๑
๏ พระราชพงษาวดารพิศดาร ตั้งแต่พระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยา เล่ม ๑
๏ ศุภมัศดุศักราช ๗๑๒ ปีขานโทศก, วันศุกร์เดือนห้าขึ้นหกค่ำเพลาสามนาลิกาเก้าบาท, สถาปนากรุงพระมหานครศรีอยุทธยา ชีพ่อพราหมณ์ให้ฤกษ์ตังพิธีกลปบาต, ได้สังขทักษิณวัฏใต้ต้นหมันขอนหนึ่ง. แลสร้างพระที่นั่งไพฑูริย์มหาปราสาทองค์หนึ่ง, สร้างพระที่นั่งไพชยศต์มหาปราสาทองค์หนึ่ง, สร้างพระที่นั่งไอยสวรรย์มหาปราสาทองค์หนึ่ง. แล้วพระเจ้าอู่ทองเสดจ์เข้ามาครองราชสมบัติ. ชีพ่อพราหมณ์ถวายพระนามว่าสมเดจ์พระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว, กรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์. จึ่งให้สมเดจ์พระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรขึ้นไปครองราชสมบัติในเมืองลพบุรี. ครั้งนั้นพระยาประเทษราชขึ้น ๑๖ เมือง, คือเมืองมลากา, เมืองชวา, เมืองตนาวศรี, เมืองนครศรีธรรมราช, เมืองทวาย, เมืองเมาะตมะ, เมืองเมาะลำเลิ่ง เมืองสงขลา, เมืองจันทบุรี, เมืองพิศณุโลกย์, เมืองศุโขไทย, เมืองพิไชย, เมืองสวรรคโลกย์, เมืองพิจิตร, เมืองกำแพงเพชร, เมืองนครสวรรค์ แล้วให้ขึ้นไปเชิญสมเดจ์พระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรลงมาแต่เมืองลพบุรี ทรงพระกรุณาตรัสว่า ขอมแปรภักตร์จะให้ออกไปกระทำเสีย. พระราเมศวรได้ฤกษ์ยกพลห้าพัน, ไปถึงกรุงกัมพูชาธิบดีเพลาพลบค่ำ. พระยาอุปราชราชบุตรพระเจ้ากัมพูชาธิบดีทูลว่า, ทัพเจ้าซึ่งยกมาเลื่อยล้าอยู่,ยังมิได้พร้อมมูล, จะขอออกโจมทัพ พระเจ้ากัมพูชาธิบดีเหนด้วย. พระยาอุปราชก็ออกโจมทัพ,ทัพน่ายังไม่ทันตั้งค่าย, ก็แตกฉานมาประทะทัพหลวง, เสียพระศรีสวัสดิ์แก่ชาวกัมพูชาธิบดี, มีข่าวเข้ามาถึงพระนคร. มีพระราชโองการให้ขุนตำรวจออกไปอัญเชิญ, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้า, ผู้เปนพระเชษฐาอยู่ณเมืองสุพรรณบุรี. ครั้นเสดจ์เข้ามาถึงพระนครแล้ว, พระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า, ให้อัญเชิญท่านออกไปช่วยหลานท่าน. สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้า, จึ่งยกทัพรีบออกไปถึงกรุงกัมพูชาธิบดี, ได้รบเอาไชยชำนะได้, ให้กวาดเข้าถ่ายครัวชาวกัมพูชาธิบดี, เข้าในพระนครเปนอันมาก ๚ะ
๏ ศักราช ๗๑๕ ปีมเสงเบญจศก, วันพฤหัศเดือนสี่ขึ้นค่ำหนึ่ง เพลาสองนาลิกาห้าบาท, ทรงพระกรุณาตรัศว่า, ที่ตำหนักเวียงเล็กนั้นให้สฐาปนาพระวิหาร, แลพระมหาธาตุเปนพระอารามแล้ว, ให้นามชื่อวัดพุทไธยสวรรค์ ม้าขุนสุวรรณพินิจไจยตกลูกศีศะเดียว, ตัวเปนสองตัวแปดเท้าชิงศีศะกัน. ไก่พระศรีมโหสถ, ฟักฟองตกลูกตัวเดียวสองศีศะ ๚ะ
๏ ศักราช ๗๒๕ ปีเถาะเบญจศก, ทรงพระกรุณาตรัสว่า, เจ้าแก้วเจ้าไทยออกอหิวาตกะโรคตาย, ให้ขุดขึ้นเผาเสีย, ที่ปลงสพนั้น, ให้สฐาปนาพระเจดีย์แลพระวิหารเปนพระอารามแล้ว, ให้นามชื่อว่าวัดป่าแก้ว ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินสมเดจ์พระราเมศวร ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๑ ปีระกาเอกศก, สมเดจ์พระรามาธิบดีเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๒๐ ปี สมเดจ์พระราเมศวรเสด็จมาจากเมืองลพบุรี, ขึ้นครองราชสมบัติ ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินสมเดจ์พระบรมราชาธิราช ๚ะ
๏ ครั้นถึงศักราช ๗๓๒ ปีจอ โทศก, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้า, เข้ามาแต่เมืองสุพรรณบุรี. เสนาบดีกราบทูลว่า, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จเข้ามา, สมเดจ์พระราเมศวรก็ออกไปอัญเชิญเสดจ์, เข้ามาพระนครถวายราชสมบัติ, แล้วถวายบังคมลากลับขึ้นไปลพบุรีดั่งเก่า ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๓ ปีกุนตรีศก, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้า, เสดจ์ไปเอาเมืองฝ่ายเหนือแลได้เมืองเหนือทั้งปวง. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๔ ปีชวดจัตวาศก, เสดจ์ไปเอาเมืองนครพังคาแลเมืองแซงเทรา. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๕ ปีฉลูเบญจศก, เสด็จไปเอาเมืองชากังราว, แลพะยาไชยแก้ว พระยากำแหงเจ้าเมือง, ออกต่อรบท่าน ๆ ได้ตัวพระยาไชยแก้วตาย, แต่พระยากำแหงแลไพร่พลทั้งปวงหนีเข้าเมืองได้, ทัพหลวงก็เสด็จกลับคืนมาพระนคร. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๖ ปีขานฉศก สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าพระมหาเถรธรรมกัลญาณ, แรกสฐาปนาพระศรีรัตนมหาธาตุฝ่ายบูรพทิศ, น่าพระบรรชั้นสิงสูง ๑๙ วา ยอดนพสูญสูง ๓ วา. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๗ ปีเถาะสัปตศก, เสดจ์ไปเอาเมืองพระพิศณุโลกย, แลได้ตัวขุนสามแก้วเจ้าเมือง, กวาดครัวอพยบมาครั้งนั้นมาก ๚ะ
๏ ศักราช ๗๓๘ ปีมโรงอัฐศก, เสดจ์ไปเอาเมืองชากังราวได้พระยากำแหง แล้วท้าวผากองคิดกันว่าจะยกตีทัพหลวง, ครั้นทำมิได้ท้าวผากองเลิกทัพหนี, เสด็จยกทัพหลวงตามตีทัพท้าวผากองแตก, ได้ท้าวพระยาเสนาขุนหมื่นครั้งนั้นมาก, แล้วทัพหลวงเสด็จกลับคืนพระนคร. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๔๐ ปีมเมียสัมฤทธิศก, ไปเอาเมืองชากังราวเล่า, ครั้งนั้นมหาธรรมราชาออกมาถวายบังคม. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๔๒ ปีวอกโทศก เสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่, แลให้เข้าปล้นเมืองนครลำปางมิได้, จึงแต่งหนังสือให้เข้าไป. หมื่นนครให้เจ้าเมืองนครลำปางออกมาถวายบังคม, แล้วทัพหลวงเสด็จกลับคืนพระนคร ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินพระเจ้าท้องลั่น, แลสมเดจ์พระราเมศวรจับฆ่าเสีย ๚ะ
๏ ศักราช ๗๔๔ ปีจอจัตวาศก, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๑๓ ปี, จึงเจ้าท้องลั่นราชกุมารขึ้นครองราชสมบัติได้เจ็ดวัน. สมเด็จพระราเมศวรเสดจ์ลงมาแต่เมืองลพบุรี, เข้าในพระราชวังกุมเอาตัวเจ้าทองลั่นได้ให้พิฆาฎเสียณวัดโคกพระยา. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๔๖ ปีชวดฉศก, สมเดจ์พระราเมศวรให้เลียบพลไว้ยกขึ้นไปเมืองเชียงใหม่, ตั้งค่ายหลวงใกล้คูเมือง ๑๕๐ เส้น, ให้นายทัพนายกองตั้งค่ายล้อมแลแต่งการปล้นเอาจงได้ฝ่ายเจ้าน่าที่ยิงปืนใหญ่ออกมาถูกกำแพงเมืองพังประมาณห้าวา, พระเจ้าเชียงใหม่ขึ้นยืนถือพัชนีอยู่บนเชิงเทินให้ทหารเอาหนังสือผูกลูกธนูยิงลงมา. ในหนังสือนั้นว่าฃอพระราชทานให้งดสักเจ็ดวัน, จะนำเครื่องพระราชบรรณาการออกไปจำเริญพระราชไมตรี. พระเจ้าอยู่หัวจึ่งปฤกษาด้วยมุขมนตรีว่า, พระเจ้าเชียงใหม่ให้มีหนังสือออกมาดั่งนี้ควรจะให้งดไว้หรือประการใด. มุขมนตรีนายทัพนายกองปฤกษาว่า, เกลือกพระเจ้าเชียงใหม่จะเตรียมการมิทันจึ่งคิดกลอุบายมา, ฃอพระราชทานให้ปล้นเอาเมืองจงได้. สมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า,เปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่เขาไม่รบแล้วเราจะให้รบนั้นมิควร, ถึงมาทว่าพระเจ้าเชียงไหม่จะมิได้คงอยู่ในสัตยานุสัตยก็ดี, ใช่ว่าจะพ้นมือทหารเรานั้นเมื่อไรมี. ฝ่ายในเมืองเชียงใหม่นั้นก็ดีแตะบังที่กำแพงทะลายแล้วนั้นให้ก่อขึ้น ครั้นท่วนเจ็ดวันแล้ว พระเจ้าเชียงใหม่มิได้แต่งเครื่องจำเริญพระราชไมตรีออกมา,นายทัพนายกองข้าทหารร้องทุกขว่า, เข้าในกองทัพทนานละสิบสลึงหาที่ซื้อมิได้ จะขอพระราชทานเร่งปล้น.พระเจ้าอยู่หัวบัญชาตามนายทัพนายกอง. ทรงพระกรุณาสั่งให้เลิกกองทัพเสียด้านหนึ่ง,ให้เร่งปล้นณวันจันทร์เดือนสี่ขึ้นสี่ค่ำ. เพลาสามทุ่มสองบาทเดือนตก, เจ้าพนักงานยิงปืนใหญ่น้อยระดมทั้งสามด้าน, เอาบันไดหกพาดปีนกำแพงขึ้นไป. พระเจ้าเชียงใหม่ต้านทานมิได้ ก็ภาครัวอพยบหนีออกเพลา ๑๑ ทุ่มทหารเข้าเมืองได้, ได้แต่นักส้างบุตรพระเจ้าเชียงใหม่องค์หนึ่งมาถวาย.พระเจ้าอยู่หัวตรัสต่อนักส้างว่า, พระเจ้าเชียงใหม่บิดาท่านหาสัจมิได้, เราคิดว่าจะออกมาหาเราโดยสัจเราจะให้ครองราชสมบัติ. ตรัสดั่งนั้นแล้วก็ให้นักส้างถวายสัตยานุสัตย. พระเจ้าอยู่หัวก็ให้แบ่งไพร่พลเมืองไว้ภอสมควร, เหลือนั้นให้กวาดครัวอพยบหญิงชายลงมา, ให้นักส้างลงมาส่งเสดจ์ถึงเมืองสว่างคบุรี. ทรงพระกรุณาให้นักส้างกลับขึ้นไปครองราชสมบัติณเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จยังในเมืองพิศณุโลกย, นมัศการพระชินราชชินสีหเปลื้องเครื่องต้นถวายทรงสการบูชาสมโภชเจ็ดวัน, แล้วเสด็จลงมาพระนคร แลลาวซึ่งต้อนลงมานั้นให้ส่งไปไว้เมืองพัทลุง, เมืองสงขลา, เมืองนครศรีธรรมราช, เมืองจันทบุรี, แล้วเสด็จออกทรงศีลยังพระที่นั่งมังคลาภิเศก, เพลา ๑๐ ทุ่มทอดพระเนตรไปโดยฝ่ายทิศบูรพ, เหนพระสาริริกบรมธาตุปราฏิหาร, เรียกปลัดวังให้เอาพระราชยานทรงเสด็จออกไป, ให้กรุยปักขึ้นไว้สฐาปนาพระมหาธาตุนั้นสูง ๑๙ วา ยอดนพสูญสูงสามวา. แล้วขนานนามให้ชื่อวัดมหาธาตุ, แลให้ทำพระราชพิธีประเวศน์พระนครแลเฉลิมพระราชมณเฑียร. ขณะนั้นพระยากัมพูชายกเข้ามาถึงเมืองชลบุรี, กวาดครัวอพยบหญิงชายในเมืองชลบุรีแลเมืองจันทบุรี, คนประมาณหกพันเจ็ดพันกลับไปเมืองกัมพูชาธิบดี. สมเดจ์พระพุทธเจ้าอยู่หัวให้พระยาไชยณรงค์เปนทัพน่า, ยกไปถึงตภานแยก, ชาวกัมพูชาออกมาตีทัพพระยาไชยณรงค์, ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ, พระยากัมพูชาก็แตกฉาน. พระเจ้าอยู่หัวให้ตั้งค่ายประจำอยู่สามวัน, แล้วยกเข้าตีแตกฉานเข้าเมืองได้ พระยากัมพูชาลงเรือหนี. พระเจ้าอยู่หัวลงจากช้างให้ยิงปืนนกสับลงไปต้องม่อดินเปนเพลิงลุกขึ้น. พระยากัมพูชาหนีไปรอด. จับได้แต่พระยาอุปราชบุตรพระยากัมพูชา. ให้พระยาไชยณรงค์อยู่เมืองกำพูชาไว้คนห้าพัน, พระเจ้าอยู่หัวเสดจ์คืนพระนครศรีอยุทธยา. ครั้นอยู่มาญวนยกมารบ, ถ้ามาน้อยชาวกัมพูชาเปนใจรบ, ถ้ามามากก็เรรวนไป. พระยาไชยณรงค์บอกหนังสือมากราบทูล. สมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวให้มีหนังสือตอบไป, ให้กวาดครัวอพยบยกมาถึงพระนครแล้ว, ให้ทำพระราชพิธีประเวศน์พระนคร, แล้วปูนบำเน็จรางวัลนายทัพนายกอง. ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินพระเจ้าราม, แลสมเดจ์พระอินทราชา ๚ะ
๏ ศักราช ๗๔๙ ปีเถาะนพศก, สฐาปนาวัดภูเขาทอง, เพลาเย็นเสด็จไป ณพระที่นั่งมังคลาภิเศก ท้าวมณเฑียรซึ่งถึงอนิจกรรมแต่ก่อนนั้นมา, นั่งขวางทางเสดจ์อยู่แล้วแลหายไป. สมเดจ์พระราเมศวรบรมบพิตรก็เสด็จสวรรคต, อยู่ในราชสมบัติหกปี. จึ่งพระยารามผู้เปนพระราชบุตรได้ครองราชสมบัติได้ห้าปี, สมเดจ์พระยารามเจ้ามีความพิโรธแก่เจ้าพระยามหาเสนาบดี, ดำรัศสั่งให้กุมเอาตัวไป, เจ้าพระยามหาเสนาบดีหนีรอดไปอยู่ฟากปะทาคูจาม. จึ่งให้เชิญเสด็จสมเดจ์พระอินทราชา ณเมืองสุพรรณบุรีเสด็จเข้ามาถึง, จึ่งเจ้าพระยามหาเสนาบดียกเข้าปล้นเอาพระนครศรีอยุทธยาได้, จึ่งเชิญสมเดจ์พระอินทราชาขึ้นครองราชสมบัติในศักราช ๗๖๓ ปีมเสงตรีศก, ให้สมเดจ์พระยารามไปกินเมืองปะทาคูจาม, แล้วพระราชทานเปนบำเน็จแก่เจ้าพระยามหาเสนาบดี, บุตรพระสนมองค์หนึ่ง, เจียดทองคู่หนึ่ง ภานทองคู่หนึ่งเต้านำทอง, กระบี่กั้นหยั่นเสลี่ยงงาเสลี่ยงกลีบบัว ๚ะ
๏ ศักราช ๗๖๕ ปีมแมเบญจศก, มีข่าวพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าเมืองพิศณุโลกย์เสด็จสวรรคต, แลเมืองเหนือทั้งปวงเปนจลาจล, จึ่งเสด็จขึ้นไปถึงเมืองพระบางพระยาบาลเมือง พระยารามออกมาถวายบังคม, พระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จกลับยังพระนคร, แล้วจึ่งให้สมเดจ์พระเจ้าลูกเธออ้ายพระยาครองเมืองสูพรรณบุรี, เจ้ายี่พระยาครองเมืองแพรกศรีราชา, เจ้าสามพระยาครองเมืองไชยนาท. ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินสมเดจ์พระบรมราชาธิราช ๚ะ
๏ ศักราช ๗๘๐ ปีจอสัมฤทธิศก, สมเดจ์พระอินทราชาเสด็จสวรรคตอยู่ในราชสมบัติ ๑๕ ปี, เจ้าอ้ายพระยา, เจ้ายี่พระยายกเข้ามาชิงราชสมบัติแก่กัน, เจ้าอ้ายพระยามาตั้งอยู่ดํตำบลป่ามพร้าวณวัดพลับพลาไชย, เจ้ายี่พระยามาตั้ง ณวัดไชยภูม, จะเข้าทางตลาดเจ้าพรม, ช้างต้นมาปะทะกันเข้าที่เชิงตะภานป่าถ่าน, ทั้งสองพระองค์ทรงพระแสงของ้าวต้องพระสอขาดพร้อมกันทั้งสองพระองค์. มุขมนตรีออกไปเฝ้าเจ้าสามพระยา, ทูลอาการซึ่งพระเชษฐาธิราชขาดฅอช้างทั้งสองพระองค์, แล้วเชิญเสด็จเข้ามาในพระนครครองราชสมบัติ, ทรงพระนามชื่อสมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้า, จึ่งมีพระราชดำรัศให้ขุดพระสพเจ้าอ้ายพระยา, เจ้ายี่พระยาไปถวายพระเพลิง, ที่ถวายพระเพลิงนั้นให้สฐาปนาพระมหาธาตุแลวิหารเปนพระอารามแล้ว, ให้นามชื่อวัดราชบุรณะที่เจ้าอ้ายพระยา, เจ้ายี่พระยาชนช้างกันถึงทิวงคตนั้น, ให้ก่อพระเจดีย์สองพระองค์ไว้ที่เชิงตะภานป่าถ่าน. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๘๓ ปีฉลูตรีศก สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเอาเมืองนครหลวงได้, จึ่งให้พระราชบุตรอยู่ครองเมือง, พระนครอินทเจ้าครองราชสมบัติ ณเมืองพระนครหลวง, ท่านจึ่งให้เอาพระยาแก้วพระยาไทยแลครอบครัวกับทั้งรูปพระโครูปลิงสัตวทั้งปวงมาด้วย, ครั้นถึงพระนครศรีอยุทธยา, จึ่งให้เอารูปสัตวทั้งปวงไปบูชาไว้ ณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุบ้าง, ไปไว้วัดพระศรีสรรเพชบ้าง. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๘๖ ปีมโรง ฉศก, สมเดจพระบรมราชาธิราชเจ้าสร้างวัดมเหยงคณ์, สมเดจ์พระราเมศรรผู้เปนพระราชกุมาร, เสด็จไปเมือง, พิศณุโลกย์. ครั้งนั้นเหนน้ำพระเนตรพระพุทธซินราชตกออกเปนโลหิต. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๘๘ ปีมเมียอัฐศก, ครั้งนั้นเกิดเพลิงไหม้พระราชมณเฑียรสถาน. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๘๙ ปีมแมนพศก, ครั้งนั้นเกิดเพลิงไหม้พระที่นั่งตรีมุข. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๙๐ ปีวอกสัมฤทธิศก สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่ แลเข้าปล้นเมืองมิได้ ภอทรงพระประชวรทัพหลวงเสด็จกลับคืน. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๙๒ ปีจอโทศก, เสด็จขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง, แลตั้งทัพหลวงตำบลท้ายเกษม, ครั้งนั้นได้ชเลยแสนสองหมื่น, ทัพหลวงเสด็จกลับคืน. ๚ะ
----------------------------
๏ แผ่นดินพระบรมไตรโลกย์นาถเจ้า. ๚ะ
๏ ศักราช ๗๙๖ ปีขานฉศก, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าเสดจ์สวรรคต, อยู่ในราชสมบัติ ๑๖ ปี. สมเดจ์พระราเมศวรผู้เปนพระราชกุมาร, ขึ้นครองราชสมบัติ, ทรงพระนามชื่อพระบรมไตรโลกย์นารถ, ยกวังทำเปนวัดพระศรีสรรเพช. เสดจ์ลงไปตั้งพระราชนิเวศน์ประทับอยู่ริมน้ำ, จึ่งให้สร้างพระที่นั่งเบญจรัตนมหาปราสาทองค์หนึ่ง, สร้างพระที่นั่งสรรเพชปราสาทองค์หนึ่ง, แล้วพระราชทานชื่อขุนนางตำแหน่งนา, ให้เอาทหารเปนสมุหพระกลาโหม. เอาพลเรือนเปนสมุหนายก. เอาขุนเมืองเปนพระนครบาลเมือง. เอาขุนวังเปนพระธรรมาธิกรณ์. เอาขุนนาเปนพระเกษตรา. เอาขุนคลังเปนโกษาธิบดี. ถือศักดิ์นาหมื่นหนึ่ง. แลที่ถวายพระเพลิงสมเดจ์พระเจ้ารามาธิบดี, ที่พระองค์สร้างกรุงนั้น. ให้สฐาปนาพระมหาธาตุ, แลพระวิหารเปนพระอาราม, แล้วให้นามชื่อวัดพระราม. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๒ ปีวอกโทศก, ครั้งนั้นคนออกทรพิศม์ตายมากนัก. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๓ ปีรกาตรีศก, แต่งทัพไปเอาเมืองมลากา. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๔ ปีจอจัตวาศก, แต่งทัพไปเอาเมืองศีสพเถิน, ครั้งนั้นเสดจ์หนุนทัพขึ้นไป, ตั้งทัพหลวงตำบลบ้านโคน. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๕ ปีกุนเบญจศก, เข้าเปลือกแพงเปนทนานละ ๘๐๐เบี้ย, เบี้ยเพื้องละแปดร้อยเบี้ย, เกวียนหนึ่งเปนเงินสามชั่งกับสิบบาท. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๖ ปีชวดฉศก, ให้บำรุงพระพุทธสาศนาบริบูรณ์, แลหล่อรูปพระโพธิสัตว ๕๕๐ พระชาติ. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๘ ปีขานอัฐศก, เล่นการมโหรสพฉลองพระแลพระราชทานสมณชีพราหมณ์, แลวรรณิภกทั้งปวง. ครั้งนั้นพระยาชะเลียงคิดกระบถ, ภาครัวทั้งปวงไปแต่มหาราช, ๚ะ
๏ ศักราช ๘๐๙ ปีเถาะนพศก, พระยาชะเลี่ยงนำมหาราชมาเอาเมืองพระพิศณุโลกย์, เข้าปล้นเมืองเปนสามารถมิได้. จึ่งยกทัพไปเอาเมืองกำแพงเพชร์, เข้าปล้นเมืองถึงเจ็ดวันมิได้. สมเดจ์พระบรมไตรยโลกย์นารถเจ้า, แลสมเดจ์พระอินทราชา, เสด็จขึ้นไปช่วยเมืองกำแพงเพชร์ทัน. แลสมเดจ์พระอินทราชาเจ้า, ตีทัพพระยาเกียรติ์แตก. ทัพท่านมาปะทะทัพหมื่นนครได้ชนช้างด้วยหมื่นนคร. แลข้าศึกลาวทั้งสี่ช้าง, เข้ารุมเอาช้างพระที่นั่งช้างเดียว. ครั้งนั้นพระอินทราชาเจ้าต้องปืน ณพระภักตร์, ทัพมหาราชนั้นเลิกกลับคืนไป. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๐ ปีมโรงสัมฤทธิศก, สมเดจ์พระบรมไตรยโลกย์นารถเจ้า, สร้างพระวิหารวัดจุฬามณี. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๑ ปีมเสงเอกศก, สมเดจ์พระบรมไตรยโลกย์นาถเจ้า, ทรงผนวชณวัดจุฬามณีได้แปดเดือน, แล้วลาผนวช. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๓ ปีมแมตรีศก, ครั้งนั้นท้าวมหาบุญชิงเมืองเชียงใหม่กันแก่ท้าวลูก. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๕ ปีรกาเบญจศก, สมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวได้ช้างเผือก. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๖ ปีจอฉศก, สมภพพระราชโอรสท่าน. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๑๘ ปีชวดอัฐศก, เสด็จไปเมืองชะเลี่ยง. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๑ ปีเถาะเอกศก, แรกตั้งเมืองนครไทย ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๒ ปีมโรงโทศก, พระสีหราชเดโชถึงแก่กรรม ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๔ ปีมเมียจัตวาศก, พระยาล้านช้างถึงแก่กรรม. พระราชทานให้อภิเศกพระยาชาวขวา, เปนพระยาล้านช้าง. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๖ ปีวอกฉศก, ทรงพระกรุณาให้เล่นการมโหรสพ, ฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุ ๑๕ วัน. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๘ ปีจออัฐศก, พระบรมราชาผู้เปนพระโอรสทรงผนวช. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๒๙ ปีกุนนพศก, สมเดจ์พระราชโอรสเจ้าลาผนวช พระราชทานอภิเศกพระบรมราชาราชบุตรไว้ในที่พระมหาอุปราช. ๚ะ
๏ ศักราช ๘๓๐ ปีชวดสัมฤทธิศก, สมเดจ์พระบรมราชาธิราชเจ้าไปวังช้างตำบล. สัมฤทธิบริบูรรณ ๚ะ
๏ ศักราช ๘๓๑ ปีฉลูเอกศก, มหาราชท้าวลูกถึงแก่พิราไลย. ๚ะ