- คำนำ
- คำปรารภ
- นามท่านที่เป็นครู
- บทที่ ๑ จรกาทราบข่าวศึกมาติดเมืองดาหา
- บทที่ ๒ ตำมะหงงของจรกาจัดพล
- บทที่ ๓ อิเหนาครวญถึงนางจินตะหรา
- บทที่ ๔ ม้าใช้อิเหนาไปสืบทัพจรกา
- บทที่ ๕ ประสันตายั่วอิเหนา เมื่อรู้ว่าจรกายกมา
- บทที่ ๖ ชาวเมืองมาดูอิเหนาเข้าเมือง
- บทที่ ๗ ชาวเมืองชมอิเหนา
- บทที่ ๘ ท้าวดาหาสั่งให้สียะตราไปไหว้อิเหนา
- บทที่ ๙ ยาสา สั่งให้จัดปะเสบันอากง
- บทที่ ๑๐ พี่เลี้ยงปลอบบุษบา จะให้ขึ้นไปเฝ้า
- บทที่ ๑๑ นางมะดีหวีลงไปตามนางบุษบา ปลอบให้ขึ้นไปเฝ้า
- บทที่ ๑๒ นางมะดีหวีเตือนให้นางบุษบาออกไปไหว้อิเหนา
- บทที่ ๑๓ พี่เลี้ยงเถ้าแก่กำนัล ชมโฉมอิเหนา
- บทที่ ๑๔ นางบาหยัน ห้ามเถ้าแก่กำนัล
- บทที่ ๑๕ นางกำนัลพูด เมื่ออิเหนาเสียสติ
- บทที่ ๑๖ จรกาเข้าเฝ้าทูลท้าวดาหา
- บทที่ ๑๗ นางกำนัลติจรกา
- บทที่ ๑๘ กรมวังสั่งจัดตำหนักให้สุหรานากง กะหรัดตะปาตีพัก
- บทที่ ๑๙ สียะตรา เล่นเครื่องเล่นต่างๆ
- บทที่ ๒๐ สียะตราพูดกับอิเหนา เมื่อไปหาจรกากลับมา
- บทที่ ๒๑ อิเหนาส่งของมาถวายท้าวดาหา
- บทที่ ๒๒ พี่เลี้ยงปลอบนางบุษบาให้ร้อยดอกไม้
- บทที่ ๒๓ ท้าวล่าสำเข้าเฝ้าท้าวดาหา
- บทที่ ๒๔ ยาสาสั่งกระบวนเสด็จไปใช้บล
- บทที่ ๒๕ นางกำนัลดีใจจะได้ตามเสด็จ
- บทที่ ๒๖ สียะตราเถียงกับนางบุษบาเมื่อรับดอกไม้
- บทที่ ๒๗ ประสันตาชมนางบุษบา ล้ออิเหนา
- บทที่ ๒๘ ประสันตาชมนางบุษบา ล้ออิเหนา (ไม่ใช้)
- บทที่ ๒๘ สังคามาระตาพูดกับประสันตา (ที่ใช้)
- บทที่ ๒๙ สียะตราเถียงกับนางบุษบา เรื่องดอกไม้
- บทที่ ๓๐ นางบุษบาเล่นธาร
- บทที่ ๓๑ นางมะเดหวีอ่านสาร
- บทที่ ๓๒ จรกาออกพลับพลา
- บทที่ ๓๓ สมันกลับมาทูลมะเดหวี
- บทที่ ๓๔ นางกำนัลเล่นสะบ้า
- บทที่ ๓๕ นางบุษบาเล่นน้ำ
- บทที่ ๓๖ นางบุษบาเล่นเอาเถิด
- บทที่ ๓๗ นางยุบลหลงทาง
- บทที่ ๓๘ นางยุบลทูลอิเหนา
- บทที่ ๓๙ อิเหนาพูดกับนางยุบล
- บทที่ ๔๐ นางกำนัลเที่ยวหานางยุบล
- บทที่ ๔๑ อิเหนาดูเล่นกระบี่กระบอง
- บทที่ ๔๒ นางมะเดหวีให้สาวใช้มาไล่กิดาหยัน
- บทที่ ๔๓ นางมะเดหวีสอนนางบุษบาให้เสี่ยงเทียน
- บทที่ ๔๔ อิเหนาพูดปลอมพระปฏิมา
- บทที่ ๔๕ อิเหนาพูดกับนางมะเดหวี
- บทที่ ๔๖ อิเหนาขอสัตย์นางมะเดหวี
- บทที่ ๔๗ นางมะเดหวีให้สัตย์กับอิเหนา
- บทที่ ๔๘ หกกษัตริย์เล่นลอนเตนนิส
- บทที่ ๔๙ พวกระเด่นว่าเปรียบจรกา
- บทที่ ๕๐ พวกระเด่นพูดว่าเปรียบจรกาต่อไปอีก
- บทที่ ๕๑ สาวใช้ไปดูฤษี
- บทที่ ๕๒ นางมะเดหวีพูดกับพระฤษี
- บทที่ ๕๓ ฤษีถามเรื่องรดน้ำมนต์
- บทที่ ๕๔ ฤษีรดน้ำมนต์และให้พร
- บทที่ ๕๕ จรกาสั่งจัดพลจะไปตามนางบุษบา
- บทที่ ๕๖ จรกาพูดกับสังคามาระตา
- บทที่ ๕๗ กะระตาหลาทูลอิเหนาว่าจรกามาเฝ้า
- บทที่ ๕๘ จรกา ล่าสำ สิ้นสงสัยอิเหนา
- บทที่ ๕๙ ท้าวดาหาว่ากับอิเหนาเมื่อไปแก้สงสัย
- บทที่ ๖๐ นางวิยะดาถามอิเหนาถึงนางบุษบา
- บทที่ ๖๑ นางวิยะดาจะตามอิเหนาไปป่า
- บทที่ ๖๒ ประสันตานางบาหยันเชิญนางบุษบาไปชมสวน
- บทที่ ๖๓ ประสันตาเล่นตลกเวลานางบุษบาชมสวน
- บทที่ ๖๔ อิเหนาหลบพายุในเงื้อมเขา
- บทที่ ๖๕ ประสันตากะระตาหลาตกใจเมื่อนางหาย
- บทที่ ๖๖ อิเหนาสลบเมื่อทราบว่านางบุษบาหายไป
- บทที่ ๖๗ สังคามาระตาเตือนสติอิเหนา
บทที่ ๓๓
สมันกลับมาทูลมะดีหวี
ต่อบทร้อง “ทูลแจ้งกิจจาทันใด” หน้า ๖๒
มะดีหวี | เอ็งเห็นเอ็งไปเอ็งหรือถามใคร บอกไปตามจริงอย่าโกหก |
สมัน | พิจ้ะข้าขอรับ กระหม่อมฉันกราบทูลตามจริง ทีแรกหม่อมฉันเห็นเอง ที่พักอิเหนานั้นเงียบ หม่อมฉันก็นึกว่าคงปะธม เอ ทีหลังมีความคิดมาว่า ไม่ได้ปะธมเหมือนกะนึก จะเอาอะไรเป็นพยาน การเพ็ดการทูลจะทำเล่นง่ายง่ายได้หรือ ทีนั้นก็ตรองการว่าจะทำอย่างไรดี จึงจะได้มีทางพยานให้ปรากฎ ว่าอิเหนาจะปะธมหรือเสด็จไปข้างไหน ครั้นจะกรากเข้าไปหรือก็_ |
มะดีหวี | เฮ้ยเอาแต่ใจความเถอะวะ กูถามว่ามึงเห็นเองหรือใครบอก ว่าอิเหนานอนเงียบ แลจรกาเล่นหัวกันอึงอยู่ |
สมัน | พิจ้ะค่ะ พิจ้ะค่ะใจความ กะนั้นที่ข้อรับสั่งว่าเห็นเองหรือข้อนี้ เดิมหม่อมฉันเดินไป หมายจะไปตามรับสั่งใช้ไปที่ค่ายอิเหนา หมายว่าจะรีบไปให้ถึงเร็ว มันยิ่งเห็นช้า ยิ่งสาวตีนไปมันยิ่งล้า |
มะดีหวี | ฮะ กูถามว่ามึงเห็นแก่ตาหรือ |
สมัน | พิจ้ะค่ะ ยังไปไม่ถึง ปะเดี๋ยวก็จะถึง ที่ทูลนี้ยังเป็นกลางทาง จับความ กะหม่อมฉันก็เดินไปสักครู่หนึ่งใหญ่ใหญ่ วิ่งเต็มเหนื่อยทีเดียวเกือบจะขาดใจ ต้องนั่งลงหอบหายใจอยู่กลางทาง |
มะดีหวี | กูถามว่าทำไมมึงถึงรู้ว่าเขานอนต่างหาก รำคาญใจนัก อ้ายคนพูดมาก |
สมัน | พิจ้ะค่ะ ทูลอยู่เดี๋ยวนี้ ว่าหม่อมฉันทำยังไงถึงได้รู้ว่าปะธมหลับ หม่อมฉันนั่งหยุดหายเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นจะไปอิก พอลุกขึ้นก็หน้ามืด |
มะดีหวี | เฮ้ยพูดแต่คำเดียวว่าเห็นเองหรือถามใค จึงรู้ว่าเขานอนหลับ |
สมัน | ถ้ายังงั้นก็ต้องปด ทูลจริงไม่ได้ เพราะหม่อมฉันไม่ได้เห็นเอง แลไม่ได้ถามใค จะกราบทูลยังไง ถึงจะทูลก็ไม่มีประโยชน์อะไร เป็นแต่รับสั่งให้ว่าก็ว่าไป ยังงี้กับจะไม่ว่าจะผิดอะไร เพราะทรงทราบอยู่แล้ว |
มะดีหวี | อ้ายนี่เห็นจะบ้า ไม่ได้การแน่ละ |
สมัน | หามิได้ ด้วยกระหม่อมฉันไม่ได้เห็นเอง ไม่ได้ถามใคร จะกราบทูลว่ายังงั้นอย่างไรได้ หม่อมฉัน_ |
มะดีหวี | ก็ทำไมมึงถึงว่าเขานอนเงียบล่ะ |
สมัน | นั่นนั่น ที่หม่อมฉันจะเล่าถวายรับสั่งห้ามเสีย หม่อมฉันไปพอถึงค่าย_ |
มะดีหวี | ตัดเสียทีเถอะวะไอ้ไปน่ะ |
สมัน | พิจ้ะค่ะ ถึง ถึงก็เห็นเงียบ หม่อมฉันตรงเข้าไป |
มะดีหวี | เอาอิกละอ้ายนี่ |
สมัน | พิจ้ะค่ะไม่ใช่ หม่อมฉันตรงเข้าไป เขาก็ห้ามว่าปะธมอยู่ เข้าไปไม่ได้ หม่อมฉันจึงทราบ |
มะดีหวี | เท่านั้นเถอะ เองดีเกนที่ข้าจะต้องซักไซ้ต่อไป เปลืองเวลา แฮ้บาหยันเห็นยังไงใจเจ้า จรกาทำยังงี้ก็ทำได้ อนิจา อนิจา |
บาหยัน | เพคะนะกะนะกะหม่อม หม่อมฉันนี่กลัวก็เหลือกลัว แต่ความกลัวไม่อาจจะล้างความคิด ที่จะมีผิดถึงตัว |
มะดีหวี | ความคิดอะไรที่กล้าคิด จนรู้ว่าผิดแล้วยังไม่กลัว |
บาหยัน | เพคะนะกะนะกะหม่อม คิดจะผิดก็เพราะคิดถึงผิด ผิดที่ไม่รู้จะทำยังไง คำบุราณว่าไว้ได้ฟังมา ก็ฟังไปปะเดี๋ยว จำใจพูดเล่นปะเดี๋ยวหนึ่ง หม่อมฉันพึ่งเห็นจริงเข้าไปในหัวใจคราวนี้ คำที่เขาว่าปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทะลาย มีพันนี้ผิดคิดจนตัวตาย |
ปะเสหรัน | แม่บาหยันอย่าเพ่อเพ้อเจ้อไปให้มากนักเลยหล่อน ไอ้หนังสือทิ้งยังงี้ ใครจะกล้าว่าให้แน่ว่าเป็นใคร มันเป็นของที่เขาทำเพื่อจะให้คนเห็นสงสัยกันเท่านั้น ไม่ได้ประสงค์อะไร จะมาเอาเป็นอารมณ์ ว่าคนนี้แหละคนนั้นละ มันก็อ้ายเรื่องสงสัย สมความคิดคนที่ทิ้งทั้งนั้นแหละ มันไม่เป็นเรื่องดอกหล่อน จำไม่ได้หรือคำพระอาจารย์ใบรอนท่านว่า “ว่าความกินแหนงสงสัยน่ะมันเหมือนกับเกราะที่หนักนัก ผู้ใส่ต้องทนความหนักลำบากมากกว่าได้ความป้องกัน” จริงนะหล่อนใครจะทิ้งก็ชั่ง เราไม่ถือไม่เอาใจใส่ละก็เปล่าไปทั้งนั้น |
มะดีหวี | จนออกแดงยังงี้ละแม่นักปราชญ์ยังไม่สงสัย ยังก็แต่มาแลบลิ้นกินเข้าไป |
ส้าเหง็ด | แม่ปะเสหรันหล่อนเป็นคนสาสนาพระศรีอาริย์ หล่อนสำเร็จคอยท่าพระจะมาตรัส หล่อนจึงเป็นสัตว์ไม่มีรำคาญ |
ปะลาหงัน | จริงนะ ฉันเคยช่วยนึกเอาใจช่วย ว่าขอให้เป็นขนุน ถึงนอกจะไม่ใสก็ในมีราคา เอาสิคราวนี้มาแตกออกให้เหม็นเหียน ราวกะทุเรียนปลาร้า |
มลาหรอ | ยังไงล่ะเจ้าคะคุณท้าว ผู้หญิงหรือมิใช่ |
ท้าวอิ่ม | (นิ่ง) |
ยาหยา | แม่มลาหรอนี่ไปต่อว่าท่านทำไม |
ปะหนัน | ฉันก็อยากรู้เหมือนกันและหล่อน ว่านี่ผู้หญิงหรือมิใช่ |
ท้าวอิ่ม | โอ นางเหล่านี้มาล้อใคฮะ |
มลาหรอ | อีฉันไม่ได้ล้อท่าน อีฉันถามท่านจริงจริง |
ท้าวอิ่ม | เออพวกเจ้าละ นางตัวดี ไปไหนก็เที่ยวแต่กรอ กรอกันไป อยู่คนเดียวก็ไม่ได้ละ มันไม่สบาย มันไม่หาย พอออกจากไอ้นั่นเล่นไพ่ละ นั่งทิ้งดังแฉะแฉะ การงานอะไรก็ไม่ได้ อาไรนี่ มีอย่างหรือ มาตามเสด็จเร็ดทุ่ง (แลไปเห็นนางกำนัลสองคนสามคนพูดกระซิบกัน) นั่นกระซิบอะไรกันล่ะ พาวพาว จะมานั่งนินทาข้าทำไม้ ข้าผิดร้ายอะไรก็ไปฟ้องร้องเอาเถิดซิ อ้าวยังจะ_ |
ท้าวเปลี่ยน | คุณ อย่าให้มันเลอะเทอะกันไปเลย |
ท้าวอิ่ม | ฮ้าย อีฉันเลอะเทอะอะไรนี่หนา ก็เมื่อมันว่าฉันอยู่เดี๋ยวนี้นี่ ตาคุณบอดหรือ คุณถึงไม่เห็น |
ท้าวเปลี่ยน | มิได้ดอกคุณ ฉันห้ามว่าอย่าอึงไป ท่านรับสั่งรับเสียอยู่ |
ท้าวอิ่ม | คุณเข้ากับอีเหล่านี้ก็แล้วไปน่ะซิ (ลุกขึ้นเดินบ่นไป แล้วไปนั่งลงเสียให้ห่าง) อาไร มีอย่างหรือ มาตามเสด็จเร็ดทุ่ง มีแต่ลอยหน้า สบ๊ายสบาย นั่งไหนกระซิบกันพาวพาว เมื่อแต่ก่อนนี้น่ะเป็นไรล่ะ นี่เมื่อไหร่จะกลับกันหือ มีแต่ทูลเลอะเทอะกันอยู่ยังงี้ จนจะค่ำจะมืดแล้ว (ตะโกนเรียกท้าวเปลี่ยน) คุณ คุณ นี่ไปสั่งไปเสียเขาแล้วหรือ เย็นแล้วนะ เย็นแล้ว |
ท้าวเปลี่ยน | จ๊า ฉันสั่งเขาแล้ว |
บาหยัน | นั่นคุณท้าวอึงอะไรอิกล่ะ |
มลาหรอ | อีฉันต่อว่า ท่านพาลโกรธอีฉันเจ้าค่ะ |
บาหยัน | ฮุ้ย ชั่งท่านเถอะ เจ้าละก็อยากไปยั่ว ว่าแต่ฉันและหล่อน แม่ปะลา |
หงัน ครั้งนี้สิ้นคิดจริงจริง จะหนีพ้นความคับแค้นได้ก็แต่ผูกคอตาย | |
ปะเสหรัน | แม่บาหยันเอ๋ย อะไรล่ะ ฉันรำคาญนัก ทำไมน่ะ จะมาคับแค้นจนถึงตาย ทำอวดฉลาดคาดตัวดีกว่าเจ้า แก้วในดวงพระเนตรของท่าน ท่านไม่ทรงคิดจนสุดพระปัญญาท่านก็หาจัดหาทำไม่ดอกหล่อนเอ๊ย ถึงจะเป็นไม้เว็จไม้ฐาน ถ้าเอามาแกะเป็นพระหล่อนจะไม่ไหว้หรือ พูดดีดีนิกลับโกรธ ถึงหล่อนจะโกรธก็คงโกรธได้แต่เดี๋ยวนี้ คอยดูสักหน่อยก็จะชมป้อ ว่าแม่ปะเสหรันหล่อนดี |
บาหยัน | อุ๊ย ดีเรื่องอื่นฉันเห็นจะดีด้วยได้ แต่ดีอย่างงี้ร้อยชาติก็ไม่ยอมได้ แก้วในลูกตา ท่านจะควักของฉันไปให้นกให้กา ยังจะให้กลับชมว่าดี ตายแน่แน่ ดียังงี้ |
มะดีหวี | ข้าเอง ข้าไม่เข้าใครออกใคร เมื่อยังไม่รู้ไม่เห็นก็พอนิ่งได้ ครั้นมาได้ยินด้วยหู เห็นด้วยลูกตา ว่ามันไม่ใช่จรกา มันอีกา ดำทั้งนอกดำทั้งใน หยาบคายร้ายกาจเสียกว่าอีกาไป ยังงี้อกนางบาหยันมันจะไม่แตกยังไงได้ จริงนะ ปะเสหรัน เจ้าว่าก็เป็นธรรม แต่เวลานี้ข้าต้องยอมเป็นสัตว์มีกรรม ไอ้เรื่องนี้เจ้าดีกว่าบาหยันจริงจริง เพราะเจ้ารู้หน้ารู้หลัง จึงรู้จักนั่งนิ่ง |
บาหยัน | เพคะนะกะนะกะหม่อม หม่อมฉันแล้วให้ลงพระอาญา ถ้าดียังงี้ขึ้นมาเมื่อไรอย่าทรงเอาไว้ เอาไปฆ่าเสียเถอะนะกะนะกะหม่อม |
มะดีหวี | ฮือ พูดมาพูดไป มันก็มีแต่จะทำความคิดให้ผิดมากไป หยุดเสียที ไว้กาลน่ากาลหลัง ปะเสหรัน เจ้าเป็นคนเจ้าปัญญา ข้าวานหน่อย วานคิดว่าไอ้การเดี๋ยวนี้ ว่าระเด่นมนตรีหรือจรกา |
ปะเสหรัน | หม่อมฉันว่าแล้วว่าคิดไม่ได้ เพราะเป็นบัตรสนเท่ห์เขาทำจะให้สงสัย |
มะดีหวี | ยังงั้นเจ้าสงสัยหรือเปล่าว่าเป็นจรกา |
ปะเสหรัน | สงสัยตะพายบาปเขาย่อมว่า |
มะดีหวี | เองสบถได้หรือว่าไม่ใช่จรกา |
ปะเสหรัน | หม่อมฉันไม่รู้จะเอาอะไรมาว่า |
มะดีหวี | จริงละ จริงละ มันไม่ใช่เป็นจรกา เพราะความคิดยังงี้ ความคิดคนดีหรือคนบ้า ทั้งนั้นทั้งนี้ก็เพราะเป็นขี้ข้า พูดมากป่วยการมาไป ไปมัวฟังเทศน์นางปะเสหรันจนตวันลงไรไร |