- คำนำ
- ประวัติท้าวนารีวรคณารักษ์
- นิทานเรื่องนำ
- ๑ นิทานเรื่องนางตรีบิดา
- ๒ นิทานเรื่องนายกอาย
- ๓ นิทานเรื่องบุตรีขุนเมือง
- ๔ นิทานเรื่องวิปกฤษพราหมณ์
- ๕ นิทานเรื่องอุบลเศรษฐี
- ๖ นิทานเรื่องพระมหาเถรรักศิษย์ไม่เสมอกัน
- ๗ นิทานเรื่องท้าวเอฬาราช
- ๘ นิทานเรื่องมาณพเลี้ยงพังพอน
- ๙ นิทานเรื่องโอรสพระเจ้าอุพัทธราชาธิราช
- ๑๐ นิทานเรื่องเศรษฐีสอนบุตร
- ๑๑ นิทานเรื่องโอรสพระเจ้ากรุงมัทราส
- ๑๒ นิทานเรื่องเศรษฐีบุตร ๔ คน
- ๑๓ นิทานเรื่อง ๔ มาณพ
- ๑๔ นิทานเรื่องจตุรพราหมณ์
- ๑๕ นิทานเรื่องจตุรนารี
- ๑๖ นิทานเรื่องพราหมณ์เลือกเมีย
- ๑๗ นิทานเรื่องสุบินกุมาร
- ๑๘ นิทานเรื่องนายสำเภาชื่อสุริยวาณิช
- ๑๙ นิทานเรื่องพระเจ้าไตรวัต
- ๒๐ นิทานเรื่องพระยารีผัวเมีย
- ๒๑ นิทานเรื่องกษัตริย์สรโนธมาธิราช
- ๒๒ นิทานเรื่องชายชาวชนบท
- ๒๓ นิทานเรื่องตากับยายชาวชนบท
- ๒๔ นิทานเรื่องพระเจ้ากรุงศรีภิรมย์มหาราช
- ๒๕ นิทานเรื่องนางกะเชอรั่ว
- ๒๖ นิทานเรื่องพเอิญเข้าดลใจ
- ๒๗ นิทานเรื่องนายแวง ๒ คนเฝ้าท้องพระโรง
- ๒๘ นิทานเรื่องรัตนทัตบุตรเศรษฐี
- ๒๙-๓๐ นิทานเรื่องวิษณุคุบ
- ๓๑ นิทานเรื่องตำรวจ ๒ สหาย
- ๓๒ นิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกพบกลอง
- ๓๓ นิทานเรื่องเลือดมาอาศรัยเล็น
- ๓๔ นิทานเรื่องเศวตโคธา
- ๓๕ นิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกแทะสายหน้าไม้
- ๓๖ นิทานเรื่องคชทุมพรราชกุมาร
- ๓๗ นิทานเรื่องหงส์หามเฒ่า
- ๓๘ นิทานเรื่องลากับราชสีห์
- ๓๙ นิทานเรื่องพราหมณ์ช่วยกบ
- ๔๐ นิทานเรื่องน้ำผึ้งหก
- ๔๑ นิทานเรื่องฤษีชุบสุนัขเปนราชสีห์
- ๔๒ นิทานเรื่องนกกางเขนตกฟองที่หาดทราย
- ๔๓ นิทานเรื่องนายเนสาท
- ๔๔ นิทานเรื่องช่วยคนแลสัตว์ตกเหว
- ๔๕ นิทานเรื่องช่วยเสือตาย
- ๔๖ นิทานเรื่องให้ลิงเปนองครักษ์
- ๔๗ นิทานเรื่องนกกระจาบกับลิง
- ๔๘ นิทานเรื่องเศรษฐีบุตรหนีตาย
- ๔๙ นิทานเรื่องปลาพยายามหนีภัย
- ๕๐ นิทานเรื่องท้าวทศกระวีราชหนีพระกาล
- ๕๑ นิทานเรื่องนกยางลวงปลา
- ๕๒ นิทานเรื่องถึงที่ต้องตาย
- ๕๓ นิทานเรื่องวานรกับจรเข้
๗ นิทานเรื่องท้าวเอฬาราช
ยังมีพระมหากษัตริย์พระองค์ ๑ ทรงพระนามท้าวเอฬาราชเสวยสมบัติณกรุงอาวหะนคร มีพระอรรคมเหษีชื่ออินทกัลยาณี มีพระราชบุตรี ๓ พระองค์ แลนางผู้พี่ทั้ง ๒ นั้นได้เปนภรรยาแห่งเศรษฐีอยู่ในเมืองนั้น แต่นางผู้น้องนั้นยังหาสวามีมิได้ อยู่ด้วยพระราชบิดามารดาในเมืองนั้น มีเศรษฐีคน ๑ ชื่อเควีเศรษฐี มีทรัพย์มากนัก แลเศรษฐีนั้นเปนกัลยาณมิตรด้วยท้าวเอฬาราชนั้น เควีเศรษฐีนั้นมีบุตรผู้ ๑ ชื่อเจ้าโชติกุมาร ๆ มีใจศรัทธาสันโดษ แลประกอบด้วยใจกุศลให้ทานทุกกันมิได้ขาด อยู่มาเศรษฐีนั้นก็ถึงแก่กาลกิริยา ทรัพย์สมบัติทั้งปวงก็ได้แก่เจ้าโชติกุมาร ๆ ก็มิได้ประกอบการค้าขายตามประเวณีเศรษฐีแต่ก่อน แลเจ้าโชติกุมารนั้นตั้งแต่ทำบุญให้ทาน แลทรัพย์ทั้งปวงนั้นก็ฉิบหายสิ้น คงถึงตัวไปจ้างเขาเลี้ยงชีวิตทุกวัน แลกาลวัน ๑ ท้าวเอฬาราชเสด็จประพาสเลียบพระนคร ท้าวเธอทอดพระเนตรเห็นเจ้าโชติกุมารจ้างตำเข้าอยู่ เธอก็ตรัสถามขุนเมืองว่า มาณพผู้ตำเข้านั้นชื่อใด เปนบุตรนัดาของผู้ใด ขุนเมืองกราบทูลว่า มาณพผู้นี้ชื่อว่าเจ้าโชติกุมาร เปนบุตรีเควีเศรษฐี แลเศรษฐีนั้นถึงแก่กาลกริยาแล้วเจ้าโชติกุมารนี้ตกเข็ญใจทลิทกประดาษยิ่งนัก จนจ้างตักน้ำตำเข้าเลี้ยงชีพทุกวัน ครั้นพระท้าวเธอทรงฟังดังนั้น จึงทรงพระดำริห์คำนึงว่า โอ้เอ็นดูเควีเศรษฐีได้เปนกัลยาณมิตรของเรา ควรเราจะเลี้ยงกุมารผู้นี้ไว้จึงจะเปนธรรม ทรงพระจินตนาการแล้วตรัสสั่งขุนเมืองให้หาเจ้าโชติกุมาร ๆ ก็เข้าไปถวายบังคม ท้าวเธอให้พามาเลี้ยงไว้ในพระราชวัง ท้าวเธอพระราชทานธิดาน้องนั้น ให้เปนภรรยาเจ้าโชติกุมารในกาลนั้น
ฝ่ายสมเด็จนางอินทกัลยาณี ผู้เปนพระชนนีมารดาแห่งนางนั้น ทรงพระโกรธแก่พระเจ้าเอฬาราชว่า ไฉนพระองค์มาพระราชทานบุตรีแห่งข้าบาทบริจานี้ให้แก่คนสามาญดังนี้ ส่วนเจ้าโชติกุมารแลนางนั้นก็อยู่ร่วมรักเสนหาด้วยกันในพระราชวังนั้น ครั้นเพลากาลกลางคืนพระเจ้าเอฬาราชนั้น พระองค์ย่อมเสด็จไปลองนายทวารบาลทั้ง ๔ ทิศพระนครอยู่เนือง ๆ ด้วยจะใคร่แจ้งว่า ผู้ใดจะรักษาทวารพระนครอยู่โดยชอบบ้างแลฤๅ ครั้นรติกาลคืนวัน ๑ เสด็จไปสู่ทวารฝ่ายทิศบูรพตรัสว่า นายทวารบาลไขดาลพลัน ๆ เราจะเสด็จออกนอกพระนครบัดนี้ นายทวารบาลก็ลล้าลลังไขดาลทวารถวาย ท้าวเธอก็มิได้เสด็จออกไป เสด็จนิวัตนาการกลับมายังทวารฝ่ายทักษิณทิศ มีพระโองการตรัสอย่างนั้น นายทวารบาลไขดาลถวายแล้ว ๆ ท้าวเธอเสด็จมาฝ่ายปัศจิมทิศทวาร แล้วนายทวารบาลปัศจิมทิศก็ไขดาลถวาย แล้วท้าวเธอเสด็จมายังอุดรทิศทวาร พระโองการตรัสทันทีว่า เราจะเสด็จไปนอกพระนคร ไขดาลจงเร็ว ๆ นายทวารบาลทูลขัดไว้ว่า อย่างโบราณจารีตมิได้มีมา อันสมเด็จบรมกษัตริย์ เสด็จออกประพาสภายนอกพระนครแต่พระองค์ผู้เดียวสันโดษในเวลาราตรีนี้มิชอบก่อน ข้าพระเจ้ามิควรจะไขดาลถวาย พระโองการท้าวเธอแสร้งทำอาการทรงพระโกรธกริ้วนายทวารบาล ถ้าท่านมิได้ไขดาลทวารบัดนี้ เราจะประหารเศียรท่านให้ขาดกระเด็นด้วยพระแสงขรรค์ นายทวารบาลทูลว่า แม้นพระองค์จะลงพระราชอาญาฆ่าเสียก็ดี จะขอเล่านิยายอันเปนโบราณธรรมเนียมถวายก่อนในกาลบัดนี้