บทที่ ๔๕

อิเหนาพูดกับมะดีหวี

ต่อบทร้อง “เอาเมียเขาไปให้จรกา” หน้า ๘๕

อิเหนา หม่อมฉันทราบดอกขอรับ ว่าตัวคนเดียว ไม่มีใครเมตตา ทั้งยากจนไม่มีจะสอดเสียเดินเหิน ตกว่าถึงตัวคนเดียวก็จริง แต่เป็นคนจริงจริงนะขอรับ เมื่อผู้อื่นไม่มีใครเมตตา จึ่งต้องเมตตาตัวเอง ไม่มีผู้อื่นจะช่วย คิดอ่านอุดหนุนก็ต้องช่วยตัวเอง พระมารดาเอาฝ่าพระบาทตรองดูเถอะ ว่าการเป็นไปถึงเพียงนี้แล้ว ไม่ให้หม่อมฉันทำยังงี้จะทำยังไง เดือนจะตกลงบนตม จะปล่อยให้จมเสียยังไง ถึงจะทรงเชื่อกลคน กริ้วกราดหม่อมฉัน ตามแต่จะโปรด แต่ขอให้ทรงคิดถึงองค์ปะตาระกาหลาบ้าง ว่าท่านไม่มีผิดมีโทษอะไร จะปรับเอาหลานท่านไปให้ระคนปนศักดิ์ต่ำช้า หม่อมฉันผู้เป็นเจ้าของก็เป็นชาย ถ้าไม่ยอมตายเวลานี้ จะไปตายเมื่อไรให้ดีกว่า กฤชอยู่นี่แน่ขอรับ ถ้ากริ้วก็จงลงพระอาญา ถ้าชีวิตยังไม่ตาย จะวางถวายอย่าสงกา (หันมาว่าแก่บุษบา) ยังไรแม่ อย่านั่งนิ่ง พี่ว่านี้จริงนะน้องบุษบา
มะดีหวี ข้ารู้ดอกพ่อเอ๊ย ว่าเจ้าน่ะมีฤทธิ์มีบุญ ไม่มีใครทำไมได้ จะคิดมั่งสักนิดเป็นไร ว่าน้องเป็นสาวเป็นผู้หญิง ทำได้ก็ทำเอา ฮะฮะ องค์ปะตาระกาหลา ช่างมีหลานอาภัพอับวาสนา แล้วยังมิสา ยังต้องประจาน พ่อเอ๊ย ลูกนี้เป็นผู้หญิงสู้ไม่ได้ ตามพระทัยแลพลการ
อิเหนา หม่อมฉันยอมสารภาพรับผิด ยอมถวายชีวิตสังขาร หม่อมฉันทำทั้งนี้ ไม่ได้อวดบุญอวดฤทธิ์ อวดแต่อาภัพอวดแต่สิ้นคิดดอกขอรับ พุ่ทโธ่ พุ่ทโธ่ กะไรเลย ไม่ทรงเห็นใจ ดวงแก้วที่รักยิ่งกว่าชีวิต ท่านช่วยกันปลิดเอาไป ก็เมื่อชีวิตที่รักน้อยกว่า ไม่ตายเสียก่อนจะยอมจะหย่อนกะไรได้ แม้นโปรดหลานทั้งสองจะมิให้ได้อาย ก็จงโปรดด้วยอีกสักนิด ช่วยผลาญชีวิตลูกเสียให้ตาย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ