๑๔๒ ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าจอมอยู่งานกราบถวายบังคมลาออกได้ แลว่าด้วยเจ้าจอมมารดาแลหม่อมห้ามที่มีหม่อมเจ้ามีผัว

ณวันอาทิตย์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีมะเมียสัมฤทธิศก

มีพระบรมราชโองการให้ประกาศแก่ราชวงศานุวงศ์ แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยให้ทราบทั่วกันว่า เมื่อครั้งปีขาลฉศกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศมาฉบับหนึ่งแล้ว ครั้นปีมะเมียสัมฤทธิศก จึงโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศซ้ำมาอีก เพื่อจะให้ทราบมั่นคงตามฉบับเดิมมีเนื้อความว่า

ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศปฏิญาณไว้เปนความสัจความจริง แก่เจ้าจอมอยู่งานชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก ทั้งปวง เว้นแต่เจ้าจอมมารดาในพระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมพนักงานทุกตำแหน่ง แลเจ้าจอมเถ้าแก่ แลท่านเถ้าแก่แลนางรำบำเรอทั้งปวงทุกคน ด้วยบัดนี้ไม่ได้ทรงหวงแหนท่านผู้ใดผู้หนึ่งไว้ในราชการด้วยการข่มเหงกักขังดอก ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงตามสมัคแลเหนแก่ตระกูลแลความชอบของท่านทั้งปวง จึงทรงพระกรุณาชุบเลี้ยง พระราชทานเบี้ยหวัดผ้าปีแลเครื่องยศบรรดาศักดิ์โดยสมควร บัดนี้ท่านทั้งปวงก็ทำราชการมานานแล้ว ใครๆ ไม่สบายจะใคร่กราบถวายบังคมลาออกนอกราชการไปอยู่วังเจ้าบ้านขุนนางบ้านบิดามารดาจะมีลูกมีผัวให้สบายประการใด ก็อย่าให้กลัวความผิดเลย ให้กราบทูลถวายบังคมลาโดยตรง แล้วก็จะโปรดให้ไปตามปราถนาโดยสะดวกไม่กักขังไว้ แลไม่ให้มีความผิดแก่ผู้นั้นแลผู้ที่จะเปนผัวนั้นเลย ห้ามแต่อย่าให้สนสื่อหาชู้หาผัวแต่ตัวยังอยู่ในราชการ ด้วยอุบายทางใดทางหนึ่งก่อนกราบบังคมทูลพระกรุณาเปนอันขาดทีเดียว เปนดังนั้นจะเสียพระราชกำหนดสำหรับแผ่นดินไป เมื่อไปอยู่นอกพระราชวังแล้วถ้าเปนคนมีตระกูลอยู่ ไปอยู่กับบิดามารดาญาติพี่น้อง ฤๅเปนนางห้ามเจ้านายที่ทรงพระกรุณาให้มีบรรดาศักดิ์ใหญ่ๆ ฤๅเปนภรรยาข้าราชการที่มีศักดินามาก ก็จะพระราชทานเบี้ยหวัดอยู่บ้างโดยสมควร อนึ่งถ้าเจ้าจอมอยู่งานชั้นในเหนว่าพระราชบัญญัติบังคับๆ แคบใจนักจะถวายบังคมลาออกราชการก็อายอดสู อยู่ชั้นในไม่สบายจะขอรับพระราชทานโอกาศเลื่อนออกมาเปนชั้นกลางชั้นนอกแลพนักงานทำราชการสนองพระเดชพระคุณตามอย่างแลบังคับเจ้าจอมอยู่งานชั้นกลางชั้นนอก แลพนักงานแลนางรำบำเรอก็ตามแต่จะชอบใจ แต่ให้กราบทูลก่อน อย่าเพ่อทำการประพฤติแชเชือนเกินอย่างเจ้าจอมอยู่งานชั้นในก่อนกราบทูลขอออกตัว จะทรงพระกรุณาโปรดให้ลดแต่เครื่องยศแลเบี้ยหวัดอย่างเจ้าจอมอยู่งานชั้นในเสีย ให้คงได้ดังเจ้าจอมอยู่งานชั้นกลางชั้นนอก แลพนักงานแลนางรำบำเรอโดยสมควร แต่เจ้าจอมมารดาในพระเจ้าลูกเธอจะโปรดให้ออกนอกราชการไปมีผัวไม่ได้ จะเสียพระเกียรติยศพระเจ้าลูกเธอไป เมื่อจะใคร่ออกนอกราชการ เพียงจะอยู่กับพระเจ้าลูกเธอไม่มีผัวก็จะทรงพระกรุณาโปรด กระแสพระบรมราชโองการดังนี้ก็ได้มีพะราชดำรัสมาหลายครั้งแล้ว แต่ดูทีจะหามีใครเชื่อไม่ ด้วยเข้าใจว่าตรัสเล่นก็ดี ประชดก็ดี อันการนี้เปนสุจริตสัตยจริง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตีพิมพ์ประกาศพระราชทานเปนสำคัญสัญญาไว้ให้มั่นคง ให้ท่านทั้งปวงเชื่อว่าไม่ทรงหวงแหนกักขังจริงๆ แลพระราชดำรัสนั้นเปนความจริงความตรง ให้ท่านทั้งปวงรับคำประกาศนี้ไว้เปนสำคัญ ถ้ากาลไปข้างหน้ามิได้เปนจริงดังนี้ ก็ควรที่ท่านทั้งปวงแลเทพยดามนุษย์จะควรหาติเตียนอยู่แล้ว อนึ่งเจ้าจอมมารดาพระองค์เจ้าในแผ่นดินล่วงแล้วมา ถ้ายังมีพระองค์เจ้าอยู่ก็อย่าให้มีผัว ถ้าอยากจะมีผัวให้ได้ ก็ให้มากราบทูลพระกรุณาว่าตัดรอนพระองค์เจ้าให้ขาดเสียก่อน อย่าให้เรียกว่าเจ้าจอมมารดาเลย ถ้าพระองค์เจ้ายอมตัดไม่นับถือแล้วจะโปรดให้มีผัวตามสบาย ถ้าไม่ได้กราบทูลพระกรุณาขืนมีผัว ถ้าผัวเปนพระองค์เจ้าก็จะโปรดลดเบี้ยหวัดเสียกึ่งหนึ่ง ถ้าผัวเปนหม่อมเจ้าเปนข้าราชการมีบรรดาศักดิ์ก็ดี จะยกเบี้ยหวัดเสียแล้วจะให้เสียภาษีปีละ ๑๒ ตำลึง ถ้ามีผัวเปนข้าราชการมีบรรดาศักดิ์น้อยแลไพร่จะให้ลงพระราชอาญา แล้วผัวจะให้ริบราชบาทว์แล้วเอาตัวส่งหญ้าช้าง ตัวหญิงให้ลงพระราชอาญาจำไว้จนตาย ถ้าพระองค์เจ้าสงสารกราบทูลขอก็จะพระราชทานให้ไปอยู่กับพระองค์เจ้า รับพระราชทานเบี้ยหวัดเหมือนอย่างนางนม ให้เรียกแต่ว่ามารดาไม่ให้ใส่คำนำเรียกว่าเจ้าจอม อนึ่งบรรดามารดาหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าที่ตั้งกรมแล้วแลยังไม่ได้ตั้งกรมทั้งปวงซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว เมื่อหม่อมเจ้ายังมีตัวอยู่ ถ้าไม่มีผัวก็ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัด ๖ ตำลึงบ้างยิ่งกว่านั้นบ้าง ถ้ามีผัวให้เลิกเบี้ยหวัดเสีย ให้ผัวที่เปนไพร่มิใช่เจ้าให้เสียภาษีปีละ ๖ ตำลึง เปนเบี้ยเลี้ยงแก่หม่อมเจ้าไปทุกเดือนกว่าหม่อมเจ้าจะไม่มีตัว ภาษีนี้ใครอย่าติว่าแรงเพราะมิได้เรียกเอามาเปนหลวงแต่สักเฟื้อง ๑ พระราชทานให้หม่อมเจ้าบุตรทั้งสิ้น เปนการจะกดขี่คนที่เปนผัวมารดาหม่อมเจ้าให้ปฏิบัติหม่อมเจ้าไป อนึ่งเมื่อมารดาหม่อมเจ้าผู้ไม่มีผัวพระราชทานเบี้ยหวัดด้วย ก็เพื่อจะให้เปนกำลังเลี้ยงหม่อมเจ้าไป ก็เมื่อไม่อยู่เลี้ยงหม่อมเจ้าไปมีผัว ก็ควรให้คนผู้เปนผัวเสียภาษีให้แก่หม่อมเจ้า เท่าเบี้ยหวัดซึ่งพระราชทานเมื่อไม่มีผัวจึงชอบ ถ้ามารดาหม่อมเจ้าที่มีผัวโกรธกับผัวถึงอย่าร้างขาดจากผัวเมียกัน ถ้าสาบาลได้ทั้งสองข้างอย่ากันแต่เดือนใด ก็ให้ยกภาษีแต่เดือนนั้นไป โกรธกันเล็กน้อยถึงว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าสาบาลไม่ได้ว่าขาดกันก็ไม่พ้นภาษี ถ้าอยากจะไม่เสียภาษีมาทนสาบาลแล้วกลับไปดีกันฤๅสืบได้ความจริงว่ายังดีกันอยู่ จะปรับให้ใช้ภาษีสองต่อจนเดือนที่ชำระความ ถ้ามารดาหม่อมเจ้ามีผัวเปนพระองค์เจ้าไม่เสียเกียรติยศอันใด เปนแต่โปรดให้ยกเบี้ยหวัดเสียไปให้พระองค์เจ้าผู้ผัวเลี้ยงเถิด ฤๅจะได้เบี้ยหวัดก็จะได้ด้วยอำนาจพระองค์เจ้าที่เปนผัวใหม่ ถ้ามารดาหม่อมเจ้าไปได้ผัวใหม่เปนหม่อมเจ้า ถ้าหม่อมเจ้าผู้บุตรยอมยินดีเอาเปนบิดาเลี้ยงก็แล้วไป ถ้าหม่อมเจ้าผู้บุตรมิยอมยินดีด้วย ก็จะทรงพระกรุณาโปรดชักเอาเบี้ยหวัดของหม่อมเจ้าที่เข้ามาเปนผัวนั้น แบ่งสามส่วนยกเอาส่วนหนึ่งให้แก่หม่อมเจ้าผู้บุตรเปนภาษีทุกปีไป เพราะทำให้หม่อมเจ้าผู้บุตรได้ความอับอาย ลักษณพระราชกำหนดนี้ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศให้ท่านทั้งปวงจงทราบด้วยจงทั่วกัน

ประกาศมาณวันอาทิตย์ เดือนสิบสองขึ้นสองค่ำ ปีมะเมียสัมฤทธิศก เปนวันที่ ๒๗๓๔ ในรัชกาลปัตยุบันนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ