- คำนำ
- บทนำเรื่อง
- ที่มาของอนิรุทธคำฉันท์และบทละคอนเรื่องอุณรุท ของ ธนิต อยู่โพธิ์
- ตอนที่ ๑
- ตอนที่ ๒
- ตอนที่ ๓
- ตอนที่ ๔
- ตอนที่ ๕
- ตอนที่ ๖
- ตอนที่ ๗
- ตอนที่ ๘
- ตอนที่ ๙
- ตอนที่ ๑๐
- ตอนที่ ๑๑
- ตอนที่ ๑๒
- ตอนที่ ๑๓
- ตอนที่ ๑๔
- ตอนที่ ๑๕
- ตอนที่ ๑๖
- ตอนที่ ๑๗
- ตอนที่ ๑๘
- ตอนที่ ๑๙
- ตอนที่ ๒๐
- ตอนที่ ๒๑
- ตอนที่ ๒๒
- ตอนที่ ๒๓ ทศมุขพบพระอุณรุท
- ตอนที่ ๒๔
- ตอนที่ ๒๕
- ตอนที่ ๒๖
- ตอนที่ ๒๗
- ตอนที่ ๒๘
- ตอนที่ ๒๙
- ตอนที่ ๓๐
- ตอนที่ ๓๑
- ตอนที่ ๓๒
- ตอนที่ ๓๓
- ตอนที่ ๓๔
- ตอนที่ ๓๕
- ตอนที่ ๓๖
- ตอนที่ ๓๗
- ตอนที่ ๓๘
- ตอนที่ ๓๙
- ตอนที่ ๔๐
- ตอนที่ ๔๑
- ตอนที่ ๔๒
ตอนที่ ๓ ท้าวกำพลนาคไปเยี่ยมท้าวกรุงพาณ
ช้า
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวกำพลนาคเรืองศรี |
ทรงศักดาเดชฤทธี | อยู่มหาธานีบาดาล |
ประกอบด้วยโภไคยไอศูรย์ | สมบูรณ์สมบัติพัสถาน |
รุ่งเรืองด้วยแก้วเก้าประการ | โอฬารล้วนทิพสวรรยา |
ทวยแสนเสนีรี้พล | แต่ละตนเรืองฤทธิ์พิษกล้า |
นับด้วยสมุทรคณนา | ร้ายกาจหยาบช้าชาญฉกรรจ์ |
อันหมู่นาคอนงคนิกร | ดั่งนางอัปสรสาวสวรรค์ |
บำเรอบาทเป็นสุขทุกนิรันดร์ | ไม่มีอันตรายราคี |
เป็นสหายกับท้าวกรุงพาณ | ผู้ผ่านรัตนาบุรีศรี |
ไปมาหากันทุกปี | เป็นที่รักร่วมชีวา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
๏ เข้าที่เหนือแท่นชวลิต | ให้ครวญคิดถึงท้าวยักษา |
ช้านานไม่เห็นลงมา | หรือประชวรโรคาประการใด |
จำกูจะขึ้นไปฟังดู | ให้รู้ร้ายดีเป็นไฉน |
คิดแล้วทรงเครื่องอำไพ | เสด็จไปออกท้องพระโรงคัล |
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
๏ ลดองค์ลงเหนือบัลลังก์อาสน์ | อันโอภาสพรรณรายฉายฉัน |
พร้อมหมู่นาคาอเนกนันต์ | อภิวันท์เกลื่อนกลาดดาษไป |
จึ่งมีพระราชบัญชา | แก่เสนานาคผู้ใหญ่ |
จงจัดพหลพลไกร | จะขึ้นไปรัตนาธานี |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | เสนาผู้ชาญชัยศรี |
รับสั่งพระองค์ทรงฤทธี | ถวายอัญชุลีแล้วออกมา |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เกณฑ์หมู่พหลพลนาค | ให้แปลงกายเป็นกากภาษา |
เหล่าหนึ่งหัวเป็นแร้งกา | กายานั้นเป็นวานร |
เหล่าหนึ่งตัวเป็นคนธรรพ์ | หน้านั้นเป็นหน้ากาสร |
เหล่าหนึ่งหน้าเป็นมังกร | ตัวเป็นวิชาธรเผ่นทะยาน |
เหล่าหนึ่งตัวเป็นผีโป่ง | หน้าเป็นเสือโคร่งตัวหาญ |
เหล่าหนึ่งหน้าเป็นหน้าฟาน | ตัวเป็นตัวมารยืนยัน |
เหล่าหนึ่งตัวเป็นอสุรกาย | หน้าเป็นแรดร้ายขบขัน |
เหล่าหนึ่งหน้าเงาะยิงฟัน | ตัวนั้นเป็นตัวมนุษย์ |
ล้วนถือเครื่องสรรพศัสตรา | กวัดแกว่งไปมาอุตลุด |
นิมิตทั้งม้าต้นฤทธิรุทร | คอยพญาภุชงค์จรลี |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวกำพลนาคเรืองศรี |
เสร็จจัดโยธานาคี | มาเข้าที่สรงชลธาร |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ให้ไขท่อแก้วปทุมทอง | เป็นละอองเฟื่องฟุ้งหอมหวาน |
ทรงสุคนธ์ปนทิพสุมามาลย์ | สนับเพลาแก้วก้านกระหนกงอน |
ภูษาพื้นตองทองผุด | ชายไหวประดับบุษย์ประภัสสร |
ชายแครงช่อแก้วอลงกรณ์ | ฉลององค์เครือซ้อนสุพรรณพราย |
ตาบทิศทับทรวงดวงกุดั่น | สังวาลวัลย์มรกตสามสาย |
เฟื่องห้อยพลอยประดับทับทิมราย | ทองกรนาคกลายพาหุรัด |
ทรงพระธำมรงค์เรือนเก็จ | มงกุฎเพชรรุ้งร่วงดวงจำรัส |
ห้อยพวงมาลัยดอกไม้ทัด | กรรเจียกจอนเนาวรัตน์รูจี |
จับพระขรรค์แก้วแววฟ้า | งามสง่าดังองค์โกสีย์ |
เสด็จจากปราสาทมณี | จรลีมาขึ้นอัสดร |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ ม้าเอยม้านิมิต | ทำฤทธิ์เทียมราชไกรสร |
สูงตระหง่านผ่านขาวอรชร | ผมอ่อนหางยาวเท้ารัด |
ผูกเครื่องสุวรรณกุดั่นเพชร | จงกลแก้วเรือนเก็จแสงจำรัส |
เคล่าคล่องว่องไวดั่งลมพัด | ดีดกัดกล้าหาญชาญฉกรรจ์ |
ได้ยินเสียงพลโห่ฮึก | แล่นสะอึกเผ่นโจนโผนผัน |
ประดับด้วยจามรทอนตะวัน | กรรภิรุมชุมสายรายเรียง |
ธงริ้วทิวเรียบเป็นแถวถ้อง | ปี่ฆ้องกลองขานประสานเสียง |
โยธาแห่หน้าเป็นคู่เคียง | ดูเพียงฟองคลื่นในสายชล |
ผงคลีพัดคลุ้มกลุ้มกลบ | โห่สนั่นลั่นภพกุลาหล |
ชำแรกแทรกพื้นสุธาดล | รีบพลขับแข่งกันไป |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
๏ ครั้นถึงรัตนาธานี | ให้หยุดโยธีน้อยใหญ่ |
ลงจากสินธพมโนมัย | เข้าไปในท้องพระโรงคัล |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | กรุงพาณฤทธิแรงแข็งขัน |
เสด็จออกอสุรกุมภัณฑ์ | เห็นพระสหายนั้นขึ้นมา |
กวักหัตถ์ร้องเชิญแต่ไกล | ด้วยใจแสนโสมนัสสา |
ลุกจากแท่นแก้วรัตนา | มาจูงกรพญานาค |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ให้นั่งร่วมอาสน์สุวรรณรัตน์ | ภายใต้เศวตฉัตรมณีศรี |
ต่างคำรพนบนอบด้วยไมตรี | โดยที่พันธมิตรสนิทกัน |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พญานาคฤทธิแข็งขัน |
กับพระสหายร่วมชีวัน | ต่างชมเชยกันไปมา |
ต่างตนมีความโสมนัส | ตบหัตถ์สำรวลสรวลร่า |
ต่างตนปราศรัยสนทนา | ลูบหลังลูบหน้าด้วยยินดี |
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรยักษี |
เจรจาด้วยพญานาคี | เป็นที่รื่นเริงบันเทิงใจ |
จึ่งมีมธุรสพจนารถ | แก่มหาอำมาตย์ผู้ใหญ่ |
จงสั่งวิเสทนอกใน | ให้แต่งเอมโอชโภชนา |
อีกทั้งเมรัยชัยบาน | ตระการด้วยมัจฉะมังสา |
มาถวายพระสหายร่วมชีวา | เลี้ยงทั้งโยธานาคี |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | จึ่งมหาอำมาตย์ยักษี |
รับสั่งพระองค์ทรงธรณี | ถวายอัญชุลีแล้วออกไป |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ จึ่งสั่งชาววังให้หมายบอก | วิเสทในนอกน้อยใหญ่ |
ให้แต่งโภชนาแลเมรัย | โดยในพระราชบัญชา |
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
๏ บัดนั้น | ฝ่ายนางวิเสทซ้ายขวา |
แจ้งหมายจ่ายของเป็นโกลา | มาทำตามที่พนักงาน |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ วิเสทในก็แต่งเครื่องต้น | เทียบทานสับสนอลหม่าน |
พร้อมทั้งเมรัยชัยบาน | ของคาวของหวานครบครัน |
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
๏ บัดนั้น | ฝ่ายนางพนักงานสาวสรรค์ |
พร้อมทั้งสิบสองพระกำนัล | ชวนกันอาบน้ำชำระกาย |
ผัดพักตร์นวลละอองยองใย | ใส่น้ำมันกันไรเฉิดฉาย |
แน่งน้อยจิ้มลิ้มยิ้มพราย | นุ่งห่มกรีดกรายโอฬาร์ |
ท่วงทีมารยาทสะอาดงาม | จัดตามตำแหน่งซ้ายขวา |
ยกเครื่องเนื่องตามกันออกมา | ถวายองค์พญากุมภัณฑ์ |
ฯ ๖ คำ ฯ เพลง
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรรังสรรค์ |
จึ่งชวนพระสหายร่วมชีวัน | เสวยด้วยกันสำราญใจ |
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
๏ บัดนั้น | ฝ่ายนางกำนัลน้อยใหญ่ |
ทรงโฉมเลิศลักษณ์อำไพ | เข้ามาหมอบใช้อสุรี |
ลางนางก็รินสุรา | ใส่จอกรัตนามณีศรี |
ถวายทั้งพญานาคี | บ้างโบกปัดพัดวีอยู่งาน |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ฝ่ายนางบำเรอก็ครวญขับ | ร้องรับรี่เรื่อยเฉื่อยฉาน |
ดีดสีตีเป่าบรรเลงลาน | ฉิ่งกรับประสานจังหวะกัน |
รำมะนาท้าทับสลับเสียง | เพราะเพียงบรรเลงเพลงสวรรค์ |
โหยหวนทุ้มเอกโอดพัน | เสนาะสนั่นแจ้วจับวิญญาณ์ |
ฯ ๔ คำ ฯ
พระทอง
๏ ฝ่ายนางระบำก็รำฟ้อน | กรายกรกรีดนิ้วพลิ้วท่า |
เวียนวงเป็นหงส์ลีลา | เข้ามาใกล้องค์พญามาร |
ยักย้ายร่ายรำทำกระบวน | ให้ยั่วยวนในความสงสาร |
แล้วเปลี่ยนท่ามารำเป็นบัวบาน | ชำเลืองลานแลเหลือบเป็นที |
เยื้องไหล่กรายหัตถ์พร้อมกัน | ผินผันเมียงม่ายชายหนี |
ยิ้มละไมใส่จริตให้ยินดี | เป็นที่เพลิดเพลินจำเริญใจ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | นางวิเสทนอกน้อยใหญ่ |
เสร็จแต่งโภชนาแลเมรัย | ก็ให้หาบหามเข้ามา |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ตั้งเรียงเคียงไว้เป็นเหล่าเหล่า | แกล้มเหล้าควายปิ้งกระทิงพล่า |
ช้างพะแนงแกงอูฐโคลา | ตุ่มใหญ่ใส่สุราเรียงราย |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | โยธาบาดาลทั้งหลาย |
เห็นของหลากหลากมากมาย | ไพร่นายชื่นชมยินดี |
นั่งพร้อมล้อมกันเป็นเหล่าเหล่า | กินแกล้มกินเหล้าหัวร่อมี่ |
บ้างส่งเวียนกันทำที | เมามายด่าตีกันวุ่นไป |
บ้างเต้นบ้างรำโฉงเฉง | ตบมือทำเพลงปรบไก่ |
บ้างพูดอวดตัวไม่กลัวใคร | สำราญใจทุกหมู่โยธา |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวกำพลนาคนาถา |
เสวยพลางทางทอดทัศนา | ดูนางกัลยาระบำบัน |
ยิ่งพิศก็ยิ่งพิศวง | รูปทรงงามเพียงอัปสรสวรรค์ |
ทั้งน้ำเสียงสำเนียงโอดพัน | ซาบกรรณแว่วเจื้อยจับใจ |
ครํ่าครวญรัญจวนป่วนจิต | ข้องคิดในความพิสมัย |
งวยงงหลงเคลิ้มสติไป | ที่ในรูปทรงกัลยา |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรยักษา |
กับท้าวกำพลนาคา | เสร็จเสวยโภชนาสุราบาน |
พูดเล่นเจรจาด้วยกัน | สำรวลสรวลสันต์เกษมศานต์ |
คิดแต่จะเที่ยวรอนราญ | ด้วยจิตเป็นพาลไม่เกรงใคร |
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา[๑]
๏ เมื่อนั้น | พญานาคผู้มีอัชฌาสัย |
ครั้นบ่ายชายแสงอโณทัย | จึ่งกล่าวคำไปด้วยสุนทร |
พระสหายค่อยอยู่สวัสดี | เรานี้จะลาไปก่อน |
ตรัสแล้วย่างเยื้องบทจร | มายังนิกรโยธา |
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
๏ ครั้นถึงขึ้นทรงมโนมัย | พร้อมด้วยพลไกรซ้ายขวา |
ชำแรกแหวกสมุทรลงมา | ยังมหาบาดาลธานี |
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
[๑] จบต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๕๖๗ ขึ้นต้นฉบับหนังสือสมุดไทยเลขที่ ๕๔๘ สอบเทียบกับต้นฉบับสมุดไทยเลขที่ ๕๔๘