อุตตรกถา

๑๔ จบเรื่องพระนลนฤปรัตน์ และสุภัทระไภมี
สมคู่เสมอสมรปรี ยะสถิตสถาพร
๏ ไขข้อแสดงคติบุราณ และสมานมโนสอน
ว่าผู้สถิตสะถิระพร สุจริตสุธรรมา
๏ ถึงแม้อมิตระจะประทุษ ก็วิมุติพาลา
ปวงทุกขะโทมะนะสะสา หสะหายมลายพลัน
๏ ราชานเรศวะระทรง ทศพิธมหาธรรม์
ถึงแม้อรีพละประจัน ก็ปลาศประลัยลาน

๑. ทานัม์ (ทานํ)

๏ หนึ่งท้าวประกอบมะนะสะเอื้อ อนุเคราะหะอวยทาน
เพื่อชนนิกรสุขะสราญ ฤดิเพื่อบ่ยากจน

๒. ศีลัม์ (สีลํ)

๏ หนึ่งคือประพฤติ์ศุภะสำรวม จิตะมุ่งมนูญผล
ทรงศีละสังวระวิมล ธุระมุ่งเสวยสวรรค์

๓. ปริต๎ยาคัม์ (ปริจ์จาคํ)

๏ หนึ่งเอื้ออำรุงสมณพราหมณ์ และประดิษฐหิตานันท์
โรงเรียนสพานและคฤหะอัน ชนไข้จะพึงประสงค์

๔. อาร๎ชวัม์ (อาช์ชวํ)

๏ หนึ่งมีกะมลวิมละใส หฤทัยธซื่อตรง
เปนนิตย์นิรันตะระธำรง สุจริตณไตรทวาร

๕. มาร๎ทวัม์ (มัท์ทวํ)

๏ หนึ่งคือหทัยบ่มิกระด้าง บ่มิพึงจะรุนราญ
บ่ถือพระองค์สมะสมาน มนะน้อมนิยมชม

๖. ตปัม์ (ตปํ)

๏ หนึ่งเผากิเลสะอกุศล มละกลั้วณอารมณ์
ด้วยการบำเพ็ญพิระอุดม วรศาสโนบาย

๗. อโกร๎ธัม์ (อโกธํ)

๏ หนึ่งแม้จะมีมนุษะปอง ประติปักษะมุ่งร้าย
เมตตาทิธรรมะวิธิหมาย ชะนะด้วยอะเวรา

๘. อวิหึสนัม์ (อวิหึสํ)

๏ หนึ่งท้าวบ่ปองมะนะจะเบียฬ นรพึ่งพระเดชา
ป้องปกพศกนิกรนา คะระแม้นปิโยรส

๙. ก๎ษาน์ติม์ (ขัน์ติ)

๏ หนึ่งแม้จะมีธุระรำคาญ หฤทัยก็ออมอด
ยามควรก็ทรงกรุณะงด คุรุทัณฑะอาญา

๑๐. อวิโรธนัม์ (อริโรธนํ)

๏ หนึ่งคงธำรงนิติประวัติ วรยุกติธรรมา
ทรงงำพิภพดิลกผา ศุกแม้นมนูเดิม
๏ ขุนใดดำรงสุทศธรร มะกุศลก็ส่งเสริม
บุญญาธิการะก็จะเพิ่ม พหุพรบ่วายวัน ฯ
๏ ฝ่ายนางประเสริฐสุมนะนา ริพิสุทธิสมกัน
ย่อมทรงสุธรรมะนิธิอัน ปะระเศรษฐะสมสตรี

๑.    ภร๎ต๎ฤป๎ริยัม์ (ภัต์ตุปิยํ)

๏ รักผัวสนิทกมละจ่อ กละรักษะชีวี
บำเรอทิวาและรชะนี บ่นิราศนิราไกล

๒. ภร๎ต๎ฤวัต์สลัม์ (ภัต์ตุวัจ์ฉลํ)

๏ หมั่นแสวงวิธีจะประนิบัติ วรสามิชื่นใจ
แม้ชอบฤชังกรณะไหน อนุวัตร์บ่ขัดขวาง

๓. ภร๎ต๎ฤจรณีม์ (ภัต์ตุจารินี)

๏ จิตภักดิปรียะมนะเที่ยง บ่มิเอียงมิจืดจาง
ถึงแม้จะทุกข์ทุมะนะนาง ก็บ่มีจะนอกใจ

๔. ภร๎ต๎ฤศ๎รุษ๎ฏิม์ (ภัต์ตุสุส์สุฏ์ฐึ)

๏ ภรรดาอุวาทะมนะมุ่ง ณประโยชนาใด
เชื่อฟังบ่ค้านวจนะนัย และประพฤติ์นุโลมพลัน

๕. ภร๎ต๎ฤคุณค๎ฤห๎ยัม์ (ภัต์ตุคุณคหิยํ)

๏ คุณใดณผัวศุภะอุดม ก็นิยมคุณานันท์
หาช่องประกาศะคุณะสรร พะวิเศษณสามี
๏ อันเบญจะธรรมะศิริเศรษ ฐะวิสิษฐะโศภี
สำหรับประดับกุละนรี กละรัตนาภรณ ฯ
๏ ด้วยเดชะสัจจะวจนา ดนุว่านิพนธ์กลอน
จงสิทธิจิตตะอนุสร พหุเพิ่มพิบูลย์ศรี
๏ ขอเรื่องพระนลนรวิชิต ฐิตะนิตย์ณธาตรี
เพื่อเตือนสติวรกะวี จิตะเอื้อวิชาชาญ
๏ ขอไทยผดุงกะวิวิชา สมะเหมือนณเพรงกาล
เพื่อเกียรติ์สยามกะวิวิศาล นรชาตินิยมชม ฯ
๑๑ ตูข้าสมัญญา วชิราวุโธดม
ตั้งจิตประดิษฐผสม วรกาพยะคำหลวง
๏ หวังเพื่อจะน้าวใจ กุละบุตร์สยามปวง
ให้คิดประพนธ์พ่วง พจนานิพันธ์สาร
๏ สองพันและสี่ร้อย สิริห้าสิบหกสมาน
พระพุทธะศกกาล ดนุเริ่มประพนธ์ฉันท์
๏ พฤหัสบดีวา ระสิบแปดกำหนดวัน
มวลมาสประสบกัน ยะวิเศษสถาพร
๏ อุตส่าห์พยายาม รจนานิพนธ์กลอน
โครงร่างบ่รีบร้อน ก็สำเร็จฤดีสม
๏ วันเสาระที่เก้า วรพฤษภาคม
ตรงวันวโรดม สุวิศาขะบูรณมี
๏ สองพันและสี่ร้อย สิริห้าสิบเจ็ดปี
แห่งพุทธะศกศรี ศุภเลิศประเสริฐวัน ฯ
๏ อหํ พุท์ธัญ์จ ธัม์มัญ์จ สํฆัญ์จ สรณํ คโต
๏ ข้าไหว้พระศาสดา ปรมาติพุทธัน
การุณยะเพียงอรร ณพะกว้างอนันตา
๏ วิสุทธะทรงญาณ ทรมานนราพา
ข้ามปาปะดลสา ธุสถิตธำรงธรรม
๏ พระธรรมะคุ้มผู้ ประติบัติกุศลกรรม
ดังหนึ่งประทีปนำ จรสู่สุขาลัย
๏ พระสงฆะทรงศี ละสุตาทิคุณใส
ทรงพุทธศาสน์ไว้ อนุศาสน์นรากร
๏ เอตํ เม สรณํ เขมํ เอตํ สรณมุต์ตมํ
เอตํ สรณมาคัม์ม สัพ์พทุก์ขา ปมุจ์จเย
๏ ขอพึ่งพระไตรยรัตน์ สุสวัสดิ์สโมสร
ยึดมั่นบ่ผันจร อกุศละเสื่อมดี
๏ พึ่งใดจะมั่นเหมือน ตรยะรัตนาศรี
ชื่นชมอุดมปรี ดิมนัสมโนยัง
๏ หวังใดจะได้สม มนะรมยะเหมือนหวัง
สิ้นทุกขะโทษัง สิริสุทธิสำราญ
๏ ไตรยรัตน์ขจัดสรร พะอุปัททะวาพาล
เพิ่มพูลประมูลศาน ติวิวัฑฒนาภา ฯ
๏ พาหุํ สหัส์สมภินิม์มิต สาวุธัน์ตํ
ค๎รีเมขลํ อุทิต โฆร สเสนมารํ
ทานาทิธัม์มวิธินา ชิตวา มุนิน์โท
ตัน์เตชสา ภวตุ เม ชยสิท์ธิ นิจ์จํ ฯ
๑๔ ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุท ธะวิสุทธะศาสดา
ตรัสรู้อนุตตะระสมา ธิณโพธิบัลลังก์
๏ ขุนมารสหัสสะพหุพา หุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีริเมขะละประทัง คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ
๏ แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ กลคิดจะรอนราญ
รุมพลพหลพยุหปาน พระสมุททะนองมา
๏ หวังเพื่อผจนวรมุนิน ทะสุชินะราชา
พระปราบพหลพยุหะมา ระมะเลืองมะลายสูญ
๏ ด้วยเดชะองค์พระทศะพล สุวิมละไพบูลย์
ทานาทิธรรมวิธิกูล ชนะน้อมมโนตาม
๏ ด้วยเดชะสัจจะวจนา และนมามิองค์สาม
ขอจงนิกรพลสยาม ชยะสิทธิทุกวาร
๏ ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พลเดชะเทียมมาร
ขอไทยผจนพิชิตะผลาญ อริแม้นมุนินทร ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ