วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ น

ตำหนักปลายเนีน คลองเตย

วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๗๕

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท

ได้รับลายพระหัตถ์ตรัสแย้งเรื่องน้ำสังข์ ขอประทานโทษกราบทูลสั้นไป ที่เกล้ากระหม่อมไม่เห็นชอบด้วยนั้น ไม่กินไปถึงการส่งพระมหาสังข์และน้ำมนต์ไปหัวหินมิได้ ไม่เห็นชอบเพียงที่กรมวังคิดจะตัดหมายรับสั่งเสีย ทูลพระราชวงศ์เป็นทางไปรเวตเท่านั้น เพราะเข็ดหนังสือไปรเวตกรมวัง เคยมีความหวิบหวับแต่ว่าวันนั้นเวลานั้นจะมีการอย่างนั้นเท่านั้น อันจะทำความลังเลให้แก่พระราชวงศ์เป็นอันมาก เพราะมีพระราชกำหนดอยู่ว่า พระราชวงศ์จะออกจากกรุงเทพฯ ต้องกราบถวายบังคมลา ต่อเมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วจึ่งไปได้ แม้มีหมายรับสั่งให้ไปแล้วก็เป็นพระบรมราชานุญาตอยู่ในตัว แต่จะเป็นความหนักแก่พระราชวงศ์มาก ค่าเดิรสารรถไฟแม้เพียงชั้นที่ ๓ ไปก็ ๕ บาท มาก็ ๕ บาท แล้ว จะไปอยู่กินกันที่ไหน หม่อมเจ้าสามัญได้รับพระราชทานเงินปีกันอยู่ก็คนละ ๔ ตำลึง ๕ ตำลึงเท่านั้น ความเห็นมีแตกต่างจากที่กรมวังคิดจะทำแต่เพียงว่า ควรคงมีหมายรับสั่งขยับขยายความให้แปลกกว่าตามเคยไปเปนรูปอย่างนี้

พระราชพิธีตะรุษะปีนี้ เป็นเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ประทับอยู่ในพระมหานคร แม้กระนั้นการพระราชทานน้ำสังข์ก็จะโปรดเกล้าฯ พระราชทานตามวันและเวลาเช่นเคยมา แต่ว่าย้ายไปพระราชทานที่พระราชสำนักหัวหิน โปรดเกล้าฯ พระราชทานโอกาศแก่พระบรมวงศานุวงศ์ หากพระองค์ใดมีพระประสงค์จะเสด็จไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานน้ำสังข์ยังพระราชสำนักหัวหิน ก็เสด็จไปได้

ถ้ามีหมายรับสั่งอย่างนี้ ใครมีกำลังอยากไปเที่ยวก็ไปได้ ไม่มีกำลังก็ไม่ต้องไป จดหมายไปรเวตไม่ให้อิสสระอะไรแก่พระราชวงศ์ ความเห็นแตกต่างมีเพียงเท่านี้ ที่อยู่หัวหินแล้วไม่มีขัดข้องอะไร

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ