ตอนที่ ๑๕ ขุนแผนต้องพรากนางลาวทอง

๏ จะกล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงเดช ทุกประเทศเกรงเหลือทั้งเหนือใต้
สถิตยังปรางค์มาศปราสาทชัย สนมในกราบก้มประนมกร
สำราญราชหฤทัยอยู่ในที่ พระสุริย์ศรีบ่ายคล้อยลงอ่อนอ่อน
สำอางองค์ทรงเครื่องเรืองบวร บทจรออกพระโรงรัตนา
ตรัสประภาษราชการบ้านเมือง ไม่ขุ่นเคืองพระทัยให้หรรษา
ผันพระพักตร์ดำรัสตรัสมา ดูราจมื่นศรีผู้แว่นไว
อ้ายพลายแก้วที่ตั้งเป็นขุนแผน ครั้งตีแดนเมืองลาวลงมาได้
ยังหนุ่มแน่นกล้าหาญชาญชัย ถ้าใช้สอยนานไปจะได้การ
แต่เดี๋ยวนี้ให้เกณฑ์ตระเวนไพร ไม่เคยเอามาใช้ในราชฐาน
ถ้าปล่อยปละละเลยเสียช้านาน การงานเวียงชัยไหนจะรู้
ญาติวงศ์พงศามันไม่มี จมื่นศรีสิสันทัดฝึกหัดอยู่
กูฝากอ้ายแผนด้วยช่วยเป็นครู เอามาใช้ในหมู่มหาดเล็ก
ยังอ้ายขุนช้างชาวสุพรรณ พ่อมันก็มาให้ไว้แต่เด็ก
หัวหูเลี่ยนล้านเหมือนกระบานเจ๊ก เมื่อแต่เล็กได้รับกับพ่อมัน
ขอฝากเจ้าด้วยช่วยอิกคน ลองฝึกฝนดูไปเป็นไรนั่น
ให้ไปทั้งกาญจน์บุรีที่สุพรรณ เอาอ้ายสองคนนั้นมาไวไว ฯ
๏ ครานั้นพระหมื่นศรีได้รับสั่ง ถอยหลังคลานมาหาช้าไม่
บอกเจ้ากรมจัดพวกตำรวจใน รีบรัดเร่งไปในทันที
ครั้นถึงเขาชนไก่ไปที่บ้าน เล่าขานแก่ขุนแผนเป็นถ้วนถี่
รับสั่งสมเด็จพระพันปี ให้หาท่านนี้ไปพารา
จะฝึกสอนราชการที่ในวัง ขุนแผนได้ฟังก็หรรษา
ไปแถลงแจ้งความแก่มารดา ลูกจะลาเข้ากรุงพรุ่งนี้เช้า
ด้วยรับสั่งสมเด็จพระพันวษา ให้หาลูกนี้เข้าไปเฝ้า
จะฝึกหัดราชการงานหนักเบา ขอฝากเจ้าลาวทองให้แม่ไว้
เมื่อลูกมีบ้านช่องข่องแขว ก็จะมารับแม่ไปไว้ใกล้
ถึงอยู่กรุงหนทางไม่ห่างไกล จะมาไปไม่นิ่งทิ้งมารดา ฯ
๏ ครานั้นจึงนางทองประศรี ได้ฟังคดีที่ลูกว่า
แกดีใจจนหลั่งถั่งน้ำตา ลูบหลังลูบหน้าด้วยปรานี
ไปเถิดเจ้าอย่าเฝ้าเป็นห่วงใย เมียของเจ้านั้นไซร้ให้อยู่นี่
แม่จะกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงทางนี้ มิให้มีเดือดร้อนรำคาญใจ
เจ้าอุตส่าห์อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ฝึกหัดราชการให้จงได้
ถ้าได้ดีมียศปรากฏไป เหมือนแทนคุณขุนไกรผู้บิดา
แต่ทว่าราชการงานเมือง จะสามารถปราดเปรื่องยากหนักหนา
โบราณท่านจึงตั้งคติมา ว่าวุฒิมีสี่ประการ
หนึ่งเป็นผู้ดีมีเชื้อชาติ กิริยามารยาทส่งสัณฐาน
หนึ่งได้ศึกษาวิชาชาญ เป็นแก่นสารคือคุณอุดหนุนตัว
หนึ่งว่าอายุเจริญวัย เข้าใจผิดชอบประกอบทั่ว
หนึ่งปัญญาว่องไวไม่มึนมัว จึงจะรู้ดีชั่วในทางงาน
ท่านว่าผู้เป็นข้าฝ่าธุลี วุฒิต้องมีทั้งสี่สถาน
เจ้านี้ดูก็มีทุกประการ จะสู่โพธิสมภารก็ควรแล้ว
แต่ทว่าอย่าทะนงองอาจ โดยประมาทถือว่าข้ากล้าแกล้ว
ถ้าประมาทราชภัยมักไม่แคล้ว ลูกแก้วจงจำคำมารดา
โบราณว่าเป็นข้าจอมกษัตริย์ ราชสวัสดิ์ต้องเพียรเรียนรักษา
ท่านกำหนดจดไว้ในตำรา มีมาแต่โบราณช้านานครัน
หนึ่งวิชาสามารถมีอย่างไร ไม่ปิดไว้ให้ท่านทราบทุกสิ่งสรรพ์
หนึ่งกล้าหาญทำการถวายนั้น มุ่งมั่นจนสำเร็จเจตนา
หนึ่งมิได้ประมาทราชกิจ ชอบผิดตริตรึกหมั่นศึกษา
หนึ่งสัตย์ซื่อถือธรรมจรรยา เหมือนสมาทานศีลไว้มั่นคง
หนึ่งเสงี่ยมเจียมตัวไม่กำเริบ เอื้อมเอิบหยิ่งเย่อเฟ้อหลง
หนึ่งอยู่ใกล้ชิดติดพระองค์ ไม่ทำเทียมด้วยทะนงพระกรุณา
หนึ่งไซร้ไม่ร่วมราชาอาสน์ ด้วยอุบาทว์จัญไรเป็นหนักหนา
หนึ่งเข้าเฝ้าสังเกตซึ่งกิจจา ไม่ใกล้ไกลไปกว่าสมควรการ
หนึ่งผู้หญิงชาวในไม่พันพัว เล่นหัวผูกรักสมัครสมาน
หนึ่งสามิภักดิ์รักใคร่ในภูบาล ถึงถูกกริ้วทนทานไม่ตอบแทน
ราชสวัสดิ์จัดจบครบสิบข้อ พ่อจงจำไว้ให้หนักแน่น
สัตย์ซื่อและสำคัญนั่นเป็นแดน พ่อแผนของแม่จงใส่ใจ
จงไปดีมาดีศรีสวัสดิ์ พ้นวิบัติเสี้ยนหนามความเจ็บไข้
ให้พระองค์ผู้ทรงภพไตร โปรดปรานประทานให้เป็นพระยา
ว่าพลางทางออกมานอกห้อง ร้องเรียกผู้คนพวกบ่าวข้า
พ่อแผนเอาอ้ายเต่ากับอ้ายมา ไปติดหน้าตามหลังทั้งสองคน ฯ
๏ ขุนแผนรับพรของมารดา แล้วมาหาลาวทองเห็นหมองหม่น
ลูบหลังสั่งเสียด้วยทำวน จะก่นแต่ร้องไห้ทำไมน้อง
พี่ไปมิใช่จะทิ้งขว้าง แต่พอว่างก็จะมาหาถึงห้อง
ปลอบพลางทางชวนเจ้าลาวทอง จัดของเตรียมไว้จะไคลคลา
รุ่งเช้าขุนแผนตำรวจนั้น ก็พากันยกออกจากเคหา
ครั้นถึงสุพรรณทันเวลา ก็ตรงมายังเรือนเจ้าขุนช้าง ฯ
๏ พอขุนช้างเหลือบแลเห็นขุนแผน ลุกแล่นไปปิดประตูผาง
เข้ามากอดหมอนลงนอนคราง บอกนางวันทองด้วยตกใจ
ขุนแผนขึ้นมาที่บนเรือน เพื่อนพาตำรวจมาเป็นไหนไหน
เห็นจะเกิดถ้อยความลุกลามไป มิมีรับสั่งใช้ฤๅจึงมา ฯ
๏ ครานั้นวันทองครั้นได้ฟัง ละล้าละลังตกใจเป็นหนักหนา
จะทำฉันใดดีนะอกอา จะเอาหน้าฝากแฝงไว้แห่งไร
ถึงถ้อยลามความใหญ่ดังไฟเลีย ถ้าพอเสียเงินทองหาทุกข์ไม่
กลัวจะเกาะไปศาลรำคาญใจ จะคิดอยางไรเล่าเจ้าประคุณ
กรรมของเราแท้แม่วันทอง ถ้าเขาฟ้องแล้วเห็นจะเล่นวุ่น
เงินทองเท่าไรไม่คิดทุน เดชะบุญขอแต่ให้ได้ตัวน้อง
ลำพังพี่นี้จะด้านไปศาลหลวง นี่เป็นห่วงด้วยเจ้าจึงเศร้าหมอง
น้ำตาคลอกอดคอเจ้าวันทอง ตรองตรองแล้วขุนช้างลงครางฮือ ฯ
๏ ตำรวจร้องเรียกเร้าเจ้าช้างเถื่อน เข้าเรือนนอนนิ่งเสียแล้วฤๅ
ร้องเรียกเท่าไรก็ไม่อือ จะนิ่งดื้ออยู่ได้ฤๅไรนา
รับสั่งให้มาหาตัวไป จะพูดจาว่าไรก็ไม่ว่า
ไปเสียเห็นวันทันเวลา ถ้าช้าจะฉุดกันรุดไป
ขุนช้างเดือดดาลรำคาญอก ตัวสั่นงันงกจนเหงื่อไหล
ร้องตอบไปพลันในทันใด ข้าลุกนั่งไม่ได้เจ้าขรัวนาย
หมอว่าเป็นไข้สันนิบาต วันนี้ถึงฆาตในตอนบ่าย
เมื่อตะกี้แน่นิ่งไม่ติงกาย อย่าเพ่อวุ่นวายจะตั้งใจ
ตำรวจว่าเห็นนั่งอยู่ตะกี้ ปิดประตูลุกหนีแล้วปดได้
เมื่อไม่ออกมาก็แล้วไป จะไปดูข้างในให้เห็นตัว ฯ
๏ ขุนช้างตกใจสะกิดเมีย ลั่นดาลเข้าเสียแม่ทูนหัว
วันทองย่องมาขาสั่นรัว ชักหัวดาลลั่นเข้าทันใด ฯ
๏ ฝ่ายว่าขุนแผนตำรวจนั้น ลุกเข้ามาพลันหาช้าไม่
ผลักดูประตูไม่เปิดไป ขุนแผนเข้าใจว่าใส่กลอน
จึงเป่าคาถามหาสะเดาะ กลอนหลุดผลุดเผลาะดังคนถอน
กรูกันเข้าไปในที่นอน ขุนช้างฉวยหมอนขึ้นออกยักษ์
โยกตัวโคลงหัวว่าผีเข้า กูนี้เจ้าพระประแดงกำแพงหัก
เหลือกตายักคอหัวร่อคัก มึงรู้จักกูฤๅไม่ไอ้ขุนโรง
ตำรวจร้องชะเจ้าขุนช้าง ทำเล่นหลายอย่างอ้ายตายโหง
ขุนช้างลุกโลดโดดโกรงโกรง ด่าโผงซ้ำขู่กูจะหักคอ
อ้ายเหล่านี้มึงไปข้างไหนมา อุกอาจหนักหนาไม่กลัวพ่อ
ยักคิ้วหลิ่วตาทำหน้างอ ล้อพ่อเล่นอึงมึงต้องดี ฯ
๏ ขุนแผนแค้นใจดังไฟกาล จะใคร่ผลาญชีวิตให้เป็นผี
โกรธวันทองถ่อยพลอยกาลี มีดาบจะฟาดให้ขาดกลาง
ทำเป็นกลัวเจ้าจะหักคอ ต่อล้อโลดเล่นเต้นโผงผาง
ทำเหยียบม่านล้มพลาดขาดกลาง ปะเตะนางวันทองล้มควํ่าไป
วันทองล้มควํ่าคะมำจุก มือกดท้องลุกขึ้นไม่ได้
ขุนช้างตัวสั่นพรั่นตกใจ กอดเมียเข้าไว้ว่ากรรมกรรม ฯ
๏ ตำรวจถามว่าออกแล้วฤๅเจ้า ทำไมไม่เข้าไปยังคํ่า
นี่คลั่งไคล้ไข้ป่านัยน์ตาดำ ฤๅเลือดลมมันทำงกเงิ่นไป
บัดนี้รับสั่งให้เรามา หาตัวเข้าไปอย่าช้าได้
ด้วยบิดาของนายถวายไว้ ยังมิได้ใช้สอยราชการ
จะเอาไปฝึกสอนให้เข้าใจ นี่คิดอย่างไรทำงุ่นง่าน
ผีเข้าเจ้าออกหลอกลนลาน ออกยักษ์ออกมารอยู่วุ่นวาย ฯ
๏ ขุนช้างฟังไปมิใช่ฟ้อง หายใจทั่วท้องทุกข์ร้อนหาย
ถ้าแรกมารู้ว่าไม่วุ่นวาย เจ้านายท่านจะเข้าเราทำไม
จะเข้าเวรเกณฑ์ใช้ราชการ ข้าหาเกียจคร้านสักนิดไม่
สั่งเสียเมียพลันทันใด เรียกหาบ่าวไพร่ลงเรือนมา
ตำรวจขุนแผนกับขุนช้าง ตัดทางดั้นดัดลัดป่า
ครั้นถึงกรุงศรีอยุธยา ไปเข้าหาจมื่นศรีด้วยทันใด ฯ
๏ ครานั้นจมื่นศรีเสาวรักษ์ ถามทักพูดจาปราศรัย
บอกว่าพระองค์ผู้ทรงชัย รับสั่งให้ฝึกสอนทั้งสองคน
ถ้าทำราชการนานไป ใครตั้งใจให้ดีจะมีผล
ขุนช้างบอกลนลานดีฉานจน ขัดสนราชการไม่เข้าใจ
เคยแต่ตวาดควายอยู่ปลายนา เจ้านายนั้นหารู้จักไม่
เล่นแต่ไม้หึ่งอื้ออึงไป คุกคลานอย่างไรเจ้าขรัวนาย ฯ
๏ พระหมื่นศรีหัวร่ออยู่คากคาก วิบากสุดใจไอ้ฉิบหาย
สันทัดถนัดแต่เลี้ยงควาย เอ็งอย่าวุ่นวายไม่เป็นไร
ยังไม่เอาเข้าไปใช้สอยก่อน จะผันผ่อนสอนสั่งให้จำได้
ว่าแล้วเท่านั้นในทันใด ก็ฝึกสอนกันไปทุกเวลา
ขุนแผนนั้นสอนง่ายได้ดังใจ ขุนช้างจัญไรยากนักหนา
คุกคลานเข้าเฝ้าเหมือนเต่านา หลายวันมาจึงได้ไปใช้เวร
มหาดเล็กเขาล้อหัวร่อฮา ตั้งให้ไฉยาว่าขุนเถน
นานไปใช้สอยค่อยจัดเจน เข้าเวรร่วมกันทั้งสองรา ฯ
๏ ฝ่ายขุนเพชรขุนรามอินทรานั้น วันหนึ่งพากันมาพร้อมหน้า
ที่เรือนพระหมื่นศรีผู้ปรีชา จัดเหล้าข้าวปลามาเลี้ยงกัน
พระหมื่นศรีขุนเพชรขุนรามมา เป็นห้าทั้งขุนแผนขุนช้างนั่น
กินเหล้าเมาหราตาเป็นมัน รินเหล้าเกลือรันลงสาบาน
สารพัดสัตย์ซื่อต่อกันสิ้น กินเมาพูดโอ้ด้วยโวหาร
สร่างเมาเหล้าหมดก็สำราญ ต่างคนไปบ้านด้วยฉับพลัน ฯ
๏ จะกล่าวถึงลาวทองผ่องโสภา อยู่กับมารดาของผัวขวัญ
ล้มไข้เจียนตายมาหลายวัน มดหมอหากันมาวางยา
ไม่หายท่านยายก็ร้อนรน บวงบนเซ่นวักเป็นหนักหนา
แต่ประทังยังรอไม่มรณา ทองประศรีรักษาก็สุดใจ
จึงสั่งบ่าวพลันมิทันช้า ไปหาขุนแผนให้จงได้
บอกความให้รู้สูเร็วไว บ่าวยกมือไหว้ลงเรือนมา
ถึงเรือนพระหมื่นศรีที่นายอยู่ อ้ายอู๋จู่รีบขึ้นไปหา
บอกนายเร็วพลันมิทันช้า ตามในกิจจาทุกสิ่งไป ฯ
๏ ขุนแผนฟังบ่าวบอกข่าวน้อง ประหวั่นถึงลาวทองที่เป็นไข้
แล้วนิ่งระงับดับใจ ดูในฤกษ์ยามตามนาที
วันเสาร์ข้างเช้าเป็นยามจันทร์ ไข้นั้นหนักเจียนจะเป็นผี
แต่ยามจันทร์ท่านทายว่าคลายดี ผู้มาบอกนั่งที่ก็ไม่ร้าย
ผิดทั้งหลาวเหล็กราหูจร อยู่ข้างต้นศรว่าพลันหาย
ฤกษ์ยามตามตำราว่าไม่ตาย แต่แก้วตาจะกระวายกระวนใจ
เจ็บไข้ผัวมิได้อยู่เห็นหน้า ถึงสิบหมอจะรักษาหาเหมือนไม่
จะหมองมัวเพราะผัวนี้อยู่ไกล โรคภัยจึงได้กลุ้มรุมร้อน
วันนี้ก็เป็นวันเวรของตัวเรา จำจะฝากเวรเขาออกไปก่อน
คิดแล้วลุกมาด้วยอาวรณ์ นั่งถอนใจใหญ่ใกล้ขุนช้าง
เกลอเอ๋ยเมียข้าเป็นไข้เหนือ ล้นเหลือบ่าวบอกเห็นสุดอย่าง
จะขอฝากเวรไว้กับเกลอพลาง รับราชการต่างได้เอ็นดู
นานไปเบื้องหน้าถ้ามิตาย เราก็ลูกผู้ชายเห็นกันอยู่
เกลอมีที่ไปจึงใช้ตู รู้จักคุณกันจนวันตาย ฯ
๏ ขุนช้างรับว่าเออจะเป็นไร พอทำแทนกันได้ไม่ยากง่าย
ตามใจไปเถิดอย่าวุ่นวาย ขุนแผนบ่าวนายก็ออกมา
ถมปักพันพุงพะรุงพะรัง เซซังเดินตัดลัดป่า
ถึงเขาชนไก่มิได้ช้า ขึ้นบนเคหาด้วยทันใด
กราบกับบาทามารดาเล่า เมียเจ้าอยู่หลังนั้นล้มไข้
แม่บนบานมดหมอจนท้อใจ รักษามิใคร่จะบรรเทา ฯ
๏ ขุนแผนลุกลามาหาเมีย อย่าเสียใจผัวมาแล้วนะเจ้า
เนื้อหอมผอมร่างลงบางเบา ข้าวปลากินได้ฤๅไม่เลย
เด็กไปบอกรู้ก็รีบมา ใช่ว่าจะบิดเบือนเชือนเฉย
ผัวประคองลาวทองค่อยเสบย เงยหน้าแก้มนวลแต่ล้วนยา
แต่จะดับเสียไม่นับเวลาได้ น้องนี้รอใจไว้คอยท่า
ถ้าช้าไปหลายวันไม่กลับมา หยูกยาน้องไม่กินให้ขมคอ
เห็นหน้าหม่อมมาเหมือนหายไข้ ยิ่งกว่าได้พระอินทร์มาเป็นหมอ
ขุนแผนเอนตัวหัวร่องอ ประคองคอให้เจ้าผินมากินยา
รักษามาหลายวันก็พลันหาย ค่อยสบายคลายทุกข์เป็นสุขา
ขุนแผนนิ่งนึกตรึกตรา จะกลับไปอยุธยาในพรุ่งนี้
กลางคืนวันนั้นเข้านอนหลับ อยู่กับลาวทองผ่องศรี
สองราสุขเกษมเปรมปรีดิ์ มิได้คิดว่าจะมีซึ่งเหตุมา ฯ
๏ จะกล่าวถึงพระองค์ทรงธรณี เสด็จออกประทับที่ข้างฝ่ายหน้า
พร้อมด้วยอำมาตย์มาตยา ผาสุกสำราญหฤทัย
พอเห็นขุนช้างพลันมิทันช้า อ้ายขุนแผนนั้นหวามันไปไหน
ไม่ร่วมเวรเกณฑ์กันฤๅฉันใด อ้ายนี่ใช้สอยเรียบร้อยดี ฯ
๏ ครานั้นขุนช้างฟังรับสั่ง คิดถึงความหลังดังไฟจี้
ขุนแผนความแค้นของมันมี ถ้าได้ทีนานไปคงใส่กู
เอาวันทองของมันมาจากข้าง มันก็หมายจะล้างทำลายอยู่
กูจะผลาญชีวิตดังพิษงู ครู่เดียวให้ยับดังสับปลา
คิดแล้วยกข้อขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าไม่มุสา
เข้าเวรร่วมกันหลายวันมา เห็นบ่นถึงภรรยาอยู่ทุกวัน
วานนื้บอกว่าจะไปบ้าน เกล้ากระหม่อมทัดทานก็หุนหัน
ขู่รู่ด่าว่าสารพัน ครั้นดึกได้สักสามยามปลาย
ขุนแผนปีนข้ามกำแพงวัง โอหังหยาบช้าเป็นเหลือหลาย
หม่อมฉันว่าก็จะฆ่าเสียให้ตาย เห็นจะป่ายไปบ้านภรรยา ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบก็กริ้วเป็นหนักหนา
กระทืบพระบาทตวาดมา อ้ายนี่ตกว่าไม่เกรงใคร
อ้ายขุนช้างว่ากล่าวกลับห้าวหาญ บังอาจปีนปราการออกไปได้
โทษถึงฆ่าฟันให้บรรลัย เสียบหัวอย่าให้ดูเยี่ยงกัน
หากคิดนิดหนึ่งความชอบมี ถ้าหาไม่ชีวีจะอาสัญ
อีเมียอย่างไรไม่จากกัน ฤๅลอยมาแต่สวรรค์จึงลืมกลัว
เหวยราชามาตย์ไปบัดนี้ พาอีลาวทองมาจากผัว
อ้ายขุนแผนกูไม่ขอเห็นตัว มันทำชั่วให้อยู่กาญจน์บุรี
ให้คุมไพร่ไปเที่ยวตระเวนด่าน ต่อราชการเกิดศึกในกรุงศรี
จึงจะเกณฑ์มันให้ไปต่อตี แต่ไนราตรีจงรีบไป
ฝ่ายราชามาตย์ก็รับสั่ง ออกมาจากวังไม่ช้าได้
ขึ้นม้าพาพวกตำรวจใน ออกจากเวียงชัยในราตรี ฯ
๏ จะกล่าวถึงลาวทองผ่องโสภา ค่อยคลายโรคาที่หมองศรี
กลางคืนนอนแนบแอบสามี เปรมปรีดิ์จนหลับกับที่นอน
นางฝันว่ายักษ์ใหญ่เข้าในห้อง จับลาวทองมัดลากไปจากหมอน
ไปใส่กรงเหล็กไว้ให้อาวรณ์ เดือดร้อนทุกข์ทนทั้งตาปี
ในฝันนั้นว่าผัวตัวตามไป ก็ตกในเหวห้องคิรีศรี
ได้ความยากแค้นแสนทวี แล้วมีชายหนึ่งเรืองฤทธิไกร
มาอุ้มเจ้าลาวทองกับขุนแผน ออกจากแดนยักษ์ตรงมาส่งได้
สิ้นฝันพลันฟื้นตื่นตกใจ ปลุกปลอบผัวให้ทำนายพลัน ฯ
๏ ครานั้นขุนแผนแสนสนิท นิ่งคิดความน้องลาวทองฝัน
เอ๊ะฤกษ์ยามร้ายเข้าพร้อมกัน ในวันรุ่งพรุ่งนี้จะมีภัย
กูกับลาวทองจะต้องพราก เกิดกรรมวิบากขึ้นโตใหญ่
ต่อเนิ่นนานจะค่อยคลายสบายใจ จะมีผู้แก้ไขให้พบกัน
ครั้นจะทักทายว่าร้ายนัก กลัวลาวทองน้องรักจักโศกศัลย์
จึงบอกแชแก้ไขไปฉับพลัน ฝันนี้ไม่ร้ายไม่ดีนัก
เพราะธาตุแปรปรวนด้วยเป็นไข้ จึงฝันฟั่นเฟือนไปไม่ประจักษ์
พูดจากลบเกลื่อนเตือนเมียรัก ชวนชักพูดอื่นให้ชื่นใจ ฯ
๏ พระอาทิตย์เร่งรถมาเรื่อฟ้า แสงทองส่องหล้ากระจ่างไข
เสียงดุเหว่าเร่าร้องคะนองไพร เรไรหริ่งเรื่อยอยู่รวงรัง
พระพายพัดฮือกระพือกลิ่น ภุมรินบินวู่อยู่คับคั่ง
สะกิดเจ้าลาวทองชวนน้องฟัง วังเวงหวั่นหวาดวิเวกใจ
หนูกกจิ้งจกกระเจิงทัก แมลงมุมทุ่มทรวงอักหาหยุดไม่
วิปริตผิดนักตระหนักใจ ดังจะบอกเหตุให้ประจักษ์ตา
พอรุ่งตำรวจในก็ไปถึง ลงจากม้าหน้าบึ้งขึ้นเคหา
ขุนแผนพอเห็นตำรวจมา ดังใครควักชีวาออกจากกาย
แข็งใจไปหาราชามาตย์ ผู้คนเกลื่อนกลาดเป็นมากหลาย
ธุระสิ่งไรไปไหนนาย ฤๅเกิดการวุ่นวายศึกเสือมี ฯ
๏ ฝ่ายราชามาตย์ได้ฟังถาม บอกความขุนแผนเป็นถ้วนถี่
ขุนช้างกราบทูลพระพันปี ว่านายหนีปีนข้ามกำแพงมา
ขุนช้างว่าได้ขัดทัดทาน กลับห้าวหาญหุนหันจะฟันฆ่า
โทษนายถึงที่มรณา พระเมตตาว่าตีได้เชียงทอง
ห้ามเฝ้ามิให้เข้าไปวังใน สั่งให้พรากเมียเสียจากห้อง
เหตุเพราะว่าผัวตัวลำพอง เมียของท่านเราจะเอาไป ฯ
๏ ขุนแผนได้ฟังราชามาตย์ ไหวหวาดใจเย็นจะเป็นไข้
ลุกเข้าห้องพลันทันใด ทอดตัวในที่นอนถอนใจพลาง
มือซ้ายก่ายหน้าขวากอดน้อง นิจจาเจ้าลาวทองจะจากข้าง
ดังใครเอาดาบฟาดให้ขาดกลาง อ้ายขุนช้างฆ่าพี่ครั้งนี้แล้ว
เมื่อมาลาจากฝากเวรไว้ ช่างพิไรทูลพระจอมกระหม่อมแก้ว
ความผิดของพี่ไม่มีแวว มันเหมือนแร้วดักไว้ที่ในดง
พี่เหมือนนกผกผินบินอากาศ เพราะประมาทเสียเชิงกระเจิงหลง
จะหาร่มลมจัดบินลัดลง จำเพาะตรงเข้าแร้วที่ราวี
สำคัญว่ากิ่งไม้มิใช่แร้ว ต้องติดตีนดิ้นแด่วจนเป็นผี
ทรงพระโกรธคาดโทษถึงชีวี นี่หากมีความชอบแต่ก่อนมา
จึงยกไว้ให้เอาแต่เจ้าไป โอ้ที่ไหนตายเป็นจะเห็นหน้า
สุดจิตรสุดใจไกลแก้วตา สุดปัญญาพี่แล้วเจ้าลาวทอง ฯ
๏ ลาวทองน้องรักประจักษ์จิตร ดังคมกฤชกรีดทรวงออกเป็นสอง
สะอื้นออกปากว่าน้ำตานอง พ่อครองเมียอยู่ไม่ถึงปี
จะจากอกเหมือนตกเมรุมาศ จะกลิ้งตายกายขาดลงเป็นผี
กระดูกเย็นเช่นผงเถ้าธุลี สิ้นสีทินกรไม่ผ่อนทุกข์
เดือนแรมน้องจะแรมไปตามเดือน เดือนขึ้นฟั่นเฟือนไม่มีสุข
จนสิ้นมิคสัญญีกลียุค จะเฝ้าปลุกปลํ้าโศกไม่เคลื่อนคลาย
โอ้กรรมใดหนอมาดลจิตร สองคิดเคืองขุ่นไม่สูญหาย
ถ้าศึกเสือมาล้างให้วางวาย ถึงจะตายนํ้าใจไม่ย่อท้อ
น้อยใจเวรใดมาดลจิตร ให้หม่อมพลายวายคิดที่แค้นหนอ
มันคนผิดมาแต่หลังยังรั้งรอ ในใจคอพ่อไม่เห็นว่ากฤชคด
ทั้งวันทองห้องหอก็หาญหัก ชิงรักริบรวบเอาจนหมด
ดังแมลงป่องหางงอนช้อนชด บอกพยศกูนี้ไม่มีตรง
พ่อยังไปไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนพ่อเปิดช่องให้สมประสงค์
ทางเตียนฤๅไปเวียนเข้าในดง ต่อเดินหลงแล้วจึงรู้ว่าผิดทาง
เข้าตาจนเพราะผลแห่งความสัตย์ เมียจะต้องพรากพลัดไปห่างข้าง
แสนระทมกรมใจร้องไห้พลาง กลิ้งกลางห้องไห้ไม่สมประดี ฯ
๏ ขุนแผนผินปลอบประโลมขวัญ จะไกลกันไปแล้วนะแก้วพี่
พลัดแก้วแววตาด้วยปรานี เพราะพี่มาเป็นเหตุให้จำไกล
รักเมียเหมือนชักให้รักร้าง ดังพี่ขว้างเจ้าลงทะเลใหญ่
น้องเอ๋ยผลกรรมเราทำไว้ จะร้องไห้ไปจนเลือดตากระเด็น
อกพี่อกน้องจะพองพัง ใครจะหยั่งในทรวงมาล่วงเห็น
รักษาตัวเถิดนะเจ้าทุกเช้าเย็น เช่นชั่วฉันใดอย่าได้ทำ
เดชะบุญเราสร้างแต่ปางก่อน คงมีวันผันผ่อนที่ครวญครํ่า
สิ่งดีมีอยู่เจ้าจงจำ ทนกรรมไปกว่าจะบรรเทา
ท่านผูใดเป็นใหญ่ใช้สอยน้อง จงปรองดองฝากตัวกลัวเกรงเขา
ปากคอรู้จักที่หนักเบา ถือเอาแต่สัตย์เป็นประมาณ
อย่าโศกาช้านักก็ไม่ได้ ตำรวจในเขาจะรีบไปจากบ้าน
จัดของข้าวแล้วมิทันนาน ไปหาท่านมารดาทั้งผัวเมีย
กราบกับบาทาน้ำตาหลั่ง รับสั่งให้พรากลาวทองเสีย
เกิดเหตุเภทภัยดังไฟเลีย ต้องพรากเมียครั้งนี้เพราะขุนช้าง
ลาวทองจะต้องไปอยู่วัง เล่าให้แม่ฟังสิ้นทุกอย่าง
ลาวทองร้องไห้พิไรพลาง แต่ลูกร้างแรมจากเชียงทองมา
พ่อแม่อยู่ไกลได้พึ่งคุณแม่ เผื่อแผ่ให้ลูกเป็นสุขา
ปรานีลูกนี้แต่วันมา หวังว่าจะแทนพระคุณทำ
เมื่อคราวลูกเกิดเข็ญเป็นไข้ ก็อาศัยคุณแม่ทุกเช้าค่ำ
รักษาหยูกยาอุตส่าห์ทำ หยอดข้าวน้ำปลอบลูกให้คลายใจ
ถึงกะไรให้ได้แทนพระคุณบ้าง นี่มาร้างตายเป็นหาเห็นไม่
ต่างมีต่างจนต่างคนไกล จะได้เห็นมารดาเวลาเดียว ฯ
๏ ทองประศรีสงสารรำคาญใจ น้ำตาไหลรินรํ่าดังน้ำเชี่ยว
ชะเนื้อกรรมนำชักไปจริงเจียว แม่จะเหลียวเห็นใครเหมือนลาวทอง
ไม่แง่งอนสอนได้เหมือนใจแม่ โอ้จะแลหายลับทุกหับห้อง
กอดลูกโศกาน้ำตานอง แม่หมายปองจะให้เจ้าเผามารดา
จะลับลี้หนีไปมิได้เผา จะไกลเจ้าเช้าเย็นไม่เห็นหน้า
ถ้าอยู่ไปหลายเดือนเขาเคลื่อนคลา จงมาหาแม่บ้างให้คลายใจ
จึงนับเงินออกให้ไปสามชั่ง หมดแล้วทีหลังมาเอาใหม่
อีสีอีสาอย่าช้าไว นางเวียงเป็นผู้ใหญ่กับนางวัน
ไปกับลูกข้าเป็นห้าคน ผ่อนปรนอย่ารังเกียจเดียดฉันท์
ลุกออกมาว่ากับตำรวจพลัน นายทั่นเมตตาได้ปรานี
เป็นลาวชาวไพรไม่รู้การ ผิดชอบว่าขานแต่ควรที่
ราชามาตย์ตอบไปเป็นไรมี ขุนแผนนี้กับข้าก็ชอบกัน
ค่อยอยู่เถิดหนาช้าไม่ได้ ว่าแล้วลุกไปขมีขมัน
ลาวทองกราบลามารดาพลัน สะอื้นอั้นหันมาลาสามี
ยิ่งแข็งใจไหวหวั่นยิ่งพรั่นจิตร ดังเหยียบแผ่นดินผิดถล่มหนี
ขุนแผนแสนชํ้าระกำทวี ลาวทองโศกีสะอื้นไป
สงสารตัวสงสารผัวสงสารบ้าน สงสารท่านมารดาน้ำตาไหล
สงสารสวนหวนหอมสุมาลัย สงสารทั้งข้าไทสงสารกัน
ขุนแผนแสนโศกสงสารน้อง สงสารห้องฟูกหมอนที่นอนนั่น
แต่แลแลลับไปเข้าไพรวัน หันหับห้องร้องไห้ในที่นอน ฯ
๏ ฝ่ายราชามาตย์มากลางทาง ลาวทองขี่ช้างสะอื้นอ้อน
สองวันคืนหนึ่งถึงพระนคร บ่าวไสช้างย้อนมาบ้านพลัน
ราชามาตย์ก็เข้าไปในวัง ลาวทองตามหลังขมีขมัน
พาเข้าเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ผินผันพระพักตร์ชำเลืองมา
เอออีนี่ฤๅเมียอ้ายขุนแผน ดูอ้อนแอ้นเอวกลมสมหน้า
ผ่องผิวคิ้วคางสำอางตา ติดจะเคียงเข้ามากับเด็กกู
กระนี้ฤๅอ้ายขุนแผนจะละเลย ปีนกำแพงแรงเตยไม่หยุดอยู่
เจ้าขรัวนายจงหมายสั่งประตู คอยดูอย่าให้ออกไปนอกวัง
ให้เป็นชาวสะดึงกรึงไหม เจ้าขรัวนายผู้ใหญ่ก็รับสั่ง
ให้ลาวทองอยู่ทิมที่ริมคลัง ปักสะดึงกรึงนั่งทุกเวลา
เย็นเช้าเฝ้ารำพึงถึงแต่ผัว ราชการงานตัวก็แน่นหนา
ฝากตัวเจ้าขรัวนายทั้งหลายมา อุตส่าห์เจียมตัวกลัวโทษกรณ์ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ