ในอินเดีย

ในอินเดียมีชนชาติต่ำที่เรียกกันว่า “แตะต้องไม่ได้” ถึง ๓๐ ล้านหรือ ๔๐ ล้าน หรืออาจถึง ๕๐ ล้านคน ในเวลานี้ (พ.ศ. ๒๔๗๘) อินเดียแสดงความประสงค์จะเป็นชาติอิศระ แต่ชาติอิศระซึ่งมีพลเมืองไม่อิศระหลายสิบล้านคนนั้น ดูเป็นการเถียงกันอยู่เองในตัว พวกไม่อิศระหรือพวก “แตะต้องไม่ได้” นั้นเป็นตระกูลคนที่มีฐานะต่ำต้อยตามศาสนาฮินดู (หินทู) พวกอยู่ในสกุลสูงตามศาสนาถือว่าพวกอยู่ในสกุลต่ำไม่มีสิทธิอะไร ถ้ามิถือฉนี้ ก็ผิดตามลัทธิศาสนา การเป็นเช่นนี้ ถ้าอินเดียจะเป็นประเทศอิสระ แลพลเมืองทุกคนมีความเป็นไทยแก่ตนเสมอกัน ก็จะแบ่งเป็นพวกแตะต้องได้ แลแตะต้องไม่ได้ มีสิทธิแลไม่มีสิทธิกระไรได้

ในบัดนี้ (พ.ศ. ๒๔๘๐) พวกที่แตะต้องไม่ได้ มีหัวหน้าที่ได้เล่าเรียนแลมีกำลังปัญญากำลังทรัพย์ไม่น้อยหน้าใคร พวกนั้นแสดงตนออกมาว่า เมื่อศาสนาที่ต้องมีขีดคั่นสิทธิของคนตามชาติตามตระกูล เป็นเครื่องยุ่งยากไม่รู้แล้วไม่รู้รอด เพราะฉนั้นจะพากันออกจากศาสนาฮินดู ไปเข้ารีดศาสนาอื่น เพื่อจะได้เลิกปัญหาเรื่องแตะต้องได้หรือแตะต้องไม่ได้กันเสียที

การเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้พวกสกุลสูงวิตก ถึงแก่คิดกันเวลานี้ (พ.ศ. ๒๔๗๘) ว่า จะต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีจัดให้เกิดสกุลใหม่ อีกตระกูลหนึ่งให้อยู่ระหว่างพวกแตะต้องไม่ได้กับพวกแตะต้องได้ เพื่อจะได้ปรองดองกัน แต่เราเห็นว่าเป็นปัญหายากนัก เพราะหลักของการแยกคนตาม “วรรณ” เป็นสี่เหล่านั้น จะแก้ให้ลงรอยกับหลักประชาธิปัตย์นั้นยาก

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ