อาบแดด

สมัยนี้ (ทรงเรื่องนี้เมื่อ พ.ย. พ.ศ. ๒๔๗๗) มีคนอาบแดดกันดกดื่น ถ้าท่านไปที่ราชกรีฑาสโมสรให้ถูกเวลา ท่านจะเห็นทั้งชายแลหญิงอาบน้ำแล้วอาบแดดอยู่ตามขอบสระ ฝรั่งอาบแดดจนผิวเนื้อเหมือนคนไทยก็ได้ ถ้าไปตามชายทเลก็คงจะได้เห็นเช่นกัน ชายทเลสดวกแก่การอาบแดดมากกว่ากรุงเทพ ฯ เพราะคนไปทเลเวลาหยุดงานจะสวมเสื้ออาบน้ำนอนอืดอยู่ตามหาดทรายนานจนเที่ยงก็ได้ ถ้าท่านซื้อเสื้ออาบน้ำสมัยนี้ ท่านคงจะซื้อชนิดที่เปิดหลังลงไปเกือบถึงเอว สำหรับจะให้แดดถูกเนื้อได้มาก ๆ ถ้าท่านเป็นชาย บางทีจะหาซื้อชนิดที่เปิดหลังได้กระมัง ถ้าท่านเป็นหญิงคงซื้อชนิดโหว่หลังแน่ เข้าใจว่าชนิดอื่นคงไม่มีขายเพราะไม่เห็นใครใช้กันเลย หญิงสมัยนี้ถ้าใครใช้เสื้ออาบน้ำบิดหลังก็เห็นจะ “เปิ่น” เต็มทน.

เหตุใดคนจึงชอบอาบแดด ปัญหานี้ตอบว่า (๑) เพราะได้ประโยชน์แก่ร่างกาย (๒) เพราะฝรั่งเห็นเก๋ในการมีผิวกายคล้ำ คำตอบข้อ ๑ จะได้อธิบายต่อไปในหนังสือนี้ แต่คำตอบข้อ ๒ นั้นจะกล่าวสั้น ๆ แต่เพียงว่าเป็นความนิยมตามสมัย อย่างเดียวกับไทยเราแต่ก่อนถือกันว่าผู้ดีมือนุ่ม ใครมือสากเป็นไพร่ เดี๋ยวนี้ไม่เป็นเช่นนั้น.

บัดนี้จะชี้แจงเรื่องแดดตามที่ผู้เขียนได้รับชี้แจงมาตามทางวิทยาศาสตร์ ประกอบกับการอุตริคำณวนว่า โลกเราในวันหนึ่งได้รับแดดจากตวันคิดเป็นราคา ๕๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ปอนด์อังกฤษ ถ้าท่านอยากจะทราบเป็นบาทก็เอากี่บาทกี่สตางค์ต่อปอนด์ (อัตราแลกเปลี่ยนเวลานี้) คูณเข้าเถิด แดดราคาวันละ ๕๐ ล้านล้านปอนด์นั้น เป็นเบี้ยเลี้ยงซึ่งตวันให้แก่โลก คือภพซึ่งตวันได้ขว้างทิ้งให้ลอยอยู่ตามลำพัง ประมาณหมื่นล้านปีมาแล้ว.

โลกรับแสงจากตวันวันละประมาณ ๑๖๐ ล้านตัน ถ้าคำณวนตามราคาที่บริษัทไฟฟ้าคิดค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านท่าน ราคาแสงตวันนั้นหนักปอนด์หนึ่งจะตกร้อยล้านปอนด์เงิน.

ท่านอาจนึกขัดคอว่าเราไม่ได้ซื้อแสงตวัน หรือแม้กระแสไฟฟ้าก็ไม่ได้ซื้อโดยน้ำหนัก ถ้าท่านขัดคอเช่นนั้น ก็จะต้องเชิญให้ท่านฟังศาสตราจารยไอเอ็นสไตน์ แลเซอร์เยมส์ยีนส์ศาสตราจารย์อังกฤษ ไอเอ็นสไตน์กล่าวว่า แสงซึ่งเรารับจากตวันนั้น ถ้าแยกออกเป็นหน่วยนิด ๆ ก็มีรูปเหมือนลูกปืนเรียกว่า “โฟตอน” ซึ่งเบาแลเล็กจนไม่รู้ว่าเท่าไร เซอร์เยมส์ยีนส์กล่าวว่าเมื่อเราเสียเงินให้บริษัทไฟฟ้านั้นความจริงก็คือเราซื้อโฟตอน บริษัทไฟฟ้าอาจบอกเราว่าคิดบิลค่าไฟฟ้าที่เราใช้ยูนิตละ ๖ เปนซ์ (เงินอังกฤษเพราะเขาพูดถึงเมืองอังกฤษ) แต่ที่แท้เราซื้อโฟตอนจากบริษัทเป็นราคา ๑๗ ล้านปอนด์ต่อออนซ์ ถ้าคำณวนตามที่ศาสตราจารย์ทั้งสองกล่าวเช่นนี้ ราคาแสงตวันที่เราได้รับในโลกวันหนึ่งจึงเป็นจำนวนเงินมากมายดังที่กล่าวมาแล้ว.

ถ้าท่านไปนอนอาบแดดอยู่ที่หาดชายริมทเล โฟตอนจะตกถูกท่าน จนถ้าท่านเป็นคนผิวบางก็จะรู้สึกแปลบตามผิวหนัง ท่านไม่ได้เสียเงินให้แก่ใครเลย แต่ท่านเสียเหื่อและเสียหนังไปบ้าง ถ้าท่านเป็นคนขาว ผิวท่านจะไหม้จนแดง แต่ถ้าท่านเป็นคนดำก็ค่อยยังชั่ว เพราะสีคล้ำหรือดำซึ่งมีในหนังของท่านนั้น จะขึ้นมาข้างบนเป็นเครื่องป้องกันแสงตวันส่วนที่เป็นโทษ แต่ปล่อยให้ส่วนที่เป็นคุณเข้าไปในร่างกาย.

“แดงต่ำ” และ “ม่วงนอก”

แสงส่วนที่เป็นโทษนั้น คือที่เรียกแสงแดงต่ำ นัยหนึ่ง แสงส่วนที่ร้อน แสงแดงต่ำ (แสงส่วนที่ร้อน) อาจเผาผิวบนแห่งหนังให้ดำไปได้ พวกเงาะดำเพราะเหตุนี้ ความดำซึ่งอยู่ที่ผิวบนนั้นแสงแดดได้บ้าง ความเขียวที่ใบไม้ก็สามารถเช่นกัน แสงที่ตั้งชื่อว่า “แดงต่ำ” นี้ ภาษาวิทยาศาสตร์อังกฤษเรียกว่า “อินฟราเรด” เราจะแปลว่าแดงอ่อนก็เกรงจะเข้าใจผิดกันไป จึงแปลว่าแดงต่ำไม่ให้เข้าใจว่ากระไร เพื่อจะได้ทราบว่าเป็นของใหม่ในวิทยาศาสตร์.

ประโยชน์แห่งสี “ม่วงนอก”

สีอีกสีหนึ่งเราตั้งชื่อว่า “ม่วงนอก” เป็นศัพท์ซึ่งจะเข้าใจว่ากระไร ก็ไม่ได้เหมือนกัน ข้อที่กล่าวมาเมื่อกี้ว่า ผิวดำต่อสู้แสงแดงต่ำได้บ้างนั้น ได้มีทดลองแล้วโดยวิธีถ่ายรูปแดงต่ำ อันเป็นวิธีใหม่ การถ่ายรูปชนิดนี้สำเร็จด้วยทำกระจกอย่างหนึ่งซึ่งติดสีแดงชนิดที่เห็นไม่ได้ ฉันเดียวกับกระจกถ่ายรูปธรรมดาถ่ายติดแสงสว่างที่เห็นได้ฉนั้น แสงแดงต่ำซึ่งเห็นไม่ได้นั้น เมื่อมาในแสงตวันถูกผิวหนังแขกดำเข้าก็แฉลบไป เมื่อถ่ายรูปด้วยกระจกแดงต่ำ ก็ได้รูปแขกดำขาวเหมือนสำลี ถ้าถ่ายต้นไม้ก็ขาวเช่นกัน.

แดดนั้นประกอบขึ้นด้วยแสงหลายสี ตั้งแต่สีม่วงนอกไปจนสีแดงต่ำซึ่งเห็นไม่ได้ทั้งสองอย่าง แสงเหล่านั้นถ้าส่องผ่านกระจกที่ทำไว้สำหรับ ก็แยกสีออกไปให้เห็นได้ทุกสี คือ แดง เหลือง เขียว คราม ม่วง แลสีอื่น ๆ ซึ่งผสมกันอย่างสีในรุ้งกินน้ำ พ้นสีม่วงที่เห็นได้นั้นไป เป็นสีที่เรียกม่วงนอก พ้นสีแดงไปเป็นสีแดงต่ำ สีม่วงนอกแลสีแดงต่ำนี้คนไม่อาจเห็นได้.

ม่วงนอกนั้นเป็นของกำนั้นสำคัญที่สุดที่ตวันให้แก่เรา คนบุราณซึ่งเราในสมัยนี้ถือว่าไม่รู้อะไร บูชาตวันเป็นเทวดา ผู้สร้างให้เราเกิดแลเลี้ยงให้เราอยู่ไปได้ เราเลิกบูชาตวันมาหลายพันปีแล้ว แต่มาสมัยนี้รู้ว่าที่ตวันให้ความเกิดแก่มนุษย์ชาติแลเลี้ยงให้มีชีวิตไปได้นั้นเป็นความจริง ผิดกันแต่เราไม่ได้บูชาตวัน และเรารู้ว่าจะบูชาหรือไม่ก็เท่ากัน ตวันไม่ได้เลี้ยงคนบุราณดีขึ้นเพราะบูชาแลเลี้ยงเราเลวลงเพราะไม่บูชา.

ที่ว่าตวันช่วยเลี้ยงเรานั้น เพราะให้ความร้อนและแสงสว่าง แลให้แสงอื่นซึ่งจำเป็นแก่อนามัยแลผาสุกของเรา ส่วนอาหารที่เรากินก็ยังได้รับเลี้ยงจากตวันอีกเล่า.

นักปราชญ์ดาราศาสตร์ บอกเราว่าหลายล้านปีมาแล้ว มีก้อนหลุดออกมาจากตวันก้อนหนึ่ง (คือโลกนี้) ซึ่งค่อยเย็นทีละน้อย เกิดเป็นแก๊ซซึ่งทำให้มีทเลแลอากาศ ต่อมาความอุ่นจากตวันช่วยกับแก๊ซในอากาศให้กำเนิดแก่ชีวิตสัตว์โลกแลดาวอื่น ๆ อันออกจากตวันมีภาวะอยู่ได้เวลานี้ก็เพราะตวันให้ความอุ่นแลกำลัง ตวันต้องละลายไปในการนี้ประมาณวินาฑีละ ๔,๐๐๐,๐๐๐ ตัน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราได้กินเนื้อแม่จึงอยู่ได้.

แต่อย่าเพิ่งตกใจ

เราไม่เห็นก้อนโต ๆ หลุดออกมาจากตวันเพราะ ๔,๐๐๐,๐๐๐ ตันที่หลุดออกมาในวินาฑีหนึ่งนั้น น้อยกว่าก้อนตวันมากนัก ตวันได้เสียเนื้อไปเช่นที่เสียอยู่เดี๋ยวนี้มากกว่า ๑๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ปี แต่ยังมีเหลืออยู่มากแลยังจะทนไปได้อีกนานไม่รู้ว่าเท่าไร.

ตวันเสียเนื้อโดยประการที่ปลิวออกไปเป็นส่วนเล็ก ๆ ส่วนเล็ก ๆ นั้นเดินทางได้เร็ววินาฑีละ ๑๘๖,๐๐๐ ไมล์ (เรียกกันว่าความเร็วของแสงสว่าง) โลกเราอยู่ห่างจากพระอาทิตย์ ๙๒,๐๐๐,๐๐๐ ไมล์ เพราะฉนั้นแสงสว่างเดินทางจากพระอาทิตย์มาถึงเรากินเวลา ๘ นาฑีครึ่ง.

แสงที่มาจากตวันนี้ นอกจากช่วยให้เราเห็นความงามที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราแล้ว ยังทำให้เกิดความงามนั้น ๆ ด้วย เป็นต้นว่าสีของดอกไม้ก็ยืมมาจากตวัน ไม่ใช่ว่าดอกไม้เกิดสีได้เอง.

ในเวลาที่แดดส่องกล้าอยู่ในลานบ้านของเรา ถ้าเราเก็บเอากำลังของแดดมาใช้ได้ก็อาจใช้หมุนเครื่องเรือเหาะได้ตลอดเวลาที่แดดออก แต่ในเวลานี้เรายังไม่รู้วิธีที่จะเก็บเอากำลังของแสงตวันมาใช้โดยตรงได้ นอกจากใช้เพื่อความสว่าง.

ในบริเวณสำนัก “ประมวญมารค” มีเครื่องใช้อย่างหนึ่งอยู่บนหลังคาซึ่งต้มน้ำให้ร้อนด้วยแรงแดดแล้วเก็บน้ำร้อนไว้ในถังพิเศษซึ่งรักษาความร้อนไว้ได้กว่า ๒๔ ชั่วโมง เมื่อเปิดท่อในตอนเช้าซึ่งแดดยังไม่ออก น้ำก็ยังร้อนเป็นควันจนเอามือรองใต้ท่อไม่ได้ วิธีทำนองเดียวกันนี้ในประเทศอิยิปต์ซึ่งเป็นประเทศแดดจัดใช้ต้มน้ำเดือดจนถึงมีสตีมไปเดินเครื่องจักร์ได้ ในประเทศอื่น ๆ ซึ่งมีแดดตลอด ๆ วัน ยังมีผู้เพียรจะเอาประโยชน์ในเรื่องเดินเครื่องจักร์อย่างอื่น ๆ อีก แต่ในประเทศซึ่งไว้ใจแดดไม่ได้หรือในฤดูที่แดดผลุบ ๆ โผล่ ๆ ก็ดี จะใช้แดดเป็นเครื่องให้กำลังเช่นที่กล่าวนี้ ก็ไม่ได้อยู่เอง.

แต่ทุกประเทศย่อมได้ประโยชน์จากแดดในทางบำรุงร่างกาย เพราะแสงม่วงนอกซึ่งมีในแสงตวันนั้นย่อมทำลายเชื้อโรคหลายอย่าง แลเป็นยาบำรุงร่างกายด้วย สิ่งที่หมอเรียกว่า “วิตมิน ดี.” นั้นเป็นของกำนันมาจากตวัน ตวันส่องแสงถูกตัวเราทำให้เกิดวิตมินซึ่งช่วยบำรุงกระดูกแลฟันของเราคนหนึ่ง ๆ ไม่ต้องใช้วิตมินกี่มากน้อย เขาว่าหนักสัก ๒ บาทเท่านั้นก็พอสำหรับเด็กตั้งล้านคน แต่เครื่องจักร์ในตัวเรานี้เป็นเครื่องจักรเลอียดที่สุด อะไรจะผิดส่วนไปสักนิดก็ไม่ได้ แม่ต้องให้วิตมินแก่ลูกไม่ว่าคนหรือสัตวดิรัจฉาน แม่งัวถูกแดดก็เกิดมีวิตมินในน้ำนม และแม่ไก่ถูกแดดก็เกิดวิตมินในไข่ แต่วิตมินมีมากในตับปลา คือปลาที่อังกฤษเรียกค๊อดและฮะลิบัต ซึ่งเขาเอาตับมาทำ “น้ำมันปลา” สำหรับคนไข้เป็นต้น ปลาชนิดนั้นไม่มีในทเลเมืองเรา เพราะอยู่น้ำเย็นในทเลลึก แสงตวันส่งไปไม่ถึง ที่มีวิตมินก็เพราะรับช่วงไปจากปลาอื่น (หนังสือของมิสเตอร์คาดไร้ด์ที่ว่าปลาค๊อดคือปลากระพงนั้นผิดเอามาก ๆ ไม่เชื่อลองถามดอกเตอร์ ฮิวแมกคอแมก สมิท ดูเถิด)

แสงม่วงนอกมาจากตวันผ่านน้ำแข็งในทเลแถบขั้วโลก ลงไปรวมกันอยู่ในแมลงทเลตัวเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ใกล้หลังน้ำ ปลาเล็ก ๆ กินแมลงเหล่านั้น ปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกต่อหนึ่ง เป็นต่อ ๆ กันไปจนถึงปลาค๊อตและฮะลิบัต ซึ่งมีตับอันสร้างพิเศษสำหรับเก็บวิตมินไว้ได้มาก ๆ

เด็กในเมืองฝรั่งที่มีแดดน้อย เช่นลอนดอนซึ่งมากไปด้วยควันแลหมอก หรือเมืองที่ตึกสูง ๆ บังแดดให้ถึงดินได้น้อยก็ดี ย่อมจะเกิดวิตมินน้อยในตัว จึงต้องกินเนื้อสัตว์ซึ่งถูกแดดมากเมื่อก่อนฆ่าเป็นอาหารคน.

ส่วนพวกนิโกรคือแขกดำนั้น แต่ก่อนใช้เสื้อผ้าน้อยที่สุด แลเรารู้กันดีว่า คนพวกนั้นฟันทนนัก เขาว่าเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ใช้เสื้อผ้าเลียนแบบฝรั่ง ก็เกิดมีนิโกรปวดฟันขึ้น เด็กเลี้ยงควายของเราก็คงจะแรงกินฟันน้อยกว่าเด็กในกรุงเทพ ฯ

นี่แหละ ที่เขาอาบแดดฉันนั้น มีอธิบายประโยชน์ดังนี้ แต่เมืองไทยเราแดดแข็งกว่าเมืองฝรั่ง ถ้าทำเกินไปน่ากลัวจะเกิดโทษ.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ