คำแถลงของผู้รวบรวม

พระนิพนธ์ต่าง ๆ ของท่าน น.ม.ส. ได้ถูกรวบรวมขึ้นเป็นเล่มสมุดอีกครั้งหนึ่ง นับเป็นครั้งที่ ๓ ในระยะเวลาประมาณ ๒ ปีที่ผ่านไป เล่ม ๓ นี้พิมพ์ผิดพลาดลดน้อยลงไปมาก และมีปาฐกถาอยู่ด้วย ๒ เรื่อง คือเรื่องพูดให้นักเรียนฟังที่โรงเรียนวชิราวุธ กับเรื่องนิราศนรินทร์ นี่อาจจะถือว่าเป็นความแตกต่างกับ ๒ เล่มที่แล้วมาได้.

ท่านเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้รวบรวม และทางโรงพิมพ์ผู้พิมพ์เรื่องนี้ ต่างร่วมมือกันตรวจทานหลายครั้ง จึงทำให้ผิดพลาดลดน้อยลงไปกว่าแต่ก่อนมาก แต่ไม่ถึงดีที่สุด คือไม่มีผิดเลย การตรวจทานต้นฉบับ ถ้ามีต้นฉบับอื่นนอกไปจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งต้องใช้อยู่โดยปกตินั้นแล้ว ผู้รวบรวมก็ได้นำมาตรวจสอบด้วยเท่าที่จะหามาได้ ต้นฉบับดังกล่าวถึงนี้ คือนิราศนรินทร์กับกำศรวญศรีปราชญ์ จับความผิดพลาดของหนังสือพิมพ์ได้บ้าง แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีปนอยู่ไม่น้อยในเล่มนี้แล้ว ไม่มีต้นฉบับอื่นใดที่จะนำมาสอบทานได้เลย ท่านเจ้าของลิขสิทธิ์ทรงแจ้งว่า ต้นฉบับถูกไฟไหม้หมด ดังนั้นจึงเป็นไปตามหนังสือพิมพ์ซึ่งคงจะต้องมีผิดพลาดบ้างเป็นแน่ ขอท่านผู้ที่มีความชำนาญทางภาษาอังกฤษได้โปรดประทานอภัย อนึ่ง ท่านเจ้าของลิขสิทธิ์ก็ได้ทรงแนะนำผู้รวบรวมเหมือนกันว่า ให้ตัดภาษาอังกฤษทิ้งไป แต่ผู้รวบรวมได้ทูลว่า เกรงใจความของท่านที่ทรงไว้จะขาดหายไป จึงจะขอคงของท่านไว้บ้าง แต่ถ้าเห็นไม่จำเป็น ก็จะขอตัดออกไปบ้าง ได้ถือแนวนี้ปฏิบัติตลอดมา.

ความรู้ทางถ้อยคำสำนวนภาษาไทยและต่างประเทศ ได้จัดเข้ากลุ่มไว้กลุ่มหนึ่ง ในหัวเรื่องที่ว่า “หนังสือและคำพูด” เรื่องในกลุ่มนี้คงจะส่งเสริมความรู้ทางภาษาไทยแก่ท่านผู้อ่านได้ไม่น้อยเลย และยังมีเรื่องนิราศนรินทร์ซึ่งอาจให้ความรู้อย่างเดียวกันอยู่อีกเรื่องหนึ่งด้วย เมื่อเรามาพินิจพิจารณากันดูถึงความรู้สึกนึกคิดในเรื่องที่เกี่ยวกับภาษาไทยของท่าน น.ม.ส. ที่ทรงแสดงออกซึ่งปรากฏมากแห่งใน “ผสมผสาน” ตั้งแต่เล่ม ๑ มาจนถึงเล่ม ๓ นี้แล้ว เราก็จะเห็นได้เด่นชัดว่า ท่าน น.ม.ส. ทรงวิตกเดือดร้อนไม่น้อยทีเดียว อนึ่ง สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็เป็นอีกพระองค์หนึ่งที่ทรงมีพระราชวิตกทุกข์ร้อนเช่นนั้น แต่อาศัยที่พระองค์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจกับทั้งทรงมีพระราชประสงค์อันสูงยิ่ง ที่จะดำรงไว้ซึ่งภาษาไทยอันดี เพื่อประเทศชาติไทยของพระองค์ จึงทรงหาทางแก้ไขให้ภาษาที่เลวกลับเป็นดีขึ้นได้โดยเร็วทันในรัชสมัยของพระองค์ ผู้อื่นถึงจะมีความหวังดีทัดทานท้วงติงสักเพียงไรดังเช่นท่าน น.ม.ส. ได้ทรงพยายามมาเป็นอันมากนั้น ก็ดูจะได้ผลไม่ไกลอะไรนัก ในที่สุดพระองค์ท่านก็ทรงอ่อนพระทัยไปเอง คงจะเห็นได้ที่ท่าน น.ม.ส. ทรงเขียนไว้แห่งหนึ่งว่า... “เราเขียนข้างบนนี้เป็นพลีครูบาอาจารย์ที่สอนหนังสือและภาษาไทยกันมาเดิม หรือเหมือนจุดธูปเทียนลอยกระทงไปตามกระแสน้ำ ลอยแล้วก็แล้วกัน ลอยทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เทียนไม่ทำความสว่างให้แก่แม่น้ำได้”

สงครามโลกครั้งที่ ๒ เกิดเมื่อ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ เรื่องที่ท่าน น.ม.ส. ทรงเขียนก่อนหน้าสงครามปีสองปีจึงกล่าวถึงสงครามในอนาคตอยู่ด้วยอย่างน่าอ่าน ผู้รวบรวมได้นำมาบ้างเล็กน้อย หวังจะให้ผู้อ่านได้เห็นทิศทางของสงครามใหญ่ว่ามีมาแล้วประการไรบ้าง เรื่องลักษณะนี้ทรงเขียนไว้ไม่น้อย โลกเรานี้ดูจะไม่ว่างเว้นจากศึกสงครามเสียเลย ไม่มีชนิดใหญ่ก็มีชนิดย่อยที่โน่นบ้างที่นี่บ้างอยู่เสมอมา ลาวเพื่อนบ้านของเราก็กำลังตกอยู่ในภาวะดังกล่าวนี้ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขึ้นแล้ว ท่าน น.ม.ส. ก็ได้ทรงเขียนเรื่องลงหนังสือพิมพ์ “ประมวญวัน” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ท่านทรงสนับสนุนอยู่เป็นอันดีมากมาย ถ้าจะนำเรื่องดังกล่าวมารวมพิมพ์เป็นเล่มก็คงจะได้เล่มขนาดเรื่องสัก ๒ - ๓ เล่มดอกกระมัง เพราะท่านทรงเขียนอยู่หลายปี และทรงเขียนเกือบจะทุกวันทีเดียว ท่าน น.ม.ส. มาทรงหยุดเขียนเรื่องลงหนังสือพิมพ์เป็นประจำก็ตอนที่ผู้ควบคุมรัฐประศาสโนบายในสมัยนั้นไม่เห็นชอบให้ท่านเขียน โดยเห็นว่าท่านเป็นพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ และดูจะเนื่องมาจากเรื่องอักขรไทยวิบัติครั้งใหญ่ยิ่ง เช่น กฎหมาย ให้เขียนว่า กดหมาย เจริญ ให้เขียนว่า เจริน ดังนี้เป็นต้นด้วย ท่านเป็นนักภาษาและกวีชั้นแนวหน้าของชาติไทย ท่านทนไปไม่ไหว ท่านก็เลิกไป จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ไปในกาลต่อมา.

ผู้รวบรวมตั้งใจจะปรับปรุง “ผสมผสาน” เล่ม ๑ ให้เรียบร้อยยิ่งขึ้น และจะเพิ่มเติมเรื่องที่น่าอ่านน่ารู้เข้าไปอีก คิดว่าคงจะได้รูปเล่มโตขึ้นอีก คงจะโตกว่า ๒ เล่มในชุดเดียวกัน

ล. อุดมศรี

พระนคร

๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๔

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ