ว่าด้วยกุมารเกิดวันอังคาร

พระคัมภีร์ปฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๓ ว่าด้วยกุมารเกิดวันอังคารเปนลักษณะแห่งทรางแดงเปนเจ้าเรือน ทรางกระแนะเปนทรางจร หละชื่ออุไทยกาล ละอองชื่อแก้วมรกฎ ลมชื่ออุทรวาตโดยสังเขป

(ลักษณทรางแดงนี้ ต้นฉบับกล่าวซ้ำกันดังมีแจ้งอยู่ในน่า ๑๘๑ แห่งเล่มนี้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่เนื้อความตอนปลายแลตำรายาต่างกัน จึ่งได้คัดแต่เฉภาะเนื้อความที่ต่างกันแลตำรายานั้น มาพิมพ์ไว้ต่อไปดังนี้)

ให้พิจารณาดูที่ชายโครงข้างขวาสูนย์กลาง ถ้าเส้นดีอยู่ไม่ตาย ถ้าไม่เห็นเปนดังนี้ คือว่าลมกำเนิดบังเกิดติดต่อมาแต่ยังอยู่ในครรภ์ ชื่อลมอุทรวาต กระทำให้ร้องไห้ แต่ยังอยู่ในเรือนเพลิง ไปจน ๓ เดือนเปนกำหนดจึ่งจะหายไปเอง ถึงแพทย์จะให้ยาก็ไม่หาย เมื่อถอยลงมาจากศีศะแลลงทรวงอกนั้นแล้ว ลงมาตั้งอยู่ในนาภีจึ่งเรียกว่าลมกองใหญ่ พัดขึ้นมาตามนาภีตามเส้นชิดกระดูกสันหลังขึ้นมาในอกแลลำฅอจนไปถึงช่องหูขวาแลกระหม่อม ถ้าเปนข้างขึ้นตายข้างแรมไม่ตาย แลประเภทดังนี้คือต้องตะบองราหูก็ว่า กุมาทสังก็ว่า อักขมูขีก็ว่า แลสะพั้น ๗ จำพวกนี้ หญิงชายก็ดีเปนดุจเดียวกัน

อันว่าทรางแดงตัวผู้นั้น ถ้าขึ้นอกกระทำให้หอบพัก ถ้าขึ้นไหล่รวบกระทำให้เจ็บหลังแขง ถ้าขึ้นฅอกระทำให้กินเข้ากินนมมิได้ดังนี้ แลเมื่อจะสำแดงความตายนั้น ก็ผุดขึ้นรักแร้ข้างละยอดเท่าผลบัวจมอยู่ในเนื้อ สีผุดออกมาตามผิวหนังดังสีควันเทียน แล้วไปขึ้นในกระหม่อมยอด ๑ จึ่งลามมาหน้าผากดุจกลีบจำปา แล้วก็คล้ำเข้าดังสีควันเทียน เลื่อนลงมาหว่างคิ้วแล้วเมื่อใด ก็กระทำให้ตามืดหูหนัก แล้วก็ลามลงมาถึงปลายนาสิก กระทำให้ปากนั้นชักเฟดขึ้นก่อน เมื่อจะตายนั้นก็สำแดงออกทั่วสรรพางค์กาย คิ้วนั้นให้ผุดขึ้นเปนแว่นเปนวง มีสีเหลือง, แดง, ขาว, ดุจดังประทับตราลงไว้นั้น คือว่าทรางแดงสำแดงความตาย ตัวผู้ก็ดีตัวเมียก็ดี ถ้าแพทย์แก้ไม่ฟังก็ตายดุจกัน อย่าพึงสงไสยเลยดังกล่าวมานี้

พระอาจาริย์เจ้าท่านจึงประกอบซึ่งสรรพยาไว้ ให้สำหรับแก้ทรางแดงตัวผู้ตัวเมียนั้น โดยลำดับดังกล่าวมานี้

ยาทาปากแก้ทรางแดง ขนานนี้ท่านให้เอา รากดินเผา ๑ เปลือกน้ำเต้าขมเผา ๑ เกล็ดปลาช่อนเผา ๑ น้ำประสานทองสตุ ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดละลายน้ำมะนาวทาปากหาย

ขนานหนึ่งท่านให้เอา รากละหุ่งแดง ๑ ผลประคำดีควาย ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ ยาฝิ่น ๑ เอาสิ่งละ ๖ ส่วน ชาตหระคุณ ๒ ส่วน รวมยา ๕ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวทาปากแก้ทรางแดงหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา สังข์ ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลิ้นทะเล ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เปลือกไข่ฟัก ๑ พิมเสนเกล็ด ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวทาปากก็ได้กวาดก็ได้ แก้ทรางแดงหาย

ขนานหนึ่งท่านให้เอา แฝกหอม ๑ หางปลาช่อน ๑ น้ำประสานทอง ๑ สมอร่องแร่ง ๑ ใบมะนาว ๑ ใบน้ำเต้า ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำท่าก็ได้ทาปากแก้ทรางแดง ถ้าจะให้ลงละลายน้ำมะขามเปียกแซกดีงูเหลือมกวาด ถ้าตัวร้อนน้ำซาวเข้ากวาด ถ้าจะแก้สอึกน้ำผลมะตูมต้มก็ได้ น้ำส้มซ่าก็ได้ จะแก้ลงแดงละลายน้ำผลเบ็ญจกานีกวาด ถ้าจะแก้ไอละลายน้ำมะนาวกับเกลือ แลแซกหางนกยุงเผากวาด ถ้าจะแก้ทรางแดง ละลายน้ำมะนาวแซกพิมเสนกวาดหายดีนัก

ขนานหนึ่งแก้ทรางแดงทรางเหลือง ท่านให้เอางาช้าง ๑ มหาสดำ ๑ เปลือกนุ่น ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบตาลหม่อน ๑ กะเทียมกรอบ ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาฝักส้มป่อยต้มเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะแก้ทรางแดงละลายน้ำมะนาวกวาด ถ้าจะแก้ทรางเพลิงละลายน้ำครำกวาดหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้ เอาผลเบ็ญจกานีส่วน ๑ ผลประคำดีควาย ๒ ส่วน น้ำประสานทอง ๓ ส่วน รวมยา ๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำส้มส้าทาลิ้น แก้ทรางแดงขึ้นลิ้นหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ลิ้นทะเลปิ้ง ๑ รากดินเผา ๑ น้ำประสานทองสตุ ๑ บรเพ็ด ๑ ก้นหม้อแกง ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะงั่วกวาด เมื่อจะกวาดยานี้เอาน้ำเกลือกวาดเสียก่อน จึงกวาดยานี้ดีนัก

ขนานหนึ่งแก้ทรางแดงทรางฝ้ายทรางกระดูก ท่านให้เอาเปลือกหอยพิมพะการัง ๑ หนังกระเบนเผา ๑ ลิ้นทะเลปิ้ง ๑ น้ำประสานทอง ๑ มูลแมลงสาบ ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ ชาตหระคุณเทศ ๑ ชาตหระคุณจีน ๑ ชาตจอแส ๑ ฝาหอยโข่งเผา ๑ รังหมาล่า ๑ กระเทียมกรอบ ๑ ดีงูเหลือม ๑ พิมเสนเกล็ด ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมนาวกวาดแก้ทรางทั้งปวงหายดีนัก ถ้ามิฟังยาเหล่านี้แล้ว ให้แพทย์เร่งประกอบยาให้สูงขึ้นไปกว่านี้กุมารผู้นั้นจึงจะรอดชีวิตร

ยาชื่อปะขาวกวาดวัดขนานนี้ ท่านให้เอามูลแมลงสาบ ๑ ชาตหรคุณ ๑ เทียนเยาวภานี ๑ ผลผักชีลา ๑ สมอไทย ๑ สานส้ม ๑ โกฐสอเทศ ๑ เอาสิ่งละส่วนหนึ่ง รากไคร้เครือ ๑ ชเอมเทศ ๑ กำมถันแดง ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลิ้นทะเล ๑ เบี้ยจั่นเผา ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ กะตังมูตร ๑ รากดินเผา ๑ ผลโหรพาเทศ ๑ รากมะกล่ำเครือ ๑ รากส้มกุ้งน้อย ๑ เอาสิ่งละสองส่วน รวมยา ๒๐ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะแก้อาเจียนให้ละลายน้ำสมอไทยต้มกวาด ถ้าจะแก้ทรางขึ้นลิ้นละลายน้ำขมิ้นอ้อยกวาด แลแก้ทรางทั้ง ๗ จำพวกหายดีนัก

ยาชื่อเทพมงคล ขนานนี้ ท่านให้เอามูลแมลงสาบ ๑ หญ้ายองไฟ ๑ ดอกบุนนาค ๑ เกสรบัวหลวง ๑ กฤษณา ๑ กลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ หวายตะค้า ๑ เทียนดำ ๑ น้ำประสานทอง ๑ จันทน์ทั้งสอง เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ งาช้าง ๑ โกฐพุงปลา ๑ ชาตหรคุณ ๑ ดีงูเหลือม ๑ ดีจรเข้ ๑ ชมด ๑ พิมเสน ๑ ทองคำเปลว ๑ รวมยา ๒๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้กวาดแก้ทรางแดง แก้ลิ้นกระด้างคางแขงแลตาแขงไม่มีน้ำตานอนแน่อยู่แล้วก็ดีกวาดหาย

ถ้าจะแก้ละอองพระบาทสีขาว ละลายน้ำดอกไม้กวาด ถ้าจะแก้ละอองพระบาทสีเขียวละลายน้ำครำแลสุรากวาด ถ้าจะแก้ละอองพระบาทสีแดงละลายน้ำหัวหอมกวาด ถ้าจะแก้ละอองพระบาทสีเหลืองละลายน้ำขมิ้นอ้อยกวาดหายดีนัก

ยากวาดทรางแดง ขนานนี้ ท่านให้เอาหอยสังข์เผา ๑ ชาตหรคุณไทย ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ เขาฟาน ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ เกสรบัวหลวง ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้ ทาปากแก้ทรางแดงหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอาศีศะงูเห่า ๑ ศีศะแร้ง ๑ ศีศะกา ๑ หอยสังข์ ๑ รากดิน ๑ ดอกบุนนาค ๑ ดินถนำ ๑ น้ำประสานทอง ๑ หมึกหอม ๑ นอแรด ๑ เขากุย ๑ มูลหมูเถื่อน ๑ กฤษณา ๑ กลำภัก ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ เขี้ยวแรด ๑ เขี้ยวหมู ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ รวมยา ๒๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาว กวาดได้สารพัดทรางทั้งปวงหายวิเศษนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอากำมถันแดง ๑ พิมเสน ๑ กฤษณา ๑ โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ดอกจันทน์ ๑ ไคร้เครือ ๑ ชเอมเทศ ๑ ชาตก้อน ๑ กำยาน ๑ โลทนง ๑ สีเสียดเทศ ๑ สานส้ม ๑ กรักขี ๑ สมอเทศ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ เนรภูสีเทศ ๑ ตุมกาแดง ๑ รวมยา ๒๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดด้วยสุราทำเปนแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวทั้งกินทั้งทาทั้งกวาด แก้ทรางแดงแลทรางทั้งปวงหายสิ้นดีนัก

อันว่าแพทย์ทั้งหลายใด ถ้าจะรักษาทรางแดงสืบต่อไปเมื่อน่า ห้ามอย่าให้วางยาละลายเข้าสลอด แลยาอันรคนปนไปด้วยน้ำมันและยาอันเผ็ดร้อนเปนเที่ยง ให้วางยาแต่สุขุม ให้รักษาดุจไข้สันนิบาต ซึ่งมีพิศม์อันร้อนอย่าให้เสียยาอันชื่อว่าเบ็ญจตาลเลย กุมารผู้นั้นจึ่งพ้นจากพระยามัจจุราช รอดจากความมรณะ

ยาชื่อประสานทอง ขนานนี้ ท่านให้เอาชมดสด ๑ ชมดเชียง ๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง พิมเสน ๑ สลึง กรุงเขมา ๑ อำพัน ๑ ดอกบุนนาค ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลิ้นทเลปิ้งไฟ ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง ตรีกฏุก ๑ โกฐทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ จันทน์ทั้งสอง กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชลูด ๑ ขอนดอก ๑ เปราะหอม ๑ ผลราชดัด ๑ ผลสารพัดพิศม์ ๑ พระยารากขาว ๑ ปลาไหลเผือก ๑ ตุมกาทั้ง ๒ คุคะ ๑ มหาสดำ ๑ มหาละลาย ๑ รากระย่อม ๑ รากไคร้เครือ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านน้ำ ๑ แสนประสระต้น ๑ แสนประสาเครือ ๑ สุรามฤตย์ ๑ อบเชยเทศ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ทองคำเปลว ๒๐ แผ่น รวมยา ๖๑ สิ่งนี้กระทำให้เปนจุณแล้วเอาดีงูเหลือม ๑ ดีจรเข้ ๑ ดีตะภาพน้ำ ๑ ดีหมูเถื่อน ๑ ดีปลาช่อน ๑ ดีนกยูง ๑ ดีทั้ง ๖ นี้แซก เอาน้ำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้แก้พิศม์ทรางแลแก้ไข้สันนิบาต ละลายน้ำดอกไม้กิน ถ้าจะแก้พิศม์ฝีดาษพิศม์ฝีดวงเดียว พิศม์งูร้าย ละลายสุรากินหายทุกสิ่งประสิทธิ์ดีนัก

ยาชื่อสมมิทกุมารน้อยขนานนี้ ท่านให้เอาแก่นสน ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ อบเชย ๑ สมุลแว้ง ๑ จันทน์ชมด ๑ กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชลูด ๑ ขอนดอก ๑ ชมดเชียง ๑ หญ้าฝรั่น ๑ ผลผักชีลา ๑ สังกรณี ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง โกฐทั้งเก้า พิมเสน ๑ อำพันทอง ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง เทียนทั้งห้า เอาสิ่งละ ๑ บาท กำยานห้าสลึง รวมยา ๓๓ สิ่งนี้กระทำให้เปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้แก้พิศม์ทรางจับหัวใจ แลทรางขึ้นตับขึ้นปอด แลขึ้นทรวงอกให้ตกมูกตกโลหิตให้เชื่อมมึนกำลังน้อยให้อิดโรยใช้น้ำกระสายดังนี้ ถ้าจะแก้ระส่ำระสายละลายน้ำดอกไม้น้ำจันทน์กิน ถ้าจะแก้รากละลายผลยอต้มกิน ถ้าจะแก้หอบระหวยกำลังน้อยนัก ละลายน้ำรากถั่วภูต้มกิน ถ้าจะแก้คลั่งละลายน้ำแก่นสนต้มกิน ถ้าจะแก้กินเข้ามิได้ละลายน้ำขันทสกรกิน ถ้าจะแก้เชื่อมแก้มึนละลายน้ำชเอมต้มกิน ถ้าจะแก้ลงละลายน้ำเปลือกมรุมต้มกิน ยาขนานนี้ใช้ได้ทุกประการดีนัก

พระอาจาริย์เจ้ากล่าวไว้ว่า บุคคลที่เกิดมาในโลกย์นี้หญิงชายก็ดี จะบังเกิดโรคาพยาธิทั้งปวงนั้น ก็อาไศรยแก่ธาตุทั้ง ๔ ถ้ามิบริบูรณ์แล้วก็ย่อมให้ธาตุนั้นแปรปรวนไปก่อน โรคทั้งปวงนั้นจึ่งบังเกิดขึ้นต่างๆ ต่อเมื่อภายหลัง

ให้แพทย์แต่งยาบำรุงรักษาธาตุขนานนี้ ท่านให้เอารากตาลดำ ๑ รากตาลขโมย ๑ เปลือกสันพร้านางแอ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ ตรีผลา ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เปลือกตะขบ ๑ น้ำประสานทอง ๑ สานส้ม ๑ จันทน์ทั้งสอง รวมยา ๑๓ สิ่งนี้ เอาเสมอภาคใบกะเพราเท่ายาทั้งหลาย แล้วกระทำให้เปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ละลายสุรากินประจำท้องแก้ธาตุทั้ง ๔ ดียิ่งนัก

ยาชื่อปฉันธาตุ ขนานนี้ท่านให้เอา ตรีกฏุก ๑ กะเทียม ๑ เอาสิ่งละ ๕ สลึง เทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๑ บาท ว่านเปราะ ๑ แห้วหมู ๑ เปลือกมูกมัน ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท รวมยา ๑๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะแก้ลงละลายน้ำใบกะเพรากิน ถ้าจะแก้ไอละลายน้ำมะแว้งเครือกิน ถ้าจะแก้ปวดมวนละลายน้ำผลเบ็ญจกานี ผลทับทิมต้มก็ได้ ละลายน้ำครั่งต้มก็ได้ กินแซกดีงูเหลือมด้วยประเสริฐนัก

ยาประจำธาตุ ยาดำ ๑ ใบกะเพรา ๒ ใบตานหม่อน ๒ ใบสวาด ๓ รวมยา ๔ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดทำแท่งไว้ละลายสุรากินแต่เช้า ท่านห้ามไม่ให้กินในเวลาบ่าย ตั้งแต่อายุเด็กได้เดือน ๑ ขึ้นไปจนถึงขวบ ๑ ให้กินตามกำลังเด็กดีนัก

ยาประจำธาตุ ขนานนี้ท่านให้เอา ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท กะชาย ๒ สลึง ใบกะเพรา ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบตาลหม่อน ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท รวมยา ๙ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำหยัดเหล้าเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากินเวลาเย็น ห้ามไม่ให้กินเวลาเช้า แต่อายุเดือน ๑ ไปจนถึงขวบ ๑ กินทวีขึ้นไปตามกำลัง

ยาแก้โทษน้ำนม ขนานนี้ท่านให้เอา ชะเอมเทศ ๑ จันทน์เทศ ๑ น้ำตาลทราย ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง โกฐสอเทศ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐพุงปลา ๑ โกฐก้านพร้าว ๑ โกฐจุลาลำภา ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รวมยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวน้ำผึ้งน้ำท่าประสมกันเข้า ฝนยานี้ให้กุมารกินแก้โทษน้ำนมต่างๆ แลแก้พิศม์ทรางในลำฅอในทรวงอก แก้ไอแก้สอึกแลแก้รากวิเศษนัก

อนึ่งยารักษาทรางแดงขึ้นที่ขั้วตับนั้น ย่อมกระทำให้ลงเปนโลหิต ๔ วัน ๕ วันก่อน แลให้ไอเปนกำลังแลตาเหลืองให้จับเปนเวลา แลให้ตับหย่อนลงไปตามชายโครงข้างขวา ถ้าจะแก้ท่านให้เอา ผลเบ็ญจกานี ๑ กะเทียม ๒ ฝางเสน ๓ รวมยา ๓ สิ่งนี้บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำปูนใสกินตามกำลังกุมารนั้นเถิดดีนัก แล้วจึ่งแต่งยาพอกตามชายโครงให้ตับหดขึ้นไป ขนานนี้ท่านให้เอา หน่อไม้ ๑ เขม่าเหล็ก ๑ ปูนขาว ๑ บดพอกชายโครงราว ๓ วันหาย ดีนัก

ถ้าไม่หดหาย ขนานนี้ท่านให้เอา ตรีผลา ๑ มะขามป้อม ๑ รากไอ้เหนียว ๑ รากเล็บมือนาง ๑ เปลือกไข่เหน้า ๑ แห้วหมู ๑ บรเพ็ด ๓ องคุลี ผลมูลกาผล ๑ ผ่า ๒ เอา ๑ เทียนดำ ๒ สลึง เทียนขาว ๒ สลึง น้ำประสานทอง ๒ สลึง ยาดำ ๑ ผลมะตูม ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกบุนนาก ๑ ฝักราชพฤกษ์ ๑ ขมิ้นอ้อย ๓ ชิ้น สานส้ม ๑ ใบกะเพราเท่ายาทั้งหลาย เอาสุราครึ่งน้ำครึ่งต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย

จบลักษณะทรางแดงแต่เพียงนี้

----------------------------

สิทธิการิยะ ทีนี้จะกล่าวลักษณะกำเนีดทรางกระแนะ ซึ่งเปนทรางจรแซกทรางแดงเจ้าเรือนนั้นต่อไป ให้แพทย์พึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณะทรางกระแนะนั้น มีแม่ ๓ ยอดมีบริวาร ๓๐ ยอด ทรางอันนี้ขึ้นแซม ๑ ยอด ๒ ยอดก็ดี มีสันฐานยอดนั้นเหลืองกลางยอดนั้นหวา ขึ้นปลายลิ้นยอด ๑ มีบริวารขึ้นด้วย ๑๐ ยอด ขึ้นต้นคางยอด ๑ มีบริวารขึ้นด้วย ๑๐ ยอด บางทีขึ้นต้นลิ้นขึ้นทรวงอกก็มี ยอด ๑ บริวารขึ้นด้วย ๑๐ ยอด อันว่าลักษณะบริวารขึ้นนั้นเมื่อเข้าล้อมแม่นั้นแล้ว ก็ตั้งเปนเปลวออกไปดังอุณาโลม แล้วกระทำพิศม์ให้กุมารนั้นดูดนมมิได้ ให้ลิ้นกระด้างคางแขงให้เท้ามือกำ ครั้นได้ ๕ เดือนแม่ทรางซึ่งอยู่ในปลายลิ้นต้นคางต้นลิ้นแลทรวงอกนั้น ก็เลื่อนลงไปตั้งอยู่ในนาภีพร้อมกันทั้ง ๓ ยอด จึ่งกระทำให้ลงมูกลงโลหิต เปนน้ำล้างเนื้อเปนน้ำชานหมาก แล้วให้เปนเสมหะโลหิตเหน้า ให้ซูบผอมกินอาหารมิได้ให้ปวดมวนนัก ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาให้พิจารณาดูลักษณะทรางกระแนะ ซึ่งจรมาแซกนั้นให้แม่นแท้ดุจกล่าวมานี้

ยากวาดชื่อเจียรไนเพ็ชร์ ขนานนี้ท่านให้เอา มูลแมลงสาบขั้ว ๑ รากดินขั้ว ๑ หนังกระเบนเผา ๑ น้ำประสานทองสตุ ๑ แววนกยุงเผา ๑ ศีศะงูเห่า ๑ กะดองปูทเล ๑ กะดองปูนา ๑ กะตังมูตร ๑ เปลือกไข่ฟัก ๑ ลิ้นทเล ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ กัมถันแดง ๑ เบี้ยผู้เผา ๑ หมึกหอม ๑ ชาตก้อน ๑ ชมดเชียง ๑ อำพันทอง ๑ ทองคำเปลว ๑๐ แผ่น ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวกวาดทรางกระแหนะ หายวิเศษนัก

ยาชื่อตรีผลาเตร็ด ขนานนี้ท่านให้เอา สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑ มะขามป้อม ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ตรีกฏุก ๑ ผลผักชี ๑ ผลโหระพา ๑ สิ่งละ ๒ สลึง ผลเบ็ญจกานี ๑ สีเสียดเทศ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท รวมยา ๑๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำท่า แล้วจึงเอาฝิ่น ๑ ดิน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รำหัดกินแก้พิศม์ทรางกระแนะ ซึ่งเลื่อนลงไปทำโทษในนาภี แลทรางนั้นกินตามลำไส้แลตับแลปอด แลให้เปนบิดปวดมวน แล้วให้ลงเปนโลหิตมูกเลือดเสลดเหน้าหาย

ยาชื่อสังขสมุทไทย ขนานนี้ท่านให้เอา สังข์หนาม ๑ ฝุ่น ๑ ชาตผง ๑ จันทน์ทั้งสอง ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาค ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำรากบัวหลวงก็ได้ น้ำรากมะกอกก็ได้ กินแก้กระหายน้ำทรางกระแนะดีนัก

ยาสมานลิ้นเปื่อย ขนานนี้ท่านให้เอา ใบหว้าอ่อนใส่ปากหม้อนึ่งให้สุก ผลเบ็ญจกานี ๑ มูลโคแห้ง ๑ น้ำประสานทอง ๑ สีเสียดเทศ ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำหมากสง ทาปากทาลิ้นกุมารหายดีนัก

จบลักษณทรางกระแนะซึ่งจรมาแซกทรางแดงแต่เพียงนี้

----------------------------

ทีนี้จะกล่าวถึงลักษณะหละอันชื่อว่าอุไทยกาล ซึ่งจะบังเกิดขึ้นสำหรับทรางแดงนั้นต่อไป โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณะหละอุไทยกาล เมื่อจะบังเกิดนั้นให้ชักเท้ากำมือกำแล้วมักให้กระทืบเท้าร้องไห้ แลให้อุจจาระปัสสาวะมิออก

ยาแก้หละอุไทยกาลขนานนี้ ท่านให้เอาพิมเสน ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ สะค้าน ๑ กะเทียม ๑ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำนมโคทาปากกุมารหาย

ยาจุดหละทรางกระดูก ขนานนี้ท่านให้เอา กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูงูทับทาง ๑ ชาตหระคุณจีน ๑ เข้าขั้ว ๑ มูลแมลงสาบขั้ว ๑ มูลหนูหริ่งขั้ว ๑ หวายตะค้า ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวจุดหายดีนัก

ยาจุดหละขนานนี้ท่านให้เอา ฝาง ๑ จันทน์ทั้งสอง พิมเสน ๑ บดละลายน้ำมะเกลือจุดหาย

ยาจุดหละ ขนานนี้ท่านให้เอา กะปิเผา ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ พริกไทยขั้ว ๗ เมล็ด กานพลู ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ชมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำจุดหละหาย

จบลักษณะหละอุไทยกาลซึ่งบังเกิดสำหรับทรางแต่เพียงนี้

----------------------------

ทีนี้จะกล่าวลักษณะละอองแก้วมรกฎ เมื่อจะบังเกิดขึ้นนั้นร้ายนัก มักให้หน้าเขียวหน้าดำ แลให้ชักเท้ากำมือกำอ้าปากมิออก ให้ลิ้นกระด้างคางแขง ถ้าแก้มิฟังกุมารผู้นั้นจะตายเปนเที่ยง ถ้าจะแก้ท่านให้เอาจันทน์ทั้ง ๒ เนระภูสี ๑ ไคร้เครือ ๑ ดีงูต้น ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ หวายตะค้า ๑ หวายตะมอย ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้ ทั้งกินทั้งชะโลม แก้ละอองแก้วมรกฎหายวิเศษนัก

ยาแก้ละอองแก้วมรกฎ ขนานนี้ท่านให้เอา ปู่พุงแก ๑ ตับเต่าทั้ง ๒ สีหวดน้อย ๑ ฉัตรพระอินทร์ ๑ ปู่เจ้าสมุงกุย ๑ ไคร้เครือ ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๑ เนระภูสี ๑ จันทน์ทั้ง ๒ มวนหมู ๑ รากหญ้านาง ๑ รากประคำดีควาย ๑ โคนไม้ไผ่ป่า ๑ ผักแพวแดง ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ลลายน้ำดอกไม้น้ำซาวเข้ากินก็ได้ แก้ละอองแก้วมรกฎหาย

ยาแก้จับแก้มัว ขนานนี้ท่านให้เอาเอา จันทน์ชมด ๑ จันทน์คันนา ๑ ผลผักชี ๑ พรรณผักกาด ๑ รากหญ้านาง ๑ ไพล ๑ กะชาย ๑ ชเอมเทศ ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะแก้คลั่งละลายน้ำดอกไม้กิน ถ้าจะแก้จับละลายน้ำสมอต้มกิน ถ้าจะแก้หอบละลายน้ำรากถั่วพูต้มกิน ถ้าจะแก้รากละลายน้ำผลยอต้มแชกน้ำผึ้งกินหาย

อันว่าลักษณะทรางแดงนี้ มีโทษมากนักยิ่งกว่าทรางทั้งปวง พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวไว้ ให้แพทย์ผู้ฉลาดพิจารณาดูโรค ซึ่งจะผันแปรไปเปนประการใดๆ ก็ดี ให้แพทย์นั้นประกอบยาผันแปรไปตามโรคนั้นเถิด พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวมาในลักษณะกุมารอันเกิดวันอังคาร เปนกำเนิดแห่งทรางแดง กระทำโทษเปนเจ้าเรือน กำเนิดทรางกระแหนะเปนทรางจรมาแซก กระทำโทษประจำทรางแดงนั้น กำเนิดหละประจำทรางแดง ชื่อว่าหละอุไทยกาล กำเนิดละอองพระบาทประจำทรางแดง ชื่อว่าละอองแก้วมรกฎ จบแต่เพียงนี้ตามลักษณะโดยสังเขป

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ