ตอนที่ ๒๓ ขุนแผนติดคุก

๏ ครานั้นขุนแผนแสนสะท้าน อาศัยอยู่บ้านพระหมื่นศรี
เป็นสุขสบายหลายราตรี วันเมื่อจะมีซึ่งเหตุมา
ขุนแผนวันทองกับนางแก้ว หลับแล้วสำราญใจในเคหา
พระจันทร์แจ้งแสงสว่างกระจ่างฟ้า ดาราดาษไปในอัมพร
พระพายพาบุปผชาติสะอาดกลิ่น รวยรินรสต้องละอองอ่อน
ขุนแผนตื่นฟื้นตัวที่เตียงนอน ให้อาวรณ์คิดคะนึงถึงลาวทอง
โอ้เพื่อนยากจากเมืองมาอยู่ใต้ มาจำใจพลัดพรากไปจากห้อง
วันทองแก้วกิริยาก็มาครอง สงสารน้องประหนึ่งพี่ไม่อีนัง
พลัดผัวตัวต้องไปลำบาก ตรำตรากตรอมใจในเขตขัง
ถ้ารู้ข่าวเข้าไปถึงในวัง เห็นจะตั้งตาคอยให้ไปรับ
เราก็ได้สัญญาว่าจะเลี้ยง ไม่หลีกเลี่ยงย้อนยอกกลอกกลับ
จะเพิกเฉยเลยละให้ลี้ลับ เป็นเห็นกับเมียสองที่ต้องใจ
บุราณว่าเสียทรัพย์อย่าเสียศิล เสียอื่นสิ้นอย่าเสียวาจาได้
นางก็ไม่มีผิดคิดนอกใจ จากไปเป็นเหตุด้วยขุนช้าง
มันเพ็ดทูลใส่ไคล้ให้เป็นโทษ พระจึงโปรดให้พรากไปจากข้าง
บัดนี้ก็สิ้นเรื่องเคืองระคาง แต่ตัวนางยังขังไว้วังใน
เพราะผ่านเกล้าเจ้าชีวิตท่านทรงลืม ปลื้มจิตรจึงไม่ออกมานอกได้
จำจะต้องทูลขอต่อทรงชัย ครั้นคิดไปให้เกรงจะราคี
พระองค์ก็ยกโทษโปรดแล้ว จะกล้าแกล้วทูลกวนไม่ควรที่
ถ้าพระองค์ไม่ทรงพระปรานี ก็จะเสียความดีที่มีมา
จะละเมียเสียเล่าอนาถใจ คิดไปให้สงสารเป็นหนักหนา
แต่เวียนคิดจนแจ้งแสงสุริยา ล้างหน้าแล้วก็ลุกจากห้องใน
ตรงมาหาพระจมื่นศรี ว่าลูกนี้มีทุกข์เป็นข้อใหญ่
ถ้อยความก็สำเร็จเสร็จไป เพราะเจ้าคุณเอาใจช่วยป้องกัน
ให้รำคาญสงสารแต่ลาวทอง ที่ยังต้องกักขังในวังนั่น
โปรดด้วยช่วยทูลพระทรงธรรม์ ให้ได้ลาวทองนั้นกลับออกมา ฯ
๏ ครานั้นฝ่ายว่าพระหมื่นศรี ฟังวาทีพลันตอบขุนแผนว่า
เจ้าก็เป็นคนดีมีปัญญา ช้าช้าไว้สักปีดีกระมัง
เหมือนดับไฟไม่ทันจะสิ้นเปลว ด่วนเร็วจะกำเริบเมื่อภายหลัง
มิใช่อยู่อื่นไกลอยู่ในวัง ห้ามประตูกักขังทุกเวลา
ไม่เข้านอกออกในเหมือนใครอื่น จะตื่นอะไรไปหนักหนา
ชู้ผัวหาไหนใครจะมา ช้าช้าสักหน่อยก็เป็นไร ฯ
๏ ขุนแผนตอบคำพระหมื่นศรี ที่ตรงตัวชั่วดีหาแคลงไม่
ข้อที่คิดสงสารรำคาญใจ ด้วยนางมิได้ผิดแก่ตัว
เดิมพระองค์ทรงพระพิโรธลูก ลาวทองต้องถูกขังเพราะผัว
ลูกพ้นโทษทิ้งไว้ให้หมองมัว เหมือนใจชั่วหลงเมียเสียข้างนี้
จึงเกิดความร้อนรนทำวนใจ ฟ้าจะผ่ามาอย่างไรให้รู้ที่
เจ้าคุณช่วยขยับขยายที่ร้ายดี เห็นทีก็จะทรงพระเมตตา ฯ
๏ พระหมื่นศรีสุดที่จะห้ามปราม เมื่อไม่ฟังแล้วก็ตามแต่วาสนา
พูดกันพอควรจวนเวลา เรียกหาบ่าวไพร่เข้าในวัง
พวกทนายตามกันออกล้นหลาม ขุนแผนเดินตามมาข้างหลัง
นั่งลงตรงนอกลับแลบัง คอยฟังว่าจะโปรดประการใด ฯ
๏ จะกล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงศักดิ์ ปิ่นปักหลักทวีปทั้งน้อยใหญ่
สถิตในปรางค์มาศปราสาทชัย นางในหมอบเฝ้าเป็นเหล่ามา
ตรัสประภาษราชกิจพระนิเวศน์ จนสุริเยศเรืองแรงแสงกล้า
เสด็จออกท้องพระโรงรัตนา เบิกบรรดาข้าเฝ้าให้เข้าไป
ต่างถวายบังคมก้มกราบ หมอบราบตามตำแหน่งผู้น้อยใหญ่
ที่มีข้อราชการงานเวียงชัย ก็ทูลให้ทรงทราบทุกสิ่งอัน ฯ
๏ ครานั้นจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช ชาญฉลาดตริตรึกให้นึกพรั่น
ครั้นได้ช่องทูลฉลองไปฉับพลัน อันชีวันอยู่ใต้พระบาทา
บัดนี้ขุนแผนแสนสะท้าน ให้เกล้ากระหม่อมฉานกราบทูลว่า
ซึ่งโทษผิดติดตัวแต่ก่อนมา ทรงพระกรุณาให้พ้นภัย
ยินดีพ้นที่จะประมาณ จะขอทำราชการแก้ตัวใหม่
ไปกว่าชีวันจะบรรลัย มิให้ขุ่นเคืองเบื้องบาทา
ลาวทองต้องติดอยู่ในวัง กักขังช้านานมาหนักหนา
ขอพระเดชปกเกศจงเคลื่อนคลา จะได้มาเป็นกำลังราชการ ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ทรงธรณี ได้ฟังจมื่นศรีแถลงสาร
ฉุนพิโรธพระพักตร์เผือดเดือดดาล อ้ายนี่หาญเห็นกูนี้ใจดี
ครั้นขุนเพชรขุนรามตามออกไป บังอาจใจฆ่าคนเสียป่นปี้
กูก็งดอาญาไม่ฆ่าตี ซ้ำยกอีวันทองให้แก่ตัว
ยังลวนลามตามขออีลาวทอง จองหองไม่คิดผิดท่วมหัว
พูดเล่นตามใจไม่เกรงกลัว เพราะตัวอีลาวทองต้องอยู่วัง
ไกลตาตกว่าไม่ไว้ใจ มันกลัวกูนี้จะไพล่เอาข้างหลัง
ฟังมันเจรจาดูน่าชัง ถ้าแม้นตั้งหน้ารับราชการไป
ทำดีแล้วอย่าว่าแต่ลาวทอง อีกสักสองสามคนกูจะให้
เห็นไม่ทำแล้วยิ่งซ้ำทะนงใจ ละไว้จะกำเริบทุกเวลา
ถ้าตามใจยอมให้อีลาวทอง จะจองหองเย่อหยิ่งขึ้นหนักหนา
เป็นว่าไรไม่ขัดสักเวลา ทีหลังจะชะล่าไม่เกรงใคร
เฮ้ยเอาตัวมันไปส่งไว้คุก ประทุกห้าประการหมดอย่าลดให้
เชื่อมหัวตะปูซ้ำให้หนำใจ สั่งเสร็จเสด็จในที่ไสยา
พระหมื่นศรีตระหนกตกใจ ถอยหลังออกไปเป็นหน้าบ้า
บอกขุนแผนให้ฟังหลั่งน้ำตา เมื่อกูว่าแล้วเอ็งไม่ฟังกู ฯ
๏ ฝ่ายพวกนครบาลได้รับสั่ง เข้าล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เป็นหมู่
พาขุนแผนคุมออกนอกประตู พระหมื่นศรีเอ็นดูร้องสั่งไป
ฝากด้วยเถิดพ่อเจ้าทุกเช้าคํ่า จองจำแต่พออัชฌาสัย
นครบาลรับคำแล้วนำไป เอาตัวเข้าคุกใหญ่ในทันที
โซ่ตรวนเอามาทั้งคาขื่อ ตีนมือใส่ล่ามไปตามที่
เข้มงวดตรวจตรัดพัศดี พระหมื่นศรีไปบ้านรำคาญใจ
จึงเรียกแก้วกิริยากับวันทอง น้ำตานองตกเซ็นกระเด็นไหล
บอกความตามจริงทุกสิ่งไป รับสั่งให้จำผัวไว้ตรึงตรา
ให้ทูลขอลาวทองกูห้ามแล้ว อ้ายพลายแก้วไม่ฟังคำกูว่า
ทูลขึ้นตละไฟไหม้พารา สุดปัญญาเหลือที่จะทัดทาน ฯ
๏ ครานั้นวันทองแก้วกิริยา ฟังว่าดังอกจะแตกฉาน
ให้อัดอั้นตันใจอาลัยลาน ไม่ควรการเลยมาด่วนให้ควรเป็น
ค่อยเป็นสุขแล้วมาทุกข์ไปอิกเล่า ชะรอยเขาคนนี้นี่ตัวเข็ญ
จึงพิกลดลใจมิให้เย็น ไม่เคยเห็นจะอยู่ด้วยกันนาน
ตั้งแต่เริ่มไปประเดิมก็ไม่ดี ปีละร้อยเรือนเดือนละร้อยบ้าน
จนนอนเวรเกณฑ์ขาดราชการ ยังทะยานปีนข้ามกำแพงไป
นางลาวสาวน้อยคนนี้เอ๋ย เมื่อไรเลยพ่อจะตัดเสียขาดได้
ทั้งทุกข์ทั้งแค้นแน่นหัวใจ สะอื้นไห้โศกเศร้าเฝ้าครํ่าครวญ
ครั้นคลายวายโศกลงได้บ้าง สองนางลุกรีบมาโดยด่วน
สงสารแต่วันทองท้องแก่จวน อักอ่วนย่างเยื้องพยุงตัว ฯ
๏ ครั้นถึงคุกซุกซนด้นเดามา เห็นหน้าซบลงตรงตีนผัว
สองนางกลิ้งเกลือกเสือกตัว ทูนหัวช่างไม่เล่าให้เมียฟัง
จะทูลความตามขอเจ้าลาวทอง ปรึกษาน้องก็จะห้ามปรามไว้มั่ง
นี่เนื้อว่าเคราะห์กรรมให้จำบัง แต่ดงรังร้อยรื้อมาเท่าไร
เมื่อคุมส่งลงมาแต่พิจิตร ยังหาติดขื่อคาอย่างนี้ไม่
เป็นความน่าที่จะมีภัย ยังกลับไปเป็นชอบทุกสิ่งอัน
ไม่ควรจะมาด่วนแต่โดยได้ ทำใจว้าวุ่นหุนหัน
เลยเก่าใหม่ได้ยากต้องจากกัน โอ้แต่นี้นับวันจะทนทุกข์
จะต้องจำซ้ำเชื่อมหัวตะปู จะรู้ฤๅว่าเมื่อไรจะได้สุข
จะดับชีวิตจิตใจอยู่ในคุก ฤๅจะทุกข์ไปจนได้พ้นภัย
เวรกรรมทำไว้ฉันใดเลย ไม่มีเงยหน้าเทียมกับเขาได้
ไหนจะท้องไหนจะทุกข์ระทมใจ ผู้คนข้าไทที่ไหนมี
จะส่งข้าวเช้าเย็นก็แสนยาก จะออกปากพึ่งใครที่ไหนนี่
ถึงท้องไส้ก็จะมาทั้งตาปี กลัวแต่ที่จะคลอดซึ่งลูกยา
ถ้าอยู่ไฟใครเล่าจะส่งเสีย เมียเหลียวหาใครไม่เห็นหน้า
จะตักนํ้าคํ่าเช้าหาข้าวปลา เห็นแต่แก้วกิริยาผู้เดียวดาย
ถ้ามาอยู่ได้ที่ในคุก พอคลายทุกข์หุงต้มได้ง่ายง่าย
คิดไปใจเจียนจะขาดตาย สองนางฟูมฟายฝ่ายน้ำตา ฯ
๏ ขุนแผนแสนโศกด้วยสองนาง นํ้าตาพร่างพรายซาบลงอาบหน้า
พี่คิดผิดจึงติดถึงขื่อคา เป็นเวลาเคราะห์กรรมมานำไป
อันเหตุที่พี่ขอเจ้าลาวทอง เพราะได้น้องสองคนมาอยู่ใกล้
ยังนางเดียวต้องลำบากยากไร้ ทิ้งไว้ก็เป็นพี่นี้อาธรรม์
มิได้นึกว่าพระองค์จะทรงโกรธ ให้จองจำทำโทษถึงมหันต์
ครั้งนี้ตายเป็นเห็นเท่ากัน ด้วยโทษทัณฑ์แทบพ้นจะทนไป
อันเครื่องพันธนาที่จำจอง อิกสักสองเท่านี้ก็หนีได้
จะเสียสัตย์ขัดสนจึงจนใจ หนีไปใครจะนับว่าเป็นชาย
เสมือนหนึ่งบิดาท่านทำโทษ แม้นมิโปรดตามทีไม่หนีหาย
จะทนไปให้ตลอดจนวอดวาย สู้ตายตามแต่พระอาญา
ตัวเจ้าวันทองสิท้องไส้ อลักเอลื่อเหลือใจเป็นหนักหนา
ไปอยู่บ้านนานนานจึงค่อยมา พอเห็นหน้าเยี่ยมเยือนว่าอยู่ดี
เจ้าแก้วกิริยานั้นตัวเปล่า พอหุงข้าวต้มแกงกินที่นี่
เวียนมาเวียนไปเป็นไรมี เมื่อแก้วพี่อยู่บ้านนานวันไป
คลอดลูกคลอดเต้าจะเปล่าตา เจ้าแก้วกิริยาเป็นเพื่อนได้
ข้าวน้ำคํ่าคืนหาฟืนไฟ กว่าจะออกเดินได้เจ้าจึงมา
พี่จะทรมานไปหลายวัน กว่าพวกตรวจทั้งนั้นจะนับหน้า
จึงจะอ้อนวอนเขาทุเลาลา จะไปหาเยี่ยมเจ้าอย่าเศร้าใจ
ครั้นจะอยู่ด้วยพี่ที่นี่เล่า จะคลอดลูกคลอดเต้าอย่างไรได้
จวนคํ่าแล้วน้องวันทองไป อย่าร้องไห้เลยจงเหือดที่เดือดดาล
อุตส่าห์ฝากตัวพระจมื่นศรี ลูกเมียท่านมีอยู่ที่บ้าน
เจียมตัวกลัวเขาอย่าระราน พี่นี้นานเนิ่นแล้วจะพ้นภัย
เจ้าแก้วไปส่งเจ้าวันทอง แล้วจัดแจงข้าวของออกมาให้
ข้าวปลาผ้าผ่อนท่อนสไบ ตามประสาเข็ญใจที่เรามี ฯ
๏ นางแก้วกิริยากับวันทอง น้ำตานองอาบหน้าทั้งสองศรี
สะอื้นถอนใจใหญ่ให้รอรี อำลาสามีแล้วเดินไป
ครั้นถึงสองนางย่างเข้าห้อง จัดแจงข้าวของหาช้าไม่
หมากบุหรี่ผ้าผ่อนท่อนสไบ ที่นอนหมอนมุ้งได้ไปตามมี
เหลือมือถือแบกไปไม่ไหว ก็ไหว้วานข้าไทพระหมื่นศรี
ส่งถึงคุกพลันทันที พัศดีนายตรวจก็เอ็นดู
ให้คนโทษในคุกช่วยปลูกทับ ที่นอกหับเผยให้นางแก้วอยู่
ครั้นสิ้นแสงพระอาทิตย์ปิดประตู ร้อยลั่นแหล่งคู่กันทั่วไป ฯ
๏ ครั้นยามดึกกำดัดสงัดนอน พระจันทรแจ่มกระจ่างสว่างไสว
ขุนแผนแสนโศกวิโยคใจ เขาร้อยไว้ตัวติดทั้งขื่อคา
โซ่ตรวนถ้วนครบห้าประการ ทรมานมึนเมื่อยเป็นหนักหนา
จะพลิกตัวตึงทั่วทั้งกายา ยิ่งนานยิ่งระอาระอิดใจ
โอ้ว่าคนโทษทั้งปวงเอ๋ย กะไรเลยทนทานตั้งปีได้
อันตัวกูจะอยู่ให้จองภัย เป็นว่าไม่ต้องการจะทานทน
เพียงถือสัตย์สุจริตไม่คิดหนี แต่เท่านี้ก็พอจะเป็นผล
ไม่คิดคดต่อเจ้าข้าวแดงตน ก็เป็นคนเลิศโลกย่อมฦๅชา
คิดแล้วจึงสะเดาะด้วยฤทธิมนตร์ ตรวนหล่นคนหลับสนิทหน้า
ร่วงกราวเท้ามือทั้งขื่อคา ก็ล่องหนออกมาจากคุกพลัน ฯ
๏ ถึงทับแก้วกิริยาเห็นยังตื่น นั่งสะอื้นรัญจวนป่วนปั่น
เข้าทับประคองปลอบน้องพลัน จะโศกศัลย์ครวญครํ่าไปทำไม
ถึงร้องไห้ใช่ว่าจะเป็นสุข เหลือทุกข์แล้วจะทุกข์ไปถึงไหน
ทุกข์นักก็จะหนักลงรํ่าไป จะเจ็บไข้ให้ห่วงถึงดวงตา
ฟังคำพี่ว่าเถิดน้องแก้ว พี่มาแล้วลืมทุกข์เสียดีกว่า
กอดนางพลางช่วยเช็ดนํ้าตา เงยหน้าจูบหน่อยเถิดกลอยใจ
งามชื่นอย่าสะอื้นอาลัยวอน เจ้านอนเถิดพี่จะกล่อมให้
กอดประทับกับทรวงด้วยห่วงใย หลับใหลอยู่ในห้องทั้งสองรา ฯ
๏ ครานั้นทำมะรงแลยามใน ตื่นขึ้นร้องไปขานยามหวา
ถึงใครใครรับลำดับมา ว่าชื่อเรียกหาซ้ำต่อไป
รับสิ้นสุดไปไม่ขาดแคลน แต่ขุนแผนหารับร้องโฮยไม่
หลับอยู่ไม่รู้ฤๅอย่างไร เรียกชื่อซ้ำไปไม่ขานมา
ยามในเอาชุดไปจุดส่อง ยังแต่โซ่ตรวนกองแล้วเจ้าข้า
หนีลอดไปได้ทั้งขื่อคา เรียกกันเร็วหวาตามให้ทัน
เราตื่นอยู่ดูเห็นเมื่อตะกี้ จะซุกซนด้นหนีไปไหนนั่น
บอกพัศดีมาพร้อมหน้ากัน งกงันงุ่มง่ามตามค้นดู
ถึงทับหับเผยเลยพ้นไป กำลังตกใจวุ่นวายอยู่
ต่างคนต่างมองทุกช่องรู ริมประตูเพดานซานซมไป
ไม่พบปะจะอย่างไรไฉนนี่ พัศดีตรองตรึกนึกขึ้นได้
เมียมันอยู่หับเผยเฮ้ยอย่างไร เอ็งเอาชุดจุดไฟไปมองดู
เห็นขุนแผนกับแก้วกิริยา ร้องบอกกันมาว่าอยู่อยู่
ทำมะรงขัดใจไม่บอกกู ฉวยขุนแผนลากถูครู่ออกมา
ขุนแผนลุกโลดโดดคำราม อ้ายสํ่าสามข่มเหงพ่อหนักหนา
ฉุดกระชากลากปล้ำทำนานา หน้ากูนี้จะหนีเอ็งฤๅไร
พัศดีทำมะรงตรงเข้ามา ต่างคนด่าว่าหากลัวไม่
เฆี่ยนให้หลังพังฟังมันไย เข้าไปกลุ้มรุมจะคุมมา ฯ
๏ ขุนแผนตวาดอำนาจครุฑ มือหลุดหัวคะมำเข้าตำฝา
เข้าจับกุมวุ่นวายเป็นหลายครา ขุนแผนร้องว่าอย่าทำกู
นี่นึกว่าจะเอากูเข้ากรึง หน้ามึงฤๅจะจำกูไว้อยู่
ไม่เชื่อยังคะนองก็ลองดู เอาคาสวมท่วมหูทั้งโซ่ตรวน
ขุนแผนบริกรรมซ้ำสะเดาะ หลุดเผลาะกองกลิ้งทุกสิ่งถ้วน
ลูกโซ่โย้เย่เปรปรวน พยักชวนเฮ้ยออเจ้าเข้ามาจำ
ทำมะรงพัศดีเห็นดีจริง นั่งนิ่งยกมือขึ้นไหว้พรํ่า
ลูกขอโทษโปรดเถิดที่ได้ทำ กรรมของพ่อดอกได้โปรดปราน
ถ้าแม้นพ่อหลบลี้หนีไป โทษทัณฑ์ก็จะได้กับดีฉาน
มุลนายท่านคงว่าด่าประจาน เฆี่ยนตีบักอานทุกคนไป ฯ
๏ ขุนแผนว่าเราก็เจ้าเลี้ยง สาบานแล้วหาเบี่ยงความสัตย่ไม่
ถ้ากูคิดหลบลี้หนีไซร้ กลางวันก็จะไปได้สบาย
เฮ้ยจงดูเล่นเป็นขวัญตา พอว่าแล้วอึดใจให้ตัวหาย
พัศดีทำมะรงงงวุ่นวาย พ่อคุณลูกตายแล้วทีนี้
กลับมาเถิดพ่ออย่าท้อใจ ลูกไม่จำพ่อแล้วอย่าหลบหนี
ขุนแผนคลายฤทธิประสิทธี พวกผู้คุมยินดีลงวันทา
นั่งพูดกันอยู่พอตรู่รุ่ง สุริยาพวยพุ่งพระเวหา
พัศดีเดินออกนอกคุกมา เข้าหาเจ้าประคุณพระยายม
เจ้าคุณถามว่าไปไหนแต่เช้า ขอรับใส่เกล้าใส่กระผม
ด้วยขุนแผนแสนประสิทธิดังฤทธิลม เครื่องจำจองถมก็หลุดไป
ครั้นว่าก็ว่าไม่หนีดอก จะเชื่อแต่ปากบอกนั้นไม่ได้
ข้าพเจ้าเฝ้าตัวก็กลัวภัย เจ้าคุณจงได้กรุณา ฯ
๏ พระยายมได้ฟังพัศดี ไปหาตัวมานี่เร็วเร็วหวา
พัศดีรับคำแล้วอำลา รีบมาถึงคุกเข้าทันใด
บอกว่าพระยายมท่านให้หา เชิญรีบไคลคลาอย่าช้าได้
จึงพาตัวขุนแผนผู้แว่นไว ไปถึงนั่งไหว้ทั้งสองรา
พระยายมว่าอย่างไรเจ้าขุนแผน เหลือแสนทำขุ่นวุ่นหนักหนา
ตัวต้องโทษเขาทำตามอาญา ยังหาญกล้าหักโซ่กุญแจไป
ฤๅเชื่อว่าตัวดีมีฤทธิ์เดช รู้เวทมนตร์ดีจะหนีได้
จะแกล้งเราเหล่านี้ให้มีภัย ทำได้ทำไปทุกสิ่งอัน
แม้นทราบถึงองค์พระผ่านฟ้า ก็จะลงอาญาถึงอาสัญ
ว่ากะไรว่าไปอย่าเกรงกัน จะนิ่งอั้นถือดีอยู่ว่าไร ฯ
๏ ขุนแผนตอบคำพระยายม ความสัตย์เกล้ากระผมหาหนีไม่
แต่ว่าต้องจองจำระกำใจ ทนทานไม่ได้ทั้งขื่อคา
เจ้าคุณเป็นใหญ่ได้โปรดเกล้า ข้าพเจ้าไม่หลบลี้หนีหน้า
จะตายตามความสัจปัฏิญา มิให้มีผิดมาถึงเจ้าคุณ ฯ
๏ พระยายมได้ฟังขุนแผนว่า ถ้ากระนั้นวันหน้าก็อย่าวุ่น
เราจะตามใจเจ้าเอาบุญ อย่าลืมคุณพระองค์ทรงเลี้ยงมา
เจ้าจงให้สัตย์ปัฏิญาณ ดังว่าขานไม่คิดจะหนีหน้า
ให้เราแจ้งใจพลันเหมือนสัญญา คำหนึ่งเราไม่ว่าจะตามใจ ฯ
๏ ขุนแผนประนมก้มกราบกราน ตั้งสัตย์ปัฏิญาณสาบานให้
ถ้าว่าหลบลี้หนีไป ให้ตกนรกต่ำใต้อเวจี
แม้นตายจะสู้ตายอยู่ในคุก กว่าจะโปรดพ้นทุกข์ไปจากที่
มิได้คิดชั่วช้ากาลี ตั้งแต่วันนี้จนวันตาย ฯ
๏ พระยายมราชครั้นได้ฟัง จึงสั่งนายตรวจสิ้นทั้งหลาย
อย่าจองจำขุนแผนให้วุ่นวาย ตามแต่จะสบายอย่าขัดใจ
ขุนแผนก็อย่าออกไปเที่ยวเล่น ใครใครเขาเห็นจะว่าได้
ไปเถิดอย่าช้าพากันไป พัศดีกราบไหว้พากันมา
ตั้งแต่วันนั้นสืบสืบไป ทำมะรงน้อยใหญ่มิได้ว่า
ค่อยอยู่เป็นสุขทุกเวลา กับนางแก้วกิริยาที่คุกใน
วันทองอุตส่าห์มาเยี่ยมผัว ทั้งที่ตัวขุ่นข้องท้องไส้
ขุนแผนยามปลอดก็ดอดไป หาวันทองได้เนืองเนืองมา
ค่อยเสงี่ยมเจียมตัวด้วยกลัวโทษ เพราะพระองค์ทรงโกรธเป็นหนักหนา
พัศดีนายตรวจก็เมตตา ทั้งพระยายมราชไม่เคืองใจ ฯ
๏ จะกล่าวถึงเจ้ามารล้านขุนช้าง แต่เป็นความตามนางหาได้ไม่
ทั้งเสียทรัพย์ยับเยินเพอิญไป นอนใคร่ครวญคะนึงถึงวันทอง
ข้าไทในเรือนออกเกลื่อนพล่าน ไม่ต้องการที่จะชมประสมสอง
ถึงข้าไทมันก็ไม่ยอมปรองดอง แต่ปวดท้องนอนควํ่าทุกคํ่าคืน
เฝ้าฝันถึงวันทองทุกเวลา ข้าวปลากินไม่ได้ให้ขมขื่น
นั่งไม่เป็นสุขลุกขึ้นยืน พอม่อยหลับกลับตื่นนัยน์ตาชัน
หลับตาลงไม่ได้ให้เห็นผี เพอิญให้เห็นนี่แล้วเห็นนั่น
นอนสะดุ้งเป็นกุ้งเต้นไม่เว้นวัน แต่ไก่ขันจนสายไม่คลายเลย
กดท้องร้องรนกระวนกระวาย ลูกจะตายเป็นแท้พ่อแม่เอ๋ย
เมื่อวันทองอยู่นี่ไม่มีเลย ถึงเพียงนี้มิเคยจะได้เป็น
จะเป็นมั่งแต่ละครั้งแต่ละหน ที่มันก่นอย่างนี้มิเคยเห็น
นี่กะไรมันเอาทุกเช้าเย็น ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ปีเดียวตาย
ผลุนโผนโจนออกไปนอกห้อง ร้องเรียกศรพระยาไปไหนหาย
ขึ้นมาเล่นหมากรุกให้ทุกข์คลาย ศรพระยาหน้าหงายเดินเร็วมา
เทหมากรุกออกมาม้าโคนตั้ง ขุนช้างย่างม้าพลั้งตาโป่งหวา
ทิ่มวุ่นกินขุนศรพระยา พ่อเจ้าขาขอโทษโปรดไถ่ตัว
ขุนช้างหัวร่อพ่อไม่ให้ ศรพระยาวอนไหว้พ่อทูนหัว
ฉันเล่นเป็นแต่เสือกินวัว หมากรุกฉันกลัวแล้วพ่อคุณ
ถึงพระครูก็สู้พ่อไม่ได้ มันเหลือใจกินกันจนชั้นขุน
ฉันก็เดินซมเซอะมัวเงอะงุน เออเขาฦๅกันวุ่นแต่วังใน
ว่าขุนแผนทูลขอเจ้าลาวทอง ถูกกริ้วจำจองไว้คุกใหญ่
วันทองอยู่เดียวคงเปลี่ยวใจ เราน่าไปพูดจาดูตามที
เมื่อจากไปใช่ว่านางโกรธแค้น อ้ายขุนแผนมันมาพาเจ้าหนี
บัดนี้เข้าคุกทุกข์เต็มที เห็นจะคืนมาดีไม่มีงอน ฯ
๏ ขุนช้างฟังคำศรพระยา จริงจริงฤๅหวาอ้ายพ่อศร
ลุกขึ้นนั่งยองยองร้องละคร พระภูธรไปค้างอยู่กลางไพร
อันพระยาช้างเผือกคชสาร จะประสบพบพานก็หาไม่
จะยกทัพกลับเข้าพระเวียงชัย วันนี้พี่จะได้วันทองมา
อ้ายดีอ้ายไทยไปผูกช้าง สั่งแล้วลุกย่างไปผลัดผ้า
ลงจากหอกลางขึ้นช้างมา บ่าวไพร่พร้อมหน้าสะพรั่งไป
มาถึงกรุงพอรุ่งขึ้นสางสาง ปลงช้างข้างวัดธรรมาใหญ่
ครั้นสายขึ้นพลันด้วยทันใด ให้บ่าวเข้าไปอยุธยา
เจ็ดคนด้วยกันผันผาย คอยดูแยบคายข้างหลังหน้า
ถ้าพบวันทองแล้วอย่าช้า ฉวยเอาตัวมาอย่ากลัวใคร
พวกบ่าวรับคำขุนช้างสั่ง พร้อมพรั่งกันมาไม่ช้าได้
พากันลัดลอดสอดแนมไป จนใกล้หน้าบ้านพระหมื่นนาย ฯ
๏ ครานั้นวันทองผ่องโสภา ครั้นแสงสุริยาสว่างฉาย
ลงจากเรือนพลางย่างกราย หมายใจว่าจะไปหาผัวรัก
เดินออกมาตามถนนขวาง พวกบ่าวขุนช้างมันรู้จัก
มันแกล้งเดินไปไม่ทายทัก วันทองเดินก้มพักตร์จะรีบไป
ครั้นถึงกลางย่านสะพานช้าง ไกลบ้านที่นางอยู่อาศัย
มันเข้าห้อมล้อมพลันด้วยทันใด ไปไหนไม่ปะพะพานตัว
กู้เงินเจ้าคุณมาห้าชั่ง ตั้งแต่หลบเสียทั้งเมียผัว
วันนี้มาพบเข้าจะเอาตัว วันทองกลัวตัวสั่นร้องอึงไป
ใครได้กู้เงินมาว่าเปล่าเปล่า จะพาตัวเราไปข้างไหน
ชาวบ้านเอ๋ยวานช่วยด้วยเป็นไร ข้าไหว้พ่อแม่สิ้นทั้งปวง ฯ
๏ ผู้คนหญิงชายทั้งหลายนั้น ต่างคนคิดสำคัญว่าเงินหลวง
จะช่วยช่วงชิงไว้ใช่กระทรวง อ้ายพวกนั้นมันก็หน่วงเอาตัวไป
จนออกประตูวัดสวนหลวง ฝูงคนทั้งปวงไม่ช่วยได้
ฝ่ายพวกเรือคอยรับก็ฉับไว ลงเรือข้ามไปถึงฝั่งพลัน
ขึ้นบกตะบึงถึงฉับไว ขุนช้างดีใจจนตัวสั่น
แม่อย่าร้องไห้ไปด้วยกัน พี่หมายมั่นมารับเจ้ากลับไป
ว่าพลางทางเรียกช้างจำลอง อุ้มวันทองขึ้นช้างหาช้าไม่
วันทองด่าทอไม่พอใจ ผลักไสทึ้งผมถ่มนํ้าลาย
ขุนช้างไสช้างพลางปลอบน้อง แม่อย่าร้องไห้ร่ำระส่ำระสาย
พี่รักเจ้าเท่าแทบประดาตาย มั่นหมายไม่เว้นสักเวลา
วันทองแค้นใจให้สะอื้น กูจะคืนดีด้วยอย่าพักว่า
ฆ่าฟันหั่นคอเสียเถิดรา แม้นมึงขืนพาเอากูไป
ถึงบ้านเมื่อไรตายเมื่อนั้น จะอยู่ถึงสามวันอย่าสงสัย
กูไม่ขออยู่กินสิ้นอาลัย ส่งเสียงร้องไห้ไปเรี่ยทาง
ขุนช้างดีใจด้วยได้น้อง ส้วมกอดวันทองไม่แหห่าง
โอ้ว่าเจ้าโฉมเฉิดเลิศปาง ไปครองปรางค์เถิดเทพลินลา
สมบัติมอบครอบครองให้น้องสิ้น พี่คือโสภิณท้าวยักษา
อันมนุษย์พี่น้องทั้งสองรา ดังว่าขุนแผนที่ติดคุก
กี่ปีจึงจะมาหาเจ้าได้ มากลับไปเรือนร่วมภิรมย์สุข
จงสร่างโศกเสื่อมเศร้าบรรเทาทุกข์ ปลํ้าปลุกกอดจูบลูบคลำไป
วันทองร้องไห้มิได้เงย โคตรแม่มึงเอ๋ยกูมันไส้
ค้อนพลางด่าพลางมากลางไพร พอใกล้รุ่งก็ถึงเมืองสุพรรณ
เอาช้างประทับกับบันได อุ้มวันทองไปขมีขมัน
เข้าห้องวางน้องกับเตียงพลัน จะดิ้นโดยโหยหันไปทำไม
เมื่อเป็นสาวคราวแรกเจ้าตัวเปล่า วันทองเจ้ายังสู้พี่ไม่ได้
นี่มีท้องอลักเอลื่อเหลือใจ จะดิ้นไยเหนื่อยเปล่าไม่เข้ายา
ขุนช้างร่วมภิรมย์สมสนิท สมคิดสมมาดปรารถนา
จำชั่วเสียตัวทั้งนํ้าตา ครั้นสิ้นแสงสุริยาก็หลับไป
ขุนช้างปรีดิ์เปรมเกษมสุข เฝ้าปลํ้าปลุกเชยชิดพิสมัย
แต่ฟอนเฟ้นเคล้นนมภิรมย์ใจ ดังว่าได้ประสบพบขุมทอง ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ