วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๗๕

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

เกล้ากระหม่อมขอทูลถวายข่าวการพระราชพิธี ตามที่ได้รู้มาเป็นครั้งที่สุดให้ทราบฝ่าพระบาท เพื่อได้เตรียมพระองค์

๑. งานทักษิณานุปทานวันที่ ๒๓ นั้น เจ้าพนักงานวังกะระเบียบการถวายเป็นตัดสดับปกรณรายร้อย ตรัสเหนือเกล้าฯ ให้คงมี ด้วยทรงพระปรารภว่า เจ้านายเคยนำผ้ามาสดับปกรณโดยเสด็จในงานพระราชกุศล ถ้าไม่มีสดับปกรณรายร้อยเจ้านายจะเก้อ โดยพระราชปรารภดั่งนี้ ขอประทานทูลตักเตือนในหน้าที่กงซุลเจ้า ว่าอย่าได้ทรงลืมจัดผ้าไตรไปส่งศุภรัตตามเคยเป็นอันขาด เกล้ากระหม่อมคิดจะส่งสามไตร เพราะเป็นการพระราชกุศลรวมสามพระองค์ เจ้านายก็เหลือน้อยตัวแล้ว ผ้าจะได้มีมากไม่ดูร่องแร่งเกินไป

๒. งานเฉลิมพระชนมพรรษา กลับย้อนแยกเป็นสองงานอย่างรัชชกาลที่ ๕ คือ ฉลองพระชนมพรรษาในวันพระราชสมภพทางจันทรคติกาลงานหนึ่ง กับเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันพระราชสมภพทางสุริยคติกาลอีกงานหนึ่ง ดังจะทูลระเบียบถวายต่อไปนี้

(๑) งานฉลองพระชนมพรรษา กำหนดวันที่ ๒๘ ตุลาคม พระสงฆ์ ๔๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ได้เวลาสรงในที่ รุ่งขึ้นวันที่ ๒๙ ตุลาคม เพลเลี้ยงพระ แล้วมีเทศนมงคลวิเศษ งานนี้จะหมายบอกแต่เจ้านายกับพนักงานอันมีหน้าที่ ไม่หมายบอกกระทรวงราชการทั่วไป จึ่งควรเข้าใจว่าเป็นพระราชประสงค์อันเข้ารูปอย่างที่เคยพูดกันเล่นมาแต่ก่อนว่า “พร้อมพี่พร้อมน้อง” เพราะฉะนั้นเห็นว่าเจ้านายแม้ไม่สุดวิสัยก็ไม่ควรขาด

(๒) งานเฉลิมพระชนมพรรษา ตั้งต้นในวันที่ ๘ พฤศจิกายน เวลาเย็น เสด็จเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสงฆ์จีนญวนถวายกิมฮวยอั้งติ๋ว แล้วเสด็จขึ้นพระอุโบสถ ทรงนมัสการพระแก้ว แล้วทรงจุดเทียนจงกลบูชาเทวดา พระสงฆ์ ๕ รูปเริ่มเจริญพระพุทธมนต์ แล้วเสด็จไปปราสาทพระเทพบิดรถวายบังคมพระบรมรูป แล้วเสด็จไปพระที่นั่งอมรินทรตั้งสมณศักดิ แล้วพระสงฆ์ ๖๐ รูปเจริญพระพุทธมนต์

วันที่ ๙ พฤศจิกายน เวลาเพลเลี้ยงพระสงฆ์ เวลาเที่ยงสรงมุรธาภิเษกแล้วทรงประเคนไทยธรรม แล้วทรงแจกคนแก่ เป็นเสร็จการเวลาเช้า ถึงเวลาเย็นเสด็จออกพระที่นั่งจักรี ให้คณะทูตต่างประเทศเฝ้าถวายพระพร เป็นเสร็จงานเท่านี้

เสด็จออกพระที่นั่งจักรีแต่งเต็มยศ (เราไม่เกี่ยว) นอกนั้นแต่งเครื่องยศปกติ (เราแต่งเสื้อเฝ้ายันต์ขาว)

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมอบหมายให้สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้กำกับการพระราชวงศ์ให้อยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยเหตุนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จึงทรงเรียกสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ว่า “กงสุลเจ้า” ทำนองเดียวกับกงสุลต่างประเทศได้รับแต่งตั้งให้ดูแลประชาชนของชาตินั้นๆ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ