๒ พระราชสาส์นกรุงธนบุรึ ถึง กรุงศรีสัตนาคนหุต

๏ วัน ๓ ๖ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๓๓ ปีเถาะตรีณีศกทรงแต่ง $\left. \begin{array}{}\mbox{พระราชสาร } \\\mbox{ศุภอักษร }\end{array} \right\}$ ตอบแล้ว ทรงพระกรุณาดำรัดเหนิอเกล้า ฯ สั่งให้ $\left. \begin{array}{}\mbox{พระสุนธรไม้ตรีราช} \\\mbox{หลํวงภักดีวาจาอุป} \\\mbox{ขุนพจนาพิมลตรี}\end{array} \right\}$ทูตย จำทูลพระสุพัณบัตรัตนพระราชสารแลศุภอักษรขึ้นไปยังกรุงศรีสัตนาคนหุตในใจความนั้นว่า

พระราชสารสฤษดิรักษศักดิสุนธรบวรมงคลสกลโลเกษบวเรษขัติยศะศรีรักษไม้ตรีในสมเด็จพระพุทธเจ้ากรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธาณีบุรีรมย มีปะฏิวากยพระราชสารเปสิดาการใช้ให้ $\left. \begin{array}{}\mbox{พระสุนธรไม้ตรีราช} \\\mbox{หลวงภักดีวาจาอุป} \\\mbox{ขุนพจนาพิมลตรี}\end{array} \right\}$ทูตย จำทูลพระสุพรรณบัตรัตนราชสารนำเครื่องมงคลราชบรรณาการ มาจำเริญพระราชสัตยานุสัตย แต่สมเด็จพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต สุทธิรัตนราชธาณีบุรีรมย ด้วยพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต ใช้ให้พญาไทรทรงยศทศบุรีเปนราชทูตย พญาศรีรัตนาธิเดชไม้ตรีมาทูลจำพระสุพรรณบัตรัตนราชสาร แลเครื่องมงคลราชบรรณาการ มาจำเริญพระราชสัตยานุสัตยภาพพระราชสำพันทมิตรไม้ตรีตามบุราณราชประเพณีนั้น ะ ครั้นแจ้งในอรรถลักษณนั้น ก็มีพระราชกมลหฤๅไทยใสสุทอุดดม โสมนัดสาการยินดีเปนอันยิงนักหนาควรที่จเปนอัคมิตรสัณทวะ แต่ทว่าสมเดจ์พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต กอปรด้วยขัติยวงษทรงพิภพอันสูงใหญ่ แลอันกรุงพระมหานครศรีอยุทธยาทุกวันนี้ ก็อับปางอยู่จะขอให้สมเดจพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต ช่วยทะนุบำรุงให้เปนศรีสุวรรณปัตพีเดิยวจำเริญพระราชวงษสืบไป ถึงมาทว่าจมีปัจจามิตรข้าศึกมาปรการไดในกรุงศรีอยุทธยา ก็จเกรงพระเดชานุภาพกรุงศรีสัตนาคนหุต เพราะพระเดชปกเพิ่อเจิอไปแลซึ่งมิปัจจามิตรข้าศึกมาเบิยดเบิยนกรุงศรีสัตนาคนะหุตนน้นก็จะเปนภาระธุระแห่งกรุงศรีอยุทธยา แลซึ่งข้าศึกไปต้งงอยู่ดอนมดแดง แลจะขอเจ้าพญานครราชศรีมาไว้ช่วยราชการน้นนก็แล้วแต่พระราชดำริสมเดจพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตเถิด แต่ทว่าถ้าเหนจได้ถ่ายเดียวจึ่งให้กระทำการ ถ้าเหนจได้ส่วนหนึ่งสองส่วนจะเสียแต่ส่วนหนึ่งก็อย่าให้กระทำไว้ภารธุระกรุงศรีอยุทธยาจะได้กระทำสืบไป อันหนึ่งซึ่งราชการบ้านเมืองกรุงศรีอยุทธยาทุกวันนี้ เดิมมีลิปูต้าทั่งอัคมหาเสนาธิบดีสมเดจพระเจ้ากรุงต้าฉิงผู้ใหญ่ณเมิองกรุงจีนเข้ามาถึงกรุงศรีอยุทธยาว่าให้ทำแผ่นที่ท่าทางซึ่งจะไปกรุงอังวะนั้นส่งออกไป แลมีเนื้อความว่าพม่ายกกองทับมารบเมืองศรีฉวนเมิองห้วยหลำปลายแดนกรุงจีน ๆ รบพุ่งพม่าแตกกลับไป ฝ่ายกองทับจีนยกไปติดแว่นแคว้นกรุงอังวะอยู่ แล้วจขอไห้กองทับจีนมาขึ้นณกรุงศรีอยุทธยาอีกทางหนึ่งนั้นได้มีหนังสือออกไปแต่ก่อนว่าขัดสนด้วยเข้าปลาอาหาร แลบัดนี้พม่ามากระทำแก่เมิองถลางเมิองกานบูรีเมิองศรีสวัศเมิองอุไทยธาณีเมิองสวรรคโลกยเมิองพิไชยปากใต้ฝ่ายเหนิอตวันตกตวันออก ซึ่งขึ้นแก่กรุงศรีอยุทธยา กองทับหัวเมิองตีทับพม่าแตกเลิกไปฝ่ายกรุงศรีอยุทธยายังมิได้จดฝีมือดูความคิดประการใดหามิได้ ซึ่งเสดจพระราชดำเนิรยกกองทับขึ้นไปจดฝีมือดูความคิดพม่าเมืองเชียงใหม่ บัดนี้เหนแจ้งอยู่แล้วภอกระทำตอบแทนแก่กรุงอังวะได้ถ่ายเดียว แลบัดนี้เข้าปลาอาหารภอมีอยู่แล้ว แลจให้มีศุภอักษรออกไปถึงลิปูต้าทั่งอรรคมหาเสนาธิบดีให้นำเอากราบบงงคมทูลแด่สมเด็จพระเจ้าต้าฉิงผู้ใหญ่ณเมิองกรุงจีนให้ยกกองทับมาขึ้นณกรุงศรีอยุทธยา ๆ ก็จเกนกองทับยกไปกระทำแก่กรุงอังวะ แต่ว่าบัดนี้ขัดสนด้วยม้า ได้มีศุภอักษรขึ้นมาด้วยแจ้งอยู่แล้วเนื้อความอันอื่นนอกกว่านี้มีมาในศุภอักษรเปนหลายปรการแล้ว ปรการใดกรุงพระนครศรีอยุทธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุตจะวัฒนาการจำเริญเปนมะหามิตรสนิทเสน่หาสืบไปก็ไว้ในพระราชปรีชาญาณแห่งสมเดจพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต จมีพระราชดำริให้ชอบทุกปรการ พระราชสารสมิทธิเปสิตะภารภูม วารวิสาขมาศกาลปักขทุติยะดิถีตยุลศักราชพันร้อยสามสิบสามสัศะสังวัดฉะระตรีณิศกสิริสวัศดิทิฆายุสม ๚ะ๛

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ