๔๙ นิทานเรื่องปลาพยายามหนีภัย

เมื่อกาลก่อนยังมีมหาสระอัน ๑ มีปริมณฑลกว้างยาวได้โยชน์ ๑ แลมีสรรพบัวเบญจพรรณแลพรรคพวกผักก็มีเปนอันมาก มีมหามัจฉา ๔ ตัว ชื่ออามิกทาตาตัว ๑ ชื่อวงคาตัว ๑ ชื่อปติรูปาตัว ๑ ชื่อปรวิสัยตัว ๑ แลมีบริวารตัวละ ๑๐,๐๐๐ แลเมื่อกาลวิบัติจะมาถึงฝูงปลาทั้งปวงนั้น ฝ่ายมหามัจฉาผู้ชื่ออามิกทาตาก็รู้แจ้งแล้วจึงว่าดูกรสหายทั้ง ๓ เอ๋ย อันว่ากาลวิบัติจะมีแก่ฝูงญาติเราทั้งปวงแล้วนะสหาย แลเราจะเอาชีวิตให้รอดได้ด้วยฉันใด จึงปลาทั้ง ๓ ว่าท่านจะคิดประการใดก็ตามเถิด อันเรานี้มิกลัวเลย เมื่อพญามัจฉาสนทนาด้วยกันดังนั้นก็ต่างคนต่างไป ครั้นเวลาราตรีนั้นไซร้ ส่วนอามิกทาตาก็พาพรรคพวกบริวารคมนาการหนีไปจากมหาสระนั้นไกลประมาณโยชน์ ๑ ครั้นอยู่มากาลนั้น ชนทั้งปวงก็ชักพากันเอาสุ่มซ่อมช้อนชะนางไปลงลุยไล่จับหมู่มัจฉาในมหาสระนั้น ฝ่ายว่าปติรูปาก็รำพึงว่าอาตมะนี้คิดเห็นผิดแล้ว เพราะเหตุมิฟังท่านผู้มีปัญญา แลอาตมะจะเอาชีวิตรอดครั้งนี้ ก็ด้วยอุบายปรีชาแห่งตนเอง เมื่อรำพึงฉนี้แล้วจึงแสร้งทำมายาดุจดังว่าจะสิ้นชีพแล้วก็ลอยขึ้นมา หมู่ชนทั้งปวงมิได้สงสัย ก็คิดว่าเพราะชาวเราลงลุยไล่น้ำนี้หนักหนามัจฉาจึงมัวเมาตาย ว่าแล้วจึงจับมัจฉาอันทำตายนั้นโยนขึ้นบนฝั่งสระ แล้วต่างคนต่างไป ฝ่ายปติรูปานั้นก็ดิ้นโดดด้วยกำลัง ประมาณ ๑๐ ทีก็ไปถึงแม่นำใหญ่แล ส่วนปรวิสัยนั้นรำพึงว่า เรานี้เปนชาติบุรุษไฉนมนุษย์จึงมาดูหมิ่นเราดังนี้ คิดแล้วก็แล่นไล่โลดโดดโจนด้วยกำลังให้แหช้อนของเขาขาด ชนทั้งหลายก็ถือศัสตราวุธคอยเข้าทิ่มแทงตน ๆ ก็ถึงแก่ความตาย สังวทันต์จึงว่าอันหนีกาลรอดก็มีดังนิยายฉนี้

นนทุกราชตอบว่า ซึ่งหนีกาลมิรอดนั้น ก็มีเยี่ยงอย่างอยู่ฉนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ