วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๕ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๔๗๕

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ลายพระหัตถ์ ลงวันที่ ๑๗ ได้รับประทานแล้ว ถึงทันเวลาดีทีเดียว เป็นพระเดชพระคุณอย่างยิ่งที่ทรงพระเมตตาโปรดแนะนำไป ทีแรกเขาแสดงความเห็นว่าอยากทำตู้ ๒ ชั้น ชั้นในเป็นหีบเหมือนที่ใส่คำภีร์ ชั้นนอกเป็นตู้ใหญ่ (อย่างตู้รดน้ำที่ใส่หนังสือมาก ๆ) ได้ให้ความเห็นแก่เขาว่า หีบคำภีร์ไม่ใช่ที่เก็บหนังสือเป็นแต่สำหรับใส่หนังสือเดิรทางไปเทศนเพื่อกันฝนเท่านั้น ตู้เก็บหนังสือสมุดเล่มเดียว เขาใช้ตู้อย่างที่เห็นตั้งบนเตียงสวด ควรทำอย่างนั้นจะเป็นเหมาะกัน แต่ตู้อย่างนั้นก่อนนี้เขาทำเป็นสองท่อน ท่อนล่างเป็นม้าท้าวสิงห์วางสมุด ท่อนบนเป็นครอบ เวลาจะอ่านก็เปิดครอบออกอ่าน อ่านแล้วก็ปิดครอบ เดี๋ยวนี้ทำติดกันเสียแล้ว มีกระดานเปิดข้างบนเหมือนกระดานเรือ ไม่ดี ควรจะทำเป็นสองท่อนอย่างเก่าครอบของเก่าทำทึบ เดี๋ยวนี้เรามีกระจก จะทำเป็นครอบกระจกให้เห็นหนังสือก็ได้ เขาเห็นชอบด้วย ทีนี้พูดถึงตู้นอก เกล้ากระหม่อมว่าตู้ใหญ่นั้นเขาสำหรับใส่หนังสือมากๆ จะเอาตู้เล็กใบเดียวไปใส่ตู้ใหญ่ไม่เหมาะ แล้วก็ทำไว้ดีๆ จะเอาเข้าปิดมิดเสียไม่เห็นก็หมดดี ควรทำโต๊ะงาม ๆ รองตั้งเด่นดีกว่า เขาก็เห็นชอบด้วย ทีนี้แว้งมาว่าขอให้เขียนอย่างให้ เกล้ากระหม่อมว่าขอบอกให้ทราบว่าฉันอายุ ๗๐ แล้ว ตาก็ไม่ค่อยเห็น มือก็ไม่ค่อยเที่ยง กำลังก็ถอย จะทำการบุกบั่นเท่ากับคนหนุ่มก็เป็นเจ็บ ถ้ารับธุระท่านก็มีแต่จะชักช้าหาสมความปรารถนาของท่านไม่ เขาว่าอย่างนั้นก็ขอแต่เพียงให้ตรวจดูแบบติเตียนแนะนำ เกล้ากระหม่อมว่าถ้าเช่นนั้นรับได้ด้วยความเต็มใจ เป็นตกลงสิ้นเรื่องไปตอนหนึ่ง ยังจะมากวนต่อไปอีกในวันหน้า เมื่อเขาไปให้ใครเขียนแบบขึ้นแล้ว

พระดำริเรื่องจารึกฐานพระให้ยกเอาศักราชไปขึ้นต้นนั้นดีขึ้นอีก จะเขียนตามพระดำริเช่นนั้น ประกาศใหญ่ที่ตั้งต้นศุภมัสดุนั้นก็แจ้งวันเดือนปีนำพระนามเหมือนกัน

เรื่องทำของไปเอกษหิบิชัน เกล้ากระหม่อมไปเห็นคำสั่งกรมหมื่นพิทยาลงกรณ ว่าให้พระพรหมพิจิตรจัดช่างในกองพระพรหมพิจิตรช่วยทำ ถ้าหากจะต้องใช้ช่างกองอื่นอีกก็ให้บอกขอต่อแม่กอง เกล้ากระหม่อมนึกประหลาดใจ แต่ไม่กล้าถามใครเพิ่งได้ทราบเรื่องชัดตามที่ตรัสเล่าไปครั้งนี้ งานที่ทำนั้นมากมาย เกล้ากระหม่อมไปเห็นก็อดปากไม่ได้ พูดว่าของที่มีอยู่แล้วไม่จำต้องทำ ยืมเอาไปตั้งก็ได้ แต่ก่อนก็เคยยืมไปโดยมาก แต่เธอไม่เห็นด้วย ว่ามันไม่ดีไม่เหมาะ ต้องการทำใหม่ทั้งสิ้น ที่สุดก็คงเกิดรับมือกัน เรื่องเงินไม่พอแน่นอนอย่างที่ทรงพยากรณ์

ฐานพระชะนิดที่เป็นบัลลังก์อย่างที่ตรัสถึงนั้น นึกว่าได้เคยเห็นเหมือนกัน แต่จะเห็นที่ไหน พระอะไร สุโขทัยหรือมิใช่ จำไม่ได้เลย สงสัยว่าจะเป็นพวกพระทางลานช้าง พระชัยรัชชกาลที่ ๔ เป็นฐานสองชั้น ชั้นบนเป็นฐานบัวหลังเบี้ยแบบจีน ชั้นล่างพระองค์เจ้าประดิษฐวรการตั้งชื่อเรียกว่าฐานจารึก เป็นแบบเกิดขึ้นในรัชชกาลที่ ๔ ก่อนนั้นไม่มีเลย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

  1. ๑. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ พระนามเดิมหม่อมเจ้าดิศ ดวงจักร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๑) พระองค์เจ้าดวงจักร กรมหมื่นณรงค์หริรักษ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล ดวงจักร”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ