- คำอธิบาย
- ๑๐๒ ประกาศเรื่องออกหนังสือราชกิจจานุเบกษา
- ๑๐๓. ประกาศมหาสงกรานต์ปีมะเมียสัมฤทธิศก
- ๑๐๔ ประกาศผูกปี้ข้อมือจีน
- ๑๐๕ ประกาศเรื่องอากรเตาสุรากรุงเก่า
- ๑๐๖ ประกาศจ่ายเงินภาษีเข้าบำรุงพระนคร
- ๑๐๗ ประกาศเรื่องคนเสพสุราเมาในวันสงกรานต์
- ๑๐๘ ประกาศพระราชทานนามคลองเจดีย์บูชา
- ๑๐๙ ประกาศเรื่องพระนารายณ์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี
- ๑๑๐ ประกาศตั้งภาษีน้ำตาลทรายแยกเปน ๓ ราย
- ๑๑๑ ประกาศยกเงินหางเข้าค่านาปีแรกโค่นสร้าง
- ๑๑๒ ประกาศกำหนดค่าธรรมเนียมรับตราภูมคุ้มห้าม
- ๑๑๓ ประกาศพิกัดค่าธรรมเนียมรับตั๋วคุ้มสัก
- ๑๑๔ ประกาศการที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา
- ๑๑๕ หมายประกาศเรื่องปลอมสักหมายหมู่
- ๑๑๖ การพระราชพิธีจรดพระนังคัล
- ๑๑๗ ประกาศว่าด้วยคำที่เรียกเสร็จ, สำเร็จ, สัมฤทธิ, สัมเรทธ
- ๑๑๘ ประกาศเรื่องภาษีพลู
- ๑๑๙. ประกาศห้ามขี่ม้าแลจูงม้าเปล่าเข้าในพระราชวัง
- ๑๒๐ ประกาศห้ามไม่ให้ขี่ม้าจูงม้ามาในพระบรมมหาราชวัง
- ๑๒๑ ประกาศนามพระที่นั่งชลังคพิมาน
- ๑๒๒ พระราชกระแสเลิกเก็บอากรตลาด เปลี่ยนเปนเก็บภาษีโรงร้านเรือแพ
- ๑๒๓ ประกาศให้บอกบาญชีราชสกุลแลราชนิกุลที่เกิดใหม่จะได้รับพระราชทานเบี้ยหวัด
- ๑๒๔ ประกาศในพระบรมมหาราชวัง ถ้าจะช่วยคนฤๅการกู้หนี้ให้มีนายประกัน
- ๑๒๕ ประกาศห้ามมิให้ทาสแลลูกหนี้หนีเข้าแอบแฝงในที่ผู้มีบุญจับกุมยาก
- ๑๒๖ พระราชกระแสเรื่องทาสลูกหนี้หนีนายเงินไปอาศรัยวังเจ้าบ้านขุนนางแลในพระบรมมหาราชวัง
- ๑๒๗ ประกาศตั้งเจ้าพระยานิกรบดินทรเปนผู้สำเร็จราชการกองสักเลขแทนสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ
- ๑๒๘ คำพิพากษาแลพระราชกระแสตัดสินเรื่องโทษอ้ายกลับพระยาไชยา
- ๑๒๙ ประกาศยกเลิกอากรตลาด ตั้งพิกัดภาษีเรือโรงร้านตึกแพ
- ๑๓๐ ประกาศบอกน้ำฝนต้นเข้าแลห้ามมิให้ฦๅการผิดๆ
- ๑๓๑ ประกาศตั้งตำแหน่งผู้สำเร็จราชการเมืองขึ้นเมืองกาญจนบุรี ๗ เมือง แลตั้งจีนเวชเปนขุนราชภัตการ
- ๑๓๒ ประกาศให้เลือกพระราชครูลูกขุน พระมหาราชครูปโรหิต พระมหาราชครูมหิธร
- ๑๓๓ ประกาศข้าราชการจะนำข้อความขึ้นกราบบังคมทูล ให้จดหมายยื่นต่อมหาดเล็กๆ ส่งท่านข้างใน
- ๑๓๔ ประกาศให้ลงชื่อด้วยลายมือตนในหนังสือทูลเกล้า ฯ ถวาย
- ๑๓๕ ประกาศเวลาเสด็จลงพระตำหนักน้ำแลประทับในเรือบด จะชักธงจอมเกล้าขึ้นเปนที่หมาย ห้ามคนพายเรือแจวเรือผ่าน
- ๑๓๖ ประกาศตั้งผู้จับคนยิงปืนในแขวงกรุงเทพ ฯ ซึ่งมิได้บอกปากเสียง
- ๑๓๗ ประกาศห้ามไม่ให้ช่วยคนในบังคับต่างประเทศยุโรปมาเปนทาส
- ๑๓๘ ประกาศดาวหางขึ้นอย่าให้วิตก
- ๑๓๙ ประกาศให้ผู้ถวายฎีกาลงชื่อฤๅวานผู้ที่ไว้ใจลงแทน
- ๑๔๐ ประกาศห้ามยิงปืน ถ้าจะยิงให้บอกศาลาก่อนจึงยิงได้
- ๑๔๑ เตือนสติพนักงานต้องทำการฉะเพาะตำแหน่ง
- ๑๔๒ ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าจอมอยู่งานกราบถวายบังคมลาออกได้ แลว่าด้วยเจ้าจอมมารดาแลหม่อมห้ามที่มีหม่อมเจ้ามีผัว
- ๑๔๓ ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาตข้าราชการฝ่ายในกราบถวายบังคมลาออก ๑๒ คน
- ๑๔๔ ประกาศกำหนดโทษผู้ร้ายทิ้งไฟ
- ๑๔๕ ประกาศนามผู้ว่าราชการเมืองนครเขื่อนขันธ์
- ๑๔๖ ประกาศห้ามมิให้เฝ้ากรมหมื่นถาวรวรยศ แลกรมหมื่นอลงกฎกิจปรีชาที่วัง นอกจากผู้เปนกรมขึ้น
- ๑๔๗ ประกาศเรื่องคนโทษหนีเข้าไปอาศรัยในวังเจ้า ฤๅมีผู้แก้ไขให้ผู้คุมร้อง
- ๑๔๘ ประกาศห้ามไม่ให้พระสงฆ์พายเรือแจวเรือเวลาเสด็จทางชลมารคแลประทับริมน้ำ
- ๑๔๙ ประกาศแผ่พระราชกุศล ให้พระบรมวงศานุวงศแลข้าทูลลอองฯ ให้ช่วยปลูกสร้างวัดพระปฐมเจดีย
- ๑๕๐ ประกาศวันสงกรานต์ปีมะแมเอกศก
- ๑๕๑ ประกาศการถือสาสนาแลผู้ที่ถือผิด
- ๑๕๒ ประกาศเรื่องพระยาพิพิธฤทธิเดช
- ๑๕๓ ประกาศชำระความหัวเมืองแลบอกส่งกรุงเทพฯ
- ๑๕๔ ประกาศเตือนสติในคำเรียกเจ้าพระยามุขมนตรี แลหลวงมลโยธานุโยค แลกรมล้อมวัง
- ๑๕๕ ประกาศเตือนสติคำที่เรียกทรากศพ
- ๑๕๖ ประกาศเตือนสติ ในคำว่าปิดตรา
- ๑๕๗ ว่าด้วยคำที่เรียกว่าทแกล้วทหาร
- ๑๕๘ ประกาศว่าด้วยคำที่เรียกใบบอกแลท้องตรา
๑๑๐ ประกาศตั้งภาษีน้ำตาลทรายแยกเปน ๓ ราย
ณวันพฤหัสบดี เดือน ๕ แรม ๓ ค่ำ ปีมะเมียยังเปนนพศก
น้ำตาลทรายทุกเมืองในพระราชอาณาเขตร แต่ก่อนมีเจ้าภาษีเก็บภาษีอยู่คนเดียว เมื่อปีมะโรงอัฐศก น้ำตาลทรายซื้อขายกันมีราคามากขึ้นกว่าแต่ก่อน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาตินรเนตรนาถราชสุริยวงศ์ จึงกราบบังคมทูลแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ว่าน้ำตาลทรายมีราคาขึ้น โรงน้ำตาลทรายตั้งขึ้นอีกหลายโรงในงวดปีมะเสงน๗พศก เงินภาษีก็จะขึ้นได้อีกมาก เหนว่ามีเจ้าภาษีอยู่คนเดียวนั้นเงินจะมากนัก จะขอรับพระราชทานแยกออกเปนสามเจ้าภาษี ให้เก็บภาษีตามลำน้ำเจ้าพระยาภาษี ๑ ตามหัวเมืองฝ่ายตวันออกภาษี ๑ เก็บตามหัวเมืองฝ่ายตวันตกภาษี ๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ดำรัสว่าชอบแล้วให้ปฤกษาเสนาบดีให้พร้อมกันก่อน จึงจะออกเปนเจ้าภาษีได้ สมเด็จเจ้าพระยาจึงปฤกษาเสนาบดีเหนพร้อมกันแล้ว จึงได้นำคำปฤกษาขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาอีกครั้งหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งจีนสินเปนที่ขุนพิสุทธสินิเจ้าภาษี เก็บตามลำน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เมืองสมุทปราการ เมืองนครเขื่อนขันธ์ขึ้นไปจนถึง เมืองพิไชย เมืองสวรรคโลกเมืองกำแพงเพ็ชร ๑๙ หัวเมือง ตั้งจีนเกงอยู่ เปนขุนภักดีสินยากรเจ้าภาษี เก็บตามหัวเมืองฝ่ายตวันออก คือเมืองฉะเชิงเทรา เมืองนครนายก เมืองปราจิณบุรี เมืองพนัศนิคม เมืองชลบุรี เมืองบางลมุง เมืองรยอง เมืองตราษ เมืองจันทบุรี รวมกัน ๙ หัวเมือง เปนเจ้าภาษีหนึ่ง ตั้งจีนเล็กเปนขุนสุนทรสินิพิทักษ์เจ้าภาษี เก็บตามหัวเมือง ฝ่ายตวันตก เมืองสาครบุรี เมืองนครไชยศรี เมืองสุพรรณบุรี เมืองสมุทสงคราม เมืองราชบุรี เมืองกาญจนบุรี เมืองเพ็ชร์บุรี เมืองปราณบุรี รวมกันแปดหัวเมือง เจ้าภาษีทั้งสามคนนี้ ขอรับพระราชทานทำ ๒ ปี ถึงจะเก็บภาษีขาดจะส่งเงินให้ครบทั้งสองปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยกเดือนอธิกมาสในจำนวนปีมะเมียสัม๘ฤทธิศกนี้ให้เดือนหนึ่ง เจ้าภาษีทั้งสามคนนี้ได้รับทำภาษีตั้งแต่ณวันอังคาร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเสงน๗พศกต่อไปถึงณวันอาทิตย์ เดือนสิบสอง แรมสิบห้าค่ำ ปีมะเมียสัม๘ฤทธิศก ก็ครบงวดปีหนึ่ง แล้วจะได้ทำต่อไปอีกงวดหนึ่ง ตั้งแต่วันจันทร์ เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเมียสัม๘ฤทธิศก ไปจนวันพฤหัสบดี เดือนสิบสอง แรมห้าค่ำ ปีมะแมเอกศก จึงครบอีกงวดหนึ่ง ตามสัญญากราบทูล เงินทั้งสองงวดเท่ากัน เพราะเดือนอธิกมาสได้โปรดเกล้าฯ ยกพระราชทานเสียแล้ว แลตั้งแต่วันอังคาร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเสงน๗พศก ไปจนวันพฤหัสบดีเดือนสิบสองแรมสิบห้าค่ำปีมะแมเอกศกนั้น ห้ามมิให้ผู้ใดประมูลชิงทำภาษีน้ำตาลทรายเลย ต่อตั้งแต่วันศุกร เดือนอ้ายขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะแมเอกศกไปจึงจะมีช่อง ถ้าใครจะประมูลชิงภาษีก็ได้ หรือถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องราวประมูลชิงภาษี ๓ คนจะร้องขาดบ้างก็ได้ แต่ในภายในสองปี ซึ่งกำหนดไว้แล้วนั้น เจ้าภาษีน้ำตาลทรายทั้ง ๓ คน จะร้องขาดไม่ได้ ตามได้สัญญาไว้ในเรื่องราวแล้ว
ประกาศมาณวันพฤหัสบดีเดือนห้า แรมสามค่ำปีมะเมียยังเปนน๗พศก เปนวันที่ ๒๕๑๓ ในรัชกาลปัตยุบันนี้