วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ดร

สำนักดิศกุล, หัวหิน.

วันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๗๕

ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ

หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ฉะบับลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ด้วยความยินดียิ่ง เรื่องโตกวัดพระแก้วที่ตรัสเล่ามาอยู่ข้างขันมาก และเปนเรื่องที่หม่อมฉันเผอิญได้เกี่ยวข้องรู้เห็นมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน พอจะทูลสนองได้

จะว่าด้วยส่วนอดีตก่อน นานมาแล้วแต่ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อมารดาหม่อมฉันยังมีชีวิตอยู่ ในกาลวันหนึ่งคุณหญิงเนื่อง เพ็ชรรัตน ไปหามารดาหม่อมฉันที่วังวรดิศ มีผลไม้ใส่โตกไปให้มารดาหม่อมฉันโตก ๑ ประสบเวลาหม่อมฉันไปหามารดา พอสังเกตเห็นโตกก็จับใจด้วยเปนท้าวช้าง ผิดกับโตกซึ่งเคยเห็นที่อื่นอันเปนแต่ท้าวสิงห์เปนพื้น แต่ก็หาได้ออกปากว่าประการใดในเวลานั้นไม่ ต่อมาอีกสักปีหนึ่งหรือสองปีหม่อมฉันได้พบพูดจาสนทนากับคุณหญิงเนื่อง นึกขึ้นถึงโตกนั้นจึงถามแกว่ายังอยู่หรืออย่างไร ด้วยในหนังสือเก่ามักกล่าวถึงโตกท้าวช้างหรือโต๊ะท้าวช้าง หม่อมฉันพึ่งแลเห็นตัวจริงที่แกมีใบเดียวเท่านั้น แกบอกว่าเสียดายที่หม่อมฉันไม่พูดเสียก่อนถ้าทราบว่าหม่อมฉันชอบก็จะให้ แต่ทูลกระหม่อมเล็กท่านต้องพระประสงค์แกได้ถวายท่านเสียแล้ว หม่อมฉันได้ถามว่าแกได้มาจากไหน แกตอบว่าเปนของเก่าแก่มีมาในตระกูล ซึ่งน่าจะเปนความจริง ด้วยเปน พวกสกุลเก่า ทั้งพระยาเพชรรัตน สามี (คือคนโปรดของกรมพระราชวังฯ ที่เชิญพระแสงอยู่เสมอ) เปนบุตรพระยานรานุกิจฯ น้องพระยาอนุชิต (อุ่น) ฝ่ายคุณหญิงเนื่องเปนธิดาพระยาไกรโกษา (เทศ) มารดาเปนธิดาเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (บุญศรี) แต่พวกนี้หาเคยมีกิจเกี่ยวข้องกับวัดพระแก้วไม่ คงจะยังมีของเก่าสำหรับตระกูลเช่นโตกท้าวสิงห์ตกอยู่กับคุณหญิงเนื่องอีก พระศุลีฯ จึ่งได้ไปยืมมา

ทีนี้จะทูลส่วนปัตยุบัน เมื่อก่อนหม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ ๒ วัน ได้รับจดหมายนายสมบุญ โชติจิตร รับสั่งนายกราชบัณฑิตยสภาให้บอกมา ว่าเจ้าพระยาวรพงศฯ มีจดหมายไปเรียกคืน “เตียบ หรือ ตลุ่ม” ประดับมุกด์ ของสำหรับใส่เครื่อง (คือเข้าพระ) ของพระแก้วมรกต จึ่งราชบัณฑิตยสภายืมมาตั้งในพิพิธภัณฑสถาน คืนไปใช้การตามเดิม นายกฯ ให้หลวงบริบาลฯ ส่งของนั้น หลวงบริบาลฯ ร้องว่าของนั้นไม่มีในพิพิธภัณฑสถาน ในบัญชีก็ไม่มี ขอให้เจ้าพนักงาน ซึ่งรู้จักสิ่งของนั้นไปชี้ กระทรวงวังได้ให้พระยารัตนพิมพาภิบาลไป แต่พระยารัตนพิมพาภิบาลว่าตัวพึ่งเข้ามาใหม่ไม่รู้จักสิ่งของนั้น เรื่องติดอยู่เพียงนั้น นายกฯ จึ่งสั่งให้ถามหม่อมฉันว่าทราบอย่างไรบ้าง หม่อมฉันได้มีจดหมายตอบไปดังสำเนาที่ถวายมากับจดหมายฉะบับนี้ พึ่งมาทราบจากลายพระหัตถ์ว่าของที่ต้องการนั้นคือ โตก แต่กรมวังเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจึงทอดแหอ้างว่า “เตียบ หรือ ตลุ่ม”

เมื่อได้ทราบชัดว่ามูลเหตุเปนดังตรัสเล่ามาในลายพระหัตถ์ ก็พอจะสันนิษฐานความจริงได้ ว่าเดิมเห็นจะมีโตกประดับมุกสำหรับใส่เข้าพระตั้งถวายพระแก้วมรกต แต่โตกนั้นน่าจะหายไปเสียนานแล้ว หม่อมฉันนึกขึ้นว่าเครื่องสังเค็ต งานพระศพสมเด็จพระปิยมาวดี ดูเหมือนจะทำโตกประดับมุกด์เช่นนั้นเปนชุดกับฝาบาตรเชิงบาตรถวายพระ อาจจะถ่ายแบบไปจากโตกเข้าพระที่วัดพระแก้วก็ได้ บางทีสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ จะได้ทรงรู้จักโตกใบนั้นแต่ครั้งนั้น แต่ข้อที่ว่ายืมมาตั้งในพิพิธภัณฑสถานนั้นหม่อมฉันจำไม่ได้ว่าได้ยืมมา แต่อาจจะทูลยืนได้ว่าเปนของสำหรับใช้ใส่เข้าพระอยู่หม่อมฉันคงไม่ยืมมาเปนแน่ ของที่ยืมมาจากวัดพระแก้วมีแต่ของที่เขาไม่ใช้ ยกตัวอย่างดังเทียนทรงผนวชของเจ้าฟ้า และระย้าแก้วกะหลาป๋าซึ่งเคยแขวนในพระอุโบสถแต่โบราณ เขาเอาไปเก็บรวมไว้ในหอพระนาค จึ่งขอมาไว้ในพิพิธภัณฑสถาน แต่คดีเรื่องนี้มีหลักอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่มีในบัญชีพิพิธภัณฑสถานและไม่มีใบยืมใบรับทางวัดพระแก้ว ส่อให้เห็นว่าไม่ได้ยืมมา เมื่อพวกรักษาวัดพระแก้วถูกรุกเร่งเอาของสิ่งนั้น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็อ้างว่ายืมไปตั้งพิพิธภัณฑสถาน ครั้นอ้างพิศูจน์ใบยืม ใบรับ หมดแต้มก็จำหน่ายว่าหายเสียแล้ว

เรื่องโตก หม่อมฉันยังได้พยายามหาโตกท้าวช้างต่อมา ได้ไปสืบที่คลังในซึ่งยังมีโตกหลายใบ แต่ก็เปนท้าวสิงห์ทั้งนั้น ใบที่คุณหญิงเนื่องถวายทูลกระหม่อมเล็กเดี๋ยวนี้ จะไปตกอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ น่าจะต้องจำหน่ายว่าโตกท้าวช้างสูญเสียแล้ว

ในท้ายจดหมายขอทูลถึงเรื่องอากาศที่หัวหินเวลานี้ เปนอันสิ้นมรสุมแล้ว อากาศกำลังสบาย ลมไม่แรงเกินไป ไม่หนาวจัดหรือร้อนจัดทั้ง ๒ อย่าง ถ้าเสด็จออกมาอีกก็เห็นจะสบาย พวกลูกสาวหม่อมฉันบ่นถึงเสด็จอาว์มิใคร่เว้นวัน ด้วยอ่านหนังสือพิมพ์ได้ข่าวพวกกรรมกรสำแดงเสรีภาพต่างๆ กำเริบขึ้นทุกที เกรงจะไปกวน อยากจะให้เสด็จออกมาอยู่เสียให้ห่าง ถ้าจะเสด็จมาหม่อมฉันขอทูลแนะนำอย่างหนึ่งว่าอย่าให้มาในวันเสาร์ ด้วยวันเสาร์เปนวันนายกรัฐมนตรีออกมาเฝ้า ๒ เสาร์มาแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ ๓๑ กรมพระกำแพงเพ็ชรฯ ออกมาพ้องกัน ได้ยินเสียงผู้อื่นบ่นรำคาญตาที่ได้เห็นเขารับรองท่านประธานฯ กับกรมพระกำแพงเพ็ชรฯ ผิดกันอย่างไร แต่หม่อมฉันก็ไม่ได้เห็นกับตาและไม่ได้พบปะกับใคร แม้พระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่เสด็จออกมาก็ได้เคยเฝ้าแต่ ๒ ครั้ง คือรับเสด็จที่สถานีรถไฟเมื่อเสด็จมาถึงครั้ง ๑ กับเฝ้าเมื่อไปช่วยงานบำเพ็ญพระราชกุศลที่วัดหัวหิน ในวันเฉลิมพระชันษาสมเด็จพระบรมราชินีเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคมอีกครั้ง ๑ เท่านั้น

เมื่อเขียนจดหมายฉะบับนี้ดูปฏิทินตรงกับวันขึ้น ๖ ค่ำเดือนยี่ นึกปรารภขึ้นว่า คุณโตคงจะขึ้นอยู่ตึกใหม่ในเดือนนี้ หรือบางทีจะขึ้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขออำนวยพรฝากมาให้อยู่เย็นเปนสุขสถาพรจงทุกประการ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  1. ๑. เจ้าจอมมารดาชุ่ม (โรจนดิศ) ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

  2. ๒. จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๕) เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเป็นต้นราชสกุล “จักรพงศ์”

  3. ๓. พระยาเพ็ชรรัตนสงคราม (เลื่อง ภูมิรัตน์)

  4. ๔. พระยาไกรโกษา (เทศ ภูมิรัตน์)

  5. ๕. เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (บุญศรี บุรณศิริ)

  6. ๖. หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ (ป่วน อินทุวงศ์)

  7. ๗. พระยารัตนพิมพาภิบาล (ม.ร.ว. สวัสดิ์ อิศรางกูร)

  8. ๘. สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา นามเดิม เจ้าจอมมารดาเปี่ยม (สุจริตกุล) ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

  9. ๙. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๕) พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ทรงเป็นต้นราชสกุล “ฉัตรชัย”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ