๑๑๐ ประกาศตั้งภาษีน้ำตาลทรายแยกเปน ๓ ราย

ณวันพฤหัสบดี เดือน ๕ แรม ๓ ค่ำ ปีมะเมียยังเปนนพศก

น้ำตาลทรายทุกเมืองในพระราชอาณาเขตร แต่ก่อนมีเจ้าภาษีเก็บภาษีอยู่คนเดียว เมื่อปีมะโรงอัฐศก น้ำตาลทรายซื้อขายกันมีราคามากขึ้นกว่าแต่ก่อน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาตินรเนตรนาถราชสุริยวงศ์ จึงกราบบังคมทูลแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ว่าน้ำตาลทรายมีราคาขึ้น โรงน้ำตาลทรายตั้งขึ้นอีกหลายโรงในงวดปีมะเสงพศก เงินภาษีก็จะขึ้นได้อีกมาก เหนว่ามีเจ้าภาษีอยู่คนเดียวนั้นเงินจะมากนัก จะขอรับพระราชทานแยกออกเปนสามเจ้าภาษี ให้เก็บภาษีตามลำน้ำเจ้าพระยาภาษี ๑ ตามหัวเมืองฝ่ายตวันออกภาษี ๑ เก็บตามหัวเมืองฝ่ายตวันตกภาษี ๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ดำรัสว่าชอบแล้วให้ปฤกษาเสนาบดีให้พร้อมกันก่อน จึงจะออกเปนเจ้าภาษีได้ สมเด็จเจ้าพระยาจึงปฤกษาเสนาบดีเหนพร้อมกันแล้ว จึงได้นำคำปฤกษาขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาอีกครั้งหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งจีนสินเปนที่ขุนพิสุทธสินิเจ้าภาษี เก็บตามลำน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เมืองสมุทปราการ เมืองนครเขื่อนขันธ์ขึ้นไปจนถึง เมืองพิไชย เมืองสวรรคโลกเมืองกำแพงเพ็ชร ๑๙ หัวเมือง ตั้งจีนเกงอยู่ เปนขุนภักดีสินยากรเจ้าภาษี เก็บตามหัวเมืองฝ่ายตวันออก คือเมืองฉะเชิงเทรา เมืองนครนายก เมืองปราจิณบุรี เมืองพนัศนิคม เมืองชลบุรี เมืองบางลมุง เมืองรยอง เมืองตราษ เมืองจันทบุรี รวมกัน ๙ หัวเมือง เปนเจ้าภาษีหนึ่ง ตั้งจีนเล็กเปนขุนสุนทรสินิพิทักษ์เจ้าภาษี เก็บตามหัวเมือง ฝ่ายตวันตก เมืองสาครบุรี เมืองนครไชยศรี เมืองสุพรรณบุรี เมืองสมุทสงคราม เมืองราชบุรี เมืองกาญจนบุรี เมืองเพ็ชร์บุรี เมืองปราณบุรี รวมกันแปดหัวเมือง เจ้าภาษีทั้งสามคนนี้ ขอรับพระราชทานทำ ๒ ปี ถึงจะเก็บภาษีขาดจะส่งเงินให้ครบทั้งสองปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยกเดือนอธิกมาสในจำนวนปีมะเมียสัมฤทธิศกนี้ให้เดือนหนึ่ง เจ้าภาษีทั้งสามคนนี้ได้รับทำภาษีตั้งแต่ณวันอังคาร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเสงพศกต่อไปถึงณวันอาทิตย์ เดือนสิบสอง แรมสิบห้าค่ำ ปีมะเมียสัมฤทธิศก ก็ครบงวดปีหนึ่ง แล้วจะได้ทำต่อไปอีกงวดหนึ่ง ตั้งแต่วันจันทร์ เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเมียสัมฤทธิศก ไปจนวันพฤหัสบดี เดือนสิบสอง แรมห้าค่ำ ปีมะแมเอกศก จึงครบอีกงวดหนึ่ง ตามสัญญากราบทูล เงินทั้งสองงวดเท่ากัน เพราะเดือนอธิกมาสได้โปรดเกล้าฯ ยกพระราชทานเสียแล้ว แลตั้งแต่วันอังคาร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเสงพศก ไปจนวันพฤหัสบดีเดือนสิบสองแรมสิบห้าค่ำปีมะแมเอกศกนั้น ห้ามมิให้ผู้ใดประมูลชิงทำภาษีน้ำตาลทรายเลย ต่อตั้งแต่วันศุกร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะแมเอกศกไปจึงจะมีช่อง ถ้าใครจะประมูลชิงภาษีก็ได้ หรือถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องราวประมูลชิงภาษี ๓ คนจะร้องขาดบ้างก็ได้ แต่ในภายในสองปี ซึ่งกำหนดไว้แล้วนั้น เจ้าภาษีน้ำตาลทรายทั้ง ๓ คน จะร้องขาดไม่ได้ ตามได้สัญญาไว้ในเรื่องราวแล้ว

ประกาศมาณวันพฤหัสบดีเดือนห้า แรมสามค่ำปีมะเมียยังเปนพศก เปนวันที่ ๒๕๑๓ ในรัชกาลปัตยุบันนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ