(๓๐) พระราชสาส์นพระเจ้ามินมาง

(๓๐) พระราชสาส์นพระเจ้ากรุงเวียดนาม คำนับมายังสมเด็จพระเจ้าพระมหานครศรีอยุทธยาให้ทราบ ด้วยเตียนวั่งเด้ผู้บิดาทำการศึกเที่ยวปราบปรามหัวเมือง ในแว่นแคว้นเมืองญวนประมาณร้อยครั้งจึงสิ้นเสี้ยนหนาม คืนได้บ้านเมืองดังเก่า จึงได้ตั้งเปนกฎหมายอย่างธรรมเนียม แล้วตั้งแต่งขุนนางอาณาประชาราษฎร จึงได้อยู่เย็นเปนศุขสืบมา จนถึงยาลอง ๑๘ ปีเดือนยี่ทรงพระประชวรลง หมอประกอบยาถวายก็หาชอบโรคไม่ ข้าผู้น้อยกับขุนนางทั้งปวงเข้าไปพยาบาลอยู่ทั้งกลางวันแลกลางคืน จนถึงณวันเดือนสามขึ้นสิบเอ็จค่ำ ข้าผู้น้อยแลขุนนางฝ่ายทหารพลเรือน อยู่พยาบาลพร้อมกัน จึงมีรับสั่งให้ช่วยกันรักษาบ้านเมือง แลสั่งสอนแก่ข้าผู้น้อยทุกประการ ครั้นณวันเดือนสามแรมสี่ค่ำเพลาเช้าสี่โมงเศษ เตียนวั่งเด้สิ้นพระชนม์ไปเมืองฟ้า ขุนนางแลอนาประชาราษฎรมีความทุกข์โศกอาไลยยิ่งนัก แล้วก็ช่วยกันจัดแจงไว้พระศพตามอย่างตามธรรมเนียม แล้วเชิญพระศพเข้าไว้ในที่นั่งว่างยินเดี่ยน ผู้น้อยกับเจ้าน้องเจ้าหลาน แลขุนนางทั้งปวงนุ่งขาวห่มขาวอยู่ในระหว่างทุกข์ กว่าจะครบสามปี แล้วสั่งให้เหลโป่ทำหนังสือรับสั่งแจกไปทุกเมือง แลการพระศพนั้นยังให้ขุนนางผู้ใหญ่จัดแจงเครื่องพระศพอยู่ ต่อเมื่อได้จัดครบแล้วจึงจะได้เชิญพระศพไปฝัง แลเตียนวั่งเด้กับสมเด็จพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุทธยาพระองค์ก่อน เปนทางพระราชไมตรีสนิทยิ่งนัก จึงแต่งให้เหลโป่ต๋า ทำตรีมินดึกห้าวราชทูต พิโนยกว๋านทีกล้ากายเกอกรุงเลืองห้าวอุปทูต กงใบเทียมซือหายหยุ่นห้าวตรีทูต เข้ามาแจ้งความให้ทราบ

พระราชสาส์นมาณวันเดือนห้าขึ้นสี่ค่ำ มินมางปีต้น ๚ะ๛

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ