๑๕
ข้าพเจ้ารอวันอาทิตย์อยู่ด้วยความตื่นใจ ข้าพเจ้าเชื่อว่าในวันนี้คงจะได้มีโอกาสศึกษาอัธยาศัยใจคอ ตลอดจนความคิดเห็นของจางหลินได้บ้างตามสมควร บางทีก็อาจรู้เป็นเค้าได้บ้างว่า บุรุษผู้นี้โลกไม่ต้องการเขาเพราะอะไร แล้วในที่สุดวันอาทิตย์ที่จางหลินนัดก็มาถึง วันนั้นข้าพเจ้าใช้เวลาง่วนอยู่ในห้องสมุดตลอดวัน ห้องสมุดแห่งคอลเลชออฟไชนิสสตัดดีส์นี้ เต็มไปด้วยหนังสือและเอกสารเกี่ยวกับประเทศจีนโดยเฉพาะ เป็นห้องสมุดที่มีค่าอีกแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เอกสารโดยมากเป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งเหมาะสำหรับให้ผู้ที่ไปถึงประเทศจีนใหม่ๆ ทำการค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับจีนเพื่อปรับตัวเองให้เข้าใจเมืองจีนดีขึ้น หนังสือที่มีอยู่เป็นเรือนแสนมีทั้งเก่าและใหม่ บางเล่มเป็นเอกสารที่หาไม่ได้อีกแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกว่าห้องสมุดแห่งนี้เป็นสวนสวรรค์แห่งแรกของข้าพเจ้าในเมืองจีน เมื่อได้ย่างเข้าไปแล้วก็เพลิดเพลินอยู่ จนกระทั่งความหิวต้องเตือนให้กลับห้องพัก ความเงียบตามซอกมุมในห้องอันเต็มไปด้วยหนังสือ เป็นสิ่งที่ถูกใจข้าพเจ้านัก เมื่อได้นำตัวเข้าไปนั่งอยู่ในที่เหล่านี้คราวไร เวลาก็ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วแทบไม่รู้สึกตัว ข้าพเจ้ายังจำมุมที่สุขที่สุดในสวนอักษรแห่งนี้ได้ดี โต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ที่จัดไว้โดยเฉพาะเป็นส่วนบุคคล ไม่ปะปนกับใคร ตั้งอยู่ชิดหน้าต่างที่กรุด้วยกระจกอันหนา ข้างหลังมีท่อเหล็กที่มีสตีมผ่านให้ความอบอุ่นอย่างสบายที่สุดในฤดูหนาว ขณะที่อากาศภายนอกเย็นจัดจนปรอทลงใต้สูญดีกรี มุมอันเต็มไปด้วยอิสรภาพแห่งความคิดฝันแห่งนี้ได้ช่วยให้ข้าพเจ้าใช้เวลาอันมีค่าด้วยความสุข และด้วยความพึงพอใจในชีวิตอย่างสุดที่จะพรรณนาได้ นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีท่อไอน้ำอบอุ่นขดอยู่เบื้องหลัง ตรงหน้าเต็มไปด้วยหนังสือที่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดค้นออกมาให้ตามใบสั่ง อ่านไป—คิดไป เมื่อมองลอดกระจกหน้าต่างออกไปก็ได้เห็นละอองหิมะซึ่งปลิวว่อนอยู่ในอากาศ ยอดสนและหลังคาตึกขาวโพลนเกรอะกรังไปด้วยปุยหิมะอันบริสุทธิ์ไร้มลทิน ความขาวสะอาดของปุยน้ำแข็งแห่งธรรมชาติได้ช่วยให้อารมณ์สดชื่นผ่องใส มีกำลังใจกำลังความคิดที่จะมองดูชีวิตของมนุษย์ในเล่มหนังสือได้ด้วยความเข้าใจและเห็นใจ ที่มุมอันเงียบสงัดแห่งนี้ข้าพเจ้าได้พบความจริงหลายอย่างหลายประการในชีวิตมนุษย์ ความจริงที่เป็นต้นเหตุสำคัญของความผันแปรแห่งดวงความคิดของข้าพเจ้า—ความจริงที่บอกข้าพเจ้าว่า โลกนี้เป็นเวทีของการต่อสู้ที่ใช้กำลังอำนาจ...การต่อสู้ที่ไม่มีกติกา ความตายเป็นรางวัลของผู้แพ้ ผู้ที่แข็งแรงเท่านั้นมีโอกาสที่จะรอดชีวิตอยู่ได้ ข้าพเจ้าเคยนึกถึงความสุขที่เกิดจากความเสมอภาคของมนุษย์ ข้าพเจ้าเคยคิดว่าเราได้ทิ้งสมัยหินไว้เบื้องหลังเป็นเวลานานจนแทบจะลืมเสียได้แล้ว แต่ที่มุมอันอบอุ่นแห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ค้นพบว่าสมัยหินยังมีอยู่—สมัยที่เต็มไปด้วยการแย่งชิงอาหารและที่อยู่ ผู้ที่จะรักษาถ้ำอันสุขสบาย ตลอดจนขาเนื้ออันโอชะของตนไว้ได้ ต้องเป็นผู้ที่มีกำลังกายเข้มแข็ง มีกระบองอันใหญ่ ข้าพเจ้ารู้จักโลกดีขึ้น คือรู้ว่ามนุษย์ยังจะต้องมีชีวิตต่อไปอีกนาน ด้วยนิสัยสันดานที่หนาแน่นไปด้วยความเห็นแก่ตัว ข้าพเจ้าแน่ใจยิ่งขึ้นอีกในเรื่องความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ สัญชาตญาณที่เจ้าของไม่พยายามขัดเกลาให้ดีขึ้น จนได้ส่วนกับความเจริญก้าวหน้าของวัตถุนี้แหละ ได้ทำให้โลกเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ไม่มีความเห็นใจกัน ไม่มีความเสมอภาค ไม่มีการเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ความเห็นแก่ตัวของคนเป็นบ่อเกิดของความปั่นป่วน ซึ่งได้ทำลายความสุขของตัวเองมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ความกดขี่ก็ดี การเอาเปรียบกินแรงกันก็ดี ล้วนเอากำเนิดมาจากความเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น แต่นั่นแหละท่านที่รัก เราจะสร้างโลกให้เป็นสวรรค์ในวันเดียวย่อมไม่ได้ บางทีเราอาจต้องการเวลาอีกหลายพันปี กว่าหัวใจของมนุษย์จะสะอาดกว่านี้ เราผู้ที่ได้เอากำเนิดมาแล้วก็ได้แต่หวังไป—คอยไป เมื่อความตายมาถึง เราก็จะกล่าวคำอำลาชีวิตอันเต็มไปด้วยความผิดหวังนี้ไป โดยไม่อาลัยตายอยากเลย แต่เมื่อชีวิตยังอยู่ เราก็จะต่อสู้ต่อไปอีก—สู้ด้วยอุดมคดติของนักกีฬา เราผู้เจริญมีหน้าที่อันหนึ่งซึ่งเราไม่ลืม—นั่นคือ สร้างโลกนี้ให้เป็นสวรรค์! ให้มีความเป็นธรรมมากกว่านี้ ในการใช้แรงงานอย่างเสรีและในการเก็บเกี่ยวผลได้ของแรงงานโดยไม่ถูกกินแรงและไม่กินแรงใคร