- คำอธิบาย
- ๑๐๒ ประกาศเรื่องออกหนังสือราชกิจจานุเบกษา
- ๑๐๓. ประกาศมหาสงกรานต์ปีมะเมียสัมฤทธิศก
- ๑๐๔ ประกาศผูกปี้ข้อมือจีน
- ๑๐๕ ประกาศเรื่องอากรเตาสุรากรุงเก่า
- ๑๐๖ ประกาศจ่ายเงินภาษีเข้าบำรุงพระนคร
- ๑๐๗ ประกาศเรื่องคนเสพสุราเมาในวันสงกรานต์
- ๑๐๘ ประกาศพระราชทานนามคลองเจดีย์บูชา
- ๑๐๙ ประกาศเรื่องพระนารายณ์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๑๑๐ ประกาศตั้งภาษีน้ำตาลทรายแยกเปน ๓ ราย
- ๑๑๑ ประกาศยกเงินหางเข้าค่านาปีแรกโค่นสร้าง
- ๑๑๒ ประกาศกำหนดค่าธรรมเนียมรับตราภูมคุ้มห้าม
- ๑๑๓ ประกาศพิกัดค่าธรรมเนียมรับตั๋วคุ้มสัก
- ๑๑๔ ประกาศการที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา
- ๑๑๕ หมายประกาศเรื่องปลอมสักหมายหมู่
- ๑๑๖ การพระราชพิธีจรดพระนังคัล
- ๑๑๗ ประกาศว่าด้วยคำที่เรียกเสร็จ, สำเร็จ, สัมฤทธิ, สัมเรทธ
- ๑๑๘ ประกาศเรื่องภาษีพลู
- ๑๑๙. ประกาศห้ามขี่ม้าแลจูงม้าเปล่าเข้าในพระราชวัง
- ๑๒๐ ประกาศห้ามไม่ให้ขี่ม้าจูงม้ามาในพระบรมมหาราชวัง
- ๑๒๑ ประกาศนามพระที่นั่งชลังคพิมาน
- ๑๒๒ พระราชกระแสเลิกเก็บอากรตลาด เปลี่ยนเปนเก็บภาษีโรงร้านเรือแพ
- ๑๒๓ ประกาศให้บอกบาญชีราชสกุลแลราชนิกุลที่เกิดใหม่จะได้รับพระราชทานเบี้ยหวัด
- ๑๒๔ ประกาศในพระบรมมหาราชวัง ถ้าจะช่วยคนฤๅการกู้หนี้ให้มีนายประกัน
- ๑๒๕ ประกาศห้ามมิให้ทาสแลลูกหนี้หนีเข้าแอบแฝงในที่ผู้มีบุญจับกุมยาก
- ๑๒๖ พระราชกระแสเรื่องทาสลูกหนี้หนีนายเงินไปอาศรัยวังเจ้าบ้านขุนนางแลในพระบรมมหาราชวัง
- ๑๒๗ ประกาศตั้งเจ้าพระยานิกรบดินทรเปนผู้สำเร็จราชการกองสักเลขแทนสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ
- ๑๒๘ คำพิพากษาแลพระราชกระแสตัดสินเรื่องโทษอ้ายกลับพระยาไชยา
- ๑๒๙ ประกาศยกเลิกอากรตลาด ตั้งพิกัดภาษีเรือโรงร้านตึกแพ
- ๑๓๐ ประกาศบอกน้ำฝนต้นเข้าแลห้ามมิให้ฦๅการผิดๆ
- ๑๓๑ ประกาศตั้งตำแหน่งผู้สำเร็จราชการเมืองขึ้นเมืองกาญจนบุรี ๗ เมือง แลตั้งจีนเวชเปนขุนราชภัตการ
- ๑๓๒ ประกาศให้เลือกพระราชครูลูกขุน พระมหาราชครูปโรหิต พระมหาราชครูมหิธร
- ๑๓๓ ประกาศข้าราชการจะนำข้อความขึ้นกราบบังคมทูล ให้จดหมายยื่นต่อมหาดเล็กๆ ส่งท่านข้างใน
- ๑๓๔ ประกาศให้ลงชื่อด้วยลายมือตนในหนังสือทูลเกล้า ฯ ถวาย
- ๑๓๕ ประกาศเวลาเสด็จลงพระตำหนักน้ำแลประทับในเรือบด จะชักธงจอมเกล้าขึ้นเปนที่หมาย ห้ามคนพายเรือแจวเรือผ่าน
- ๑๓๖ ประกาศตั้งผู้จับคนยิงปืนในแขวงกรุงเทพ ฯ ซึ่งมิได้บอกปากเสียง
- ๑๓๗ ประกาศห้ามไม่ให้ช่วยคนในบังคับต่างประเทศยุโรปมาเปนทาส
- ๑๓๘ ประกาศดาวหางขึ้นอย่าให้วิตก
- ๑๓๙ ประกาศให้ผู้ถวายฎีกาลงชื่อฤๅวานผู้ที่ไว้ใจลงแทน
- ๑๔๐ ประกาศห้ามยิงปืน ถ้าจะยิงให้บอกศาลาก่อนจึงยิงได้
- ๑๔๑ เตือนสติพนักงานต้องทำการฉะเพาะตำแหน่ง
- ๑๔๒ ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าจอมอยู่งานกราบถวายบังคมลาออกได้ แลว่าด้วยเจ้าจอมมารดาแลหม่อมห้ามที่มีหม่อมเจ้ามีผัว
- ๑๔๓ ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตข้าราชการฝ่ายในกราบถวายบังคมลาออก ๑๒ คน
- ๑๔๔ ประกาศกำหนดโทษผู้ร้ายทิ้งไฟ
- ๑๔๕ ประกาศนามผู้ว่าราชการเมืองนครเขื่อนขันธ์
- ๑๔๖ ประกาศห้ามมิให้เฝ้ากรมหมื่นถาวรวรยศ แลกรมหมื่นอลงกฎกิจปรีชาที่วัง นอกจากผู้เปนกรมขึ้น
- ๑๔๗ ประกาศเรื่องคนโทษหนีเข้าไปอาศรัยในวังเจ้า ฤๅมีผู้แก้ไขให้ผู้คุมร้อง
- ๑๔๘ ประกาศห้ามไม่ให้พระสงฆ์พายเรือแจวเรือเวลาเสด็จทางชลมารคแลประทับริมน้ำ
- ๑๔๙ ประกาศแผ่พระราชกุศล ให้พระบรมวงศานุวงศแลข้าทูลลอองฯ ให้ช่วยปลูกสร้างวัดพระปฐมเจดีย
- ๑๕๐ ประกาศวันสงกรานต์ปีมะแมเอกศก
- ๑๕๑ ประกาศการถือสาสนาแลผู้ที่ถือผิด
- ๑๕๒ ประกาศเรื่องพระยาพิพิธฤทธิเดช
- ๑๕๓ ประกาศชำระความหัวเมืองแลบอกส่งกรุงเทพฯ
- ๑๕๔ ประกาศเตือนสติในคำเรียกเจ้าพระยามุขมนตรี แลหลวงมลโยธานุโยค แลกรมล้อมวัง
- ๑๕๕ ประกาศเตือนสติคำที่เรียกทรากศพ
- ๑๕๖ ประกาศเตือนสติ ในคำว่าปิดตรา
- ๑๕๗ ว่าด้วยคำที่เรียกว่าทแกล้วทหาร
- ๑๕๘ ประกาศว่าด้วยคำที่เรียกใบบอกแลท้องตรา
๑๒๖ พระราชกระแสเรื่องทาสลูกหนี้หนีนายเงินไปอาศรัยวังเจ้าบ้านขุนนางแลในพระบรมมหาราชวัง
ณวันอังคาร เดือน ๘ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีมะเมียสัมฤทธิศก
มีพระบรมราชโองการให้ประกาศ แก่เจ้าต่างกรมแลยังไม่ได้ตั้งกรมแลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ให้ทราบทั่วกันตลอดลงไปจนข้าเจ้าบ่าวนายแลราษฎรทั้งปวง ว่าทุกวันนี้มีที่หลายแห่ง คือวังเจ้าบ้านขุนนางใหญ่ๆ ที่คนเล่าฦๅเปนที่ยำเยงเกรงขาม เมื่อผู้คนบ่าวไพร่ทาสลูกหนี้ของคนบรรดาศักดิ์น้อย แลราษฎรสามัญหนีเข้าไปแอบอิงอาศรัยอยู่ เจ้าหมู่มูลนายถึงรู้จะไปติดตามไม่ได้ จะว่าเปนดังที่ซ่องที่เขาวงก์ก็คล้ายกัน บัดนี้มีพระราชบัญญัติห้ามอย่าให้คนข้างหน้าข้างในที่อยู่ในสถานที่เช่นว่านั้น ถือว่าเจ้าวังแขงเจ้าบ้านแรง แล้วแลกำเริบมารับรอง หรือแต่งคนมาเกลี้ยกล่อม เอาคนหลวงแลคนของเจ้านายแลผู้มีบรรดาศักดิ์ ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ไปแอบแฝงขัดขวางไว้ในที่ดังว่านั้นเปนอันขาดทีเดียว ถ้ามีผู้กล่าวขึ้นว่าไปอยู่ที่นั้นๆ เช่นว่ามานี้ จะต้องให้ไปต่อว่าชำระเอาตัวมาให้ได้ ขอท่านผู้เปนเจ้าของวังเจ้าของบ้าน อย่าคิดหาเกียรติยศนอกรีดไปโดยใจอย่างเก่าๆ ด้วยควรคิดเสียใจ ว่าชื่อบ้านชื่อตัวต้องถึงกราบเพ็ดกราบทูลอายเขา ผู้ฟ้องร้องกราบทูลไม่เกรงหน้าเกรงใจอะไรๆ อย่างเก่าๆ นั้นก็ดี ในหลวงทรงทราบแล้ว ในหลวงไม่ทรงเกรงใจเกรงหน้า ต่อว่าให้ชื่อขึ้นเปนความอัปรยศก็ดี เรื่องอย่างเก่าๆ อย่างนี้ขอเสียอย่าวิตกเลยให้ลำบากใจ ในหลวงทรงเห็นแล้วว่าจะทำอย่างไรได้ บ้านใหญ่วังโตคนเปนอันมาก คนใจดีก็มี ใจพาลกำเริบต่างๆ บ้างก็คงมี มีความผิดบ้างพลั้งบ้างก็คงมี เจ้าวังเจ้าบ้านที่ไหนจะรู้ทั่วไป ในหลวงไม่ขัดเคืองรังเกียจอะไรแก่เจ้าวังเจ้าบ้านดอก เมื่อผู้คนบ่าวไพร่ทาสลูกหนี้หนีเข้าไปขัดขวางอยู่ เจ้าหมู่มูลนายเจ้าเบี้ยนายเงิน เมื่อเกรงบุญบ้านนั้นวังนั้นอยู่เข้าไปติดตามไม่ได้ ก็คงจะไปเที่ยวบ่นแล้วๆ เล่าๆ ร่ำไปในที่นั้นๆ อันนั้นก็ไม่เปนเกียรติยศแก่เจ้าวังเจ้าบ้าน ซึ่งผู้ร้ายผู้ผิดเข้าไปอาศรัยอยู่นั้นเลย ก็จะเปนเหตุให้ผู้ที่ได้ยินคำครหานั้นครหาต่อไป แลให้เปนที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงของคนเปนอันมาก ที่เปนคนสุภาพราบเรียบร้อยซื่อตรง ที่มีทาสมีลูกหนี้อยู่บ้างนั้นไป แลบัดนี้ท่านเจ้าวังเจ้าบ้านเช่นนี้คนนี้ทั้งปวงก็รู้ว่าเปนที่ใหญ่ที่โตแล้วบ้าง จะยิ่งใหญ่โตขึ้นไปอีกกว่านี้บ้าง ถึงตัวบ่าวไพร่ทาสลูกหนี้ผู้ที่หนีเข้าไปแอบอิงอาศรัย จะสรรเสริญบุญคุณว่าเข้ามาพึ่งพ้นภัยเจ้าหมู่มูลนายเจ้าเบี้ยนายเงินได้ ใครจะได้ยินไปก็จะไม่สรรเสริญเปนเกียรติยศอะไรนัก เพราะคนพวกนั้นเปนผู้ผิด บางคนเปนโจรผู้ร้ายลักสิ่งของๆ มูลนายเจ้าเบี้ยนายเงินหนีไปก็มีเปนอันมาก ใครได้ยินไปก็คงเข้าใจว่า ผู้ใหญ่สมคบผู้ร้ายผู้ผิดไม่เปนเกียรติยศ เหมือนหนึ่งว่า ถ้ามีศีร์ษะไม้คนเมาไล่ตีไล่ฟันใครมาก็ดี มีผู้ร้ายไล่ผู้ใดผู้หนึ่งจะฉกชิงวิ่งราวเอาทรัพย์สิ่งสินในตัวในเมืองผู้ใดก็ดี ผู้ที่กลัวศีร์ษะไม้แลผู้ร้ายวิ่งเข้าไปในบ้านใหญ่วังโต พ้นจากมือคนศีร์ษะไม้แลผู้ร้ายไปได้ดังนี้ จึงเปนเกียรติยศแก่เจ้าบ้านเจ้าวังนั้นได้ วิสัยคนที่เปนใหญ่แล้วหรือจักเปนใหญ่ต่อไปในกาลบัดนี้ ควรจะต้องรักษาเกียรติยศ ให้มีกิตติศัพท์เล่าฦๅว่า เมตตาปรานีแก่คนทั้งปวงไม่เข้าแก่บ่าวไพร่ของตน แลไม่เข้าแก่คนผิด แลคิดอนุเคราะห์แก่คนหาผิดมิได้ ไม่เลือกหน้าว่าผู้ใดจึงจะสมควร จะแสวงหาเกียรติยศให้เล่าฦๅแต่ว่ากล้าว่าหาญทั้งข้าทั้งเจ้าทั้งบ่าวทั้งนาย ไม่มีผู้อื่นก้ำเกินกล้ำกลายได้ดังตำราเก่าๆ นั้นไม่ต้องกับการบ้านเมืองทุกวันนี้เลย คิดดูเถิดเพราะบ้านเมืองทุกวันนี้เปิดแก่ชาวทเล ไม่ปิดอยู่แต่กันเองเหมือนอย่างแต่ก่อน ถ้าผู้ใหญ่ในแผ่นดินเปนแง่เปนงอนถือเขาถือเราต่อกัน ไม่มีสโมสรสามัคคีต่อกันมั่นคงยั่งยืนแล้ว ก็จะเปนที่หมิ่นประมาทได้โดยเร็วทีเดียว ก็แลเจ้านายแลผู้มีบรรดาศักดิ์ใหญ่น้อยฝ่ายใน ในพระบรมมหาราชวังนี้ทั้งสิ้น ก็เปนของในหลวงโดยสนิทชิดชมวิเศษ เหมือนกับพระองค์เจ้าหม่อมเจ้าเล็กๆ เจ้าจอมหม่อมห้ามบุตรภรรยาญาติวงศ์เหลนหลานว่านเครือที่อยู่ในวังในบ้านนั้นๆ เปนของเจ้านายแลขุนนางใหญ่ๆ เหมือนกัน เพราะเหตุดังนั้น เมื่อทาสแลลูกหนี้ของผู้ใดๆ ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังนี้จะหลบหลีกหนีไป ขัดขวางอยู่ที่วังเจ้าบ้านขุนนาง ที่เจ้าเบี้ยนายเงินจะไปติดตามต่อว่าไม่ได้แล้ว เจ้าเบี้ยนายเงินจะรู้ที่ไปร้องให้ใครช่วย ด้วยตัวไม่ได้อยู่ที่อื่น ก็ต้องมาร้องให้ในหลวงช่วย ก็ด้วยเหตุนั้น ท่านเจ้าวังเจ้าบ้านที่มีชื่อขึ้นดังนี้ จะมีความโกรธาพยาบาทอาฆาฎแค้นแก่ผู้กราบทูลนั้นก็ไม่ต้องที่เลย ในหลวงเมื่อทราบเหตุดังนี้ ก็จะต้องช่วยผู้อยู่ในพระบรมมหาราชวังนั้น ไม่มีที่พึ่งอื่นนอกจากในหลวงเลย ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้ามีผู้ใดในพระบรมมหาราชวังนี้มากล่าว ว่าทาสแลลูกหนี้หนีเข้าไปแอบอิงอาศรัยอยู่ที่หญิงชายในวังใดบ้านใด ได้ความเปนแน่แล้ว ในหลวงก็จะทรงจดหมายให้ผู้รับสั่ง เปนข้าราชการฝ่ายในหรือฝ่ายหน้าโดยสมควรไปต่อว่าเพ็ดทูลแก่เจ้าวังร่ำเรียนแก่เจ้าบ้านโดยดี ขอให้ชำระส่งตัวให้ ก็ถ้าหากว่าท่านเจ้าวังเจ้าบ้านแห่งใด จะมีใจมานะทิฐิกระด้างกระเดื่องไม่อยากแพ้เหนแต่แก่ชนะ ด้วยหวังว่าจะหาเกียรติยศอย่างเก่าๆ ตามวิสัยใจคนที่ฟังเสียงแต่บ่าวไพร่ของตัวเมามัวไป ไม่ฟังเสียงใครๆ ข้างซ้ายข้างขวา จะเสือกไสตัวทาสลูกหนี้ให้หนีต่อไป ฤๅจะยักยอกซ่อนเร้นไว้ที่ไหนแล้วจะปฏิเสธเสียว่าไม่มีไม่รู้ก็ดี หรือแม้นเปนคนซื่อตรงอยู่ ถูกลูกหลอกเมียลวงบ่าวไพร่ใส่ไคล้ล่อให้หลงกลเชื่อถือไป ว่าความไม่จริงปฏิเสธเสียว่าไม่มีไม่รู้ก็ดี ถ้าว่าปฏิเสธมาดังนี้ ในหลวงจะบนผู้มีชื่อด้วยสินบนแรงๆ ตั้งแต่ชั่งหนึ่งขึ้นไป ห้าชั่งลงมา โดยสมควร ให้สืบสาวนำจับตัวให้จงได้ ถ้าเทวดาเก่าๆ เคยรักษาแผ่นดินโดยธรรม อนุเคราะห์แก่คนชอบธรรม ยังไม่จุติเสียหมด ถ้าด้วยฤทธิ์เทวดาฤๅอย่างไร ก็เห็นจะจับตัวได้สักรายหนึ่งสองราย ถ้าได้ตัวแล้วในหลวงจะออกเงินหลวงให้สินบนแก่ผู้จับโดยเร็ว แล้วจะชำระตัวทาสแลลูกหนี้ซึ่งหนีนั้น ว่าหนีไปอยู่ที่ไหนบ้างๆ ถ้ามันซัดทอดว่าได้ไปอาศรัยอยู่กี่แห่งกี่ตำบล ผู้ที่ต้องซัดแม้นไม่รับต่อสู้ ก็จะสืบพยานรังวัดเอาความจริง ถ้าสมว่าคนนั้นหนีไปอาศรัยอยู่กี่แห่งกี่ตำบล เจ้าบ้านเจ้าวังแลผู้เจ้าสำนักอาศรัยจะต้องเฉลี่ยเรี่ยรายกันเสียเงินใช้สินบน ตั้งแต่ชั่งหนึ่งขึ้นไป ห้าชั่งลงมา โดยสมควรเท่ากับที่ในหลวงเสียไป ไม่คิดเอากับตัวทาสแลลูกหนี้ ซึ่งประกาศว่ามาทั้งนี้ ว่าด้วยทาสแลลูกหนี้ของเจ้านายแลผู้มีบรรดาศักดิ์ใหญ่น้อยที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังนี้อย่างเดียว ก็ถ้าแม้นทาสแลลูกหนี้ของผู้ซึ่งอยู่ในที่อื่นนอกจากพระบรมมหาราชวังนี้ หรือของราษฎรสามัญแห่งใดตำบลใดก็ดี หลบหลีกลี้หนีเข้ามาแอบอิงอาศรัยผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ก็อย่าให้เจ้าเบี้ยนายเงินมีความกริ่งเกรงกลัวความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งเลย ให้รีบทำเรื่องราวมายื่นแก่พระยาเพชร์พิไชย จางวางกรมล้อมพระราชวัง ให้ชำระเรียกตัวส่งให้โดยเร็ว ถ้าแม้นพระยาเพชร์พิไชยชักช้าอยู่กว่า ๗ วัน ก็ให้มาร้องถวายฎีกา เมื่อเวลาเสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ หรือจะให้ญาติพี่น้องพวกพ้องเปนข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน ผู้ใดผู้หนึ่งถวายเรื่องราวในที่ใดที่หนึ่ง เมื่อใดเมื่อหนึ่งก็ได้ไม่ห้าม ถ้าแม้นในหลวงทรงทราบความแล้ว ก็จะทรงชำระให้โดยสุจริตไม่คิดเข้าแก่ผู้ใด ว่ามานี้โดยสุจริต เทวดาเก่าๆ จงเปนพยานเทอญ ฯ ก็ถ้าแม้นทาสแลลูกหนี้ของผู้ใดหลบหลีกหนีไปแอบอิงอาศรัยอยู่ที่อื่นๆ นอกจากพระบรมมหาราชวังนี้ แต่ที่วังเจ้าบ้านขุนนางเปนที่ยำเยงเกรงขาม เจ้าเบี้ยนายเงินจะไปติดตามเอาตัวไม่ได้ แลพ้นวิสัยกำนันนายอำเภอ เจ้ากระทรวงทบวงการ จะติดตามค้นคว้าหาตัวหรือต่อว่าได้แล้ว ก็ให้เจ้าเบี้ยนายเงินทำเรื่องราวมายื่นแก่พระยาเพชร์พิไชย จางวางกรมล้อมพระราชวังเหมือนกัน ถ้าเกี่ยวข้องในพระบวรราชวัง เจ้าเบี้ยนายเงินจะสมัคไปยื่นเรื่องราวแก่พระยามณเฑียรบาลเองก็ตาม ถ้ามายื่นกับพระยาเพชร์พิไชย ก็ให้พระยาเพชร์พิไชยทอดโฉนดบัตร์หมายไปให้พระยามณเฑียรบาลส่ง ถ้าเกี่ยวข้องในวังเจ้าบ้านขุนนางอื่นๆ ก็ให้พระยาเพชร์พิไชยทอดโฉนดบัตร์หมายไป หรือจะเพ็ดทูลร่ำเรียนต่อว่าด้วยปากได้ ก็จงจัดแจงเอาตัวทาสแลลูกหนี้หรือต้นเงินแลดอกเบี้ยมาคืนให้เจ้าเบี้ยนายเงินเสียจงได้ ถ้าแม้นพระยาเพชร์พิไชย ลุอำนาจแก่ฉันทาโทสาภยาคติไปไม่ชำระให้ รอไว้ให้เนิ่นช้าเกินกว่า ๗ วัน ก็ให้ร้องถวายฎีกาเมื่อเวลาเสด็จออกพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ ฤๅจะให้ญาติพี่น้องพวกพ้องเปนข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายในผู้ใดผู้หนึ่ง ถวายเรื่องราวให้ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อใดเมื่อหนึ่งก็ได้ไม่ห้าม ฯ ถ้าในหลวงทรงทราบแล้วก็จะทรงเลือกดู ก็ถ้าถิ่นที่โจทกล่าวว่าทาสแลลูกหนี้หนีไปแอบอิงอาศรัยนั้น เปนพระบวรราชวังหรือวังเจ้าต่างกรมผู้ใหญ่ ฤๅบ้านท่านเสนาบดีผู้ใหญ่ที่ท่านเจ้าวังเจ้าบ้านควรจะเปนตระลาการเปนที่พึ่งแก่ราษฎรได้ ในหลวงก็จะทรงมอบเรื่องราว กับตัวโจทไปให้ท่านเจ้าวังเจ้าบ้านชำระให้เปนแล้วแก่กันโดยสมควรแก่สติปัญญาแลยศบรรดาศักดิ์ ของท่านที่เปนเจ้าวังเจ้าบ้านนั้นๆ เจ้าเบี้ยนายเงินจะแพ้หรือชนะจะได้ตัวทาสลูกหนี้ไปหรือไม่ได้ จะได้ต้นเงินแลดอกเบี้ยครบหรือลดหย่อนประการใด ก็สุดแต่บุญแลวาสนาแลสติปัญญาของท่านเจ้าวังเจ้าบ้านซึ่งเปนตระลาการแลตัวโจทตัวจำเลยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นเถิด ไม่เอาเปนกังวลแล้ว ถ้ามิชอบด้วยยุติธรรม สุกก็จะหอมงอมก็จะหล่นไปเอง เมื่อโจทไม่ชอบใจจะมาร้องถวายฎีกาอีก ก็จะส่งเรื่องราวไปอีก ในหลวงไม่เอาเปนกิจกังวลยิ่งกว่านั้น ว่าทั้งนี้จะให้เห็นว่าท่านที่เปนเจ้าใหญ่นายโต ก็ควรจะเปนที่พึ่งแก่ราษฎรได้เหมือนกับในหลวง แต่ถ้าแม้นไปเกี่ยวข้องวังเจ้าเล็กบ้านขุนนางน้อยมีสติปัญญาวาสนาไม่ควรจะเปนตระลาการได้ เปนที่โจทจะสงสัยว่า ๆ ความลำเอียงเข้ากับบุตรภรรยาข้าบ่าวของตัวไป แล้วในหลวงก็จะให้หาเจ้ากรมปลัดกรมจางวางนายเวรของเจ้า แลเรียกทนายของขุนนางมาให้มีตระลาการเกาะกุม เร่งรัดชำระว่ากล่าวโดยสมควรแก่ความแผ่นดินเมือง แต่ถ้าทาสแลลูกหนี้หลบหลีกหนีไปอาศรัยในที่อื่นๆ มิใช่วังเจ้าบ้านขุนนางใหญ่ๆ เปนที่เปนวิสัยที่กำนันนายอำเภอเจ้ากระทรวงทบวงการ จะติดตามเกาะคล้องหาตัวได้ตามธรรมเนียมแล้ว ความเรื่องนั้นไม่ใช่กระทรวงกรมล้อมพระราชวังจะเอามาชำระเลย จงให้เจ้าเบี้ยนายเงินนำกำนันนายอำเภอไปจับกุมเอาตัวให้ หรือจะฟ้องร้องณโรงศาลตามธรรมเนียมก็ตาม เมื่อขัดขวางประการใด ก็อย่าให้มายื่นเรื่องราวแก่พระยาเพชร์พิไชยเลย แลอย่าให้กรมล้อมพระราชวังไปเก็บเอาคดีอย่างนี้มาว่าก่อน เจ้าหมู่มูลนายเจ้าเบี้ยนายเงินจงเขียนเรื่องราวมา หรือมาที่กรมล้อมพระราชวัง ให้เขียนเรื่องราวให้มาร้องถวายฎีกาเทอญ ในหลวงจะโปรดให้ชำระตามอย่างความฎีกา ถ้าคดีไม่ต้องอย่างที่จะมาร้องต่อกรมล้อมพระราชวัง ผู้ใดสมคบคนในกรมล้อมพระราชวัง ให้เอาคดีอย่างนั้นมาชำระ ผู้สมคบก็ดีตระลาการผู้ชำระก็ดี จะมีโทษตามโทษานุโทษ
ประกาศมาณวันอังคาร เดือนแปดบุรพาษาฒ ขึ้นห้าค่ำ ปีมะเมียสัม๘ฤทธิศก เปนวันที่ ๒๕๘๙ ในรัชกาลปัจจุบันนี้