- คำนำ
- บทนำเรื่อง
- ที่มาของอนิรุทธคำฉันท์และบทละคอนเรื่องอุณรุท ของ ธนิต อยู่โพธิ์
- ตอนที่ ๑
- ตอนที่ ๒
- ตอนที่ ๓
- ตอนที่ ๔
- ตอนที่ ๕
- ตอนที่ ๖
- ตอนที่ ๗
- ตอนที่ ๘
- ตอนที่ ๙
- ตอนที่ ๑๐
- ตอนที่ ๑๑
- ตอนที่ ๑๒
- ตอนที่ ๑๓
- ตอนที่ ๑๔
- ตอนที่ ๑๕
- ตอนที่ ๑๖
- ตอนที่ ๑๗
- ตอนที่ ๑๘
- ตอนที่ ๑๙
- ตอนที่ ๒๐
- ตอนที่ ๒๑
- ตอนที่ ๒๒
- ตอนที่ ๒๓ ทศมุขพบพระอุณรุท
- ตอนที่ ๒๔
- ตอนที่ ๒๕
- ตอนที่ ๒๖
- ตอนที่ ๒๗
- ตอนที่ ๒๘
- ตอนที่ ๒๙
- ตอนที่ ๓๐
- ตอนที่ ๓๑
- ตอนที่ ๓๒
- ตอนที่ ๓๓
- ตอนที่ ๓๔
- ตอนที่ ๓๕
- ตอนที่ ๓๖
- ตอนที่ ๓๗
- ตอนที่ ๓๘
- ตอนที่ ๓๙
- ตอนที่ ๔๐
- ตอนที่ ๔๑
- ตอนที่ ๔๒
ตอนที่ ๑๔ ท้าวกรุงพาณให้หาเทวามานิมิตปราสาทให้นางอุษา จนนางไวยกาประสูติโอรสชื่อทศมุข
๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายฝูงเทวาทุกราศี |
แจ้งว่าพาณาอสุรี | มีราชบัญชาให้หาไป |
ต่างองค์กลัวฤทธิ์อำนาจ | ออกจากวิมานมาศน้อยใหญ่ |
พากันเหาะระเห็จด้วยว่องไว | ตรงไปรัตนาเมืองมาร |
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงจึงหมู่สุราฤทธิ์ | ก็สถิตในที่ควรสถาน |
ยังพื้นพสุธาหน้าพลาญ | แห่งองค์กรุงพาณอสุรี |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรยักษี |
เห็นเทเวศมาพร้อมก็ยินดี | จึ่งมีสุนทรบัญชา |
เราออกไปป่าพนาลัย | ได้นางหนึ่งชื่ออุษา |
แต่ในสำนักพระสิทธา | มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม์ |
จึ่งเชิญท่านเทวาวราฤทธิ์ | มาช่วยรังสฤษฎ์ประดิษฐ์รังสรรค์ |
ปราสาทมาศแม้นพิมานจันทร์ | ให้แก่กัลยากุมารี |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | หมู่อมรเมศเรืองศรี |
ได้ฟังอสุราพาที | ต่างองค์ยินดีด้วยสมคิด |
ครั้งนี้แหละอ้ายกุมภัณฑ์ | ผู้ใจอาธรรม์ทุจริต |
มันจักฉิบหายวายชีวิต | ด้วยผลกำเริบฤทธิ์อหังการ์ |
คิดแล้วรับรสพจมาน | แห่งท้าวกรุงพาณยักษา |
ต่างองค์สำแดงเดชา | ออกมานิมิตด้วยฤทธี |
ฯ ๖ คำ ฯ ตระ
ยานี
๏ บัดเดี๋ยวบันดาลด้วยอำนาจ | รังสฤษฎ์เป็นปราสาทมณีศรี |
ผุดขึ้นแต่พื้นปฐพี | ตั้งที่ประเทศนิเวศน์มาร |
พื้นยอดสูงเยี่ยมโพยมหน | จงกลเหมแก้วมุกดาหาร |
พรหมพักตร์พริ้มผาดแลลาน | บราลีแกมกาญจน์อลงกรณ์ |
สี่มุขบันมาศดาดเพชร | ทรงเก็จเสากาบพรหมสร |
ช่อฟ้าชดเฟื้อยอัมพร | ลำยองช้อนแก้วใส่ใบระกา |
ทวยทองรองเต้ามณีตั้ง | แย่งกระหนกมาศผนังดั่งเลขา |
ซุ้มแกลแลลายพรายตา | ทวาราบานรัตน์จำรัสราย |
เจ็ดชั้นพื้นลดผลึกลาด | พระแท่นอาสน์เรืองเอี่ยมวิเชียรฉาย |
ลับแลล้วนแล้วด้วยแก้วลาย | ฉากระบายเครือเบญจรงค์เรือง |
เพดานห้อยดวงพวงพู่ | มณีนวลเรณูฟุ้งเฟื่อง |
ที่นั่งเย็นแก้วระย้าค่าเมือง | ชาลาเนื่องติดแนวไพทีทอง |
ทิมเรียงเคียงรายซ้ายขวา | โอฬาร์สุรโลกไม่มีสอง |
คู่เวไชยันต์มาศพิมานรอง | ล่องฟ้ามาตั้งยังธาตรี |
ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ ครั้นเสร็จนฤมิตปราสาท | ฝูงไทเทวราชเรืองศรี |
ลาองค์พญาอสุรี | เหาะไปยังที่วิมานฟ้า |
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรยักษา |
เห็นมหาปราสาทอลงการ์ | โอฬาร์ล้วนแล้วด้วยแก้วกาญจน์ |
พิศทรงงามสิ้นทั้งสี่ทิศ | ชวลิตพรรณรายฉายฉาน |
ให้เพลิดเพลินจำเริญวิญญาณ | พญามารโสมนัสพันทวี |
จึ่งมีสิงหนาทบัญชา | แก่ขุนโหรายักษี |
จงหาศุภฤกษ์สวัสดี | กูจะทำพิธีสถาวร |
เฉลิมมนเทียรทิพเทเวศ | สมโภชเยาวเรศดวงสมร |
ให้ปรากฏยศเกียรติขจายจร | ไปทุกพระนครกษัตรา |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ขุนโหราจารย์ยักษา |
ก้มเกล้ารับราชบัญชา | ก็ดูโดยตำราอสุรี |
เห็นแจ้งแล้วกราบบังคมทูล | ท้าวพาณาสูรเรืองศรี |
ห้าค่ำวันเสาร์ฤกษ์ดี | ทำการพิธีประเสริฐนัก |
เวลารุ่งแล้วโมงเศษ | สุริยามาเมศราศีจักร |
จะจำเริญศุภผลแก่นงลักษณ์ | ปรากฏยศศักดิ์ทั้งไตรดาล |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | พระปิ่นรัตนามหาศาล |
ได้ฟังขุนโหราจารย์ | จึ่งมีบรรหารแก่เสนา |
จงจัดการพระราชพิธี | โดยที่ตำแหน่งซ้ายขวา |
ประชุมชีพ่อพฤฒา | ข้างในข้างหน้าให้พร้อมกัน |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | จึ่งเสนามารชาญขยัน |
รับสั่งพญากุมภัณฑ์ | บังคมคัลออกจากพระโรงชัย |
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
ยานี
๏ เกณฑ์กันเร่งรัดจัดการ | ทั่วทุกพนักงานน้อยใหญ่ |
ปูอาสน์ลาดที่อำไพ | ผูกม่านสองไขรูจี |
ฉัตรแก้วฉัตรสุวรรณเป็นหลั่นลด | สังข์กลศเทียนชัยบายศรี |
พานทองรองแว่นมณี | ห้อยพวงมาลีโอฬาร |
แล้วประชุมชีพ่อพฤฒา | อำมาตย์โหรามหาศาล |
พร้อมทั้งดุริยางค์กังสดาล | เสร็จโดยโองการกุมภัณฑ์ |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรรังสรรค์ |
ครั้งรุ่งรางสร่างสีรวีวรรณ | ให้บรรจงแต่งองค์พระธิดา |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ฝ่ายพระชนนีนงคราญ | กับนางพนักงานซ้ายขวา |
เขาล้อมองค์สรงสีพระกายา | ให้ทรงสุคนธากำจรใจ |
บ้างเข้าผัดพักตร์ผุดผ่อง | ดั่งทองทิพมาศสุกใส |
กระหมวดมุ่นโมลีอำไพ | สวมใส่เกี้ยวแก้วอลงกรณ์ |
ปักจุฑามณีมุกดาหาร | แซมสุวรรณกุสุมาลย์เกสร |
ให้ทรงภูษาลายเครือกินนร | สะอิ้งองค์สายซ้อนประจำยาม |
ตาบทิศทับทรวงดวงกุดั่น | สังวาลวรรณเพชรเหลืองเรืองอร่าม |
พาหุรัดทองกรมังกรงาม | ธำมรงค์เพชรพลามพรายตา |
ห้อยพวงสุวรรณมาลัย | กรรเจียกจอนซ้อนใส่ซ้ายขวา |
งามเพียงองค์เทพธิดา | ลอยฟ้าลงมายังธาตรี |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ ครั้นเสร็จโสรจสรงชลธาร | พระผู้ผ่านรัตนาบุรีศรี |
กับองค์อัครราชเทวี | ก็พาพระบุตรีวิไลวรรณ |
ออกจากห้องมหาปราสาท | พร้อมหมู่อนงค์นาฏสาวสวรรค์ |
เสด็จย่างเยื้องจรจรัล | ไปปราสาทเทวัญอันโอฬาร |
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
๏ ครั้นถึงจึ่งให้พระธิดา | นั่งอาสน์รัตนามุกดาหาร |
ท่ามกลางมณฑลพิธีการ | พร้อมเสนามารพงศ์พันธุ์ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ฝ่ายพฤฒาจารย์ฌานขยัน |
ต่างตนถือสังข์กลศสุวรรณ | พร้อมกันอ่านเวทสถาวร |
ถวายมูรธาภิเษกสรง | องค์พระธิดาดวงสมร |
อำนวยอวยสวัสดิ์จัตุรพร | ให้บังอรเยาวเรศกุมารี |
ชาวประโคมก็ประโคมฆ้องกลอง | กึกก้องแซ่เสียงดีดสี |
พิณพาทย์กาหลดนตรี | เอิกเกริกอึงมี่เป็นโกลา |
ฯ ๖ คำ ฯ มโหรี
๏ บัดนั้น | ประโรหิตผู้มียศถา |
ชุลีบาทสองราชกษัตรา | แล้วเชิญขวัญพระธิดายุพาพาล |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ อ้าขวัญแม่มิ่งสุดาสวรรค์ | อย่าประเวศเวียนวันในไพรสาณฑ์ |
หลงอยู่อาศรมพระทรงญาณ | แสนสำราญเงียบสงัดวังเวงใจ |
เชิญมาชมมไหไอศูรย์ | อันสมบูรณ์ด้วยสมบัติไม่นับได้ |
พร้อมพรูด้วยหมู่กำนัลใน | วิไลลักษณ์เฉิดโฉมประโลมวัง |
อ้าขวัญแม่เมาลีเลิศ | บุญประเสริฐส่งผลแต่หนหลัง |
อย่าหลงเพลินเตริ่นไปในไพรกรัง | ชมนกประนังสำเนียงนวล |
เชิญสถิตยังสถานพิมานฟ้า | อันแสนสนุกสุขกว่าสักแสนส่วน |
สดับเสียงนางจำเรียงโอดครวญ | โหยหวนยวนเพลงบรรเลงลาน |
ขวัญแม่ปิ่นอนงค์อย่าหลงชม | เนินพนมปล่องเปลวเหวละหาน |
พะวงเวียนสระนํ้าถ้ำธาร | เชิญสำราญแท่นทิพวิสูตรทรง |
ขวัญแม่จงมาเป็นมิ่งเมือง | จำเริญเรืองราชสกูลประยูรหงส์ |
ชนมานมากหมื่นยืนยง | ดำรงสวัสดิ์รัตนาธานี |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ ได้เอยได้ฤกษ์ | พระโหรให้เบิกบายศรี |
พนักงานลั่นฆ้องเข้าสามที | เสนีฮึกโห่โกลา |
ประโรหิตจุดเทียนติดแว่นแก้ว | แล้วส่งเวียนซ้ายไปขวา |
คณานางต่างรับอันดับมา | รอบมหามณฑลพิธีกรรม์ |
ประโคมชัยเภรินพิณพาทย์ | สำเนียงนฤนาทบันลือลั่น |
เป็นมหามหัศอัศจรรย์ | รับขวัญพระธิดากุมารี |
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
๏ ครั้นครบเจ็ดรอบระบอบการ | พฤฒาจารย์ดับเทียนเฉลิมศรี |
แล้วโบกเปลวควันสามที | ให้พระบุตรีบังอร |
เอาจุณเทียนเจิมพระนลาฏ | วรนาฏนิ่มน้อยดวงสมร |
พร้อมกันอำนวยอวยพร | จงถาวรจำเริญชนมา |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | สองกษัตริย์สุริย์วงศ์นาถา |
จึ่งประทานเครื่องทรงอลงการ์ | โอฬาร์ล้วนแล้วด้วยแก้วกาญจน์ |
สำหรับพระธิดาเอกองค์ | พงศ์กษัตริย์ยอดฟ้ามหาศาล |
ตั้งนางอุษาเยาวมาลย์ | ในสถานอัครราชบุตรี |
แล้วเลือกวรนาฏราชตระกูล | ที่สมบูรณ์รูปทรงส่งศรี |
วิไลลักษณ์เลิศกัลยาณี | ห้าอนงค์นารีจำเริญตา |
ชื่ออรัญวนิดายุพาพักตร์ | หนึ่งชื่อศุภลักษณ์กรรฐา |
นางจันทวดีกัลยา | หนึ่งชื่อว่าเทพสุนทร |
องค์หนึ่งชื่อนางสุพรรณ | ฉวีวรรณพิมพ์พักตร์เพียงอัปสร |
พร้อมสติปรีชาสถาวร | แรกรุ่นอรชรสิบหกปี |
ให้เป็นเอกองค์พระพี่เลี้ยง | เคียงควรอุ้มชูโฉมศรี |
ทั้งนางขับกล่อมพัดวี | สองร้อยนารีโสภา |
เจ้าขรัวยายประยูรสูงใหญ่ | เป็นประธานข้างในข้างหน้า |
กับสาวใช้เชื้อลูกเสนา | ห้าร้อยกัลยาวิไลวรรณ |
ทั้งขอเฝ้าเหล่าลูกอำมาตย์ | สุริย์ชาติปรีชาชาญขยัน |
คณนาอเนกนับพัน | จัดสรรประทานพระบุตรี |
ฯ ๑๖ คำ ฯ
๏ เสร็จแล้วจึ่งท้าวยี่สิบกร | กับบังอรไวยกามเหสี |
ประโรหิตโหราเสนี | ก็กลับไปที่อยู่สำราญ |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงเยาวยอดสงสาร |
ประโลมเลี้ยงพระธิดายุพาพาล | บำรุงรักปิ้มปานดวงใจ |
อุ้มชูช้ากล่อมถนอมนาฏ | แสนสนิทพิศวาสหลงใหล |
เช้าเย็นพาเล่นแต่ข้างใน | ชมไม้ดัดดาษดรุณเรียง |
บ้างผลิดอกออกผลปนผกา | สกุณาวางกรงส่งเสียง |
สาลิกาแก้วจับคอนเคียง | โนรีพูดเพียงภาษาคน |
กลางวันพานางไปอ่างแก้ว | สรงน้ำพุแพร้วดังฝอยฝน |
ชี้ชวนให้ชมภูเขายนต์ | มีช่องชลพักพานาวาเวียน |
ทั้งหิรัญสุวรรณมัจฉาชาติ | งามประหลาดเลื่อมพรายดังลายเขียน |
โกสุมปทุมมาศดาษเดียร | ผจงเจียนไกรลาสบรรพตา |
แสนบำรุงผดุงด้วยความสุข | ไม่มีทุกข์พานผิวมังสา |
ยามสรงทรงเสวยโภชนา | ก็ปลอบป้อนวอนว่าทุกนาที |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษามารศรี |
สำราญราชยังปราสาทมณี | ดังบุตรีบรมจักรพรรดิ |
แสนเกษมสุโขมโหฬาร | ด้วยยศศักดิ์บริวารสมบัติ |
มีแต่ชี่นชมโสมนัส | กับพี่เลี้ยงสาวสวัสดิ์ทุกเวลา |
เย็นเช้าขึ้นเฝ้าพระบิตุเรศ | สำคัญว่าเกิดเกศเกศา |
ทั้งอนงค์นงคราญมารดา | สนิทดั่งคลอดมาจากครรภ์ |
นั่งเพลาเคล้าคลึงเชยชม | สองกษัตริย์ภิรมย์รับขวัญ |
รักดั่งดวงเนตรดวงชีวัน | สัญญาว่าเกิดในอุทร |
อันนางศุภลักษณ์กรรฐา | แสนสนิทเสน่หาสายสมร |
ชอบชิดพิศวาสบังอร | กว่านิกรนารีทั้งสี่นาง |
จะเที่ยวจรวอนเล่นสิ่งใด | ก็ตามใจไม่ทัดขัดขวาง |
จำเริญจิตพิสมัยไว้วาง | พ่างเพียงชีวิตพระธิดา |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
ช้า
๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายนางไวยกาเสน่หา |
เสวยสุขอยู่ทุกทิวา | ด้วยองค์ภัสดาพญามาร |
ยามสรงยามเสวยเชยชื่น | สำราญรื่นหฤทัยเกษมศานต์ |
เพียงโฉมยุพยงนงพาล | แห่งเทวบุตรมารสวัสดี |
พร้อมเพรียงเสียงรสรูปกลิ่น | สัมผัสอสุรินทร์เรืองศรี |
ในประถมวัยประเวณี | พระเทวีสุริย์วงศ์ก็ทรงครรภ์ |
ยิ่งผ่องแผ้วแววรัศมีเหมือน | ดวงเดือนเพ็งพรายฉายฉัน |
จำเริญเรืองเขื่องขึ้นทุกคืนวัน | กำหนดนั้นถ้วนทศมาสตรา |
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ครั้นถึงศุภวารสถาวร | กำลังลมอุทรพัดกล้า |
ให้รึงรุมกลุ้มไปทั้งกายา | ปิ้มว่าจะสิ้นสมประดี |
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ บัดนั้น | ฝ่ายฝูงกำนัลสาวศรี |
ทั้งเถ้าแก่ชะแม่อสุรี | เห็นเทวีรัญจวนประชวรครรภ์ |
ตกใจวายวุ่นทั้งเรือนทอง | เข้าประคองกายแก้แปรผัน |
บ้างวิ่งปะทะปะกัน | ไปทูลกุมภัณฑ์ภัสดา |
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพาณาสูรยักษา |
แจ้งว่าองค์อัครชายา | เสวยทุกขเวทนาลำบากกาย |
กำลังเสน่หาอาวรณ์ | เร่าร้อนหฤทัยใจหาย |
เสด็จจากแท่นแก้วแพรวพราย | ไปทั้งสายสวาททันที |
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
๏ เมื่อนั้น | นวลนางไวยกามารศรี |
เห็นองค์สมเด็จพระสามี | เสด็จมาเคียงที่พักตรา |
ค่อยสบายบรรเทาเร่าร้อน | บังอรแสนโสมนัสสา |
พอได้ศุภฤกษ์เวลา | กัลยาก็ประสูติพระโอรส |
เป็นชายคล้ายองค์พระบิตุเรศ | ส่งศรีพิมพ์เพศนั้นเหมือนหมด |
สมศักดิ์สุริย์วงศ์อันทรงยศ | ลักขณาปรากฏประกอบกาย |
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายพระวงศาทั้งหลาย |
จึ่งเอาพานแก้วแพรวพราย | รองข่ายทองรับพระกุมาร |
แล้วเชิญให้ไปสรงสาคร | ธารสุคนธ์เกสรหอมหวาน |
วางยังอาสน์อ่อนโอฬาร | ให้บรรทมสำราญพระกายา |
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | องค์พระบิตุเรศนาถา |
เห็นโอรสราชกุมารา | พร้อมศรีลักขณาวิลาวัณย์ |
มีความแสนโสมนัสนัก | ผ่องพักตร์เพียงได้สมบัติสวรรค์ |
จึงให้จัดพระนมที่พงศ์พันธุ์ | หกสิบสี่สรรรูปทรง |
เจ้าขรัวยายพี่เลี้ยงลูกตระกูล | เชื้อประยูรกษัตริย์สูงส่ง |
ประทานพระโอรสสุริย์วงศ์ | ตามอย่างเอกองค์กุมารา |
ครั้นครบกำหนดสิบห้าวัน | ให้ประชุมพงศ์พันธุ์พร้อมหน้า |
ทำการสมโภชพระลูกยา | ถวายมูรธาวารี |
ประทานนามตามวงศ์ทรงยศ | ชื่อว่าทศมุขยักษี |
องค์พระบิตุเรศชนนี | อวยพรสวัสดีพร้อมกัน |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | นวลนางอุษาสาวสวรรค์ |
เห็นพระมารดาวิลาวัณย์ | ขวัญเมืองประสูติพระลูกยา |
งามสรรพสารพางค์ผิวพักตร์ | นงลักษณ์แสนสุดเสน่หา |
สำคัญว่าองค์อนุชา | ร่วมราชบิดามารดร |
แสนสนิทพิศวาสดั่งดวงเนตร | ยกขึ้นทูนเกศสายสมร |
เชยชมโฉมสวัสดิ์สถาวร | อุ้มชูกับกรตระกองกาย |
ถนอมลูบจูบจอมกระหม่อมเกล้า | ทุกค่ำเช้าไม่นิราศขาดสาย |
ประพาสเล่นเป็นสองกับน้องชาย | แสนสบายเพลินสุขทุกคืนวัน |
ฝ่ายนางสาวศรีพระพี่เลี้ยง | ประคองเคียงขับกล่อมถนอมขวัญ |
สองกษัตริย์วัฒนามาด้วยกัน | โรคันอันตรายไม่ราคี |
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น | ทศมุขกุมารยักษี |
จำเริญวัยใหญ่ขึ้นทุกเดือนปี | ด้วยสุขสวัสดีอันโอฬาร |
ผูกจิตพิสมัยไม่ไกลข้าง | พระพี่นางอุษายอดสงสาร |
นอนเพลาเคล้าชมชื่นบาน | พระกุมารรักสนิทชิดเชย |
จะเล่นไหนไม่เห็นก็กันแสง | ทุกแห่งทุกเวลาสรงเสวย |
ฝันใฝ่หลงใหลไม่ลืมเลย | สำคัญเคยแต่รู้ความมา |
ครั้นค่อยจำเริญชนมาน | แปดปีปรีชาญแกล้วกล้า |
เรียนรู้ไตรเพทวิทยา | หัยรถคชาพาชี |
เช้าเย็นเที่ยวเล่นด้วยพี่เลี้ยง | ประคองเคียงพรั่งพร้อมถนอมศรี |
กับกุมารเหล่าลูกเสนี | พันตนอสุรีประดับตาม |
เล่นข่างเล่นคลีตีไม้ | เคล่าคล่องว่องไวในสนาม |
ช่วงชิงทิ้งท่าสง่างาม | ไม่เข็ดขามอ่าอวดประกวดกร[๑] |
ฯ ๑๒ คำ ฯ
[๑] จบต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๕๗๓