คำภีร์ครรภรักษา ลักษณะครรภวารกำเนิด

ปุน จ ปรํ มาตุรักขิปติฏ์ฐิตํ ชีวกโกมาโรหํ อาภตํฐาเนอิทํ สุตํอิสิ เอต์ถวจนัส์ส มหาเถรโต อโหสิติ, (ปุน จปรํ) ว่าในถ้อยคำอนึ่งเล่า (อหํ) อันว่าข้า (ชิวกโกมาโร) ชื่อชิวกโกมารภัจ (สุตํ) ได้สดับฟัง (มหาเถรโต) จากสำนักพระมหาเถรผู้ชื่อว่าตำแย (อาภตํ) เธอนำมา (ปติฏ์ฐิตํ) สำทับลงไว้ (มาตุคัพ์ภรัก์ขัม๎หิ) ในคำภีร์ครรภรักษานี้ (เอต์ถวจเน) ในถ้อยคำหนึ่งเล่า (อัส์สมหาเถรัส์ส) แห่งพระมหาเถรนั้น (อิติ) ด้วยประการดังนี้ โดยอธิบายของท่านโรคามฤตินทร์ ผู้เปนครูเปนอาจาริย์ของชีวกโกมารภัจ ศัพท์นี้แปลเนื้อความว่าหมออันท่านพระราชกุมารเลี้ยง แลเปนศิษย์ครูชื่อว่ามฤตินทร์ อันท่านผู้ชื่อว่าโรคามฤตินทร์นั้น ท่านได้พรลงมาแต่ท้าวมหาพรหม ว่ารักษาคนทั้งหลายไม่รู้ตายเลย ถ้าผู้ใดจะถึงแก่ความตายแน่แล้ว ถึงเธอจะนั่งอยู่ในที่ใดๆ ก็ดี ผู้ที่ไปหานั้นจะเห็นตัวเธอนั้นก็หาไม่ ท่านผู้นั้นประกอบไว้ซึ่งเวทมนต์ ให้เปนหมวดเปนหมู่ กับทั้งสรรพคุณแห่งหว้านยาทั้งปวง ทั้งนี้ก็อาไศรยด้วยกำลังบุญญาธิการของท่าน เมื่อท่านเดินไปในสถานใดๆ ต้นไม้แลหว้านยาทั้งปวงก็ร้องบอกแก่ท่านผู้นั้นว่า ข้าพเจ้าชื่อนั้นๆ จะแก้โรคมนุษย์สิ่งนั้นๆ บอกแก่เธอเพรียกไปทั้งป่า แต่ว่าได้ยินแต่เธอผู้เดียว เหตุดังนั้นท่านจึ่งประสมเปนยา ตั้งแต่งเปนพระคัมภีร์ไว้ให้แก่แพทย์ทั้งปวงสืบต่อมา ตั้งแต่สาสนาพระพุทธเจ้าอันทรงพระนามว่าพระกักกุสนธ์ มาจนถึงศาสนาพระโคดมเจ้าของเราทุกวันนี้ ถ้าบุคคลผู้ใดจะเรียนเปนแพทย์แล้ว ให้เรียนคัมภีร์อันชื่อว่าสรรพคุณนั้นเสียก่อน ถ้าจะรักษากุมารให้เรียนคัมภีร์อันชื่อว่า อภัยสันตา ปฐมจินดา มหาโชตรัต ทั้ง ๓ คัมภีร์นี้ ให้ชำนิชำนาญเปนประฐมเสียก่อน แล้วจึ่งเรียนคัมภีร์ทั้งปวงเปนอวะสานนั้นต่อไปเถิด

ปุน จ ปรํ ทีนี้จะว่าด้วยคัพภวาระกำเนิดสืบเรื่องต้นดังนี้โดยสังเขป ตุม๎เหปัส์สถิมํ โลกัส๎มึสัต์ต ปติสัน์ธิกํ มาตุคัพ์ภํ ติวิธํ เตมาสํกุมารมาตโร พาฬหคิลานิโยติฐฐันติ โดยอธิบายของพระมหาเถรตำแยนั้นว่า เมื่อสัตว์จะมาปฏิสนธิในมาตุคัพโภทรแห่งมารดานั้น ว่าตั้งขึ้นแล้วละลายไปแต่วันละ ๗ ครั้งๆ ทั้ง ๗ วันนั้น แลจะนับเอาเปนเที่ยงนั้นยังมิได้ก่อน เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายที่มาปฏิสนธินั้น ยังเปนอนุโลมปติโลมอยู่ยังมิได้ตั้งขึ้นเปนเที่ยง ต่อได้ ๑๕ วันแล้วเมื่อใด จึ่งตั้งมูลปฏิสนธิขึ้นเปนเที่ยง ในเมื่อตั้งมูลปฏิสนธิขึ้นเปนเที่ยงแล้วนั้น จึ่งให้ปรากฎแก่คนทั้งหลายทั้งปวง ถ้าจะใคร่รู้ว่าตั้งมูลปฏิสนธินั้นจะเปนวันใด ก็ให้ดูเมื่อมารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือนนั้น ให้ดูเพศแลอาการของมารดานั้น ก็ยังรู้ถอยหลังเข้าไปเอาวันแรกปฏิสนธินั้นเปนกำหนด ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน ให้มารดานั้นเปนพรรดึก แลให้เปนเอ็นชักมือแลเท้า ให้กายนั้นผอมเหลือง แลเดินไปไกลก็มิได้ ให้เจ็บหัวเหน่าแลท้องน้อย แลน่าตะโพกเปนกำลัง มักให้อยากหวาน แลให้ฝ่าเท้าข้างซ้ายแดง ทายว่ากุมารนั้นจะเปนหญิง ถ้าฝ่าเท้าข้างขวาแดงทายว่า กุมารนั้นจะเปนชาย แล้วก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปฏิสนธิวันอาทิตย์ เมื่อจะคลอดก็วันอาทิตย์ เพราะว่ากำเนิดทรางเพลิงเปนเจ้าเรือนของกุมารผู้นั้นจึ่งแสดงออกแก่มารดาดังนี้ ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้มารดานั้นปวดศีศะแลให้เจ็บนมให้อยากของหวาน ให้เมื่อยแขนทั้งสองข้าง ให้ตาฟางให้หูหนักให้เปนลมมึนตึง ให้อาเจียนลมเปล่า ถ้าแพทย์เห็นดังนี้แล้วก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปฏิสนธิวันจันทร เมื่อจะคลอดก็วันจันทร์ เพราะว่ากำเนิดทรางน้ำเปนเจ้าเรือน กุมารผู้นั้นจึ่งแสดงเพศออกแก่มารดาดังนี้ ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้เปนลมจุกเสียดแลลมวิงเวียน แลให้หลังมือแลเท้าบวมถึงน่าตะโพกให้เมื่อยขบนอนมิหลับ แล้วก็ให้เปนเม็ดยอดขึ้นที่เพดานเท่าเมล็ดเข้าโภชน์ ก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปฏิสนธิวันอังคาร เมื่อจะคลอดก็วันอังคาร เพราะว่ากำเนิดทรางแดงเปนเจ้าเรือนของกุมารนั้น จึ่งแสดงเพศออกแก่มารดาดังนี้ ถ้าแลมารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้จุกเสียดแลราก ให้บวมแต่ขาถึงปลายเท้า แลให้เจ็บน่าตะโพก ให้กินเข้าขม แล้วให้ทวารหนักทวารเบานั้นพรึงขึ้นรอบทวาร แล้วก็เปื่อยออกเปนน้ำเหลือง ก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปฏิสนธิวันพุฒ เมื่อจะคลอดก็วันพุฒ เพราะว่าทรางสกอนั้นเปนเจ้าเรือนแห่งกุมารนั้น จึ่งแสดงเพศออกมาแก่มารดาดังนี้ ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้ปากแลลิ้นเปนเม็ดเปนยอด แล้วก็ให้เปื่อยออกจะกินของเผ็ดของร้อนมิได้ ไปจนถึงหกเดือนแล้วให้ลามออกข้างลิ้นเพดานแล้วก็แตกเช่นระแหง ครั้นกลืนน้ำลายเข้าไปก็ให้ตกมูกตกเลือดเปนบิดไปจนกำหนดคลอด ก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปฏิสนธิวันพฤหัศบดี เมื่อจะคลอดก็วันพฤหัศบดี เพราะว่าทรางวัวเปนเจ้าเรือนแห่งกุมารนั้น จึ่งแสดงโทษออกแก่มารดาดังนี้ ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้ตัวพรึงขึ้นดังยอดผดให้คันเปนกำลัง แล้วให้ทวารทั้งสองนั้นลำลาบเปื่อยเปนน้ำเหลืองออกรอบทวารนั้น ให้ปวดหัวเหน่าแลเจ็บน่าตะโพก แลสองตะคาก แล้วให้ขัดเบา ได้หกเดือนให้จุกเสียด ได้ ๘ เดือน ๙ เดือน ให้บวมมือแลเท้า ไปจนกำหนดคลอด ก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปติสนธิวันศุกร์ เมื่อจะคลอดก็วันศุกร์ เพราะว่ากำเนิดทรางช้างเปนเจ้าเรือนแห่งกุมารนั้น จึ่งแสดงโทษออกแก่มารดาดังนี้ ถ้ามารดามีครรภ์ได้ ๓ เดือน มักให้ท้องผูกไป ให้ถ่ายอุจจาระ ๒ วัน ๓ วัน จึ่งไปหนหนึ่ง แลให้อยากของคาว ให้สวิงสวาย ให้หัวนมพรึงขึ้นดังยอดผด แล้วให้แตกเปนน้ำเหลือง ได้ ๖ เดือนก็ให้เปนบิดตกมูกตกเลือด แลให้เจ็บเอวให้อยากเปรี้ยวอยากหวาน แลให้อยากสรรพฟองทั้งปวง แลให้อยากผักพล่าปลายำไปจนกำหนดคลอด ก็ให้พึงรู้ว่าสัตว์มาปติสนธิวันเสาร์ เมื่อจะคลอดก็วันเสาร์ เพราะว่าทรางขะโมยเปนเจ้าเรือนของกุมารนั้น จึ่งแสดงโทษออกแก่มารดาดังนี้

จบลักษณะครรภวารกำเนิดเพียงนี้ ให้แพทย์พึงรู้โดยสังเขป

----------------------------

ปุน จ ปรํ ทีนี้จะว่าด้วยครรภรักษาต่อไป ตามเรื่องดังนี้ว่าสัตรีทั้งปวงนี้มีครรภ์อันตั้งขึ้นได้ ๑๕ วันก็ดี เดือนหนึ่งก็ดี แสดงกายให้ปรากฎแก่คนทั้งหลาย ให้รู้ว่าตั้งครรภ์ขึ้นแล้ว เพราะว่าเอ็นผ่านน่าอกนั้นเขียว หัวนมนั้นคล้ำดำเข้าแล้วตั้งขึ้นเปนเม็ดรอบหัวนมนั้น ก็ให้แพทย์พึงรู้ว่าสัตรีผู้นั้นมีครรภ์โดยสังเขป ถ้าสัตรีมีครรภ์ใต้เดือน ๑ ก็ดี ถ้าไข้รำเพรำพัด คือให้รากให้จุกในอุทรแลให้แดกขึ้นแลแดกลงเปนกำลัง แลให้มะเมอเพ้อพกดังผีเข้า แพทย์ไม่รู้ ว่าเปนไข้สันนิบาตนั้นหามิได้เลย บังเกิดโทษในครรภ์รักษานั้นเอง ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร ๔ มุม เอาแป้งคลึงท้องด้วยมนต์นี้ (โอมธิชูภูภะสวาหะ) ๗ ที แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงนั้น มาปั้นรูปหญิงคน ๑ รูปภูเขาอัน ๑ รูปไก่ตัว ๑ รูปม้าตัว ๑ เอาลูกไม้ ๗ สิ่ง ดอกไม้ ๗ สิ่ง แล้วเอาเข้าสารโปรยกลางลูกไม้บูชา แล้วเอาไปส่งที่ทิศอาคเณย์ ทำ ๓ วันหาย ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอาจันทน์หอม ดอกบัวเผื่อน รากบัวหลวง เข้าเหนียวกัญญา ศิริยา ๔ สิ่งนี้ บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำนมโคกินหาย ถ้าไม่หายให้เอาขนานนี้ เนื้อโคย่าง ๑ เข้าตอกเข้าเหนียวกัญญา ๑ บดละลายน้ำผึ้งกินหาย ถ้าให้ร้อน ยาขนานนี้ ท่านให้เอาใบไทรย้อย ใบหญ้าแพรก ใบพรมมิ ใบตำลึง ดินประสิวขาว คิริยา ๕ สิ่งนี้ บดละลายน้ำซาวเข้าชะโลมหายกินก็ได้ ใช้มามากแล้ว ถ้ามึครรภได้ ๒ เดือน แม้นเปนไข้จับ ๆ เปนเวลาทุกวันก็ดี ให้นอนไม่หลับกินเข้าไม่ได้ ให้เชื่อมให้มึน ให้เปนอันใดๆ ก็ดี เว้นวันจับวันก็ดี ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์กลมอัน ๑ เอาแป้งคลึงท้องด้วยมนต์นี้ (โอมอมรหิชิวันติเยสวาหะ) ๗ ที แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงนั้นมาปั้นเปนรูปแมวตัว ๑ เอาผัก ๓ สิ่ง เอาลูกไม้ ๓ สิ่ง เอาดอกไม้ ๓ สิ่ง แล้วจงเอาเข้าสุกเทรายตีนตอง เอาแป้งหอมน้ำมันหอมพรมบัตร์ เอาไปส่งทิศบูรพ์หาย ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้ให้กิน ท่านให้เอาเกสรบัวหลวง ดอกจงกลนี หัวแห้วหมู เทียนดำ กระจับบกบดละลายน้ำซาวเข้ากินหาย ถ้าไม่หายขนานนี้ ท่านให้เอารากบัวหลวง รากบัวเผื่อน แห้วสด กระจับสด ใบผักแว่น ขิงสดแต่น้อย บดด้วยน้ำแรมคืน น้ำนมโคก็ได้ กินแก้ปวดท้องแลท้องขึ้นหาย ยาชะโลมขนานนี้ ท่านให้เอาใบหนาด ใบโพกพาย รากผักไห่ เม็ดในขนุนละมุด ดินสอพอง บดด้วยน้ำซาวเข้าชะโลมหายดีนักได้เชื่อมาแล้ว ถ้าสัตรีมีครรภ์ได้ ๓ เดือน แลไข้ให้ลงให้ราก จุกเสียดแทงหน้าแทงหลัง กินอาหารมิได้นอนไม่หลับ ถ้าเปนดังนี้ไซ้ ให้เกรงลูกจะตกเสีย ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์ ๓ มุม เอาแป้งเอาถั่วเขียวคุลิการด้วยกันเข้า คลึงท้องด้วยมนต์นี้ (โอม สิทธิ สามกาเรติ เทพิน วา อหํ อิชา กานํ มาเรหิ เอหิ ๆ อาคัจ ฉันติ กาเมหิเน) ๗ ที แล้วเอาแป้งที่คลึงนั้นมาปั้นเปนรูปหญิงคน ๑ รูปกระต่ายตัว ๑ เอาเข้าสุกกองเปนจอมปลวก เอาเล่าเข้าวางลงในกระบาล น้ำนมโค ผัก ๓ สิ่ง ดอกไม้ ๓ สิ่ง แป้งกระแจะน้ำมันหอมประพรมบัตร์แล้ว เอาไปส่งทิศประจิมทำ ๓ วันหายประสิทธิ์ ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอายางไข่เน่า ยางมะม่วง กระดอม บดละลายน้ำร้อนกินหาย ถ้าไม่หายให้เอาเข้าตอก เข้าเหนียวกัญญา บดละลายน้ำนมโคกินหาย ยาชโลมขนานนี้ ท่านให้เอารากกระจับบก ใบบัวหลวงอ่อน มูลโคตาใหม่ จันทน์หอม เปราะหอม หญ้าแพรก แฝกหอม เถาชิ้งช้าชาลี บดละลายน้ำซาวเข้าชโลมดีนัก ถ้าสัตรีมีครรภได้ ๔ เดือน เปนไข้เพื่อเสมหะให้โทษต่างๆ แลเปนลมให้เหงื่อตก แลตกโลหิตก็ดี ถ้าแลประชุมพร้อมทั้ง ๔ สิ่งแล้วเมื่อใด จึ่งได้ชื่อว่าสันนิบาต ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน คือท่านให้ทำบัตร์ ๔ มุม เอาแป้งคลึงท้องด้วยมนต์นี้ (โอม เห เห โหติฐ โหติฐ เหยะนะ เหยะนะ โอม ปักขสํ สาภตา วะปสยุน๎นสนาริเห) ๗ ที แล้วเอาแป้งที่คลึงนั้นมาปั้นเปนรูปแร้งตัว ๑ รูปงูเขียวตัว ๑ รูปคน ๒ คน เอาลูกไม้ ๒ สิ่ง ดอกไม้ ๒ สิ่ง ผัก ๒ สิ่ง เอาใบมะม่วงรองบัตร์ แล้วเอาไปส่งทิศพายัพ ๓ วันหาย ถ้าไม่หายให้แต่งยานี้กิน ท่านให้เอาโกฐเขมา เกสรบัวหลวง รากขัดมอน ดอกจงกลนี บดด้วยน้ำนมโคกินหาย ถ้าไม่หายเอาดอกสัตตบงกช โกฐกระดูก รากบัวหลวง กระจับบก จันทน์หอม รากขัดมอน หัวแห้วหมู รากมะตูม ผลผักชี ขิงสด ยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย ยาชโลมสำหรับประกอบกัน ขนานนี้ ท่านให้เอารากสลอดน้ำ รากย่านาง รากทองหลางหนาม รากพุมเรียงบ้าน พุมเรียงป่า จันทน์แดง จันทน์ขาว รากพุงดอ รากตำลึง รากผักเข้า เกสรบัวหลวง ดินประสิวขาว ดินสอพอง รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเท่ากันกระทำให้เปนจุณ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าทั้งกินทั้งชโลมดีนัก เปนยากล่อมลูกมิให้เปนอันตรายได้วิเศษนัก ถ้าสัตรีมีครรภได้ ๕ เดือน แลเปนไข้ให้ลงให้รากให้จุกหน้าจุกหลัง เปนสิ่งใดๆ ก็ดี ก็เปนเพราะครรภรักษานั้นเอง ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์ ๕ มุม เอาแป้งคลึงท้องด้วยมนต์นี้ (สันติปักขา อปัตตนา สันติปาทาอวัญจนา มาตาปิตา จ นิกขันตา ชาติเวทปติกะมะ ปติกกะมันตุ ภูตานิโสหํ นโม ภควโต นโม สัตตันนํ สัม์มาสัมพุทธานันติ) ๗ ที แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปหญิงคน ๑ ดอกไม้ ๕ ดอก ผักพล่าปลายำเล่าแลเข้าเนื้อแห้งบูชา แล้วเอาไปส่งทิศหรดีที่ต้นไม้ใหญ่ ๓ วันหาย ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอาดอกบัวเผื่อน ดอกบุญนาค ยางมะม่วง บดละลายน้ำนมโคกินแก้ลงท้องแลลงโลหิต แก้จุกเสียดหาย ถ้าไม่หายให้เอาใบบัวบก เทียนดำ ขมิ้นผง ปูนแดง บดละลายน้ำสุรากินแก้ลงโลหิตทางทวารหนักทวารเบานั้นหาย ยาทาแก้เมื่อย ท่านให้เอาเปลือกสมุนละแว้ง รากเปล้าน้อย สะค้าน สนเทศ เอาเท่ากัน บดละลายน้ำปูนใส เมื่อยที่ไหนทาที่นั้น เว้นแต่ที่ท้องมิให้ทาจะเปนอันตรายแก่กุมาร ถ้าสัตรีมีครรภได้ ๖ เดือนแลเปนไข้ ให้เจ็บแข้งเจ็บขา เจ็บน่าตะโพก แลให้คันทวาร อุจจาระปัสสาวะแล้วให้เปนลมจับเนืองๆ ถึงจะเสียกระบาลก็ไม่หาย แต่ว่าท่านให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์ ๔ มุมสองชั้นเอาแป้งคลึงท้องด้วยคาถานี้ (อัคโคหมัสมิโลกัสมิน ติ ภวติโลกิตติโล กัส สันนิคัพภัทม หิริ คัพภปมุญจันติ) ๗ ที แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปวัวตัว ๑ รูปม้าตัว ๑ รูปไก่ตัว ๑ เอาน้ำมะนาว ๑ น้ำมันงา ๑ ผัก ๗ สิ่ง ลูกไม้ ๗ สิ่ง ดอกไม้ ๗ สิ่ง ขนม ๗ สิ่ง เอาเข้าขั้วรายตีนตอง แล้วจึ่งเอาสุราแป้งน้ำมันที่ดีประพรมบูชา เอาไปส่งทิศหรดี ๓ วันหาย ถ้ายังไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอาเม็ดในซ่มซ่า เปลือกสแก จันทน์แดง จันทน์ขาว ดอกจงกลนี เอาเท่ากัน บดละลายน้ำนมโคกินหาย ถ้าไม่หายให้ประกอบยาให้สุขุมขึ้นไป เพราะกุมารนั้นแก่กล้าอยู่แล้ว เปนเบ็ญจสาขาพร้อมด้วยอาการ ๓๒ นั้นอยู่แล้ว ท่านให้เอาลูกคนทีสอขั้ว ว่านน้ำ เทียนดำ เทียนขาว มหาหิง เปราะหอม หัวแห้วหมู บอระเพ็ด เกสรบัวหลวง ดอกบุนนาค อบเชยเทศ ลูกเอ็น เปลือกเงาะ ชเอมเทศ ลูกผักชี เอาสิ่งละสองสลึง พริกไทย ๑๑ เม็ด ยา ๑๖ สิ่งนี้ทำให้เปนจุณบดทำแท่งไว้ละลายน้ำนมโคกินหายดีนัก ใช้มามากแล้ว แล้วจึงทำยาชะโลม ท่านให้เอาใบทองหลางหนาม ใบขนุน ละมุด ใบย่านาง ใบหนาด ใบเพกา ใบว่านน้ำ ใบหญ้าแพรก ขมิ้นอ้อย รวม ๘ สิ่งเอาเท่ากัน บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าชโลม แก้สาระพัดในครรภรักษาหายดีนัก ถ้าสัตรีมีครรภ์ได้ ๗ เดือน แลไข้ให้เปนต่างๆ ให้ลงให้รากโลหิตก็ดี แลให้ร้อนภายใน ให้เปนไข้ไปต่างๆ ถ้าจะแก้ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์ ๔ มุม ๒ ชั้น เอาแป้งคลึงท้องด้วยมนต์นี้ (โอม นมัสมิ นโมจสุคโต ปัจจุปันนา ปัญจพุทธาปน โอม สิมหาสิ ครั้นกูแบ่งกดขี่กูจะบูชาแก่เทวดาอันประสิทธิ์ในสงสาร โอมสิทธิกาลมหาสิทธิ์กาลสวาหะ) ๗ ที แล้วจึงเอาแป้งที่คลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปเสือตัว ๑ รูปแร้งตัว ๑ เอาเข้าสารขาวรายตีนตอง จันทน์แดง จันทน์ขาว ผัก ๓ สิ่งเข้าตอกดอกไม้บูชา ส่งทิศประจิม ๓ วันหาย ถ้าสัตรีมีครรภ์ได้ ๘ เดือนแลเปนไข้ ท่านว่ามิพอเปนไรนัก เพราะว่ากุมารนั้นแก่กล้าจวนจะคลอดอยู่แล้ว ถ้าเปนไข้รำเพราพัดต่าง ๆ ท่านให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์กลมใบ ๑ เอาแป้งคลึงท้องว่าด้วยคาถานี้ (สัพเพ เทวา ปิสาเจว อาฬวกรทโย ปิจ ขัคคํตาลปัตตํ ทิส์วา สัพเพยักขาปลายันติ) ๗ ที แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปม้าตัว ๑ เอาเข้าสารขาวรายตีนตอง ผัก ๒ สิ่ง ดอกไม้ ๒ สิ่ง เอาใบมะม่วงรอง แป้งหอมน้ำมันหอมประพรมบูชาแล้วเอาไปส่งทิศอิสาณที่ต้นไม้ใหญ่ ๓ วันหาย ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอาเม็ดผักกาด รากบัวหลวง เข้าเหนียวกัญญาบดด้วยน้ำซาวเข้าน้ำท่าก็ได้กินหาย ถ้ายังไม่หายท่านให้เอารากช้าพลู รากกะพังโหม รากกระจับบก รากบัวหลวง หัวแห้วหมู บอระเพ็ด จันทน์แดง จันทน์ขาว มะตูมอ่อน ขมิ้นอ้อย ก้านเสดา ๓๓ ก้าน รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเท่ากัน ต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย ยาชโลมท่านให้เอารากโมง รากลำดวน รากไทรย้อย รากหญ้าแพรก รากตำลึง รากผักเข้า ดินประสิวขาว ยา ๗ สิ่งนี้เอาเท่ากัน บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าชโลมหายดีนัก ถ้าสัตรีมีครรภ็ได้ ๙ เดือน แลเปนไข้สิ่งใดๆก็ดี ท่านว่ายังอยู่ในครรภรักษา แต่ว่ากุมารที่อยู่ในครรภ์นั้นแก่กล้าอยู่แล้ว ถ้าเปนไข้ก็เปนแต่ภายนอก เว้นไว้แต่เปนไข้อหิวาตกะโรค ถึงดังนั้นก็ดี ถ้าเปนฝีเอกแลฝีเอกตัดนั้น กุมารจึงจะอันตรธานก่อนมารดา ถ้ามิดังนั้นมารดาต้องกฤติยาคมคุณไสย แลกุมารที่อยู่ในครรภ์นั้นจึ่งจะตายก่อนมารดา ถึงจะตายก่อนมารดาก็จะพาเอามารดาไปด้วย ว่ามาทั้งนี้ด้วยอุบัติเหตุแห่งอกุสลกรรมของบุตร์ผู้นั้น ถ้าจะเปนเหตุสิ่งใดๆ ให้ทำตามบุราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตรกลมใบ ๑ เก้าชั้นดุจบัตร์พระเกตุ เอาแป้งคลึงท้องด้วยคาถานี้ (เถโรปาปิมะเต อังคปัจจัง คาทิอหํปัสสามิ กึมังคังปน สะกะลสริรํ นิกขมะลหุปาปิมะ) เสกตามกำลังวัน แล้วจึงเสกน้ำรดด้วยคาถานี้ ๗ คาบ (สันติปักขา อปัตตนา สันติปาทาอวัญจนา มาตาปิตาจนิกขันตา ชาติเวทปฏิกกมะ สหสัจเจ กะเต มัยหํ มหาปัชชลิโตสิขี วัชเชสิโสฬสํกริสสามิ อุทกํปัตวายถาสิขี สัจเจนเมสโมนัตถิ เอสาเมสัจจปารมีติ) แล้วจึ่งเอาแป้งที่คลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปสิงห์ตัว ๑ รูปแร้งตัว ๑ รูปครุธตัว ๑ เอาผักยำ ๗ สิ่ง ดอกไม้ ๗ สิ่ง เอาใบมม่วงกาล่อนรองบัตร์ เอาแป้งเอากระแจะแลน้ำมันหอมประพรมบัตร์ปูชาแล้วเอาไปส่งทิศอาคเนย์ ๓ วันหาย ถ้าไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอารากละหุ่งแดง ยางงิ้ว ขิงสด บดละลายน้ำแรมคืนกินหาย ถ้ายังไม่หายให้เอาขนานนี้ ท่านให้เอาโกฐเขมา โกฐเชียง โกฐหัวบัว โกฐพุงปลา เทียนดำ เทียนแดง เทียนขาว เทียนเข้าเปลือก เทียนเยาวพานี ดอกสัตบุษป์ ดอกบัวขม ดอกบัวเผื่อน ดอกลินจง ดอกจงกลนี ผลผักชีล้อม ผลผักชีลา แฝกหอม ผลกระดอม บรเพ็ด ขมิ้น อ้อย ขมิ้นเครือ กระจับบก แก่นขี้เหล็ก ยา ๒๓ สิ่งเอาส่วนเท่ากันต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย ยาชโลมแก้เมื่อยขบขนานนี้ท่านให้เอาใบขี้เหล็ก ใบผักเค็ด ใบน้ำเต้า ใบเงินใบทอง ใบย่านาง ดินประสิวขาว ดินสอพอง ยา ๘ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าน้ำดอกมลิสดก็ได้ ชโลมหายดีนักได้ใช้มามากแล้ว ถ้าสัตรีมีครรภ์ได้ ๑๐ เดือน แลสัตรีผู้นั้นเปนคนบูราณมีชาติอันสูง เทพยดาจุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์ผู้นั้น ถ้าเปนไข้ในอุทรสิ่งใดๆ ก็ดี ท่านให้ทำตามบูราณเสียก่อน ท่านให้ทำบัตร์กลม ๓ ชั้น เอาแป้งคลึงท้องเศกด้วยคาถานี้ (ยโตหํภคินิ อริยา ยะชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจ์จ ปณํ ชีวิตาโวโรเปตา เตนะสัจจวัชเชน โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพ์ภัสัส ชาติยา ซาโต นาภิยํ สัม์ผัส์สานิ ปฏิฆาตายะ อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ แล้วจึ่งเอาแป้งคลึงท้องนั้นมาปั้นเปนรูปสิงห์ตัว ๑ รูปครุธตัว ๑ รูปแร้งตัว ๑ เอาผัก ๗ สิ่ง กับเครื่องมัจฉมังสะทั้งปวง แล้วเอาแป้งหอมน้ำมันหอมประพรม เอาธูปเทียนจุดบูชาจงดี เมื่อจะบูชาให้ว่าคาถานี้ตามกำลังวัน ปูรัตถิมัส๎มึทิสาภาเค สันติเทวา มหิทธิกา เตปิตุมเหอนุรักขันตุ อาโรเค๎ยนะสุเขนะจะ ภวตุสัพพมังคลํ รักขันตุ สัพพเทวตา สัพพ พุท์ธา ธัมมา สังฆา } นุภาเวนะสะทา โสตถี ภวันตุเต) บูชาแล้วจึ่งเอาไปส่งทิศบูรพา ๓ วันหาย ถ้ายังไม่หายให้แต่งยาขนานนี้กิน ท่านให้เอาดอกบัวเผื่อน ชเอมเทศ หมากสง จันทน์แดง จันทน์ขาว บดละลายน้ำนมโค น้ำดอกไม้ก็ได้ กินหายดีนัก ยาชโลมขนานนี้ ท่านให้เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว เชือกเขามวกแดง เชือกเขามวกขาว ชลูด อบเชยเทศ ขอนดอก สน สัก กรักขี แก่นประดู่ เปลือกไข่เหน้า เปลือกมะซาง เปลือกสันพร้านางแอ ดอกสัตบุษป์ ดอกบัวเผื่อน ดอกบัวขม ดอกลินจง ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี ดอกมะลิซ้อน ดอกมะลิลา ๒๓ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ทำให้เปนจุณบดทำแท่งไว้ ละลายน้ำดอกมะลิกินแลชโลมแก้สาระพัด โรคในครรภรักษาทั้งปวง ตั้งแต่เดือน ๑ ไปจนถึง ๑๐ เดือน เปนกำหนดที่สุดนั้น ถ้าเปนไข้สิ่งใดๆ ก็ดี ทั้งกินแลชโลมหายสิ้น อย่าสงไสยเลย

(จบลักษณครรภรักษาแต่เพียงนี้ ให้แพทย์พึงรู้โดยสังเขป)

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ