาจกล้า
ตอบว่าจะราวี บ่ยั่น เลยแฮ
ถึงพระอินทร์จะท้า บ่เยง ฯ
๑๔๗๏ หากเกรงพระพี่ไท้ เธอปราม
กูจึ่งจำหักใจ อดกลั้น
โกรพก็ต่างวาม วู่โกรธ
สองฝ่ายทะเลาะหลั้น แหล่งวัง ฯ
๑๔๘๏ เสียงดังสนั่นเข้า ถึงใน
จึ่งธตรฐจอม แหล่งหล้า
มาที่ประชุมไต่ ถามเหตุ
ทราบเหตุจึ่งโอษฐอ้า อภิปราย ฯ
๑๔๙๏ เหม่อ้ายใจโหดเหี้ยม โอหัง
มึงสิทำกูเสีย ชื่อด้วย
แสนส่ำระยำมัง หมดโลก
กูจะเอาโทษม้วย มอดชนม์ ฯ
๑๕๐๏ ตละคนราวกับอ้าย มารผี
ดูฤมึงทำหลาน พ่อได้
เลิกกันนะบัดนี้ เลิกหมด เจียวนา
ปวงสมบัติคืนให้ แก่หลาน ฯ
๑๕๑๏ ฟังสารสมเด็จไท้ บิตุรงค์
จึ่งพระทุรโยธน์ทูล ตอบถ้อย
การเล่นพนันตรง ตามเยี่ยง กษัตร์นา
พระจะทรงติข้อย อย่างไร ฯ
๑๕๒๏ ใครโชคดีก็ได้ ทรัพย์สิน
ใครเคราะห์รัายก็จำ จักแพ้
แต่แม้พระภูมินทร์ ดำรัส
ข้าจะขัดพระแล้ ไป่ควร ฯ
๑๕๓๏ มวลทรัพย์สมบัติทั้ง ภารา
ข้าจะคืนให้ปวง ไป่ค้าน
ปาณฑพกษัตรา ดูก่อน เจ้าเอย
แม้ว่าน้องหน้าด้าน รับไป ฯ
๑๕๔๏ ทันใดภีมะแค้น เดือดดาล
ลุกทลึ่งขึ้นยืน ตวาดก้อง
เราบ่อยากขอทาน ทุรโยธน์
บ่อยากเปนพี่น้อง ต่อกัน ฯ
๑๕๕๏ ครานั้นธตรฐเอื้อน อุวาจ
อินทปัตของปาณ ฑพแท้
แม้ใครจะบังอาจ แย่งรัฐ นั้นฤๅ
กูจะเอาโทษแม้ เผด็จชนม์ ฯ
๑๕๖๏ วิมลกษัตร์เจ้า จักรกฤษณ์
หมายจะช่วยทั้งสอง ฝ่ายเอื้อ
จึ่งทูลพระทรงฤทธิ์ ธตรฐ
ให้ดวดกันอีกเทื้อ เถิดดี ฯ
๑๕๗๏ ทีโชคปาณฑพเจ้า ชำนะ
โกรพจงคืนสิน เสร็จให้
ถ้าแพ้ก็จงละ สมบัติ
ออกจากนครไซ้ร สู่พน ฯ
๑๕๘๏ ต่างตนเห็นชอบด้วย วาที
จึ่งทอดสกากัน อีกแล้
เพราะเพื่อศกุนี แพลงพลิก บาตแฮ
จึ่งยุธิษเฐียรแพ้ อีกครา ฯ
๑๕๙๏ ราชาธรรมสุตเศร้า เสียศรี
ถามพระทุรโยธน์ไป บัดนั้น
จะให้อยู่พงพี กี่ขวบ เล่าฮือ
เราจะประพฤติหมั้น เหมาะตาม ฯ
๑๖๐๏ ฟังถามทุรโยธน์ปลื้ม ปรีดี
ตอบว่าเราไม่ปอง เกลียดเจ้า
จงไปจากบุรี อินทปัต
เพียงสิบสามขวบเข้า กลับมา ฯ
๑๖๑๏ ในป่าจงอยู่เพี้ยง สิบสอง ปีเทอญ
ปีที่สิบสามจง อยู่ส้อน
ปลอมแปลงพระองค์น้อง ให้ลับ เจียวนา
ครบขวบปีจึ่งย้อน กลับวัง ฯ
๑๖๒๏ ฟังแล้วธรรมบุตร์น้อม นอบเกศ
ทูลแด่พระบิตุลา ราชเจ้า
ข้าขอฝากบุเรศ อินทปัต
จนกว่าจะกลับเข้า จากพง ฯ
๑๖๓๏ จึ่งองค์ธตรฐเจ้า ทรงธรรม์
จำจิตรับฝากเวียง นั่นไซ้ร
จัดแต่อมาตย์อัน สามารถ
พิทักษ์อินทปัตไว้ เพื่อหลาน ฯ
๑๖๔๏ จึ่งปาณฑพพี่น้อง ห้าองค์
ลาพระเจ้าลุงจร จากด้าว
กฤษณายอดอนงค์ ไปกับ เธอแฮ
โกรพอันจิตห้าว จึ่งหรรษ์ ฯ
๑๖๕๏ ปางนั้นประเวศด้าว แดนไพร
ห้ากษัตร์โทรมทรวง สุดเศร้า
สงสารแม่ทรามไวย วรลักษณ์
แสนลำบากยากเต้า ไต่มา ฯ
๑๖๖๏ เวลาวันหนึ่งนั้น ไปพบ
องค์พระพรหมฤษี สิทธิ์เจ้า
พฤหทัศวะจบ เจนเวท
หกกษัตร์นอบเกล้า อภิวันท์ ฯ
๑๖๗๏ นักธรรม์ประภาษถ้อย ถามความ
ไยจึ่งมาเดินดง ดั่งนี้
ธรรมราชก็เล่าตาม มูลเหตุ สิ้นแล
เล่าหมดความแต่กี้ ก่อนมา ฯ
๑๖๘๏ สิทธาเธอทราบแล้ว สงสาร ยิ่งแฮ
จึ่งกล่าวกะถาสุน ทเรศไซ้ร
ดูรากษัตร์ปาณ ฑพเศรษฐ
ขอบพิตร์อย่าได้ โศกเกิน ฯ
๑๖๙๏ พะเอินพระเคราะห์ร้าย แรงมี
แต่เมื่อยามสิ้นเคราะห์ หมดแล้ว
จักทรงสวัสดี ยิ่งกว่า ก่อนเฮย
คงจะสมจิตแผ้ว พหุภัย ฯ
๑๗๐๏ จะไชยชำนะแกล้ว กลางสนาม
ยามยุทธนาการ อะคร้าว
ครั้นเมื่อเสร็จสงคราม ไกรแกว่น
พระจะครองครอบด้าว อยู่เย็น ฯ
๑๗๑๏ จะเปนตัวอย่างเจ้า ขัตติยะ อื่นแฮ
ตราบชั่วกลียุค เกียรติ์ก้อง
การศึกพระภารตะ ทรงยศ
จะเปนเรื่องขับร้อง ต่อไป ฯ
๑๗๒๏ ทรงไชยดูเยี่ยงท้าว นลนาถ
งำเขตนิษัธแดน เด่นด้าว
เธอนั้นก็นิราศ นครรัช
เพราะบาตสกาห้าว หักหาญ ฯ
๑๗๓๏ โบราณกษัตร์นั้น ทุกข์หนัก
แต่ก็ตั้งข่มจิต มั่นไว้
จึ่งข้ามอุปสรรค คืนสุข ได้นา
เพียรอยู่จนตราบได้ กลับเมือง ฯ
๑๗๔๏ เรื่องเปนคติแท้ ถ้วนดี
เครื่องจะเตือนจิตจอม กษัตร์ไซ้ร
อีกนางมหิษี นลราช นั้นฤๅ
เปนอย่างนางอื่นได้ อย่างจำ ฯ
๑๗๕๏ ฟังคำพฤหทัศว์พร้อง พาที
จึ่งพระยุธิษเฐียร ตอบถ้อย
เชิญเล่าเถิดมุนี ทรงพรต
เรื่องพระนลนั้นข้อย อยากยิน ฯ
๑๗๖๏ มุนินทร์ฟังพจน์ท้าว ยินดี
จึ่งเล่าเรื่องพระนล นิษัธเจ้า
ถี่ถ้วนประมวลมี พากย์เพราะ
จนจบครบถ้วนเค้า เขตความ ๚ะ
๑๗๗๏ ตามเรื่องสังเขปนี้ ข้าผูก เองเอย
มิใช่แปลสันสกฤต ศัพท์ซึ้ง
ข้อใดจะไม่ถูก ขอโทษ เทอญพ่อ
ขอปราชญ์จงอย่าขึ้ง ขัดใจ ฯ
๑๗๘๏ ต่อไปจะจับเรื่อง พระนล
สันสกฤตมีกำกับ อยู่แล้
ในทางจะประพนธ์ เพราะอย่าง ไทยฤๅ
บางแห่งก็จำแก้ ดัดแปลง ฯ
๑๗๙๏ บางแห่งเติมต่อถ้อย พาเหียร
แต่ไม่ผิดใจความ เก่าไซ้ร
ขอท่านผู้เปรียญ สันสกฤต
จงโปรดเมตตาให้ อภัย ๚ะ๛

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ