วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ดร

สำนักดิศกุล, หัวหิน.

วันที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕

ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ

เมื่อวันพุธที่ ๘ วานนี้ได้รับประทานลายพระหัตถ์ คิดดูมีเวลาอาจจะเขียนตอบส่งในวันนี้ อาจได้ทรงรับก่อนหม่อมฉันเข้าไปถึงกรุงเทพฯ วันเสาร์ที่ ๑๑ คิดว่าจะไปรถเมล์ถึงกรุงเทพฯ เวลาเที่ยง แต่เห็นจะไม่ไปงานที่วังสมเด็จชายตอนเย็นวันนั้น จะไปถวายพระเพลิงที่เมรุวัดเทพสิรินทรฯในวันรุ่งขึ้น เพราะฉะนั้นบางทีหม่อมฉันจะไปเฝ้าในวันที่ ๑๑ ตอนเย็นเมื่อล่วง ๑๘ นาฬิกาแล้ว

มีเรื่องสำคัญในทางโบราณคดีที่จะทูลเสนอเรื่อง ๑ ด้วยหม่อมฉันได้พยายามหามูลเหตุที่สร้างเมืองนครปฐมแต่โบราณ ว่าเพราะเหตุใดจึงสร้างมหานครที่ตรงนั้น ค้นหาหลักฐานมาตลอดเวลากว่า ๓๐ ปี ชั้นเดิมได้ความเปนข้อต้นว่าในสมัยเมื่อสร้างเมืองที่ตรงนั้นอยู่ใกล้ทะเล ด้วยขุดพบเครื่องเรือทะเลที่ตำบลธรรมศาลา มาอีกชั้นหนึ่งสังเกตเห็นมีรอยทางลำน้ำเก่าซึ่งตื้นเขินเปนแนวขึ้นไปทางข้างเหนือ หม่อมฉันได้ให้พระยานครพระราม (ม.ร.ว. เล็ก) ซึ่งเคยเปนพนักงานแผนที่ ตรวจตามแนวแม่น้ำเก่านั้นขึ้นไป ได้ความว่าเปนลำน้ำขึ้นไปถึงเขตต์เมืองสุพรรณบุรี ทีหลังมาได้ขอให้กรมแผนที่ไปชันสูตร์ ได้ความเปนแน่นอนว่าลำน้ำเมืองนครปฐมนั้น เปนลำน้ำเดียวกันกับที่ตั้งเมืองกำแพงแสน เมืองอู่ทอง และที่สี่สระ ตลอดขึ้นไปจนตำบลหนองสาหร่าย อันเปนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนช้าง สันนิษฐานว่ายอดน้ำจะมาแต่ห้วยกระเสียว ซึ่งปลายน้ำอยู่ในแขวงอุทัยธานี แต่ข้อหลังนี้ยังไม่ได้ตรวจให้แน่ การตรวจลำน้ำสายเหนือที่ทูลมานั้น ทำให้ปรากฎขึ้นว่า มีลำน้ำมาทางตะวันตกอีกสาย ๑ ซึ่งทางรถไฟข้ามที่บางตาล หม่อมฉันจึงให้ตรวจดูอีก ก็ได้แนวลำน้ำแต่เมืองนครปฐมมีเนื่องมาจนใกล้ลำน้ำแม่กลองที่ตำบลท่าผา ข้างเหนือบ้านโป่ง หม่อมฉันจึงสั่งให้ขุดคลองที่ท่าผาชักน้ำไปเข้าคลองบางตาล เพราะลำน้ำแม่กลองน้ำปีมาก่อนลำน้ำท่าจีน ๒ เดือน ประสงค์จะได้น้ำไปใช้ทำไร่นาเมืองนครปฐม เมื่อขุดคลองท่าผาสำเร็จก็ได้ผลดังคาด หม่อมฉันได้ให้เอาเรือสำปั้น ๕ กระทง มารับที่บางตาล แล้วขึ้นรถไฟไปลงเรือพายดูลำน้ำเก่าวกวนไปทางไกลมากจนถึงพระปฐมเจดีย์ เปนอันได้ความว่าเมืองนครปฐมตั้งอยู่ตรงที่ลำน้ำทั้ง ๒ ร่วมกันใกล้จะออกทะเล เพราะเช่นนั้นจึงเปนที่สำคัญในการค้าขายถึงตั้งเปนราชธานีได้ ได้ความรู้เพียงเท่าที่ทูลมาช้านาน แต่ยังขาดความอยู่ข้อ ๑ ว่าลำน้ำสายตะวันตกนั้นไปร่วมลำน้ำแม่กลองที่ตรงไหน ยังสืบไม่ได้ความ ครั้นออกมาอยู่หัวหินคราวนี้วันหนึ่งนึกขึ้นถึงโบราณสถานที่พงตึกอันเปนที่ตั้งเมืองแห่งหนึ่งแต่โบราณเปนแน่ จึงได้สร้างสถานใหญ่มั่นคงถึงเพียงนั้น เหตุใดจึงไปตั้งที่ตรงพงตึก ก็นึกขึ้นว่าชะรอยลำน้ำ (บางตาล) ที่ไปออกพระปฐมเจดีย์ ปากน้ำจะออกที่พงตึกนั้นเอง จึงเลือกที่ตรงลำน้ำแยกตั้งเมืองตรงพงตึก ครั้นเมื่อสัปดาหะก่อนหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ออกมาเยี่ยมหม่อมฉัน จึงบอกความคิดให้หลวงบริบาลฯไปตรวจหาปากน้ำที่พงตึก บัดนี้ได้รับรายงานหลวงบริบาลฯ บอกมาว่าได้ไปตรวจตราสืบสวน ได้ความเปนแน่ว่าลำน้ำบางตาลนั้น ไปออกลำน้ำแม่กลองที่พงตึก เปนอันได้หลักฐานแน่นอนว่าเหตุใดเมืองนครปฐมจึงเคยเปนราชธานีใหญ่โตและเหตุใดจึงได้ตั้งเมืองที่พงตึก

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. ที่ประทับของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร ปัจจุบันคือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถนนประชาธิปไตย กรุงเทพมหานคร

  2. ๒. พระยานครพระราม (ม.ร.ว. เล็ก พยัคฆเสนา)

  3. ๓. หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ (ป่วน อินทุวงศ์)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ