คำนำฉบับแก้ไขปรับปรุง

เมื่อ ๒๘ ปีมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เขียนเรื่อง “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เอกชน เล่ม ๒๕ ปีที่ ๒ วันเสาร์ที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๕ หลังจากที่ได้จบเรื่อง “ปักกิ่ง–นครแห่งความหลัง” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔

เรื่อง “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” เป็นเรื่องชีวิตของจางหลิน ผู้เปิดมุมชีวิตในปักกิ่งอีกมุมหนึ่งให้แก่ข้าพเจ้า เหตุใดจางหลินจึงเป็นคนดีที่โลกไม่ต้องการ และเหตุใดโลกทุกวันนี้จึงไม่ต้องการคนดี นี่คือประเด็นของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งข้าพเจ้าเขียนขึ้นเพื่อชี้ชาตากรรมของมนุษย์ในศตวรรษปัจจุบัน ที่กำลังมีชีวิตอยู่เพื่อจะทำลายมากกว่าสร้าง

ข้าพเจ้าปิดฉากแรกของเรื่อง “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” ใน Sister Halls หรือ เจ่เม่โหลว ภายในกำแพงหินของมหาวิทยาลัยเยียนจิงนอกนครปักกิ่ง ขณะที่ข้าพเจ้านั่งพูดอยู่กับ จวนฟาง คนสวยที่สุดและน่ารักที่สุดในชีวิตของจางหลิน

บันทัดท้ายปลายเล่มที่ข้าพเจ้าเขียนไว้เมื่อ ๒๘ ปีก่อน มีความว่า

“......ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดอะไรกับจวนฟางต่อไปอีก ก็มีเสียงฝีเท้าคนเดินมาทางประตู......ข้าพเจ้าหันหน้าไปดู......เจ้าของฝีเท้าเป็นบุรุษคนเดียวกันกับที่ข้าพเจ้าพบนั่งเก้าอี้หามผ่านข้าพเจ้ากับเจียงเหมยไปในวันนั้น...... ‘เป็นหัวหน้าทีมวอลเล่ย์บอลล์ — มาจากเมืองไทย......’ เสียงเจียงเหมยดังก้องอยู่ในหูอีกครั้งหนึ่ง

“......ไม่มีปัญหาเลย......บุรุษฐปร่างสันทัด......ใส่สะเวทเต้อร์สีขาว ซึ่งยืนเผชิญหน้าข้าพเจ้าอยู่ ณ บัดนั้นคือ ดุสิต นักกีฬาเชื้อจีนที่เคยอยู่ในเมืองไทย — บุคคลที่ข้าพเจ้าต้องการพบตัว!”

แล้วข้าพเจ้าก็วางปากกาไปอีก ๔ ปี จึงเขียนเรื่อง “ผู้เสียสละ” ต่อเรื่อง “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” ลงพิมพ์ในหนังสือ “รุ่งอรุณ” ของ “จักรวรรดิศิลปิน” ฉบับที่ ๒๘ ปีที่ ๑ วันเสาร์ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๘๙

“ผู้เสียสละ” ไม่จบ เพราะ “รุ่งอรุณ” ฟุบไป เราถูกเอเย่นต์โกงเกือบทุกแห่ง จนรุ่งอรุณหมดแสงอรุณ

จนกระทั่งปลายปี ๒๕๑๓ สำนักพิมพ์ผ่านฟ้าพิทยาเกิดมาสนใจกับนิยายชีวิตในปักกิ่งของข้าพเจ้า กระตุ้นเตือนให้ข้าพเจ้าเขียน “ผู้เสียสละ” ต่อไป เพื่อให้จางหลินได้พบกับกระสุนปืนลูกเดียวที่ปากหลุมบนหิมะสีขาวอันกำลังจะกลายเป็นสีแดง ข้าพเจ้าต้องขอบคุณสำนักพิมพ์ผ่านฟ้าพิทยา ที่มีส่วนทำให้ “ผู้เสียสละ” จบลงได้ในครั้งนี้ เช่นเดียวกับที่กำลังจะทำให้ “ระย้า” จบภาค “คอร์รัปชัน” ลงอีกเรื่องหนึ่ง (เล่ม ๖) ในเร็ว ๆ นี้เหมือนกัน

เรื่อง “ผู้เสียสละ” กำลังพิมพ์ จะออกสู่ตลาดตามหลังเรื่อง “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” ในเร็ววัน ข้าพเจ้ากำลังจะหายหนักใจ เพราะจะได้เห็น “คนดีที่โลกไม่ต้องการ” ซึ่งค้างอยู่ ๒๘ ปี ได้มีโอกาสพบจุดจบของจางหลินในเรื่อง “ผู้เสียสละ” ซึ่งกำลังพิมพ์ออกเป็นเล่มเป็นครั้งแรก

ในชั่วโมงที่พระอาทิตย์ไกล้จะตกดิน ข้าพเจ้าจะพยายามถือปากกาด้ามเก่านี้ต่อไป ทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจว่าจะถือไว้ได้นานอีกเท่าใด เพราะไม่มีนายแพทย์คนใดที่รับรองว่าข้าพเจ้าจะหายขาดจากโรคเรื้อรังที่กำลังเป็นอยู่

ปากกาของข้าพเจ้าอาจสึกกร่อนและไม่ทันสมัยแห่งกาลเวลายุคใหม่เอี่ยม ซึ่งกำลังพุ่งโจนไปข้างหน้าเหมือนจรวด ด้วยความร้อนและความเร็วที่เกิดจากอานุภาพของวัตถุ อันจะทำให้โลกกลายเป็นลูกไฟดวงใหญ่ไปตามเดิมในวันหนึ่งข้างหน้า แต่ถึงจะสึกกร่อนสักปานใด ปากกาด้ามนี้ก็ยังคงปักหลักอยู่ในที่ของมันอย่างมั่นคง ไม่สะดุ้งสะเทือนต่อวัตถุในยุคจรวด และไม่ยอมรับอิทธิพลของจรวด

ข้าพเจ้าเชื่อว่ายังจะเขียนหนังสือได้ต่อไปในมุมที่ข้าพเจ้ายังจงจ้องมองอยู่อย่างไม่คลาดสายตา ข้าพเจ้าจะไม่สนใจกับความพอใจหรือไม่พอใจของใคร เพราะข้าพเจ้าถือว่าผู้มีการศึกษาแล้ว ย่อมมีมารยาทที่จะเคารพความคิดของคนอื่น และความคิดของเสรีชน ควรต้องมีอิสรภาพ และในประการสุดท้าย อิสรภาพของเสรีชนย่อมยืนอยู่ได้เสมอในความรู้สึก แม้ในกรงเหล็กของนักการศาสนาเหี้ยมผู้ถือธงสีเลือด ซึ่งเป็นเลือดของทาษแรงงาน

และหนังสือที่ข้าพเจ้าจะเขียนต่อไปให้จบ หรือในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็คือ ระย้าเล่มจบภาคคอร์รัปชัน (เล่ม ๖) ระย้า ชุดปราบนักการศาสนาเหี้ยม (ชุด) ผู้เสียสละ หนังสือชุดความหลังของระพินทร์ พรเลิศ ๓๙ ปีของชีวิตไทย “สมัยปฏิวัติ” ฯลฯ

พระอาทิตย์จะตกดินเป็นเรื่องของพระอาทิตย์ แต่เมื่อชีวิตยังอยู่ เราก็ต้องยืนอยู่ในที่ของเราอย่างมั่นคง

สด กูรมะโรหิต

ไร่แผ่นดินไทย

๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๓

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ