เก่ากับใหม่

ผู้กลับจากไปเที่ยวประเทศเก่าแห่งหนึ่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ เล่าว่า เขาขึ้นบกที่เมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศนั้น เห็นในทเลมีเรือจอดคับคั่ง บนบก ตามถนนหนทางซึ่งลาดยางมีผู้คนล้นหลาม ตึกกว้านบ้านเรือนทำอย่างสมัยใหม่ แต่ผู้คนที่คับคั่งนั้น มากไปด้วยกรรมกรและคนจน คนไม่มีบ้าน ไม่ใช่คนปลาดหรือหายาก ตามซอกมุมริมถนนที่พออาศัยนอนได้ในเวลากลางคืนมีผู้เข้าอาศัยมาก เขาไปเที่ยวเมื่อฤดูหนาวนี้เอง ได้เห็นข้างเตาไฟของภัตตาคารแห่งหนึ่งเป็นที่อาศัยนั่งหลับของคนฉลาด ผู้ต้องการความอบอุ่น แต่ความฉลาดนั้นช่วยเขาได้เพียงครึ่งคืนเท่านั้น เพราะพอเลิกขายอาหาร ไฟในเตาดับแล้ว เขาก็ต้องทนหนาวต่อไปจนตลอดรุ่ง.

ผู้เล่าเล่าต่อไปว่า คนในเมืองนั้นหัดทำงานกันมาแต่เล็ก ๆ เด็กยังไม่มีแรงทำงานอื่นได้ ก็ไปทำงานเก็บใบไม้มาให้แม่หุงข้าว ใบไม้เหล่านั้นเก็บได้แต่ที่ร่วงตามถนนหนทาง และนอกจากต้นไม้ตามถนน ในเมืองที่ผู้คนอยู่กันยัดเยียดเช่นนั้น สวนป่าหายาก จะบุกรุกเข้าไปเก็บใบไม้หล่นในบ้านมีเจ้าของก็ไม่ได้อยู่เอง นอกจากได้รับอนุญาต ดังนี้ เชื้อเพลิงที่พอให้หม้อข้าวของแม่สุก ก็เป็นงานหนักสำหรับลูกน้อยที่ทำได้วันยังค่ำ นอกจากเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลไม่ต้องกวาดใบไม้ริมถนน แม้มูลสุนัขก็ไม่ต้องกวาดด้วย เพราะผู้ไปเที่ยวได้เห็นแก่ตาว่า หนูน้อย ๆ เหล่านี้เที่ยวแย่งเก็บมูลสุนัขเอาไปผสมเป็นปุ๋ยขาย และแย่งกันเก็บก้นบุหรี่เอายาไปให้แม่มวนบุหรี่ขายด้วย เป็นอันเบาค่าจ้างพนักงานสุขาภิบาล ทั้งได้หัดมนุษยให้เคยงานไปแต่เด็ก ๆ และได้ประหยัดเศษวัตถุไม่ให้ต้องทิ้งเสียเปล่า เข้าหลักเศรษฐกิจทุกประการ ผู้เล่าเล่าว่า ได้เห็นยายแก่งกเงิ่นเก็บเศษไม้ผุที่ข้างโรงงานแห่งหนึ่ง ไม้นี้คงทำหน้าที่เชื้อเพลิงได้เท่ากับใบไม้หลายมัด แต่ชายหนุ่มในโรงงานเห็นเข้าวิ่งออกมาแย่ง และตบยายแก่นั้นล้มฟุบลง.

เหล่านี้เป็นภาพที่แสดงความเป็นอยู่ของคนจน ในบ้านเมืองที่สำมะโนครัวยัดเยียด ของทุกอย่างมีค่า และการหวงแหนเข้าครอบงำเป็นเจ้าเรือน ไม่น้อยกว่าความอยาก ดูตรงกันข้ามกับที่เราในสยามเคยเก็บลูกไม้ในสวนกิน แล้วเอาไม้หักเป็นขอวางไว้ใต้ต้น เมื่อเจ้าของมาเห็นเข้าก็พอใจ และตรงกันข้ามกับที่เราเคยว่าจ้างชาวชนบทให้ทำการหาบหามให้เรา เขาไม่ยอมและไม่อยาก ความตรงกันข้ามนี้จะค่อยหายไป กลายเปนละม้ายคล้ายคลึงกันเข้า เมื่อพื้นแผ่นดินของเราคับคั่งด้วยผู้คนมากขึ้น.

ประเทศจัดใหม่ทุกวันนี้ ต้องสนใจถึงส่วนรวม ต้องพากันเจริญทั้งชาติ และต้องช่วยคนไร้งานและคนจน เราเริ่มช่วยอยู่แล้ว ด้วยมีการศึกษาให้เปล่า มีการรักษาพยาบาลโรคให้เปล่า กับมีการช่วยหางานให้ทำบ้างตามแต่จะได้ เรายังไม่มีอะไรอวดในทางนี้มากนัก จึงเราควรจะดูที่อื่นที่เขาพออวดได้ เพื่อเทียบให้เห็นว่า ปัญหาน่าสงสารต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วข้างต้น ตกมาถึงทุกวันนี้ (พ.ศ. ๒๔๗๙) ต้องมีวิธีแก้ไขกัน อันถึงจะเข้าลัทธิโสโชลิสัมก้ไม่ต้องตระหนกตกใจ เหมือนที่เราเคยได้ตกใจมาแล้ว เมื่อครั้งยังไม่มีความรู้เรื่องศัพทนี้.

ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษ งบประมาณการช่วยคนจน เมื่อ ค.ศ. ๑๘๕๐ รัฐบาลจ่ายเพียง ๕ ล้านปอนด์ ค.ศ. ๑๘๙๐ รายจ่ายประเภทนี้ได้ทวีขึ้นเป็น ๒๓ ล้านปอนด์ และเมื่อ ค.ศ. ๑๙๓๓ นี้ได้จ่ายถึง ๔๔๐ ล้านปอนด์ ตัวเลขเหล่านี้ อธิบายตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว ควรจะกล่าวอีกเพียงสั้น ๆ ว่า ยอดจ่ายสำคัญ ๆ ในทางสังสรรค์แห่งบ้านเมืองนี้คือ การรักษาโรค การเลี้ยงครอบครัวและผู้หางานทำไม่ได้ กับการเลี้ยงคนชรา สถิติของเขากล่าวว่า พลเมืองเดี๋ยวนี้คิดถัวมีอายุยืนกว่าเมื่อครั้งทวดของเขาตั้ง ๑๐ ปี และเด็กที่ตายในปีแรกเกิด ได้ลดลงจาก ๑๐๐๐ ละ ๑๔๕ แต่ก่อน เดี๋ยวนี้ ๑๐๐๐ ละ ๖๕ เท่านั้น.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ