๑๕๑ ประกาศการถือสาสนาแลผู้ที่ถือผิด

ปีมะเมียสัมฤทธิศก

ว่าธรรมเนียมผู้ครองแผ่นดินที่เปนยุติธรรม มิได้ห้ามราษฎรทั้งปวง ในการถือสาสนาเปนที่พึ่งของตัวๆ ในเวลาที่สุดแลการเบื้องหน้า ทรงอนุญาตยอมให้คนถือสาสนาตามอัธยาศัย ด้วยว่าการถือสาสนา ลางสิ่งก็ต้องกัน เหมือนอย่างไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ ไม่ล่วงเกินในการเมถุนสังวาสทำชู้ภรรยาของผู้อื่น แลไม่เจรจาคำเท็จ แลไม่เสพสุราแลอดความโกรธ มีเมตตากรุณาแก่กัน แลซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที แลให้ปันสิ่งของเฉลี่ยความสุขแก่กัน แลทำความดีอื่นๆ ซึ่งเปนคุณประโยชน์แก่กันก็มีอิกหลายอย่าง คนทุกชาติทุกภาษาทุกสาสนาก็เห็นพร้อมกันว่า เปนความดีความชอบเปนยุติธรรม ก็การลางสิ่งซึ่งเปนการขัดต่อการแผ่นดินบ้านเมือง ถึงคนบางจำพวกที่เปนคนใกล้จะเสียจริตนับถือว่าใครทำได้เปนคนดีมีศรัทธาแก่กล้า จะเห็นว่าเปนบุญกุศลมาก ด้วยได้ฟังคำเล่าลือ แลได้ฟังพระสงฆ์บางรูปที่ไม่ได้เล่าเรียนศึกษาพระไตรปิฎกธรรมให้รู้จริง มาเทศนาเลอะๆ ลามๆ ใกล้จะเสียจริต พรรณาสรรเสริญว่า เปนบุญเปนกุศลมาก แล้วหลงใหลเห็นตามไป เหมือนอย่างเผาตัวบูชาพระรัตนตรัย แลเชือดคอเอาศีร์ษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองเลือดใส่ตะเกียงตามบูชา แลทำการอื่นที่ขัดต่อราชการแผ่นดินก็ดีมีโดยชุกชุม เหมือนอย่างสามเณรสุกเผาตัวที่วัดหงสาราม แลนายเรืองนายนกเผาตัวบูชาพระที่หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม แลนางชีผู้หนึ่งเผาตัวบูชาพระพุทธบาท เปนตัวอย่างเห็นอยู่ทั่วกันดังนี้ ผู้ครองแผ่นดินที่เปนธรรม แลท่านเปนคนฉลาดทั้งปวงไม่เห็นว่าเปนความดีความชอบด้วยเลยแต่สักสาสนาหนึ่ง ก็การเผาตัวบูชาพระก็ดี เชือดเนื้อรองโลหิตใส่ตะเกียงตามบูชาพระก็ดี ตัดศีร์ษะบูชาพระก็ดี เห็นว่าไม่ใช่ทางของคนฉลาด เปนหนทางของคนเสียจริต แลคนที่ใกล้จะเสียจริต ไม่ควรที่คนทั้งปวงจะเห็นว่าเปนการบุญการกุศลในพระพุทธสาสนา นักปราชญ์ได้ค้นหาในพระคัมภีร์ที่ควรเชื่อได้ว่าเปนพระบาลีพุทธภาสิต ฤๅสาวกภาสิตในสาสนาก็ไม่พบเห็นเลยแต่สักแห่งหนึ่ง ว่าการทำอย่างนั้นเปนบุญเปนกุศล ถึงจะมีในหนังสือแปลร้อยที่พระสงฆ์ซุ่มซ่ามเทศนา ลวงสัปรุษที่โง่ๆ ตื่นๆ ให้นับถืออยู่บ้างก็ดี เมื่อพิเคราะห์ดูจริงๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่สำนวนในพระสาสนา ชรอยจะเปนสำนวนของคนที่โง่ๆ ตื่นๆ ใกล้จะเสียจริตแน่แล้ว อย่าให้ใครเชื่อฟังเอาเปนตัวอย่างเลยเปนอันขาด ถึงในพระวินัยบัญญัติก็ให้ห้ามไว้ มิให้พระสงฆ์ชักชวนคนให้ฆ่าตัว ถ้าพระสงฆ์รูปใดชักชวนมนุษย์ให้ตายด้วยวจีประโยคก็เปนปาราชิก เพราะฉนั้นจึงเห็นว่าไม่ใช่การบุญการกุศล ไม่ควรจะอนุโมทนายอมตามเลย เปนการขัดต่อแผ่นดิน ถึงในพระสาสนาอื่นๆ ก็เห็นว่าจะไม่มีใครสรรเสริญว่าเปนความดีมีความชอบแต่สักแห่งเลย เพราะฉนั้นตั้งแต่นี้สืบไปอย่าให้ใครเผาตัวบูชาพระ ตัดศีร์ษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระเลยเปนอันขาด เพราะว่าเปนการขัดต่อราชการแผ่นดิน เมื่อผู้ใดได้เห็นใครเผาตัวบูชาพระ ฤๅตัดศีร์ษะเชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระก็ดี ฤๅได้เห็นใครผูกฅอตายโจนน้ำตายก็ดี ก็ให้เข้าช่วยว่ากล่าวห้ามปรามแย่งชิงเครื่องศัสตราวุธเสีย อย่าให้ผู้นั้นทำได้ ถ้าตัวผู้เห็นคนเดียวกำลังน้อยฤๅกลัวศัสตราวุธ จะเข้าแย่งชิงมิได้ ก็ให้ร้องบอกเรียกผู้อื่นมาให้ช่วยกันห้ามปราม ผู้ซึ่งได้รู้เห็นแลจะนิ่งดูดายเสียไม่ห้ามปราม ฤๅจะพลอยเห็นว่าได้บุญได้กุศลนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ใดได้รู้เห็นแล้วดูดายเสีย ไม่ว่ากล่าวห้ามปรามแย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ ฤๅไม่ช่วยตัดเชือกก็ดี จะให้ผู้นั้นเสียเบี้ยปรับตามรางวัดถ้าผู้รู้เห็นอยู่ในที่ใกล้

อนึ่งสัตรีที่เปนหม้ายผัวอย่าผัวตายร้างมานานๆ ขึ้นคานอยู่ ฤๅหญิงสะเทิ้นที่ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยพบชาย ขึ้นคานอยู่นานๆ ย่อมสืบเสาะหาผัวที่ไม่มีภรรยา วิสัยคนที่เปนคฤหัสถก็มีภรรยาทุกคนด้วยกัน ไม่ใคร่มีใครว่างเปล่าอยู่ ฝ่ายพระสงฆ์บวชอยู่นานไม่มีภรรยาเปนคนว่างเปล่าอยู่ ถ้าให้สึกออกมาได้เปนผัวจะดี พระสงฆ์เล่าบวชอยู่นานได้ยศบรรดาศักดิ์แต่ในหลวง ทรงตั้งให้เปนที่พระราชาคณะถานานุกรมเปรียญรับนิตยภัตรไตรปีได้ แลเทศนาบ้างบังสุกุลบ้างแลรับนิมนต์ในการพิธีอื่นๆ บ้าง ฤๅเปนพระครูเจ้าอธิการแลอนุจรก็ดี ได้เทศนาบังสุกุลรวบรวมเฟื้องสลึงตำลึงบาทไว้ได้มาก ถ้าเราเกลี้ยกล่อมให้สึกออกมาเปนผัวได้ ก็คงจะทอดเทเข้าฝากตัวกลัวเรา จะได้มอบหมายเงินทองที่เก็บไว้ให้แก่เราทั้งสิ้น คงอยู่ในอำนาจเราๆ จะใช้อย่างไรคงได้ดังปราถนาทุกอย่าง ด้วยคนชาววัดบวชอยู่นานไม่เคยพบการชำเราชำเขา ได้พบเข้าแล้วก็ตื่นไปงมเซอะไปดังนั้น จึงคิดกลอุบายเอาบุตรชายไปฝากไว้บ้าง ชักโยงพวกพ้องพี่น้องให้ไปอยู่บ้าง พอได้ไปมาเปนสนสื่อ แลได้ส่งคาวหวานเปรี้ยวเค็มถวายพระสงฆ์ ที่ตนชอบใจอยากได้เปนผัว ฤๅเปนเขยนั้นเนืองๆ ฝ่ายพระสงฆ์เล่าเปนชาววัด ได้อุปการเกื้อหนุนสมดังที่คิดไว้ เมื่อยังไม่ได้สึกมักอ้อๆ แอ้ๆ เข้าประจ๋อประแจ๋ประจบประแจงฝากตัวเปนญาติเปนโยม เรียกโยมที่บ้าน โยมที่แพ โยมที่ตึกบ้านล่างบ้านบนดังนี้ มีโดยมาก ครั้นได้คราวก็สึกออกมากินอยู่ด้วยกันกับนางคนนั้นบ้าง กับน้องสาวแลบุตรของนางคนนั้นบ้าง ฤๅชำเรากันเสียก่อนแต่ยังไม่สึกบ้าง หญิงพอใจหาพระสงฆ์ชาววัดเปนผัว พระสงฆ์ชาววัดที่สึกออกมาพอใจหาหญิงหม้ายหญิงขึ้นคานเปนภรรยา อย่างนี้ก็มีชุกชุมมากนักทุกหนทุกแห่ง จะระบุชื่อว่าคนนี้คนนั้นคู่นี้คู่นั้น จะพรรณนาไปก็ไม่สิ้นสุดลง แลเปนเครื่องเคืองหูรำคาญใจ ท่านที่มีแผลไม่พอใจฟัง เพราะฉนั้นข้าพเจ้าขอเตือนสติท่านทั้งปวงที่อ้างชื่อมาแล้วให้รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมีพระราชหฤทัยประสงค์จะทำนุบำรุงพระพุทธสาสนาให้บริสุทธิ์ มิให้มัวหมองเปนมลทิน แลให้รุ่งเรืองเจริญเปนประโยชน์แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเปนอันมาก แลมีพระราชประสงค์จะทรงทำนุบำรุงแผ่นดินทั่วพระราชอาณาจักร์ ให้อยู่เย็นเปนสุขทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสมณพราหมณาจาร์ย จึงโปรดเกล้าฯ เตือนสติให้ระวังตัวกลัวผิดด้วยกันทั่วทุกคนทั้งชาววัดชาวบ้านว่า ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้าผู้หญิงหาพระเปนผัว ฤๅพระหาหญิงหม้ายหญิงขึ้นคานเปนภรรยา แลทำการสนสื่อไปมาเพื่อเมถุนสังวาสแล้ว มีผู้มาโจทนาว่ากล่าว สืบได้ความเปนสัจจะให้ปรับไหมมีโทษตามพระราชบัญญัติ แลจะปรับพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้เคียงในที่รางวัด ๓ เส้น ๑๕ วา ฤๅชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้เห็นเปนใจไม่ว่ากล่าว แลไม่ฟ้องร้องแกล้งเพิกเฉยปิดความนิ่งเสีย จะปรับให้เสียรางวัดในการบุญ คืออยู่ในที่ ๓ เส้น ๑๕ วา ได้รู้เห็น ให้ทำวัดถากหญ้ารื้อขนอิฐปูนใช้ในการบุญกว่าจะครบตามกำหนดรางวัด ที่ใกล้แลไกลตามสมควร เมื่อสัตรีใดๆ มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องพระสงฆ์ดังว่ามานี้ ฤๅพระสงฆ์ชาววัดที่จะสึกได้มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องผู้หญิง คือหาภรรยาแต่ยังเปนพระสงฆ์อยู่ก็ดี มีอยู่สักกี่แห่งกี่ราย ก็ให้มาลุกะโทษเสียโดยตรง อย่าให้ปิดบังไว้ให้เนิ่นช้าเกิน ๑๕ วันจะโปรดยกโทษให้ ถ้ามีคดีเกี่ยวข้องแลแกล้งปิดบังไว้ ไม่มาลุกะโทษเสียโดยตรงในกำหนด ๑๕ วัน มีปากโจทฤๅผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าวฤๅกราบทูลพระกรุณาให้ขุ่นเคืองฝ่าลอองธุลีพระบาทก็ดี จะให้ปรับไหมมีโทษจงหนักเสมอกับคนที่เปนปาราชิก ทั้งชาววัดแลชาวบ้านจะให้เสียรางวัดกึ่งผู้ผิด

ประกาศมาณปีมะเมียสัมฤทธิศก

ขุนปฏิภาณพิจิตร เปนผู้รับสั่ง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ