- คำนำ
- บทนำ
- ประวัติพระภิกษุฟาเหียน
- บทที่ ๑
- บทที่ ๒
- บทที่ ๓
- บทที่ ๔
- บทที่ ๕
- บทที่ ๖
- บทที่ ๗
- บทที่ ๘
- บทที่ ๙
- บทที่ ๑๐
- บทที่ ๑๑
- บทที่ ๑๒
- บทที่ ๑๓
- บทที่ ๑๔
- บทที่ ๑๕
- บทที่ ๑๖
- บทที่ ๑๗
- บทที่ ๑๘
- บทที่ ๑๙
- บทที่ ๒๐
- บทที่ ๒๑
- บทที่ ๒๒
- บทที่ ๒๓
- บทที่ ๒๔
- บทที่ ๒๕
- บทที่ ๒๖
- บทที่ ๒๗
- บทที่ ๒๘
- บทที่ ๒๙
- บทที่ ๓๐
- บทที่ ๓๑
- บทที่ ๓๒
- บทที่ ๓๓
- บทที่ ๓๔
- บทที่ ๓๕
- บทที่ ๓๖
- บทที่ ๓๗
- บทที่ ๓๘
- บทที่ ๓๙
- บทที่ ๔๐
- จบ
บทที่ ๓๒
นิยายอันเกี่ยวกับการกำเนิดของพระเจ้าอโศก.
และนรกของพระองค์.
เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกราชกำเนิดในชาติก่อน, เป็นเด็กชายเล็กๆ กำลังเล่นอยู่บนถนน, พระองค์ได้พบกับพระกัศยปพุทธะ๓๔๐กำลังเดินมา. (พระกัศยปพุทธะ) ได้ทรงขออาหาร, เด็กชาย (อโศก) ได้เอามือกอบดินเต็มกำ เข้าไปยื่นถวายแด่พระกัศยปพุทธะ พระองค์ทรงรับดินนั้นแล้วก็กลับทิ้งลงยังพื้นธรณี, แล้วออกทรงพระดำเนินต่อไป. ด้วยเหตุฉะนี้ (เด็กชายอโศก) จึงได้รับผลานิสงส์ตอบแทน, โดยกลับมาบังเกิดเป็นพระราชาแห่งล้อเหล็ก๓๔๑องค์หนึ่ง ซึ่งครอบครองชมพูทวีป (ในกาลครั้งหนึ่ง) เมื่อพระเจ้าอโศกเสด็จไปเที่ยวตรวจตราการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตลอดทั่วชมพูทวีป. พระองค์ไปทอดพระเนตรเห็นที่ในระหว่างเนินเขาทั้งสองแห่งหนึ่งล้อมรั้วไว้ด้วยเหล็ก, เป็นนรก๓๔๒สำหรับลงอาชญาทำโทษคนที่กระทำความชั่วร้าย. ในทันใดนั้นพระองค์มีรับสั่งถามอำมาตย์ของพระองค์ว่าสิ่งนี้เป็นอะไร? อมาตย์จึงกราบทูลตอบสนองว่า สถานที่นี้เป็นของพระยายม๓๔๓ราชาแห่งปีศาจ สำหรับลงอาชญาทำโทษประชาชนที่กระทำความชั่วร้าย. พระเจ้าอโศกทรงคิดรำพึงในพระราชหฤทัยว่าราชาแห่งปีศาจทั้งหลาย ยังสามารถสร้างนรกไว้ทำกับพวกก่อการชั่วร้ายได้, เราก็เป็นเจ้าเป็นใหญ่ของมนุษย์, เหตุไรเราจะสร้างนรกขึ้นไว้สำหรับทำแก่พวกที่ประพฤติชั่วร้ายบ้างมิได้ ? ทันใดนั้นพระองค์จึงรับสั่งถามพวกเสนาอมาตย์ทั้งหลายว่า ใครจะสร้างนรกขึ้นไว้โดยเฉพาะสำหรับลงอาชญาทำโทษประชาชนผู้กระทำความชั่วร้ายได้บ้าง ? อมาตย์กราบทูลตอบว่า บุคคลที่จะกระทำเช่นนั้นได้, ต้องเป็นบุคคลที่กระทำความชั่วแล้วอย่างที่สุด. และในขณะเดียวนั้น, พระองค์ก็ส่งข้าราชการให้ไปเสาะแสวงหาคนชั่วร้ายทุกตำบล. ข้าราชการผู้นั้นได้ไปเห็นชายคนหนึ่งอยู่ข้างบ่อน้ำ, รูปร่างสูงแข็งแรง, หน้าดำ, ผมเหลือง, และดวงตาทั้งคู่เขียว, กำลังใช้เบ็ดตกปลาอยู่ด้วยเท้าของตน. เมื่อเขาได้ร้องเรียกนกหรือสัตว์ทั้งหลาย และเมื่อสัตว์นั้นมา. ก็ฆ่าเสียโดยเร็วโดยไม่มีที่จะรอดพ้นไปได้สักตัวเดียว. ข้าราชการจึงนำเอาตัวชายผู้นั้นไปสู่พระราชา, พระองค์ได้มีรับสั่งแก่ชายผู้นั้นว่า เจ้าต้องสร้างกำแพงสูงขึ้นล้อมรอบพื้นที่ ๔ เหลี่ยมแห่งหนึ่ง, ภายในปลูกต้นไม้ชนิดที่ดอกและผลทุกอย่าง. และขุดสระอย่างดีไว้สำหรับอาบน้ำ, ทำให้กว้างขวางงดงามน่าดูทุก ๆ แห่ง ซึ่งบุคคลผู้ใดได้เห็นแล้วย่อมมีความปรารถนาอยากได้. กับทำประตูไว้ให้มั่นคงแข็งแรงเป็นที่ไว้ใจได้. และเมื่อบุคคลใดๆเข้าไป, ก็ให้จับตัวผู้กระทำบาปหยาบช้าคนนั้นทำโทษโดยทันที, อย่าได้ยอมให้บุคคลผู้ใดออกไปได้. แม้แต่ตัวเราเองจะเข้าไป, ก็ให้จับทำโทษดุจเดียวกันกับคนบาปหยาบช้าอื่นๆ, และอย่ายอมให้เราไปได้. เราตั้งให้เจ้าเป็นนายยมบาลของนรกแห่งนี้.
ต่อมาอีกเล็กน้อย มีภิกษุองค์หนึ่งไปเที่ยวแสวงหาอาหารบิณฑบาตตามเคย, และได้เลยเข้าไปภายในประตู (ของสถานนรก) เมื่อพวกยมบาลแลเห็นภิกษุ, เกือบที่จะได้บังคับให้พระภิกษุไปสู่การทรมาน, พระภิกษุตกใจกลัว จึงร้องขอต่อพวกยมบาลให้ยอมผัดสักครู่หนึ่ง เพื่อฉันอาหารตอนเที่ยงวันเสียก่อน. ต่อมาบัดเดี๋ยวนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งเข้ามา, พวกยมบาลก็ช่วยกันผลักไปลงในครกและตำจนเลือดเป็นฟองท่วมล้นครก. พระภิกษุได้เห็นดั่งนั้น, ความรู้สึกนึกถึงความไม่เที่ยงไม่ถาวรก็มาบังเกิดขึ้นแก่ใจตน, และปลงใจตกเห็นร่างกายตนเป็นของว่างเปล่า, ไม่มีสิ่งไรเป็นแก่นสาร, แต่เป็นประดุจฟองน้ำที่พองลมอยู่, ในทันใดนั้นพระภิกษุองค์นั้นก็บรรลุพระอรหัต. ต่อมาในบัดเดี๋ยวนั้น, พวกยมบาลก็จับเอาตัวพระภิกษุองค์นั้นไปทิ้งลงในหม้อทองแดงที่น้ำต้มกำลังเดือด. แต่กระนั้นก็ดี, ก็เป็นที่ปรากฏว่าภิกษุรูปนั้นมีน้ำใจเต็มอยู่ด้วยความยินดีและเปรมใจ. ไฟก็ดับลงและน้ำก็กลับเย็น, ในกลาง (หม้อทองแดง) ก็บังเกิดดอกบัวสีกุหลาบ, และพระภิกษุนั่งอยู่บนนั้น. พวกยมบาลคนหนึ่งได้ไปกราบทูลรายงานเหตุการณ์อันมหัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นในนรก, และแสดงความปรารถนาขอเชิญเสด็จพระเจ้าอโศกไปทอดพระเนตร. แต่พระองค์รับสั่งว่า บัดนี้เราไม่บังอาจที่จะไป (ในนรก) ได้, เพราะเราได้ให้ข้อสัญญาตกลงไว้แต่เดิมเช่นนั้นแล้ว. นายยมบาลกราบทูลสนองว่า เหตุที่เป็นขึ้นเช่นนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งเล็กน้อย, สมควรที่ใต้ฝ่าพระบาทจะรีบเสด็จไปโดยด่วน. ข้อสัญญาของพระองค์ได้ตกลงไว้แต่เดิมนั้น, ทรงเปลี่ยนแปลงเสียเถิด. เพราะเหตุนี้พระเจ้าอโศกจึงทรงยอมกระทำตามและเสด็จเข้าไป (ในนรก) เมื่อพระภิกษุองค์นั้นได้แสดงธรรมเทศนาให้พระองค์ฟังแล้ว, พระองค์บังเกิดความเลื่อมใสเชื่อถือ, และได้โปรดให้ (พระภิกษุ) ไปเป็นอิสสระ.๓๔๔ ในทันทีนั้นพระองค์ก็รื้อทำลายนรกทั้งหมด, และรู้สึกพระองค์ว่าสิ่งทั้งหลายที่ได้ทรงกระทำลงแล้วแต่เดิมมานั้นเป็นความผิดชั่วทั้งหมด. ตั้งแต่เวลานั้นมา พระองค์ทรงเลื่อมใสเคารพเชื่อถือในเกียรติคุณแห่งพระรัตนตรัย. และเสด็จไปยังต้นปัทรเนืองๆ, ทรงแสดงความรู้สึกสำนึกพระองค์ ณ ภายใต้ร่มไม้นั้น, โดยทรงลุแก่โทษในความผิดหลงของพระองค์, และทรงรับปฏิบัติข้อบัญญัติงดเว้น ๘ ประการ.๓๔๕
พระมเหสีได้ทรงรับสั่งถามว่า พระเจ้าอโศกเสด็จไปที่ไหนเนือง ๆ, พวกอมาตย์กราบทูลว่า เห็นพระองค์เสด็จไปประทับอยู่ภายใต้ต้นปัทรเสมอ. พระมเหษีทรงคอยเฝ้าดูอยู่, จนครั้งหนึ่งเมื่อพระเจ้าอโศกมิได้เสด็จไปที่นั่น, พระนางก็ส่งคนไปตัดต้นไม้นั้นลง. เมื่อพระเจ้าอโศกได้เสด็จมาเห็นการกระทำอันบังเกิดขึ้นเช่นนั้นแล้ว, พระองค์เป็นลมแต่ไกลด้วยความเสียพระทัย, และล้มลงยังพื้นแผ่นดิน. พวกเสนาอมาตย์ผู้ใหญ่ต่างช่วยกันเอาน้ำประพรมพระพักตร์, และต่อมาเป็นนานพระองค์จึงได้ฟื้น. พระองค์จึงให้สร้างฐานก่อด้วยอิฐขึ้นโดยรอบ (ตอไม้) และเทรดนมโค ๑๐๐ หม้อลงบนรากไม้นั้น, แล้วพระองค์ก็ทอดกายลงนอนเหยียดพระกรและพระชงฆ์ทั้ง ๔ ให้แผ่ออกบนพื้นธรณี. แล้วทรงกระทำคำปฏิญญาว่า ‘ถ้าต้นไม้นี้ไม่คืนคงชีวิต, ข้าพเจ้าก็จะไม่ลุกขึ้นจากที่นี้เลย.’ พอขาดคำปฏิญญาของพระองค์, ในทันทีนั้น ไม้ก็กลับงอกงามขึ้นจากตอ, และก็เจริญงดงามสืบต่อมาจนบัดนี้, ซึ่งสูงเกือบจะถึง ๑๐๐ ศอกแล้ว.
-
๓๔๐. ฉบับเกาหลีว่าพระกัศยปพุทธะ, แต่ฉบับจีนว่าพระศากยพุทธะ. น่าจะเลือกเอาตามฉบับจีนดีกว่า, เพราะสมัยพระกัศยปพุทธะแต่อดีตโพ้นนั้น, ห่างไกลกับสมัยที่พระเจ้าจะเกิดมากมายก่ายกองนัก ↩
-
๓๔๑. คือจักรพรรดิราช. ดูบทที่ ๑๗ หน้า ๘๖ โน๊ต ๒. ↩
-
๓๔๒. ข้าพเจ้าสมัครที่จะใช้คำว่า ‘นรก’ ตามภาษาฝรั่ง. แต่ในฉบับจีนใช้คำว่า ‘คุกในโลก,’ ซึ่งพวกสอนศาสนาคริสเตียนทั่วไปรับว่าตรงกับคำ Gehenna. ↩
-
๓๔๓. ตามตำรา Eitel (หน้า ๑๗๓) กล่าวว่า พระยายมตั้งแต่เดิมมาเป็นตำแหน่งพระเจ้าแห่งความตายของอารยัน. อยู่บนสวรรค์เบื้องบนแห่งโลก และเป็นผู้สำเร็จราชการเบื้องใต้. แต่ในลัทธิฝ่ายพราหมณ์ย้ายพระยายมให้ลงไปมีบ้านเมืองอยู่ในนรก, ฝ่ายพระพุทธศาสนากล่าวตามไปด้วยทั้ง ๒ อย่าง. พระยายมในหนังสือเล่มนี้เป็นผู้สำเร็จราชการในนรก, มีที่พำนักอาศัยอยู่เบื้องใต้แห่งชมพูทวีปภายนอกจักรวาล, เบื้องบนแห่งปริมณฑลของยอดบรรพตทั้งสอง. พระราชวังก่อสร้างขึ้นด้วยทองเหลืองและเหล็ก พระองค์ตั้งให้น้องสาวเป็นผู้บังคับนักโทษนรกฝ่ายเพศหญิง, ซึ่งไม่ยอมให้พวกเพศชายเข้าไปมีส่วนยุ่มย่ามด้วยเลย. ในระหว่างเวลาทุก ๆ ๒๔ ชั่วโมง, ต้องมีศาจตนหนึ่งนำเอาน้ำทองแดงที่กำลังเดือดไปเทลงในปากของพระยายม ๓ ครั้ง. แต่พระองค์เค้นคอของพระองค์เองให้มันไหลกลับออกเสีย. ทั้งนี้ เพราะมูลเหตุที่พระองค์เจ็บป่วยจนไม่สามารถจะพูดได้. เรื่องอันพิลึกพิลั่นเช่นนี้ เป็นพฤติการณ์ที่พระยายมต้องทำการไถ่บาปของตนเอง จนกระทั่งจะกลับชาติไปบังเกิดในนามพระราชาแห่งสากล. ↩
-
๓๔๔. ปล่อยตัวออกจากหม้อทองแดงหรือ? น่าจะเป็นกุสโลบายต่างๆ ที่ปรับปรุงขึ้นตลอดเรื่อง. ↩
-
๓๔๕. งดเว้นอะไร ๘ ประการ. อัฏฐศีลสิกขาหรือ ? ↩