- คำนำ
- บทนำเรื่อง
- ที่มาของอนิรุทธคำฉันท์และบทละคอนเรื่องอุณรุท ของ ธนิต อยู่โพธิ์
- ตอนที่ ๑
- ตอนที่ ๒
- ตอนที่ ๓
- ตอนที่ ๔
- ตอนที่ ๕
- ตอนที่ ๖
- ตอนที่ ๗
- ตอนที่ ๘
- ตอนที่ ๙
- ตอนที่ ๑๐
- ตอนที่ ๑๑
- ตอนที่ ๑๒
- ตอนที่ ๑๓
- ตอนที่ ๑๔
- ตอนที่ ๑๕
- ตอนที่ ๑๖
- ตอนที่ ๑๗
- ตอนที่ ๑๘
- ตอนที่ ๑๙
- ตอนที่ ๒๐
- ตอนที่ ๒๑
- ตอนที่ ๒๒
- ตอนที่ ๒๓ ทศมุขพบพระอุณรุท
- ตอนที่ ๒๔
- ตอนที่ ๒๕
- ตอนที่ ๒๖
- ตอนที่ ๒๗
- ตอนที่ ๒๘
- ตอนที่ ๒๙
- ตอนที่ ๓๐
- ตอนที่ ๓๑
- ตอนที่ ๓๒
- ตอนที่ ๓๓
- ตอนที่ ๓๔
- ตอนที่ ๓๕
- ตอนที่ ๓๖
- ตอนที่ ๓๗
- ตอนที่ ๓๘
- ตอนที่ ๓๙
- ตอนที่ ๔๐
- ตอนที่ ๔๑
- ตอนที่ ๔๒
ตอนที่ ๑๙ ศุภลักษณ์วาดรูป
ช้า
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษาสาวสวรรค์ |
ครั้นสว่างสร่างเวทเทวัญ | พอแสงพรรณเรื่อเหลืองเรืองฟ้า |
สนั่นเสียงฆ้องยามย่ำรุ่ง | ประกายพรึกพรายพุ่งเวหา |
ฟื้นกายพลางพลิกกลับมา | กรคว้าหาองค์พระทรงฤทธิ์ |
ไม่พบพระโฉมเฉลิมเนตร | อัคเรศหวาดหวั่นตันจิต |
แสนอาวรณ์ร้อนรุ่มเป็นสุดคิด | ดั่งเพลิงพิษเผาทรวงดวงใจ |
อนิจจาพระยอดเยาวราช | มาสมสวาทแนบน้องแล้วไปไหน |
แลหาไม่เห็นยิ่งอาลัย | อรไทข้อนทรวงเข้าโศกา |
ฯ ๘ คำ ฯ โอด
ร่าย
๏ ผุดลุกขึ้นจากบรรจถรณ์ | สะท้อนใจเศร้าโทมนัสสา |
แล้วกรายกรนวยนาดยาตรา | เที่ยวหาพระดวงชีวัน |
ฯ ๒ คำ ฯ
เพลงเวศุกรรม
๏ นัยนาแลลอดสอดดู | ในหมู่นางนาฏสาวสวรรค์ |
เที่ยวทั่วห้องแก้วแพรวพรรณ | ช่องชั้นฉากม่านซึ่งกั้นไว้ |
ถ้วนทุกตำบลก็ค้นจบ | จะพบพระยอดฟ้าก็หาไม่ |
อุราร้อนรุมดั่งสุมไฟ | ชลนัยน์นองพักตร์กัลยา |
สุดรักสุดคิดจะปิดความ | จึ่งถามพระพี่เลี้ยงทั้งห้า |
พี่นางจงได้เมตตา | ช่วยบอกแก่ข้าอย่าอำพราง |
ยังเห็นพระองค์ทรงลักษณ์ | ของน้องรักออกมาที่นี่บ้าง |
ถามพลางก็ร้องไห้พลาง | พ่างเพียงจะพินาศขาดใจ |
แม้นไม่พบองค์พระทรงฤทธิ์ | อันชีวิตจะคงอย่าสงสัย |
น้องจะสู้ม้วยบรรลัย | มิขออยู่ให้ได้เวทนา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด
๏ บัดนั้น | นวลนางพี่เลี้ยงทั้งห้า |
ได้ฟังเสาวนีย์กัลยา | ต่างถวิลจินดาดูหน้ากัน |
ให้พะวงสงสัยเป็นพ้นนัก | ไฉนหนอนงลักษณ์สาวสวรรค์ |
มาตรัสถามความขำรำพัน | แล้วกันแสงไปดั่งนี้ |
ผู้ใดใครจักองอาจ | ไม่เกรงเบื้องบาทบทศรี |
แห่งองค์พญาอสุรี | จะเข้ามาถึงที่พระธิดา |
ทั้งหกห้องสวรรค์ชั้นมนุษย์ | ก็เข็ดขามฤทธิรุทรยักษา |
หากองค์พระยอดกัลยา | จินดาใฝ่ฝันกระสันไป |
ด้วยเจ้าแรกรุ่นจำเริญโฉม | กำดัดลานโลมพิสมัย |
คิดแล้วต่างทูลอรไท | ตรัสไยฉะนี้พระเทวี |
หากให้วิปริตนิมิตฝัน | กระสันในความเกษมศรี |
จะสำคัญว่าจริงนั้นผิดที | เจ้าพี่อย่าทรงโศกา |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | โฉมยงองค์นางอุษา |
ฟังพี่เลี้ยงร่วมชีวา | กัลยาจึ่งตรัสตอบไป |
อันตัวของน้องครั้งนี้ | จะอำพรางอายพี่นั้นหาไม่ |
ความจริงตระหนักประจักษ์ใจ | อย่าสงสัยว่าฝันบันดาล |
คืนนี้มีชายทรงโฉม | มาประโลมร่วมรสสงสาร |
ยั่วเย้าเคล้าสวัสดิ์สัมผัสพาน | เสียดสมานแนบน้องประคองเคียง |
ร่วมเขนยเชยสนองเป็นสองสม | ชวนชมรูปรสกลิ่นเกลี้ยง |
เกษมสันต์บรรทมภิรมย์เรียง | อำไพเพียงโฉมสวัสดิ์หัสนัยน์ |
รูปทรงแห่งองค์พระยอดฟ้า | ดวงพักตร์ลักขณาก็จำได้ |
พอน้องเคลิ้มกายก็หายไป | เมื่อปัจจุสมัยราตรี |
ความแสนวิตกเพียงอกหัก | ด้วยพระทรงลักษณ์มาหน่ายหนี |
แสนทุกข์สุดทุกข์ในครานี้ | แทบถึงชีวีมรณา |
พี่จงกรุณาน้องด้วย | เชิญช่วยรีบร้นค้นหา |
เกลือกไปร่วมรสกรีฑา | ด้วยหมู่กัลยายุพาพาล |
อันจะร่ำรำพันคุณพี่ | เลี้ยงมาไม่มีสิ่งสมาน |
ครั้งนี้ก็ล้นพ้นประมาณ | จงคิดอ่านช่วยชูชีวิตไว้ |
ฯ ๑๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระพี่เลี้ยงผู้มีอัชฌาสัย |
ได้ฟังฉงนสนเท่หใจ | เออไฉนมาเป็นดังนี้ |
ตรัสร่ำรำพันไปทุกสิ่ง | ครั้นจะว่าไม่จริงก็ใช่ที่ |
ยังเด็กเล็กอยู่เมื่อไรมี | จะไม่รู้คดีที่สำคัญ |
เราจำจะไปค้นดู | ในหมู่อนงค์สาวสรรค์ |
ว่าแล้วห้านางบังคมคัล | ก็พากันรีบบทจรไป |
ฯ ๖ คำ ฯ
เพลงเวศุกรรม
๏ เที่ยวทั่วสถานเรือนทอง | ทุกห้องกำนัลน้อยใหญ่ |
มิได้พบพานผู้ใด | ทั้งห้าอรไทก็กลับมา |
ฯ ๒ คำ ฯ ชุบ
๏ นบนิ้วประณตบทบงสุ์ | ทูลองค์เยาวยอดเสน่หา |
ข้าค้นทุกห้องกัลยา | จะเห็นใครไปมาก็ไม่มี ฯ |
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
โอ้
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษามารศรี |
ฟังห้ากัลยาพาที | เทวีข้อนทรวงเข้าร่ำไร |
โอ้ว่าอนิจจานะอกเอ๋ย | ไฉนเลยมาเป็นเช่นนี้ได้ |
แม้นม้วยชีวันบรรลัย | ลับไปก็ดูประเสริฐนัก |
เสียชาติที่เกิดเป็นสตรี | เสียทีปรากฏด้วยยศศักดิ์ |
เพียงนี้ฤๅชายมาหน่ายรัก | สละพักตร์หนีได้ไม่เมตตา |
นิจจาเอ๋ยพระยอดเยาวราช | มาตัดขาดแรมร้างเสน่หา |
ฤๅเกรงสมเด็จพระบิดา | รู้เหตุจะฆ่าราตี |
จึ่งทิ้งน้องไว้ให้ทนทุกข์ | พระไปเป็นสุขเกษมศรี |
แต่จะบอกจะสั่งก็ไม่มี | ให้โศกีโหยหาอาลัย |
ร่ำพลางนางคล้ายนัยน์เนตร | ว่าทรงเดชเสด็จเข้ามาใกล้ |
สำคัญว่าจริงก็ดีใจ | อรไทจะประณตบทบงสุ์ |
ดูไปไม่เห็นพระโฉมเฉลิม | ยิ่งเพิ่มโศกแสนคะนึงตะลึงหลง |
สองกรข้อนทรวงระทวยองค์ | โฉมยงเพียงสิ้นสมประดี |
ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด
๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงทั้งห้ามารศรี |
เห็นนางทรงโศกโศกี | แสนทวีเทวษรำพัน |
ต่างคนเร่าร้อนอุรา | พ่างเพียงชีวาจะอาสัญ |
ด้วยสุดรักพระธิดาวิลาวัณย์ | ปลอบพลางรับขวัญอรไท |
แม่ผู้ทรงโฉมประโลมโลก | อย่าแสนโศกนักเลยหาควรไม่ |
หากแม่เจ้ากระสันฝันไป | จะหมายว่าจริงใจนั้นใช่ที |
ผู้ใดจะอาจเข้ามา | ไม่เกรงพญายักษี |
จงระงับดับใจเทวี | ขวัญเนตรของพี่อย่าอาวรณ์ |
ฯ ๘ คำ ฯ
โอ้
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษาสายสมร |
ได้ฟังร้อนใจดังไฟฟอน | ทอดถอนฤทัยไปมา |
อนิจจาพี่นางของน้องเอ๋ย | ไฉนเลยไม่เห็นอกข้า |
ควรฤๅไม่เชื่อวาจา | จะขืนว่าใฝ่ฝันด้วยอันใด |
เมื่อมีชายโฉมประโลมสวาท | มาร่วมอาสน์แนบสนิทพิสมัย |
ไม่เคลือบแคลงแจ้งตระหนักประจักษ์ใจ | จริงจริงจำได้ทุกประการ |
ทั้งกลิ่นเกลาเสาวรสที่ในกาย | ยังติดอยู่ไม่หายหอมหวาน |
ตัวพี่ล้วนปรีชาชาญ | วานอย่าแคลงถวิลในวิญญาณ์ |
ว่าพลางหวนหาพระเยาวราช | วรนาฏเศร้าโทมนัสสา |
ทอดองค์ลงทรงโศกา | ดั่งว่าจะสิ้นสมประดี |
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด
๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายนางศุภลักษณ์ยักษี[๑] |
เห็นองค์สมเด็จพระเทวี | โศกีบอกความร่ำไร |
ให้ฉงนสนเท่ห์เป็นพ้นนัก | ไฉนหนอนงลักษณ์ก่นร้องไห้ |
ครั้นจะว่าใฝ่ฝันกระสันไป | ไยองค์วนิดายุพาพาล |
จึงเสียศรีพิกลหม่นหมอง | ดั่งบัวทองต้องแสงสุริย์ฉาน |
ปรางเปรียบปรางแก้วอลงการ | ก็บันดาลชอกช้ำเป็นราคี |
ฤๅจะว่าเทวามาลอบชม | แนบน้องภิรมย์สมศรี |
คิดแล้วทูลถามทันที | ภูมีนั้นนามกรใด |
เป็นชาติเชื้อวงศ์พงศ์กษัตริย์ | ผ่านแสนสมบัติบุรีไหน |
จงบอกให้แจ้งประจักษ์ใจ | จะได้ผ่อนผันด้วยปัญญา |
อันธุระร้อนใจในครั้งนี้ | ตัวพี่จะขออาสา |
ไปเชิญเสด็จพระองค์มา | สมแก้วกัลยาอย่าอาวรณ์ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
ร่าย
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษาสายสมร |
ฟังพี่เลี้ยงกล่าวสุนทร | บังอรโสมนัสพันทวี |
จึงตรัสมธุรสวาจาตอบ | ว่านี้น้องขอบคุณพี่ |
อันพระสุริย์วงศ์สวัสดี | เสด็จมาถึงที่บรรทมใน |
จะตรัสพจมานสารสนอง | สิ่งใดด้วยน้องก็หาไม่ |
ครั้นจะถามนามวงศ์ก็จนใจ | พูดออกมิได้ดั่งจินดา |
ประหลาดใจเหตุไฉนเป็นฉะนี้ | ผิดทีให้คิดกังขา |
น้องเคลิ้มหลับสนิทนิทรา | จนเวลาสร่างแสงสุริยัน |
อันนามวงศ์พงศ์ไหนไม่รู้จัก | แต่พิมพ์พักตร์ยังจำได้แม่นมั่น |
ทรงสิริเลิศลักษณ์วิไลวรรณ | สารพันเป็นที่จำเริญใจ |
จะหาหกห้องสวรรค์ชั้นมนุษย์ | เป็นสุดที่จะเปรียบโฉมได้ |
พี่ผู้ศักดาปรีชาไว | ช่วยชีวิตน้องไว้ในครั้งนี้ |
ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา
ร่าย
๏ เมื่อนั้น | นวลนางศุภลักษณ์โฉมศรี |
ได้ฟังพระราชเสาวนีย์ | ชุลีกรทูลองค์นงคราญ |
แม่อย่าโศกศัลย์เลยขวัญเนตร | เยาวเรศผู้ยอดสงสาร |
เชิญเสวยแสนสุขให้สำราญ | ไว้พนักงานพี่ผู้ศักดา |
จะเที่ยวเสาะไปในไตรภพ | ใหจบทั่วทศทิศา |
วาดรูปสุริย์วงศ์กษัตรา | คนธรรพ์เทวานาคี |
ทั้งหกห้องสวรรค์ชั้นทวีป | เร่งรีบมาถวายโฉมศรี |
รูปใดแม้นเหมือนภูมี | อันมาร่วมที่บรรทมใน |
จงบอกพี่เถิดสายสมร | จะไปวอนเชิญเสด็จมาให้ |
สมแก้ววนิดายาใจ | ลุได้ดั่งถวิลจินดา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
๏ เมื่อนั้น | โฉมยงองค์นางอุษา |
ฟังพี่เลี้ยงร่วมชีวา | กัลยาแสนโสมนัสนัก |
จึงถอดพระธำมรงค์เพชร | เรือนเก็จคู่ทรงพญาจักร |
ประทานโฉมศรีศุภลักษณ์ | น้องรักให้พลางเป็นรางวัล |
แม้นสมดั่งจิตที่คิดแล้ว | ทรัพย์แสนแหวนแก้วทุกสิ่งสรรพ์ |
จะเพิ่มให้พี่นางอเนกนันต์ | อันช่างคิดชอบข้าขอบใจ |
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา
๏ เมื่อนั้น | ศุภลักษณ์ผู้มีอัชฌาสัย |
รับธำมรงค์แก้วแววไว | บังคมลาเหาะไปด้วยฤทธี |
ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง
๏ ขึ้นยังพิภพเทวัญ | หกสวรรค์ชั้นฟ้าราศี |
วาดโฉมสมเด็จพระศุลี | ทรงมณีตรีศูลศักดา |
ทั้งพระขันธกุมาราราช | สถิตอาสน์มยุเรศปักษา |
รูปพระนารายณ์เทวา | ทรงสังข์จักราคทาธร |
ทั้งรูปพระเพลิงเริงแรง | เปล่งแสงโอภาสประภัสสร |
พระพายผู้เรืองฤทธิรอน | เขจรเหนืออาสน์พาชี |
ท้าวโลกบาลชาญฤทธิ์ | อันประจำในทิศทั้งสี่ |
พระพิรุณทรงอาสน์วาสุกรี | ศศิธรรังสีสุริยัน |
วาดโฉมสมเด็จหัสนัยน์ | ทรงไอยราพตรังสรรค์ |
อีกองค์สุยามเทวัญ | เจ้าสวรรค์ดุสิตฤทธิรอน |
รูปท้าวนิมมานรดิศ | ชั้นนิมิตแมนมารชาญสมร |
ล้วนทรงศรีสวัสดิ์สถาวร | เสร็จแล้วเขจรกลับมา |
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงจึ่งเข้ายังปราสาท | นบบาทถวายรูปเลขา |
แก่องค์สมเด็จพระธิดา | ทูลว่าอันรูปทั้งนี้ |
พี่จำลองลักษณ์พักตร์เพศ | เทเวศเจ้าฟ้าทุกราศี |
องค์ใดจะเหมือนพระภูมี | เชิญเทวีทอดทัศนา |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระบุตรีเยาวยอดเสน่หา |
พิศรูปเทวราชที่วาดมา | ผิดพระยอดฟ้ายาใจ |
ยิ่งแสนสลดระทดจิต | พิศพิศแล้วถอนใจใหญ่ |
จึงตรัสแก่พี่เลี้ยงทันใด | รูปนี้มิใช่พระทรงลักษณ์ |
อันพระองค์น้องเห็นจะเป็นมนุษย์ | มงกุฎแหล่งหล้าอาณาจักร |
ผิดเทพเทวาสุรารักษ์ | พิมพ์พักตร์ร่างกายนั้นไกลกัน |
ว่าพลางคิดครวญหวนหา | องค์พระยอดฟ้านราสรรค์ |
เร่าร้อนอุราจาบัลย์ | ทรงกันแสงโศกโศกี |
ฯ ๘ คำ ฯ โอด
๏ เมื่อนั้น | นวลนางศุภลักษณ์โฉมศรี |
เห็นองค์สมเด็จพระบุตรี | โศกีฟูมฟายชลนา |
จึ่งปลอบโฉมงามด้วยความรัก | นงลักษณ์พี่ยอดเสน่หา |
อันรูปเทวราชที่วาดมา | ผิดพระยอดฟ้ายุพาพาล |
ยังในพ่างพื้นปัฐพี | โสฬสบุรีราชฐาน |
ล้วนกษัตริย์ทรงโฉมประโลมลาน | พี่จะลานงคราญกลับไป |
วาดทรงองค์พระเยาวเรศ | ทุกประเทศพารานั้นมาให้ |
ขวัญอ่อนเจ้าอย่าอ้อนอาลัย | อดใจไว้ก่อนนะเทวี |
ว่าแล้วประณตบทบงสุ์ | โฉมยงเยาวลักษณ์เฉลิมศรี |
ถีบทะยานผ่านฟ้าด้วยฤทธี | เทวีเหาะไปในเมฆา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด
ร่าย
๏ ลงยังนิเวศน์เวียงสวัสดิ์ | แห่งกษัตริย์ทั่วทุกทิศา |
วาดรูปชุณรัตน์ศักดา | ลักขณาเทียมเทพเทวัญ |
ทั้งรูปพระลอเลิศลักษณ์ | ประไพพักตร์เฉิดโฉมประโลมขวัญ |
รูปพระวรวงศ์ทรงธรรม์ | พระสุวรรณหงส์ฤทธิรอน |
วาดรูปพระรถสุริย์วงศ์ | พระสัชนูผู้พงศ์อดิศร |
พระสมุทโฆษสถาวร | ขจรยศเลื่องหล้าสุธาธาร |
บรรดากษัตริย์อันทรงลักษณ์ | ประไพพักตร์ยั่วยวนสงสาร |
จำเริญรุ่นเยาวราชกุมาร | ประโลมลานฤทัยสตรี |
ในชมพูแผ่นแดนประเทศ | โสฬสนคเรศบุรีศรี |
วาดทรงลงกระดาษมาศมณี | เหมือนสิ้นด้วยปรีชาไว |
เว้นแต่ณรงการาชฐาน | บันดาลไม่ระลึกตรึกได้ |
ได้แต่รูปอื่นที่อำไพ | ก็เหาะรีบกลับไปพารา |
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงจึงตรงเข้าเฝ้า | น้อมเกล้าบังคมเหนือเกศา |
ถวายรูปในกระดาษที่วาดมา | แก่องค์พระธิดายุพาพาล |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นางอุษาเยาวยอดสงสาร |
รับกระดาษวาดรูปอลงการ | แห่งกษัตริย์ทุกสถานธานี |
แล้วพินิจพิศดูทุกองค์ | ใช่ทรงพระโฉมเฉลิมศรี |
อันมาร่วมรสฤๅดี | ในที่แท่นทิพไสยา |
ฯ ๔ คำ ฯ
โอ้ร่าย
๏ ทิ้งรูปวาดลงตรงพักตร์ | นงลักษณ์เศร้าโทมนัสสา |
ยิ่งทวีเทวษเพทนา | ปิ้มว่าจะพินาศขาดใจ |
ให้คลุ้มคลั่งนั่งขึงตะลึงคิด | ดังเพลิงพิษเผาอกหมกไหม้ |
ชลเนตรคลอเนตรอรไท | อาลัยเป็นพ้นพันทวี |
ฯ ๔ คำ ฯ
ร่าย
๏ จึ่งมีวาจาอันสุนทร | แก่บังอรศุภลักษณ์โฉมศรี |
พี่นางผู้เรืองฤทธี | ความปรานีน้องเป็นพ้นนัก |
ไม่คิดเหนื่อยยากลำบากใจ | ผู้เดียวเที่ยวไปในไตรจักร |
วาดรูปเทวาสุรารักษ์ | กษัตริย์ทรงลักษณ์ทุกพารา |
มาหวังชูจิตชีวิตน้อง | คุณของพี่นางก็หนักหนา |
เมื่อไม่พบพักตร์ลักขณา | องค์พระยอดฟ้ายาใจ |
ตัวน้องครั้งนี้นี่สุดคิด | อันจะรอดชีวิตนั้นหาไม่ |
ว่าพลางทอดถอนฤๅทัย | โหยไห้รำพันโศกี |
ฯ ๘ คำ ฯ โอด
โอ้ครวญ
๏ โอ้พระสุริย์วงศ์ของน้องเอ๋ย | ไฉนเลยจะพบบทศรี |
แสนอาวรณ์ร้อนใจในครั้งนี้ | สุดที่จะร่ำพรรณนา |
พระอยู่ถึงนคเรศนิเวศน์ไหน | น้องก็ให้ไปเที่ยวตามหา |
จนสิ้นแดนแผ่นพื้นพสุธา | สุดสวรรค์ชั้นฟ้าบาดาล |
ก็ไม่ประสบพบองค์ | พระผู้ทรงยศยอดสงสาร |
น้องนี้โหยไห้อาลัยลาญ | ทรมานโศกเศร้าเปล่าใจ |
พระไปปานนี้จะปรีดิ์เปรม | แสนเกษมสุขเล่นเป็นไฉน |
จะคิดถึงน้องบ้างประการใด | ฤๅจะสิ้นอาลัยไม่นำพา |
นิจจาเอ๋ยเกิดมาในครานี้ | สตรีใดจะเหมือนอกข้า |
นิราศสุขแสนทุกข์ทุกเวลา | เวทนาอาดูรแดยัน |
แม้นไม่พานพบพระองค์แล้ว | ไหนน้องจะแคล้วชีวาสัญ |
ร่ำพลางข้อนทรวงจาบัลย์ | กันแสงสลบลงทันที |
ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด
๏ เมื่อนั้น | พระพี่เลี้ยงทั้งห้ามารศรี |
เห็นองค์สมเด็จพระบุตรี | โศกีแน่นิ่งไม่ติงกาย |
ต่างตนตกใจเป็นสุดคิด | สลดจิตตัวสั่นขวัญหาย |
สำคัญว่าสิ้นชีวันวาย | เข้าประคองพระกายกัลยา |
ให้เร่าร้อนอุราทั้งห้านาง | พ่างเพียงจะสิ้นสังขาร์ |
ด้วยสุดรักแสนรักพระธิดา | ก็โศกาครวญคร่ำร่ำไร |
ฯ ๖ คำ ฯ
โอ้
๏ โอ้ว่าแม่ผู้เสาวภาคย์ | ตายจากพี่แล้วฤๅไฉน |
ถนอมเลี้ยงมาจนจำเริญวัย | จะให้เคืองสิ่งใดก็ไม่มี |
หวังว่าจะฝากชีวิตเจ้า | ขวัญข้าวพี่ผู้เฉลิมศรี |
จะปลอบปลุกเท่าไรไม่พาที | แม่หน่ายหนีพี่แล้วฤๅแก้วตา |
จงผินพักตร์มาตรัสประภาษก่อน | สายสมรเยาวยอดเสน่หา |
เจ้าเคียดแค้นสิ่งใดวนิดา | จึ่งสู้เสียชีวานิราลัย |
แม้นแม่ม้วยจริงแล้วครั้งนี้ | ชีวิตพี่จะคงอย่าสงสัย |
จะกลั้นใจตายตามทรามวัย | ไปให้พ้นภัยพญามาร |
ร่ำพลางต่างกอดเยาวเรศ | แสนเทวษกำสรดสงสาร |
โหยไห้รักองค์นงคราญ | เพียงทำลายลาญชีวา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด
๏ ฝ่ายนางศุภลักษณ์โฉมศรี | ผู้ปรีชาชาญหาญกล้า |
จึ่งคิดถวิลจินดา | อันองค์กัลยาวิลาวัณย์ |
ถ้าบุญประเสริฐเลิศลักษณ์ | คู่บรมจักรรังสรรค์ |
จะสิ้นชีวาวายเสียกลางคัน | อัศจรรย์วิปริตผิดที |
คิดแล้วจึ่งค่อยประคองหัตถ์ | สัมผัสพาดองค์มารศรี |
ยังละมุนอุ่นอยู่ทั้งอินทรีย์ | ก็รู้ว่าเทวีไม่วายปราณ |
จึ่งว่าแก่สี่พระพี่เลี้ยง | อันเคียงข้างเยาวยอดสงสาร |
จงเอาวิมลสุคนธ์ธาร | มาพรมองค์นงคราญทั้งกายา |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สี่นางผู้ยอดเสน่หา |
จึ่งเอาเครื่องพระสุคนธ์มา | ชโลมองค์กัลยาลงทันที |
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
โอ้ร่าย
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษามารศรี |
ต้องรสสุคนธวารี | ชื่นซาบอินทรีย์เย็นใจ |
ทั้งพระพายรำเพยพานองค์ | โฉมยงค่อยฟื้นขึ้นมาได้ |
หอมกลิ่นเหมือนกลิ่นภูวไนย | จรุงใจอวลอบตลบมา |
มีความแสนโสมนัสนัก | นงลักษณ์ผันแปรแลหา |
ทั่วทั้งห้องแก้วอลงการ์ | ไม่เห็นพระยอดฟ้ายุพาพาล |
สองกรนางข้อนอุราร่ำ | โอ้กรรมเอ๋ยกรรมมาจองผลาญ |
แสนทุกข์สุดทุกข์ทรมาน | สุดกาลที่จะครองชีวิตไว้ |
พี่ค่อยอยู่เถิดอย่าทุกข์โศก | อาวรณ์วิโยคโหยไห้ |
น้องได้พลาดพลั้งประการใด | ด้วยกายแลใจวาจา |
จะลาพี่ทั้งห้าแล้วครานี้ | ขออภัยอย่ามีโทษา |
ร่ำพลางกันแสงโศกา | ปิ้มว่าจะสิ้นชีวัน |
ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด
ร่าย
๏ บัดนั้น | ห้าพระพี่เลี้ยงสาวสรรค์ |
เห็นนางโศกาจาบัลย์ | รำพันสมาลาธิกรณ์ |
ต่างตนร้อนใจดั่งไฟพิษ | สลดจิตสงสารสายสมร |
กอดไว้แล้วปลอบด้วยสุนทร | ขวัญอ่อนของพี่คือดวงใจ |
แม่เป็นเชื้อชาติสาวสวรรค์ | จะโศกศัลย์อันนี้หาควรไม่ |
จงระงับดับดวงหฤทัย | ทรามวัยฟังคำพี่พาที |
แม้นแม่กับองค์พระทรงลักษณ์ | เคยร่วมรักกันมาทั้งสองศรี |
ไม่ช้าก็จะพบพระภูมี | อย่าโศกีทุกถวิลจินดา |
เจ้าทรงโฉมประโลมลานสวาท | ชายใดจะไม่มาดปรารถนา |
ถึงแสนไกลก็นัยจะตามมา | นิ่งเถิดแก้วตาอย่าอาวรณ์ |
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา
๏ ปลอบพลางฝ่ายนางศุภลักษณ์ | พี่เลี้ยงร่วมรักสายสมร |
จึ่งตริด้วยปรีชาอันสุนทร | กูเขจรทั่วทิศธาตรี |
วาดรูปกษัตริย์ทุกประเทศ | ทั้งเทเวศหกฟ้าราศี |
มาถวายแก้วกัลยาณี | เทวีไม่ต้องนัยนา |
พระโฉมยงองค์นี้จะอยู่ไหน | หลากจิตสงสัยนี่หนักหนา |
ก็คิดได้ว่ากรุงณรงกา | ยังมิได้วาดมาให้นงคราญ |
จึ่งนบนิ้วทูลองค์เยาวเรศ | ขวัญเนตรผู้ยอดสงสาร |
พี่ลืมไปทีเดียวเยาวมาลย์ | พึ่งตรองการคิดได้บัดเดี๋ยวนี้ |
ยังองค์พระศรีอุณรุท | ลูกท้าวไกรสุทเรืองศรี |
หลานพระหริรักษ์จักรี | ทรงโฉมพ้นที่จะพรรณนา |
งามรูปงามทรงวงพักตร์ | จำเริญรักยั่วยวนเสน่หา |
ลือทั่วดินแดนแผ่นฟ้า | อยู่ณรงกาแก้วกรุงไกร |
พี่จะลาโฉมฉายสายสวาท | ไปวาดรูปนั้นมาให้ |
ว่าพลางรับขวัญอรไท | ดวงใจแม่อย่าโศกี |
ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษามารศรี |
ฟังพี่เลี้ยงร่วมชีวี | พาทีออกนามพระอุณรุท |
ให้ซึมซาบอาบอิ่มฤทัยนัก | นงลักษณ์ยินดีเป็นที่สุด |
ดังเห็นองค์พระพงศ์จักรภุช | วรนุชพิศวาสจะขาดใจ |
ด้วยวาสนาจะควรกัน | เทวัญประสาทลงมาให้ |
บรรดาร้อนเร่าฤทัย | ก็สะส่างออกไปทันที |
ดั่งใครเอาน้ำสุรามฤต | มารดทรวงดวงจิตโฉมศรี |
จึ่งกล่าวมธุรสเสาวนีย์ | พี่ผู้ศักดาปรีชาชาญ |
กรุณาน้องแล้วอย่าเสียสูญ | จงนุกูลให้เป็นแก่นสาร |
เหมือนช่วยชูชีพชนมาน | วานเร่งไปวาดรูปมา |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นวลนางศุภลักษณ์กรรฐา |
ได้ฟังเสาวนีย์พระธิดา | กัลยานบนิ้วสนองไป |
แม่ผู้เสมอทรวงดวงเนตร | อย่าเทวษทุกข์ทนหม่นไหม้ |
ธุระร้อนเพียงนี้มิเป็นไร | จะให้เสร็จสมใจเยาวมาลย์ |
ท่าพี่สักหน่อยเถิดร้อยชั่ง | อยู่หลังจงสุขเกษมศานต์ |
ว่าพลางลาองค์นงคราญ | เหาะทะยานผ่านขึ้นเมฆา |
ฯ ๖ คำ ฯ เชิดฉิ่ง
ร่าย
๏ เลื่อนลอยมาโดยโพยมพราย | งามคล้ายโฉมนางเมขลา |
รวดเร็วไม่ทันพริบตา | ถึงกรุงณรงกาธานี |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ จึ่งตรงลงยังปราสาท | พระหน่อนาถสุริย์วงศเรืองศรี |
ร่ายเวทกำบังอินทรีย์ | อยู่ใกล้แท่นที่พระบรรทม |
ฯ ๒ คำ ฯ ตระ
๏ แลไปในห้องสุวรรณรัตน์ | เงียบสงัดสำเนียงนางสนม |
ไม่ใคร่บันเทิงสำเริงรมย์ | เห็นพระองค์บรรทมอยู่เอกา |
ดูทีวิโยคโศกแสน | คะนึงแน่นทรวงโทมนัสสา |
เพ่งพิศพระจริตกิริยา | แล้วจินดารำพึงคะนึงไป |
พระโฉมเฉลาเยาวราช | องค์นี้ประหลาดน่าสงสัย |
เมื่อสมบัติพัสถานโอฬารใจ | ไฉนเงียบเหงาอยู่ดั่งนี้ |
แต่กูเที่ยววาดโฉมสวัสดิ์ | แห่งกษัตริย์เทวาทุกราศี |
จะเห็นใครซบเศร้าโศกี | เหมือนหนึ่งดั่งนี้ไม่มีเลย |
ฤๅพระไปลอบลองประคองชิด | แนบสนิทร่วมเรียงเคียงเขนย |
แต่สองสองสมภิรมย์เชย | เสวยสุขด้วยองค์นงเยาว์ |
อนิจจาเป็นน่าสงสารนัก | ใครพรากรสรักฉะนี้เล่า |
ให้สองศรีสลบซบเซา | ร้อนเร่าโศกาจาบัลย์ |
ชะรอยเทวาวราฤทธิ์ | พาไปเชยชิดภิรมย์ขวัญ |
แล้วเกรงภัยอสุราราชกุมภัณฑ์ | จึ่งด่วนพรากจากกันพามา |
จะเหมือนกูสำคัญเป็นมั่นคง | สององค์จึ่งเทวษถวิลหา |
คิดพลางวาดรูปพระผ่านฟ้า | เสร็จแล้วกลับมาด้วยว่องไว |
ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงจึ่งเข้ายังห้องแก้ว | แล้วนบนิ้วประนมบังคมไหว้ |
ถวายรูปแก่องค์อรไท | ด้วยใจจงรักภักดี |
ฯ ๒ คำ ฯ
[๑] ใช้ตามฉบับพิมพ์เดิมซึ่งความตรงกับต้นฉบับหนังสือสมุดไทยเลขที่ ๕๕๗ แต่ในต้นฉบับหนังสือสมุดไทยเลขที่ ๕๕๕, ๕๕๖ และ ๖๓๒ ซึ่งความตรงกันทุกฉบับ ความว่า “ฝ่ายนางศุภลักษณ์โฉมศรี”