ข้อบังคับของพุทธมามกสมาคม

ข้อ ๑ สมาคมนี้ มีชื่อว่า พุทธมามกสมาคม

ข้อ ๒ สมาคมนี้ มีวัตถุที่ประสงค์ดังต่อไปนี้

ก. เพื่อเผยแม่พระพุทธศาสนา

ข. เพื่อส่งเสริมการศึกษา

ค. เพื่อบำรุงสัมมาปฏิบัติ

ข้อ ๓ สำนักงานใหญ่ของสมาคมนี้ ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ (เวลานี้อาศัยพระราชอุทยานสราญรมย์ ส่วนหนึ่งแห่งสถานที่ของสมาคมคณะราษฎรชั่วคราว) ส่วนสำนักงานสาขาของสมาคม จะตั้งขึ้นณะที่ใดนั้น ตามแต่สภากรรมการจะเห็นสมควร

ข้อ ๔ สมาชิกของสมาคมนี้ ได้แก่พุทธมามกทั้งปวง ไม่เลือกเพศและไม่จำกัดชาติชั้นบุคคล แบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ

ก. กิตติมสมาชิก ได้แก่ผู้ที่สภากรรมการเชิญเป็นพิเศษ

ข. วิสามัญสมาชิก ได้แก่บรรพชิตทั้งหลาย

ค. สามัญสมาชิก ได้แก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย

ง. อนุสมาชิก ได้แก่ผู้เยาว์ยังไม่บันลุนิติภาวะ

ข้อ ๕ ผู้ใดจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมนี้ ผู้นั้นต้องทำใบสมัคร์ตามแบบของสมาคม ยื่นต่อสมาคมหรือสาขาของสมาคม โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าและค่าบำรุงประจำปีอย่างใด

ข้อ ๖ สมาชิกทุกประเภทย่อมมีสิทธิทำหนังสือเสนอความเห็นอันนับเนื่องในวัตถุที่ประสงค์นั้น ต่อสมาคมหรือสาขาของสมาคมได้

ข้อ ๗ สมาชิกรวมกันไม่น้อยกว่า ๒๐ คน ย่อมมีสิทธิทำหนังสือยื่นต่อสมาคมร้องขอให้เรียกประชุมสภากรรมการ เพื่อปรึกษากิจการของสมาคมได้

ข้อ ๘ สมาชิกผู้ใดประพฤดผิดวัตถุที่ประสงค์และข้อบังคับหรือระเบียบการของสมาคมก็ดี เป็นที่รังเกียจว่าจะน่าความเสื่อมเสียมาสมาคมก็ดี สภากรรมการมีอำนาจเชิญสมาชิกผู้นั้นให้ออกเสียจากสมาคมได้

ข้อ ๙ คุณสมบัติของสมาชิกผู้ควรรับเลือกตั้งให้เป็นกรรมการและวิธีเลือกตั้งนั้นให้เป็นไปตามระเบียบของสมาคมนี้

ข้อ ๑๐ สมาคมนี้ให้มีกรรมการ ๘๐ เป็นผู้ดำเนินกิจการของสมาคมแทนสมาชิก เรียกว่า สภากรรมการ และสภากรรมการนี้ให้เลือกกันขึ้นเป็นประธาน ๑ รองประธาน ๑ หรือหลายคนเป็นผู้ควบคุมกิจการของสภากรรมการ ให้สภากรรมการเลือกตั้งกรรมการจากจำนวน ๘๐ นั้นขึ้นอีกคณะ ๑ ให้มีจำนวน ๒๕ เป็นผู้ดำเนิรกิจการของสมาคมแทนสภากรรมการเรียกว่า ณะกรรมการอนวยการ และให้คณะกรรมการอำนวยการนี้เลือกกันขึ้นเป็นกรรมการเจ้าหน้าที่ คือ นายก ๑ อุปนายก ๑ เลขาธิการ ๑ เหรัญญิก ๑ ปฏิคม ๑ บรรณารักษ์ ๑ นายทะเบียน ๑ นอกจากนั้นให้เป็นกรรมการที่ปรึกษา ในสมัยเริ่มต้นให้คณะผู้เริ่มและส่งเสริมการตั้งสมาคมเป็นผู้เลือกเชิญผู้ที่เห็นสมควรให้เป็นกรรมการ ส่วนในสมัยต่อไปให้สมาชิกของสมาคมเป็นผู้เลือก

ข้อ ๑๑ สภากรรมการนี้ ให้มีวิสามัญสมาชิกและสามัญสมาชิกเป็นกรรมการฝ่ายละกึ่งจำนวน ให้วิสามัญสมาชิกเป็นประธานกรรมการ และให้สภากรรมการอยู่ในตำแหน่งได้สมัยละ ๓ ปี

ข้อ ๑๒ สภากรรมการมีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัดเติมข้อบังคับ และระเบียบการอื่น เพื่อเป็นหลักดำเนิรกิจการของสมาคมและสาขาของสมาคมได้

ข้อ ๑๓ สภากรรมการมีอำนาจตั้งและเปลี่ยนปลดอนุกรรมการผู้ทำงานของสมาคมและผู้จัดการสาขาของสมาคมได้

ข้อ ๑๔ เมื่อปรากฏว่า กรรมการเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนิรกิจการให้เป็นไปตามวัตถุที่ประสงค์และนโยบายของสมาคม สภากรรมการมีอำนาจเชิญให้ออกเสียจากสมาคมได้

ข้อ ๑๕ ถ้าสมาคมต้องเลิกล้มเพราะเหตุใดๆ ก็ตาม ทรัพย์สินทั้งปวงของสมาคมนี้ ให้ตกเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ