- คำนำ
- พระราชนิพนธ์คำนำ
- นมัสกฤติกถา
- อารัมภกถา
- นิทานวัจนะ
- นโลปาข๎ยานัม์
- สรรคที่ ๑
- สรรคที่ ๒
- สรรคที่ ๓
- สรรคที่ ๔
- สรรคที่ ๕
- สรรคที่ ๖
- สรรคที่ ๗
- สรรคที่ ๘
- สรรคที่ ๙
- สรรคที่ ๑๐
- สรรคที่ ๑๑
- สรรคที่ ๑๒
- สรรคที่ ๑๓
- สรรคที่ ๑๔
- สรรคที่ ๑๕
- สรรคที่ ๑๖
- สรรคที่ ๑๗
- สรรคที่ ๑๘
- สรรคที่ ๑๙
- สรรคที่ ๒๐
- สรรคที่ ๒๑
- สรรคที่ ๒๒
- สรรคที่ ๒๓
- สรรคที่ ๒๔
- สรรคที่ ๒๕
- สรรคที่ ๒๖
- อุตตรกถา
- อธิบายในลักษณประพนธ์
- อภิธาน
ล
หลาน, ท., ในภาษาไทยเราใช้สำหรับเรียกญาติหลายชนิด คือลูกของลูก, ลูกของพี่, ลูกของน้อง, แต่ภาษามคธและสันสกฤตมีศัพท์ต่างกัน ทั้ง ๓ อย่าง คือ
๑. นัต์ตา, ม. (ม. ผ. นัดดา), ฤๅ นัป์ต๎ฤ, ส. = ลูกของลูก
๒. ภาตีย, ม., ฤๅ ภ๎ราต๎รีย, ส. = ลูกของพี่ฤๅน้องชาย (ภาตา, ม. และ ภ๎ราต๎ฤ, ส. = พี่ฤๅน้องชาย)
๓. ภาคิเนย์ย, ม., ฤๅ ภาคิเนย, ส. (ส. ผ. ภาคิไนย) = ลูกของพี่ฤๅน้องสาว (ภคินี, ม. และ ส. = พี่ฤๅน้องหญิง)
ในภาษาไทยเรา แม้จินตกะวีก็ใช้ศัพท์ปน ๆ กันอยู่เปนอันมาก คือโดยมากคำว่าหลานมักใช้ว่า “นัดดา” หมด เช่นในหนังสือรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒ ทศกรรฐพูดกับนางเบญกายก็ใช้คำว่า “นัดดา” คือ — “ผิดจริงเจียวนัดดาเจ้าน่าโกรธ อย่าถือโทษลุงเลยนะหลานขวัญ” ดังนี้เปนตัวอย่าง และสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสก็มักทรงใช้คำ “นัดดา” ในที่ซึ่งควรจะใช้ว่า “ภาตีย” ฤๅ “ภาคิไนย” อยู่เนือง ๆ ฯ เมื่อมีใช้คลาดเคลื่อนยุ่งกันอยู่เช่นนี้ จึ่งอธิบายไว้เสียทีหนึ่ง พอให้นักเลงหนังสือรู้กันไว้เท่านั้น ไม่ใช่สำหรับติเตียนฤๅแก้ไขจินตกะวีเก่าหามิได้ ฯ
ลิงค์, ส. = (๑) เครื่องหมาย, ที่สังเกต, ตำหนิ (๒) เพศ
โลกบาล, ส. ผ. [ส. โลกปาล] = ผู้รักษาโลก คือเทวดาผู้รักษาทิศทั้ง ๘ แห่งโลก (มีคำอธิบายเรื่องนี้โดยพิสดารอยู่ในอภิธานท้ายหนังสือ “ศกุนตลา” แล้ว) ฯ ในเรื่องพระนลนี้ที่พูดถึง “โลกบาล” ฤๅ “โลกปาลา” มุ่งแต่เพียงเทวดาทั้ง ๔ ที่มีนามอยู่ในเรื่องนี้ คือพระอินทร์ (ทิศบุรพา) พระอัคนี (ทิศอาคเณย์) พระยม (ทิศทักษิณ) และพระวรุณ (ทิศปรัศจิม) ฯ นอกจากท่าน ๔ องค์นี้ยังมีอีก ๒ องค์ ซึ่งเปนโลกบาลเหมือนกันแต่กล่าวถึงในเรื่องพระนลนี้ในตำแหน่งอื่น คือพระกุเวร (ทิศอุดร) กับพระพายุ (ทิศพายัพ) ฯ ที่ไม่มีกล่าวถึงเลยในนี้คืออีศาน (ทิศอีศาน) และพระนิร์ฤต (ทิศเนรดี)ฯ