๔๗

ฮั่นซีตงรับมาฉีกผนึกออกอ่านแจ้งความก็ตกใจ จึงว่าท่านทั้งสองรีบไปก่อน คิดอ่านการไว้เถิด เราจะยกกองทัพเร่งตามเข้าไป งูเกา กิดแชก็คำนับลาออกจากเมืองยุนจิวไปถึงเมืองนิ่มอัน งูเกาพูดกับกิดแชว่าท่านจงหยุดอยู่นี่ ข้าพเจ้าจะเข้าไปก่อน แล้วท่านจึงตามเข้าไปต่อภายหลัง งูเกาก็ขับม้าเข้าไปถึงหน้าประตูวังร้องด้วยเสียงอันดังว่า ข้าพเจ้าเป็นทหารงักฮุย จะขอเข้าไปคำนับท่านผู้สำเร็จราชการ ขณะนั้นเมียวโป้วกับเล่าเจียหงัน มาตรวจทหารอยู่ที่ประตูวัง ได้ยินเสียงคนร้องเรียกก็ขึ้นบนเชิงเทิน เห็นงูเกาขี่ม้ามาแต่ผู้เดียว ก็สั่งให้ทหารเปิดประตูรับเข้าไป งูเกาลงจากหลังม้าคุกเข่าลงคำนับ เมียวโป้วกับเล่าเจียหงัน แล้วพูดว่า งักฮุยได้ทราบความว่า พระเจ้าซ้องเกาจงประชวรจะมอบราชสมบัติให้ไทจือ จึงใช้ให้ข้าพเจ้ารีบเข้ามาหาท่านฟังราชการ ช่วยท่านระงับผู้ซึ่งจะคิดกำเริบต่อแผ่นดิน แล้วสั่งให้ข้าพเจ้าพูดกับท่านเป็นความลับสำคัญข้อหนึ่ง ขอท่านจงให้ทหารออกไปเสียให้ห่าง เมียวโป้ว เล่าเจียหงัน ว่าทหารเหล่านี้เป็นคนสนิทเป็นที่ไว้ใจของเรา พูดไปเถิดหาเป็นไรไม่ งูเกาจึงว่างักฮุยได้สู้รบกับข้าศึกทำการอาสาพระเจ้าซ้องเกาจงจนได้ชัยชนะกิมงึดตุด กองทัพฮวนแตกยับเยินไป พระเจ้าซ้องเกาจงก็มิได้ยกความชอบพระราชทานบำเหน็จรางวัลยศฐาศักดิ์สิ่งใด ต้องกลับไปทำมาหากินอยู่ตามเดิม บัดนี้ท่านได้เป็นผู้สำเร็จราชการในเมืองหลวง จะยกไทจือมีอายุสามขวบขึ้นครองสมบัติราชการบ้านเมืองก็คงเป็นสิทธิ์แก่ท่าน งักฮุยจะขอพอได้มีผลประโยชน์ อย่าให้ต้องทำไร่นาหากินเลี้ยงชีวิต ได้ความลำบากเหมือนแต่ก่อนแล้วก็จะมีความยินดี เมื่อมีราชการศึกสงครามมาก็จะรับเป็นธุระอาสาท่านไปปราบปรามเอง เมียวโป้ว เล่าเจียหงันได้ฟังก็นิ่งคิดตรึกตรองดูความแต่หลังเห็นจริงด้วยถ้อยคำงูเกาก็ยินดี จึงว่าถ้าแม้นแม่ทัพของท่านพร้อมใจกับเราแล้ว ความสุขและผลประโยชน์ก็จะมีบริบูรณ์เหมือนกัน งูเกาว่าตัวข้าพเจ้านี้เป็นคนอนาถา อาสาเข้าทำศึกด้วยงักฮุยก็หมายจะได้ยศและสมบัติพอมีความสุข เลี้ยงมารดาและบุตรภรรยาให้เทียมหน้าคนทั้งหลายก็ไม่ได้ดังความปรารถนา ต้องกลับไปอยู่บ้านทำไร่รับจ้างเขาพอได้เงินมาเลี้ยงกันกินอยู่ทุกวัน เมียวโป้ว เล่าเจียหงันว่าข้อนั้นท่านอย่าเป็นทุกข์ ทำราชการอยู่กับเราแล้วเงินทองทรัพย์สมบัติถมไปเราจะให้ งูเกาก็ทำเป็นยินดี พอนายประตูเข้ามาบอกว่า กิดแชทหารของงักฮุยมาเรียกให้เปิดประตูรับอีกคนหนึ่ง งูเกาจึงพูดกับเมียวโป้ว เล่าเจียหงันว่า กิดแชคนนี้เป็นเพื่อนรักกันกับข้าพเจ้า ได้เป็นทหารทำศึกมากับงักฮุยฝีมือดี ครั้นไม่ได้บำเหน็จรางวัลก็ยากจน ไปเป็นโจรอยู่ที่เขาไทฮังซัว เมื่อข้าพเจ้ามาตามทางพบเข้าจึงได้ชวนให้ตามเข้ามา ถ้าข้าพเจ้าได้ดีมีผลประโยชน์แล้วก็จะได้ดีด้วยกัน เมียวโป้ว เล่าเจียหงันได้ฟังก็สั่งให้เปิดประตูรับ กิดแชเข้ามาคุกเข่าลงคำนับเมียวโป้ว เล่าเจียหงัน แล้วพูดว่าข้าพเจ้ากับงูเกาได้สัญญาเป็นเพื่อนรัก มีก็จะมีด้วยกัน จนก็จะจนด้วยกัน ทราบว่างูเกาเข้ามาสามิภักดิ์กับท่านจึงได้ตามเข้ามา เมียวโป้วจึงว่าข้อที่ยากจนอนาถานั้นอย่าวิตก จงทำราชการอยู่ด้วยกันเถิด กิดแชก็ทำเป็นยินดีคำนับยอมตัวเข้าเป็นทหารอยู่กับเมียวโป้ว เล่าเจียหงัน

ฝ่ายฮั่นซีตง จัดรวบรวมทหารพร้อมสรรพด้วยเครื่องศาสตราวุธเสร็จแล้วยกกองทัพมาถึงหน้าเมืองนิ่มอัน ขับม้าเข้าไปร้องประกาศที่ประตูเมืองว่า ขุนนางและราษฎรที่มีกตัญญูต่อพระเจ้าซ้องเกาจงอยู่แล้ว จงเร่งเปิดประตูเมืองรับ เราจะเข้าไปจับอ้ายสองคนกับพวกพ้องที่เป็นกบฏฆ่าเสีย ทหารซึ่งรักษาประตูเห็นกองทัพยกมาได้ยินฮั่นซีตงร้องพูดดังนั้น ก็รีบเอาความไปแจ้งกับเมียวโป้ว เล่าเจ้ยหงัน เมียวโป้ว เล่าเจียหงัน ยังนิ่งคิดตรึกตรอง ซึ่งจะจัดกองทัพออกไปสู้รบอยู่

ฝ่ายจูเซงฮุยได้กำหนดนัดของงักฮุยซึ่งสั่งคนใช้มาก็ตั้งใจคอยกองทัพงักฮุยและฮั่นซีตงอยู่ทุกวันทุกเวลา ครั้นได้แจ้งว่า ฮั่นซีตงยกกองทัพมาถึงหน้าเมืองแล้ว ก็คุมทหารพวกพ้องของตัวไปฆ่าทหารซึ่งรักษาประตู เปิดประตูเมืองออกรับกองทัพฮั่นซีตงเข้าเมืองได้ นำไปล้อมพระราชวังเข้าไว้ ทหารซึ่งรักษาหน้าที่แตกหนีเข้าไปแจ้งกับ เมียวโป้ว เล่าเจียหงัน ว่าจูเซงฮุยเปิดประตูเมืองรับฮั่นซีตงยกกองทัพเข้าเมืองได้ บัดนี้มาตั้งล้อมวังเข้าไว้แล้ว เมียวโป้ว เล่าเจียหงันได้ฟังก็ตกใจตะลึงอยู่ทั้งสองคน งูเกาเห็นได้ทีก็เข้ารับอาสาว่าข้าพเจ้าจะออกไปจับจูเซงฮุยมาให้ท่านจงได้ เมียวโป้ว เล่าเจียหงัน ก็มีความยินดีจัดอาวุธส่งให้งูเกา กิดแช ถือจะออกไปสู้รบกับข้าศึก ก็พากันมาหน้าประตูวัง งูเกาเห็นเมียวโป้วกับเล่าเจียหงันไม่สงสัยระวังตัว งูเกาก็โดดโถมเข้าจับเมียวโป้ว กิดแชโถมเข้าจับเล่าเจียหงันไว้ได้ทั้งสองคน แล้วร้องประกาศว่าผู้ใดอย่าวุ่นวาย ถ้าไม่กลัวความตายก็เข้ามาสู้รบกัน ข้างพวกพ้องของเมียวโป้ว เล่าเจียหงันก็กรูกันจะเข้าแย่งชิงเอาเมียวโป้ว เล่าเจียหงัน

ฝ่ายขุนนางนายทหารที่เป็นคนเดิมของพระเจ้าซ้องเกาจงตกอยู่ในพระราชวังนั้นก็เข้าช่วยงูเกา กิดแช สู้รบต้านทานไว้ บ้างก็ไปแย่งชิงเปิดประตูวังรับฮั่นซีตง พอฮั่นซีตงเข้ามาในพระราชวังได้ ให้ทหารไล่จับพวกพ้อง เมียวโป้ว เล่าเจียหงัน ซึ่งเป็นกบฏได้สิ้น งูเกากับกิดแชก็เอาตัวเมียวโป้ว เล่าเจียหงันมาให้ฮั่นซีตง ฮั่นซีตงให้เอาตัวเมียวโป้ว เล่าเจียหงันกับพวกพ้องซึ่งร่วมคิดกันเป็นกบฏไปฆ่าเสีย แล้วให้ทหารไปล้อมบ้านเมียวโป้ว เล่าเจียหงัน จับบุตรภรรยาญาติพี่น้องบ่าวไพร่ฆ่าเสียสิ้นทั้งสองบ้าน ครั้นปราบพวกกบฏสำเร็จแล้ว ฮั่นซีตงกับขุนนางนายทหารทั้งปวงก็เข้ามาประชุมพร้อมกันในที่ว่าราชการ เชิญเสด็จพระเจ้าซ้องเกาจงออกมา ขุนนางข้าราชการก็กราบถวายบังคมพร้อมกัน พระเจ้าซ้องเกาจงตรัสว่า เมียวโป้ว เล่าเจียหงันคิดกบฏจะกำจัดเราเสีย แย่งชิงเอาสมบัติตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดิน ฮั่นซีตงยกกองทัพมาช่วยทัน เราจึงไม่เป็นอันตราย ความชอบมีเป็นอันมาก ตั้งให้ฮั่นซีตงเป็นที่คีอ๋อง ไปรักษาเมืองยุนจิวอยู่ตามเดิม และงูเกากับกิดแชจับเมียวโป้วกับเล่าเจียหงันได้ก็มีความชอบมาก รับสั่งจะตั้งให้งูเกากับกิดแชเป็นที่โตวต๊กขุนนางนายทหารใหญ่ฝ่ายซ้ายขวาพนักงานรักษาพระองค์แทนที่เมียวโป้ว กับเล่าเจียหงัน งูเกาได้ฟังรับสั่งจึงพูดขึ้นในท่ามกลางขุนนางข้าราชการว่า งักฮุยผู้พี่ข้าพเจ้าได้ทูลไว้แต่ก่อนว่า เมียวโป้วกับเล่าเจียหงันเป็นคนไม่ซื่อตรง ถ้าเลี้ยงเป็นขุนนางผู้ใหญ่ขึ้นก็คงจะเกิดยุคเข็ญเพราะพระเจ้าซ้องเกาจงไม่เชื่อ ครั้งนี้งักฮุยใช้ให้ข้าพเจ้ามาช่วยจึงได้มา บัดนี้การปราบพวกกบฏก็สำเร็จแล้วจะกลับไปแจ้งความกับงักฮุย ซึ่งจะตั้งให้เป็นขุนนางนั้น ข้าพเจ้าทั้งสองไม่อยากจะได้ยศศักดิ์ของพระเจ้าซ้องเกาจง พูดดังนั้นแล้วงูเกากับกิดแชก็ลุกขึ้นกราบถวายบังคมลาออกจากหน้าพระที่นั่งมาขึ้นม้ากลับไปเมืองทึงอิมกุ้ย พระเจ้าซ้องเกาจงครั้นเห็นงูเกา กิดแชไม่รับเป็นที่ขุนนางกลับไปเสียแล้ว ก็รับสั่งให้เอาศีรษะเมียวโป้ว เล่าเจียหงันไปเซ่นศพเฮงเอี๋ยนให้จัดหีบใส่ศพเฮงเอี๋ยนไปฝังให้มียศเหมือนอย่างศพเจ้า

ฮั่นซีตงครั้นสำเร็จราชการปราบกบฏแล้ว ก็กราบถวายบังคมลายกกองทัพกลับเมืองยุนจิว ขณะนั้นศักราชเซียวเฮงคือพระเจ้าซ้องเกาจงมาอยู่เมืองนิ่มอันได้เจ็ดปี บ้านเมืองค่อยเรียบร้อยมีความสุขขึ้น ยังมีนายโจรสามพวกทั้งอยู่แขวงเมืองซัวตั๋งที่ตำบลเขาเกาเลงซัว ตัวนายชื่อเอียไจเฮงพวกหนึ่งตั้งอยู่ที่ไทโอ๋วในทะเลสาบ แขวงเมืองโฮวจิว ตัวนายชื่อเซกฮวง หลอกัง เซียะเซียนสามคน พวกหนึ่งตั้งอยู่ที่ทองเทงโอ๋วในทะเลสาบแขวงเมืองโอวก๊วง ตัวนายชื่อเอียเอียวพวกหนึ่ง โจรสามพวกนี้เที่ยวตีปล้นราษฎรอยู่เนือง ๆ เอียเอียวนั้นตีเอาเมืองโอวก๊วงฆ่าเจ้าเมืองตาย ผู้รักษาเมืองซัวตั๋งเมืองโฮวจิวมืหนังสือบอกข่าวราชการเข้ามาเมืองนิ่มอัน เจ้าพนักงานนำขึ้นกราบทูลพระเจ้าซ้องเกาจงทรงทราบก็ตกพระทัย ตรัสถามขุนนางทั้งปวงว่าท่านผู้ใดมีสติปัญญาคิดอ่านประการใดบ้าง เตียตงจึงกราบทูลว่าพวกโจรสามพวกนี้มีฝีมือเข้มแข็งนัก ถ้าพ้นจากงักฮุยแล้วเห็นจะปราบปรามไม่ได้ พระเจ้าซ้องเกาจงจึงตรัสว่า เดิมเราก็จะให้งักฮุยทำราชการอยู่ในเมืองหลวงเขาก็ไม่ยอม เมื่องูเกากับกิดแชเข้ามาจับเมียวโป้วกับเล่าเจียหงันได้ เราจะตั้งให้เป็นขุนนางนายทหารใหญ่ งูเกากับกิดแชก็ไม่รับพากันกลับไปเสีย งักฮุยกับพวกพ้องของเขาไม่อยากทำราชการ ครั้นจะมีหนังสือไปให้หาก็กลัวจะไม่มา ท่านทั้งปวงจะคิดประการใดดี ขุนนางเหล่านั้นก็พากันนิ่งอยู่ทั้งสิ้น พระเจ้าซ้องเกาจงตันพระทัย ก็เสด็จขึ้นไปตำหนักนางงุยฮ่องเฮา นางงุยฮ่องเฮาเห็นพระเจ้าซ้องเกาจงพระพักตร์มัวหมองไม่แช่มชื่นเหมือนทุกวัน จึงทูลถามว่าเวลาวันนี้มีกิจราชการสิ่งอันใดหรือ พระเจ้าซ้องเกาจงตรัสว่า มีหนังสือบอกหัวเมืองเข้ามาว่าพวกโจรกำเริบใหญ่ขึ้นถึงสามตำบล เราปรึกษาขุนนางเขาว่าจะไปหางักฮุยมาจึงจะปราบปรามพวกโจรได้ เราวิตกอยู่ว่าจะมีหนังสือไปหางักฮุยกลัวเขาจะไม่มา นางงุยฮ่องเฮาทูลว่าการแต่เพียงนี้หาควรจะทรงวิตกไม่ ข้าพเจ้าปักธงมังกรไว้คันหนึ่งจะถวายพระองค์ รูปมังกรนั้นปักแล้วแต่ตัวหนังสือยังไม่ได้ปัก ถ้าพระองค์จะพระราชทานให้งักฮุยแล้วข้าพเจ้าจะปักเป็นตัวหนังสือสี่อักษรเรียกว่าจินตงโปก๊ก แปลอธิบายว่ามีใจรักใคร่บ้านเมืองโดยสุจริต คิดบำรุงแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ ถ้างักฮุยได้ประทานธงอันนี้แล้วก็จะมีความยินดี สมกับใจเขาที่ซื่อสัตย์กตัญญูต่อแผ่นดินคงจะเข้ามาเฝ้าพระองค์เป็นแน่ พระเจ้าซ้องเกาจงได้ทรงฟังก็ยินดี เร่งให้นางงุยฮ่องเฮาปักธงสี่อักษร แล้วสั่งให้เจ้าพนักงานทำหนังสือไปพระราชทานธงให้งักฮุยเป็นเกียรติยศ แล้วให้รีบเข้ามาเฝ้าโดยเร็ว ครั้นเจ้าพนักงานทำหนังสือรับสั่งแล้ว ก็จัดข้าหลวงเชิญหนังสือรับสั่งกับธงไปให้งักฮุย ณ เมืองทึงอิมกุ้ย

ฝ่ายงูเกากับกิดแชกลับไปถึงก็แจ้งความตามซึ่งได้จับเมียวโป้วเล่าเจียหงันได้ พระเจ้าซ้องเกาจงรับสั่งจะตั้งให้ข้าพเจ้าทั้งสองเป็นที่ขุนนางแทนเมียวโป้วกับเล่าเจียหงันอยู่รักษาพระองค์ ข้าพเจ้าทั้งสองไม่ยอมอยากได้ยศของพระเจ้าซ้องเกาจง ก็พากันกลับมาเสีย งักฮุยว่าเจ้าสองคนนี้เงอะงะขัดรับสั่งต่อหน้าที่นั่งดังนี้ไม่ควรเลย พระเจ้าซ้องเกาจงจะขัดเคืองประการใดก็ไม่รู้ งูเกากับกิดแชจึงว่า เมื่อพระเจ้าซ้องเกาจงจะตั้งให้เป็นขุนนางนั้น ข้าพเจ้าตรึกตรองดูว่าธรรมดาพระเจ้าแผ่นดินโง่เขลาแล้ว ขุนนางจะเจริญมียศศักดิ์อยู่ก็แต่พวกกังฉิน ถ้าเป็นพวกตงฉินแล้วก็คงจะมีอันตรายด้วยเหตุความอิจฉาต่าง ๆ ข้าพเจ้าจึงไม่ยอมรับ ด้วยพวกเราพี่น้องทั้งหลายไม่ได้ประพฤติกลับกลอกประจบประแจงเหมือนพวกกังฉินทั้งปวง งักฮุยได้ฟังก็นิ่งอยู่

ฝ่ายขุนนางข้าหลวงถือหนังสือรับสั่งมาถึงเมืองทึงฮิมกุ้ยก็ไปบ้านงักฮุย งักฮุยออกมาเชิญหนังสือรับสั่งกับธงไปวางไว้บนโต๊ะแล้วตั้งเครื่องบูชาคำนับเปิดผนึกหนังสือรับสั่งออกอ่านมีความว่า เราพระเจ้าซ้องเกาจงผู้ซึ่งเทพยดาฟ้าดินตกแต่งให้เป็นกษัตริย์ครอบครองแผ่นดินซ้อง เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีใบอันปกป้องแสงพระอาทิตย์เป็นที่ร่มเย็นแก่ชนทั้งหลาย บัดนี้เป็นคราวฤดูแล้งดอกใบกิ่งก้านเล็กน้อยจึงได้ร่วงหล่นไปสิ้น เหลืออยู่แต่ต้นยังสดอยู่ควรจะมีดอกใบต่อไปเมื่อภายหน้า ขุนนางที่ซื่อตรงก็คงคิดเห็นเหตุการณ์ ตัวเรานี้ไม่รู้กิจการบ้านเมืองทั้งปวง จึงได้ความลำบากยากแค้นไม่รู้วาย คนทั้งปวงเขาเห็นว่าต้นไม้ไม่มีดอกมีใบแล้วก็เพิกเฉยทิ้งเสีย แต่ตัวท่านคนเดียวนี้มีความนับถือ เห็นว่าเราเป็นพืชพันธุ์ใม้ใหญ่ เคยได้พึ่งร่มเย็นมาแต่ก่อน จึงได้ยกกองทัพไปรบกับกิมงึดตุดปราบปรามข้าศึกพ่ายแพ้ไป เราก็คิดถึงบุญคุณจะตั้งแต่งให้เป็นขุนนางตัวท่านและพวกท่านก็ไม่ยอมรับ บัดนี้พวกโจรกำเริบขึ้นถึงสามตำบล กระทำข่มเหงตีปล้นราษฎรไพร่บ้านพลเมืองได้ความเดือดร้อนนัก ขอท่านได้มีความเมตตาเอ็นดูแก่ราษฎร และมีความกตัญญูต่อแผ่นดินได้รับเอาธงอาญาสิทธิ์นี้ไว้เป็นเกียรติยศ แล้วรีบเข้ามาเมืองนิ่มอัน ปรึกษาราชการที่จะมายกกองทัพไปปราบปรามพวกโจรซึ่งเป็นเสี้ยนศัตรูแผ่นดินให้ราบคาบ งักฮุยอ่านหนังสือรับสั่งแจ้งความแล้วก็คลี่ธงออกดู เห็นปักเป็นตัวมังกรและอักษรสี่ตัว เป็นของศักดิ์สูงก็ยินดีคุกเข่าลงคำนับแล้วพูดกับข้าหลวงว่า ท่านจงกลับไปกราบทูลก่อนเถิด ว่าข้าพเจ้าจะไปเที่ยวร้องเรียกนายทหารพร้อมแล้วจึงจะยกตามไปต่อภายหลัง ข้าหลวงผู้ถือหนังสือก็ลากลับไป งักฮุยให้หาแต่บรรดาพี่น้องทั้งปวงมาพร้อมกันแล้ว ก็เล่าความตามหนังสือรับสั่งและพระราชทานธงอาญาสิทธิ์ให้ แล้วพูดว่าบรรดาพี่น้องทั้งหลายจงจัดแจงการให้พร้อม เราจะยกเข้าไปเมืองนิ่มอัน งูเกาจึงพูดว่าเจ้านายเช่นนี้พี่ท่านจะละเมอนับถือไปทำไม ถึงคราวสบายก็ไม่ได้คิดถึงพวกเราเลยแต่สักนิดหนึ่ง เมื่อมีทุกข์ขึ้นแล้วก็ร้องหาพูดยกยอให้ยศศักดิ์ไปต่าง ๆ ถึงจะไปทำราชการปราบข้าศึกให้เหน็ดเหนื่อยแทบประดาตายก็ไม่มีผลประโยชน์สิ่งใด พี่อย่าไปเลยอยู่บ้านเสียดีกว่า งักฮุยจึงว่าเจ้านี้พูดไม่ถูก ตั้งแต่โบราณมาถ้าผู้ใดมีกตัญญูทำนุบำรุงให้พระมหากษัตริย์เจริญราษฎรมีความสุขแล้ว ก็เป็นที่สรรเสริญชื่อเสียงของคนผู้นั้นไปแก่ชนทั้งปวงหลายพันปีไม่รู้สิ้นสุด ครั้งนี้บ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ ข้าศึกฮวนยกเข้ามาตีได้เมืองจับเอาทั้งสองกษัตริย์ไป ราษฎรระส่ำระสายคบกันเป็นโจรตั้งพวกตั้งเหล่าเบียดเบียนกันและกัน ให้ได้ความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแผ่นดิน ตัวเราท่านเกิดมาเป็นมนุษย์ประจวบความยุคเข็ญแล้ว ก็ต้องทำราชการให้มีชื่อเสียงปรากฏไว้เหมือนท่านแต่ก่อน ๆ จึงจะชอบซึ่งจะมานิ่งนอนหาความสุขคอยท่าวันตายอยู่นั้นไม่ควร ท่านอย่าได้พูดมากไปเลย จงเร่งจัดแจงการให้พร้อมเถิดเราจะรีบยกไป ครั้นถึงวันฤกษ์ดีงักฮุยกับพี่น้องทั้งหลายก็ยกออกจากบ้าน ผู้รักษาเมืองทึงอิมกุ้ยกับชาวบ้านก็พากันหาข้าวของมาตามส่งงักฮุยเป็นอันมาก งักฮุยจึงพูดกับเจ้าเมืองและชาวบ้านนั้นว่า ซึ่งท่านทั้งหลายมีความเมตตารักใคร่นั้น ข้าพเจ้าขอบใจยิ่งนัก ขอฝากบ้านเรือนและบุตรภรรยาข้าพเจ้าด้วยเถิด งักฮุยก็เดินกองทัพไปถึงเมืองยุนจิว ฮั่นซีตงแจ้งว่างักฮุยมาก็ออกไปเชิญงักฮุยเข้าไปในเมืองจัดที่ให้นั่งอยู่ตามสมควร งักฮุยก็เล่าความตามหนังสือรับสั่งให้ฮั่นซีตงฟังทุกประการ แล้วฮั่นซีตงก็จัดโต๊ะมาเลี้ยงงักฮุยและนายทหารกินพร้อมกัน สนทนาพูดจากันเป็นที่สบายแล้วงักฮุยก็ลา ฮั่นซีตงตามออกมาส่งถึงนอกเมืองแล้วก็กลับไป งักฮุยเดินทางถึงเมืองนิ่มอันก็เข้าไปในพระราชวังบอกให้เจ้าพนักงานทูลเบิก พระเจ้าซ้องเกาจงทรงทราบแล้วก็รับสั่งให้หางักฮุยเข้าไปเฝ้า งักฮุยเข้าไปถึงคุกเข่าลงกราบถวายบังคม พระเจ้าซ้องเกาจงจึงตรัสว่าพวกโจรพากันกำเริบใหญ่ขึ้นถึงสามตำบล ท่านจงยกกองทัพไปปราบปรามเสียให้เรียบร้อยเถิด จึงรับสั่งตั้งให้งักฮุยเป็นแม่ทัพมียศเต็มตามตำแหน่งเดิม สั่งให้เปียโป้ว โหวโป้วขุนนางนายบัญชี เกณฑ์ทหารมอบให้งักฮุยสิบหมื่นพร้อมทั้งเสบียงอาหาร แล้วรับสั่งถามงักฮุยว่าท่านจะยกกองทัพไปปราบโจรพวกไหนก่อน งักฮุยทูลว่าข้าพเจ้าคิดไว้ว่าจะยกไปเมืองซัวตั๋งกำจัดเอียไจเฮงซึ่งอยู่ที่เขาเกาเลงซัวเสียก่อนจึงจะยกไปที่ไทโอ๋ว ถ้ากำจัดโจรที่ไทโอ๋วเรียบร้อยแล้วจึงจะยกไปปราบปรามโจรที่ตั้งอยู่ที่ทองเทงโอ๋ว พระเจ้าซ้องเกาจงได้ทรงฟังก็ทรงมีความยินดียิ่งนัก จึงทรงรินสุราพระราชทานให้งักฮุยกินสามถ้วย แล้วก็ตรัสประทานพรให้มีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู งักฮุยก็กราบถวายบังคมลาออกมาพักอยู่ที่ท้องสนาม จัดทหารสิบหมื่นพร้อมด้วยเครื่องศาสตราวุธเสบียงอาหาร ให้งูเกาคุมทหารสามพันเป็นกองทัพหน้ายกไปก่อนให้ งักฮุนคุมทหารเป็นกองลำเลียงยกล่วงหน้าไปคอยรับเป็นระยะ งักฮุน งูเกาคำนับลามาจัดทหารและข้าวเสบียงพร้อมแล้วก็ยกไป แล้วงักฮุยก็ออกเดินกองทัพใหญ่รอนแรมไปตามระยะทาง

ฝ่ายงูเกายกกองทัพไปใกล้จะถึงเมืองซัวตั๋ง ทหารที่นำหน้ากลับลงมาบอกว่าใกล้จะถึงเขาเกาเลงซัวที่นายโจรอยู่แล้ว งูเกาสั่งว่าพวกเราอย่าเพิ่งตั้งค่าย ตรงเข้าตีหักเอาชัยชนะเสียให้ได้ก่อนจึงตั้งค่าย งูเกาก็คุมทหารเร่งเดินเข้าไปถึงชายเขา พวกโจรเห็นก็แจ้งความกับเอียไจเฮงว่ามีกองทัพยกมา เอียไจเฮงขึ้นม้าคุมทหารออกมาร้องถามว่าท่านที่ยกมานี้ชื่อใดแซ่ไร จะมาหาที่ตายหรือ งูเการ้องตอบไปว่าตัวเราคืองูเกา เป็นทหารเอกของงักฮุยแม่ทัพใหญ่จะมาจับตัวนายโจรที่เขาเกาเลงซัวนี้ฆ่าเสีย เอียไจเฮงจึงว่า ท่านกับเราไม่ควรคู่จะกัน จงกลับไปบอกให้งักฮุยนายท่านมารบกับเรา งูเกาได้ฟังก็โกรธขับม้าเข้าไปเอากระบองตีเอียไจเฮง เอียไจเฮงเอาทวนป้องปัดไว้รบกันได้ประมาณสิบเพลง งูเกาทานกำลังเอียไจเฮงไม่ได้ก็ขับม้าหนี เอียไจเฮงก็มิได้ไล่ติดตามไปพาทหารกลับเข้าอยู่เขาตามเดิม งูเกาไม่เห็นนายโจรไล่ตามมา ก็ให้ทหารตั้งค่ายลงห่างเขาเกาเลงซัวประมาณทางสิบลี้คอยท่ากองทัพงักฮุยอยู่

ฝ่ายงักฮุยยกกองทัพใหญ่มาถึง งูเกาก็ออกไปรับคำนับแล้วเล่าความว่า นายโจรนั้นรูปร่างหน้าตาดีขี่ม้าขาวถือทวนด้ามเงินมีฝีมือเข้มแข็งนัก ข้าพเจ้าต้านทานไม่ได้จึงได้ขับม้าหนี นายโจรใจดีไม่ไล่ตาม พาทหารกลับเข้าเขา นายทหารพี่น้องเหล่านั้นได้ฟังก็พากันหัวเราะว่า พี่งูเกานี้ยกกองทัพล่วงหน้ามาคราวไรก็อัปราชัยแก่ข้าศึกทุกครั้ง งักฮุยจึงถามว่านายโจรนั้นชื่อไร งูเกาว่าข้าพเจ้าหาทันได้ถามชื่อไม่ งักฮุยว่า ตัวเจ้ากับเราก็เคยทำศึกสงครามมาด้วยกันหลายครั้งแล้ว จะรบสู้กับข้าศึกทำไมจึงไม่ถามชื่อและแซ่ให้รู้ ถ้าแม้นได้ชัยชนะข้าศึกตายจะเอาชื่อและแซ่อันใดไปจดบัญชีความชอบ และเอียไจเฮงนั้นเจ้าจำเขาไม่ได้หรือ เมื่อครั้งเราเข้าไปเมืองเปียนเหลียงทดลองเพลงอาวุธที่สนามหลวงนั้น เจ้าได้ไปสู้รบกับเอียไจเฮงแล้วร้องเรียกให้เราช่วยว่าสองคนนี้เขาจะแย่งชิงเอาที่จอหงวนไปเสียแล้ว นั้นแหละคือตัวเอียไจเฮงคนนี้ งูเกาว่าข้าพเจ้าลืมไปจำไม่ได้เห็นจะไม่ใช่คนนี้ดอกกระมัง งักฮุยได้ฟังก็หัวเราะ ว่าเวลาพรุ่งนี้เราจะไปพูดเกลี้ยกล่อมให้เอียไจเฮงสามิภักดิ์อยู่โดยดี งักฮุยก็สั่งให้ทหารตั้งค่ายเรียงค่ายงูเกาไป ครั้นเวลารุ่งเช้างักฮุยก็ให้ทหารจัดสรรพกระบวนงดงามพรักพร้อมจะยกไปให้เป็นสง่าแก่ข้าศึกนายทหารทั้งปวงจึงว่าจะฆ่าไก่ตัวหนึ่ง หาต้องเอามีดฆ่าโคฆ่ากระบือไปเชือดไปฟันไม่ ให้แต่พวกข้าพเจ้าไปก็จะจับตัวมาได้ งักฮุยจึงว่าท่านทั้งหลายยังไม่รู้ มิใช่เราจะแย่งชิงเอาความชอบนั้นเมื่อไร ด้วยเอียไจเฮงมีสติปัญญาฝีมือเข้มแข็งใจก็สัตย์ซื่อองอาจ เราอยากจะใคร่ได้ไว้ช่วยทำราชการทำนุบำรุงแผ่นดินด้วยกัน ถ้าครั้งนี้เรายกไปสู้รบจะแพ้และชนะประการใดก็ดี ท่านทั้งหลายอย่าได้เข้าไปช่วยเลย ถ้าผู้ใดไม่ฟังห้ามจะเอาตัวเป็นโทษตามคำสั่งแม่ทัพ นายทหารทั้งปวงจึงว่าข้าพเจ้าจะขอติดตามออกไปดูให้รู้ชั้นเชิงฝีมือกระบวนรบของเอียไจเฮงนายโจร งักฮุยว่าเจ้าจะออกไปดูก็ตามใจเถิดแต่อย่าได้ช่วยเลย งักฮุยก็ขึ้นม้าถืออาวุธเดินกระบวนไปถึงหน้าเขา

ฝ่ายเอียไจเฮงนายโจรแจ้งว่ามีกองทัพยกมาก็แต่งตัวขึ้นม้าถืออาวุธคุมทหารยกออกไป งักฮุยแลเห็นเอียไจเฮงแต่งตัวใส่เกราะเงิน หมวกเงินปักหางไก่ฟ้าขี่ม้าขาวรูปร่างโตใหญ่ หน้าตางดงามมีหนวดห้าหย่อมดูเข้มแข็งเป็นสง่านัก จึงร้องถามเอียไจเฮงว่าท่านกับเราจากกันมาช้านานนักหนา บัดนี้สบายอยู่ดอกหรือ เอียไจเฮงตอบว่าท่านอย่ามาพูดประจบประแจง เราได้รู้จักกับท่านเมื่อไร พบกันที่ไหน งักฮุยว่าท่านลืมไปเสียแล้วหรือ เมื่อเข้าไปซ้อมทดลองฝีมือที่สนามในเมืองเปียนเหลียงครั้งนั้นจริงหรือไม่ เอียไจเฮงจึงถามว่าท่านนี้หรือที่ฆ่าชาเลียงอ๋องตาย งักฮุยว่าคือตัวเรานี้แหละ มีความอยู่ข้อหนึ่งจะพูดให้ท่านฟัง ตัวท่านก็มีเชื้อตระกูลรูปร่างงดงามสติปัญญาและฝีมือก็เข้มแข็งมาเป็นโจรอยู่ดังนี้ จะมิเสื่อมเสียตระกูลปู่เและบิดาไปหรือ ถึงตัวท่านจะตายชื่อเสียงก็ไม่ปรากฏเหมือนท่านผู้เฒ่าต้นตระกูลของท่าน ถ้ามาสามิภักดิ์เข้าทำราชการช่วยปราบปรามข้าศึกศัตรูในแผ่นดินรับสองกษัตริย์กลับมาเมืองได้ ก็จะมียศศักดิ์ใหญ่ชื่อเสียงปรากฏเหมือนต้นตระกูลของท่านที่สืบมาแต่ก่อน ซึ่งได้อาสาทำนุบำรูงแผ่นดินซ้องต่อ ๆ มาหลายชั่ว เอียไจเฮงได้ฟังก็หัวเราะว่า ซึ่งท่านพูดมานี้ดูเหมือนประมาทว่าเราไม่รู้จักการงาน เดิมพระเจ้าซ้องฮุยจงฮ่องเต้นั้นมีแต่เชื่อฟังขุนนางกังฉินที่ไม่ซื่อตรงไปฝ่ายเดียว ยุยงให้สร้างพระราชวังเสียเงินทองเป็นอันมาก เบียดเบียนเอาแก่ราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนบ้านเมืองจึงไม่มีสุข ครั้นพระเจ้าซ้องฮุยจงฮ่องเต้ออกนอกราชสมบัติมอบบ้านเมืองให้พระเจ้าซ้องคิมจงครองแผ่นดินต่อมา พระเจ้าซ้องคิมจงก็คงเชื่อถือแต่ขุนนางกังฉินประจบประแจงสอพลอเหมือนพระราชบิดา ไม่เอาใจใส่ในราชกิจการงานทั้งปวง ไพร่บ้านพลเมืองได้ความคับแค้น จนกิมงึดตุดยกกองทัพมา เตียปังเชียงขุนนางกังฉินเข้าเป็นไส้ศึกล่อลวงพระเจ้าไท้เซียงฮอง ซ้องคิมจงออกไปให้ข้าศึกจับเอาไปขังไว้ที่เมืองฮวน บัดนี้พระเจ้าซ้องเกาจงได้ครองราชสมปัติ ก็มึนตึงโง่เขลา ขุนนางที่มีสัตย์ซื่อเพ็ดทูลสิ่งใดก็ไม่เชื่อฟัง ถือแต่ขุนนางกังฉินสอพลอไปตามกัน ซึ่งตัวท่านจะถือมาเป็นขุนนางอาสาทำศึก เอาชีวิตเข้ามาฝ่าคมอาวุธอยู่ดังนี้ เห็นจะเหนื่อยเสียเปล่า มาประพฤติอย่างเราให้เป็นโสดแก่ใจไม่มีผู้บังคับใช้สอยเห็นจะดีกว่า ถ้ามีวาสนาก็คงจะได้เป็นใหญ่ขึ้นในแผ่นดิน งักฮุยว่าซึ่งท่านพูดดังนี้ไม่ถูก ผู้ที่เป็นเหล่าขุนเหล่านางมาแต่ก่อนก็ต้องนับถือเจ้านาย บุตรก็ต้องนับถือมีกตัญญูต่อบิดามารดา ตัวเราท่านทั้งหลายเกิดมาในแผ่นดินซ้อง ก็ต้องช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินบ้านเมืองราษฎรให้เป็นสุข แซ่เอียเชื้อวงศ์ของท่านเป็นเหล่าทหารแม่ทัพซื่อตรงต่อแผ่นดิน อาสาดับยุคเข็ญปราบข้าศึกมาถึงสองชั่วสามชั่ว ชื่อเสียงก็ยังปรากฏมีผู้สรรเสริญอยู่จนทุกวันนี้จริงหรือไม่ เอียไจเฮงว่าท่านพูดนี้ก็จริงอยู่ เดิมเราก็คิดจะเข้าไปทำราชการให้มีชื่อเสียงสืบตระกูลต่อไป ครั้นเข้าไปถึงเมืองหลวงเห็นเจ้าแผ่นดินและขุนนางไม่เป็นเรื่อง จึงได้กลับออกมาตั้งตัวอยู่ในเขาและป่าก็มีชื่อเสียงปรากฏเหมือนกัน ท่านอย่าพูดมากไปเลย จงมาสู้รบกันให้เห็นฝีมือเถิด งักฮุยว่าเราจะขอสัญญาเสียก่อนจึงจะรบให้รู้ฝีมือตัวต่อตัว อย่าให้ผู้ใดเข้าช่วยเลยเป็นอันขาด เอียไจเฮงว่าท่านสัญญาดังนี้ดีนัก ก็สั่งให้พวกโจรบริวารกลับเข้าไปเขา งักฮุยก็สั่งให้ทหารถอยออกไปให้ห่าง สองนายเข้ารบกันเป็นสามารถ ต่างคนต่างว่องไวสู้รบกันได้สามร้อยเพลง เอียไจเฮงเอาทวนแทง งักฮุยเอาทวนป้องปัดไว้ได้ไม่แพ้ชนะกัน เอียไจเฮงจึงว่าเวลานี้ก็จวนพลบค่ำแล้ว พรุ่งนี้จึงมาสู้รบกันอีก งักฮุยก็กลับเข้าค่าย เอียไจเฮงก็กลับไปเขา ครั้นเวลารุ่งเช้างักฮุยก็ขึ้นม้าพาทหารออกมาที่สนามรบหน้าเขา เอียไจเฮงก็ถืออาวุธขึ้นม้าออกมาสู้รบกันแต่เวลาเช้าจนเที่ยง ไม่เพลี่ยงพล้ำมีกำลังแข็งแรงทั้งสองนาย

ฝ่ายงักฮุนคุมเสบียงมาถึงค่ายแล้วถามทหารว่าบิดาเราไปไหน ทหารบอกว่าท่านแม่ทัพไปสู้รบกับเอียไจเฮงนายโจรที่เขาเกาเลงซัว งักฮุนก็ขึ้นม้าถืออาวุธรีบตามมาเห็นบิดาสู้รบอยู่กับเอียไจเฮง แต่บรรดานายทหารใหญ่ยืนดูอยู่แต่ไกล งูเกาเห็นงักฮุนมาก็ร้องพูดขึ้นว่า หลานเรามาแล้ว เจ้าจงรีบเข้าไปช่วยบิดาจับนายโจรคนนี้ฆ่าเสียให้ได้ งักฮุนไม่แจ้งว่างักฮุยห้ามปรามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปช่วย ได้ฟังงูเกาบอกมาดังนั้นก็ขับม้าตรงเข้าไปใกล้ร้องบอกว่าบิดาลูกมาช่วยแล้ว งักฮุยเห็นก็โกรธเป็นอันมาก เอียไจเฮงจึงร้องพูดว่าท่านสัญญากับเราไว้ไม่แน่นอน อย่างนี้จะเป็นแม่ทัพใหญ่ไปได้หรือ พูดแล้วก็พาทหารกลับไปเขา งักฮุยมีความแค้นเคืองงักฮุนยิ่งนักก็กลับมาค่าย สั่งให้เอาตัวงักฮุนไปฆ่าเสีย นายทหารทั้งปวงเข้าอ้อนวอนว่า งักฮุนพึ่งมาถึงไม่แจ้งความสั่งของท่านจึงได้ล่วงอาญาไปดังนี้ ขอท่านจงงดโทษเสีย งักฮุยจึงว่าท่านทั้งปวงขอเราก็จะยกให้แต่ให้เอาไปเฆี่ยนเสียสี่สิบทีด้วยมันเป็นคนบุ่มบ่ามไม่ไต่ถามผู้ใดให้รู้ความก่อน ทหารก็เอาตัวงักฮุนไปตีได้ยี่สิบที งูเกาเข้าไปขอโทษว่างักฮุนยังเด็กนัก ขอให้เฆี่ยนข้าพเจ้าแทนอีกยี่สิบทีให้ครบจำนวนของท่านเถิด งักฮุยจึงว่าเจ้าขอจะยกให้ จึงสั่งเตียเปาว่าให้คุมเอาตัวงักฮุนไปบอกกับเอียไจเฮงว่า งักฮุนบุตรของเราพึ่งคุมเสบียงมาถึงไม่รู้ความสั่งจึงได้ล่วงอาญาเข้ามาช่วย เราจะให้เอาตัวไปฆ่าเสียนายทหารทั้งปวงขอไว้จึงให้เฆี่ยนยี่สิบทีเอาตัวส่งมาให้เอียไจเฮงตามแต่จะทำโทษ เตียเปาก็คำนับลาพางักฮุนไปถึงหน้าเขาเกาเลงซัวร้องบอกกับพวกโจรว่า งักฮุยแม่ทัพให้เอาตัวงักฮุนผู้บุตรซึ่งล่วงอาญามาให้นายท่าน พวกโจรก็เข้าไปบอกกับเอียไจเฮง เอียไจเฮงออกมา เตียเปากระทำคำนับแล้วบอกความตามงักฮุยสั่งมาทุกประการ เอียไจเฮงว่าถ้ามีสัตย์สุจริตอยู่ดังนี้แล้วก็คงเป็นแม่ทัพใหญ่ได้ เจ้าจงพางักฮุนกลับไปบอกท่านแม่ทัพเถิด ว่าเราหาถือโทษไม่ เวลาพรุ่งนี้ให้ออกมารบกันอีก เตียเปาก็คำนับลาอุ้มงักฮุนกลับมาค่ายแจ้งความกับงักฮุยตามเอียไจเฮงพูดมาทุกประการแล้ว งักฮุยเดินไปเที่ยวตรวจค่ายเห็นเตียเหียนนั่งอยู่กับงักฮุน งักฮุนร้องไห้น้ำตาอาบหน้า งักฮุยจึงว่าบิดาตีเท่านี้ยังร้องไห้มีใจแค้นเคืองนักหรือ งักฮุนว่าบิดาตีนั้นข้าพเจ้าไม่โกรธดอก ร้องไห้ครั้งนี้ก็เพราะคิดถึงไท้ไท่ย่าของข้าพเจ้า ถ้ายังมีชีวิตอยู่รู้ว่าข้าพเจ้าต้องอาญาแล้วก็จะสงสารมาขอโทษให้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ