ว่าด้วยกุมารเกิดวันเสาร์

พระคัมภีร์ประฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๗ ว่าด้วยกุมารเกิดวันเสาร์เปนลักษณะทรางโจรเจ้าเรือน ทรางนางริ้นเปนทรางจร หละชื่อมหานิลกาล ละอองชื่อเปลวไฟฟ้าทับทิม ลมชื่อลมกุมภัณฑ์ ลมบาทยักษ์ลมจำปราบ โดยสังเขป

(ลักษณะกำเนีดทรางวันเสาร์นั้นมีแจ้งอยู่ในน่า ๑๙๒ แห่งเล่มนี้แล้ว บัดนี้ได้คัดแต่ตำรายา สำหรับทรางวันเสาร์มาลงต่อไป)

ยาแก้มูกเลือดทรางโจร ขนานนี้ท่านให้เอา รากทับทิม ๑ รากมะพร้าว ๑ รากตาลดำ ๑ รากตาลหม่อน ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ กินหายดีนัก

ยาชื่อชมภูทวีป ขนานนี้ท่านให้เอา ใบเพกา ๑ ใบพุดทรา ๑ ใบผักปลาบ ๑ ใบผักเป็ด ๑ ใบกะเมง ๑ ใบชุมเห็ดไทย ๑ ใบทองหลางใบมน ๑ ใบหว้า ๑ ใบลำโพง ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบมะเดื่อ ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้ตำเอาน้ำสิ่งละจอก น้ำมันงาจอก ๑ หุงให้คงแต่น้ำมันทั้งกินทั้งทา แก้ตาลแก้ทรางโจรตกมูกเลือดหาย ถ้าจะทำแท่งให้เอาเสมอภาค บดด้วยสุรากินแก้ดุจกัน

ยาแก้ทรางโจร ขนานนี้ท่านให้เอา ผักขวง ๑ ใบมะระ ๑ ใบการ่อน ๑ ใบทุมมะราชา๑ ใบทุมเทง ๑ ใบมะขวิด ๑ ใบโคกกะออม ๑ ใบชะบา ๑ ข่าตาแดง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิศม์ตาลทรางโจรหายทุกประการดีนัก

ยาชื่อแสงพระจันทร์ ขนานนี้ท่านให้เอา กรุงเขมา ๑ โกฐสอ ๑ เบ็ญจกานี ๑ เนระภูสีทั้ง ๒ จันทน์ทั้ง ๒ รากไคร้เครือ ๑ เปลือกมะขามขบ ๑ ครั่ง ๑ ผลตะบูน ๑ เปลือกมะเกลือ ๑ ใบสะเดา ๑ ตรีกระฎุก ๑ บรเพ็ด ๑ เมล็ดในสะแก ๑ เปลือกหางกราย ๑ เปลือกฝิ่นทั้ง ๒ ผลทับทิมอ่อน ๑ กะเทียมกรอบ ๑ รวมยา ๒๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาดีงูเหลือมแช่น้ำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากินแก้ตาลแลทรางโจร ให้เปนบิดปวดมวน แลตกเสมหะเปนบุพโพโลหิตเหน้าแล้วให้ตัดอาหารนั้นก็ดี แลให้เชื่อมมึนหอบพักกระหายน้ำตัวร้อนก็ดี ยาขนานนี้อาจสามารถจะแก้ได้ทุกประการดีนัก

ยาแก้บิดเพื่อพิศม์ทรางโจร ขนานนี้ท่านให้เอา ผลเบ็ญจกานี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เทียนทั้ง ๕ เนระภูสี ๑ ผลสารพัดพิศม์ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันทน์ทั้ง ๒ กะถินแดง ๑ รากไคร้เครือ ๑ ผลตะบูน ๑ รวมยา ๑๗ สิ่งนี้เอาสิ่งละ เปลือกสันพร้านางแอ ๓ ส่วน ผลตะลุมพุก ๔ ส่วน ผลตุมกาทั้ง ๒ สิ่งละ ๕ ส่วน แล้วทำให้เปนจุณเอาสุราเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสกิน แก้ลงเปนบุพโพโลหิตหาย แลแก้ให้ระส่ำระสาย แก้ไข้ตรีโทษแก้อติสารทั้งปวงหาย

ยาชื่อทิพย์ศุภสุวรรณ ขนานนี้ท่านให้เอา กัมถันทั้ง ๒ การบูร ๑ จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ โกฐกระดูก ๑ โกฐเขมา ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ สีเสียดทั้ง ๒ ผลเบ็ญจกานี ๑ ครั่ง ๑ เปลือกมะขามขบ ๑ ใบสะเดา ๑ ผลปราย ๑ ชะเอมเทศ ๑ กันชา ๑ ฝิ่น ๑ ดีงูเหลือม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ตรีกระฎุก เอาสิ่งละ ๑ สลึง กะเทียมกรอบ ๒ สลึง กานพลู ๑ บาท เปลือกหางกราย ๒ บาท รวมยา ๒๙ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาเปลือกแคแดง ๑ เปลือกเพกา ๑ เปลือกฝาง ๑ ต้มด้วยเหล้าเอาน้ำเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะแก้ลงละลายน้ำเปลือกมะเดื่อต้มกิน ถ้าจะแก้บิดละลายน้ำกระทือก็ได้น้ำปูนใสก็ได้ แก้ตาลทรางแลทรางโจร ถ้าผู้ใหญ่เปนริศดวงให้ลงเปนเสมหะโลหิตเหน้าก็ดี ให้กินยานี้หาย

ยาหลามแก้ตานโจร ขนานนี้ท่านให้เอา กะเทียม ๗ กลีบ ขมิ้นอ้อย ๗ ชิ้น พริกไทย ๗ เมล็ด ขิง ๗ ชิ้น ใบเทียนกำมือ ๑ เปลือกฝิ่นทั้ง ๒ สิ่งละกำมือ ๑ ใบกะพังโหม ๓ กำมือ รวมยา ๙ สิ่งนี้ตำให้แต่พอช้ำๆ ใส่เหล้าครึ่งน้ำครึ่ง หลามด้วยไม้ไผ่สีสุกให้สุกแล้ว จึ่งเอามาบดปั้นแท่งไว้แซกดีงูเหลือมให้กิน แก้ตาลโจรกินลำไส้ให้ลงท้องตกมูกเลือดแลอุจจาระเขียวดุจใบไม้ก็ดี เปนเสมหะโลหิตเหน้าก็ดีหายสิ้นดีนักอย่าสนเท่ห์เลย

ยาแก้มูกเลือดทรางโจรขนานนี้ ถ่านให้เอาใบกะเพรา ๑ ใบพลูแก ๑ ฝิ่น ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายน้ำสุรากิน แก้ตกมูกเลือดให้ขบในท้องหาย

ยาแก้มูกเลือดทรางโจรขนานนี้ ท่านให้เอาเปลือกขี้อ้าย ๑ เปลือกมะทราง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เนระภูสี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ขิง ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำมะรุมเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากิน ถ้าลงนักให้ละลายน้ำเปลือกแคแดง, มะเดื่อ, มะกอก, ก็ดี กินหายดีนัก

ยาชื่อสิทธิสารแก้ลงขนานนี้ ท่านให้เอาตรีกระฏุก ผักแพวแดง ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ สีเสียดทั้งสอง ใบกะเพรา ๑ บรเพ็ช ๑ เขาควายเผือกเผา ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคเอาเขาควายเผือกเท่ายาทั้งหลายทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากินแก้ตาลทรางโจรหาย

ยาชื่อหิงคุ์สุรา ขนานนี้ท่านให้เอา ดอกบุนนาค ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกมลิ ๑ เปลือกหางกราย ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ ผลเอน ๑ กานพลู ๑ หมากเข้าเหนียว ๑ สีเสียดทั้งสอง ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๒ สลึง กะเทียมกรอบ ๑ บาท เขาควายเผือกเผา ๑ ใบกะเพรา ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท รวม ๑๕ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้บิดตกมูกเลือดให้ปวดมวน แลแก้โลหิตตกทางทวารทั้ง ๙ แลแก้รักกะปิดหายดีนัก

ยาแก้ตาลโจร ขนานนี้ ท่านให้เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ ดีปลี ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ หอมแดง ๑ กะเทียม ๑ ดินถนำ ๑ เอาสิ่งละส่วน มาศเหลืองกึ่งส่วน รวมยา ๙ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสาระพัดดีเปนกระสายแช่น้ำบด แล้วเอาติดก้นขันสำฤทธิ์ลนควันเทียนให้ร้อนทั่วกันแล้วจึ่งปั้นแท่งไว้ แก้ตาลโจรกินทวารหนักเบาให้เปนดากออกมาก็ดี เปนบิดตกมูกเลือดให้ปวดมวนนัก ละลายสุราแซกน้ำตาลกรวดกิน ถ้าจะแก้เชื่อมมึนให้ละลายน้ำดอกไม้น้ำจันทน์ก็ได้ แซกพิมเสนลงกิน ถ้าจะแก้ทรางขึ้นฅอละลายน้ำมนาวกับเกลือกวาด ถ้าจะแก้ท้องขึ้นให้ละลายน้ำมะกรูดแซกดีงูลงกิน ถ้าจะแก้งูขบละลายสุราทั้งกินทั้งทา ถ้าจะแก้ริศสีดวงแลแก้ทรางขึ้นทวารทั้ง ๙ เปนดากออกมาก็ดี ให้ละลายน้ำหมากดิบแซกฝิ่นลงกิน ถ้าจะแก้ลงถึงอติสารให้ละลายน้ำเปลือกแคแดง ๑ สน ๑ ใบเทียน ใบทับทิม ๑ ต้ม ๓ เอา ๑ ให้กิน ๙ เม็ด กินบ้างทาทวารหนักบ้างหายดีนัก

ยาชื่อนวทวาร ยาชักให้หด เอาผลจันทน์ ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ รากมะฝ่อ ๑ รวมยา ๓ สิ่งเอาเสมอภาค เปลือกสันพร้านางแอเท่ายาทั้งหลาย ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายสุรา น้ำท่าน้ำปูนใสครึ่งหนึ่งกินให้ได้ ๗ วัน ๆ ละ ๒ เวลาเช้าเย็นหายดีนัก

แล้วจึ่งแต่งยาชำระดาก เมื่อถ่ายอุจจาระขนานนี้ ท่านให้เอาเบ็ญจลำโพง เบ็ญมาศลา ๑ มาศเหลือง ๑ เปลือกเสดา ๑ เปลือกเพกา ๑ เกลือ ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ แล้วเอาไว้ให้เย็น เอาน้ำชำระดากให้หดเข้าไปทั้งแก้เปื่อยเหน้าด้วย แลกันอันตรายทั้งปวงหายวิเศษนัก

อนึ่งถ้ากุมารเปนตาลโจรก็ดี เปนเพื่อทรางสิ่งใดๆ ก็ดี แลถ่ายอุจจาระให้เปนดากออกมาก็ดี ท่านให้หุงน้ำมันนี้กิน เอาน้ำใบคนทิสอทนาน ๑ น้ำใบเสดาทนาน ๑ น้ำใบตำลึงตัวผู้ทนาน ๑ น้ำใบไคร้น้ำทนาน ๑ น้ำใบไคร้บกทนาน ๑ น้ำใบตาลหม่อนทนาน ๑ น้ำใบตาลขะโมยทนาน ๑ น้ำเปลือกพุดทราทนาน ๑ น้ำเปลือกเพกา ๑ น้ำรากมะเดื่อดินทนาน ๑ น้ำผลมะเขือขื่นทนาน ๑ น้ำรากถั่วภูทนาน ๑ น้ำขมิ้นอ้อยทนาน ๑ น้ำมันมะพร้าวไฟทนาน ๑ หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึ่งเอารากเจตมูล ๑ ดีงูเหลือม ๑ ยาฝิ่น ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง ทำเปนจุณปรุงลงในน้ำมันให้กิน แลขี้น้ำมันนั้นเอาทาดาก ถ้าขึ้นทวารทั้ง ๙ ทาไปเถิดหายดีนัก

อนึ่งถ้าแลทรางจำพวกใดก็ดีแลทรางโจรก็ดี แลกลายไปให้ลงท้องเปนมูกเปนเลือดสดๆ ออกมาก็ดี แลเหน้าออกมาก็ดี ให้ปวดมวนให้เบ่งนักดากนั้นจึงออก เพราะทรางกินในลำดากจึงให้ปวดมวนเปนกำลัง ถ้าแพทย์วางยาหน่วงไว้ยิ่งปวดมากขึ้น จึงให้เบ่งมากขึ้น เมื่อว่าเบ่งมากขึ้นทีใด อันว่าลำดากนั้นก็ยาวออกมาทุกที ถ้าจะแก้ท่านให้แต่งยาชำระในทั้งชักดากให้หดขึ้นมาด้วย ท่านให้เอาผลราชดัด ๑ ผลสารพัดพิศม์ ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รากสะแก ๑ รากมะเกลือ ๑ รากกะพังโหม ๑ ยาดำ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท หญ้างวงช้างทั้งต้นทั้งราก ๑ ผลขี้กาแดง ๓ ผล ผ่าออก ๔ เอาแต่ ๓ ทั้ง ๓ ผล ผลมะกรูดผ่า ๔ เอาแต่ ๓ ทั้ง ๓ ผล บรเพ็ชเอารอบศีษะคนไข้ ขมิ้นอ้อยยาว ๑ คืบคนไข้ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้ต้มด้วยเหล้าครึ่งน้ำครึ่ง ให้กินทุเลากินปิดดีนัก

ยาชักดากให้หดขนานนี้ ท่านให้เอาน้ำนมราชสีห์เครือเต็มกำมือกลั้นใจตัดหัวแลท้าย ๑ ขอบชะนางแดงเต็มกำมือกลั้นใจตัดหัวแลท้าย ๑ ขมิ้นอ้อยหัวใหญ่หั่นเปนน่าแว่นให้ได้ทวดึงษาการ ๓๒ ลงแว่นละตัวทั้ง ๓๒ แว่น ต้มด้วยน้ำปูนใสกินหายดีนัก

จบลักษณทรางโจรเจ้าเรือนแต่เพียงนี้

ทีนี้จะกล่าวด้วยทรางนางริ้น เปนทรางจรสำหรับแห่งทรางโจรนั้นต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้จักลักษณโดยสังเขป

อันว่าลักษณะทรางนางริ้นนั้นมีแม่ ๔ ยอด มีบริวาร ๕๖ ยอด ตั้งแต่กุมารออกจากเรือนเพลิง บางทีขึ้นแซกทรางโจรบางทีต่อสิ้นทรางโจรแล้วจึ่งตั้งขึ้น อยู่สดือ ๑ ยอด บริวารมาขึ้นด้วย ๘ ยอด ขึ้นอยู่ทรวงอก ๑ ยอด บริวารมาขึ้นด้วย ๑๒ ยอด ขึ้นอยู่ลิ้น ๑ ยอด บริวารมาขึ้นด้วย ๑๖ ยอด รายกันลงมาตามลำฅอถึงทรวงอก ขึ้นอยู่ทรวงอกนั้น ๑ ยอด บริวารมาขึ้นด้วย ๒๐ ยอดรายกันไปขึ้นตามหัวเหน่าแลไส้อ่อนไส้แก่ เมื่อกุมารได้ ๓ เดือน แม่ทรางอันอยู่ในลำฅอนั้นกระทำให้ฅอแห้งให้ลิ้นขาว ดูดนมมิได้ เมื่อกุมารได้ ๖ เดือน บริวารทรางซึ่งขึ้นลิ้นไก่ ๓ ยอดนั้นกระทำให้ไอเปนกำลัง บริวารทรางทั้งนั้นก็รายกันลงไปบรรจบแม่ทรางที่อยู่ทรวงอก แล้วจึงกระทำให้กระหายน้ำ ให้ฅอแห้ง ให้เชื่อมหลับตาไป บริวารทรางซึ่งอยู่ในทรวงอกนั้น ก็รายกันมาถึงชายโครงชายตับ บรรจบกันกับแม่ทรางที่อยู่ในสดือนั้น กระทำให้ตกมูกตกเลือดสดๆ ออกมา บางทีให้เปนเสมหะโลหิตเหน้าออกมาบ้าง แล้วก็ให้ตับหย่อนย้อยลงมาชายโครง ให้จับเปนเวลา ให้ตาแดงเปนสายโลหิต ถ้าวางยาผิดก็ตาย ถ้าวางยาถูกเข้าค่อยงดต่อไป เมื่ออายุกุมารได้ ๑ ขวบกับ ๖ เดือน ทรางที่ในกะเพาะปัสสาวะนั้นก็กระทำให้ขัดปัสสาวะ บางทีปัสสาวะตกออกมาดังน้ำเข้าน้ำดินสีพองก็มี ดังน้ำหนองก็มี ให้เจ็บปวดดิ้นเสือกไปมา ให้ปัสสาวะหยด บางทีให้ฟกขึ้นที่ปลายองคชาต บางทีให้ฟกขึ้นที่หัวเหน่าเปนหนอง แลหนองนั้นก็กลายเปนปรวดเข้าคือลูกนิ่วบ้าง เกิดเพราะทรางนางริ้น จะตายใน ๓ ขวบนี้ ถ้าบังเกิดแต่มารดาออกไฟมาถึง ๑ ขวบกับ ๗ เดือน กุมารผู้นั้นจึ่งจะรอดจากความตาย ด้วยทรางนางริ้น ถ้าจับแต่ลิ้นกำหนดทรางโจร ๓ ขวบไป ถ้าจะนับบรรจบกันเข้าเปน ๔ ขวบกับ ๗ เดือน จึงจะพ้นกำหนดทรางโจรทรางจร เมื่อพ้นกำหนดทรางโจรทรางจรแล้ว คือทรางโจรจะได้ทำต่อไปจนอายุ ๗ ขวบจึงจะรอดจากความตาย อันว่าลักษณะทรางโจร มิใช่จะมีแต่กุมารเกิดวันเสาร์เท่านั้นหามิได้ ย่อมเข้าแซกไปทุกๆ ทรางเมื่อปลายมือ อันว่าลักษณะทรางนางริ้นเล่าไซ้ จะจรแซกแต่ทรางโจรก็หามิได้ ย่อมแซกไปทุกๆ ทรางดุจกัน ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาทรางนางริ้นไปเมื่อน่า ท่านให้ยักย้ายรักษาเอาตามทรางเจ้าเรือนเดิมนั้นเถิด

จบลักษณะทรางนางริ้นแต่เพียงนี้

ทีนี้จะว่าด้วยหละอันชื่อมหานิลกาฬ ประจำทรางโจรต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายรู้จักลักษณะโดยสังเขป

อันว่าลักษณะหละมหานิลกาฬนั้น ยอดดำดังยอดนิลขึ้นอยู่ ๑ วัน แปรเปนแสงเพลิง ขึ้นอยู่ ๒ วันแปรไปเปนสลักเพ็ดทั้งคู่ก่อนทั้ง ๒ ข้าง ถ้ามหานิลกาฬขึ้นให้ตายไปครึ่งตัว ร้องไห้มิออกเลยดุจกล่าวมาดังนี้

ยาแก้หละมหานิลกาฬ ให้เอาเปลือกฝิ่น ๑ เปลือกมะกรูด ๑ ผลสาระพัดพิศม์ ๑ รากหนาด ๑ ใบคนทีสอ ๑ รากผักโหมหิน ๑ ใบทับทิม ๑ การะบูร ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำนมโคทาปากหายดีนัก

ถ้ามิฟังท่านให้เอา ใบถั่วแระ ๑ กานพลู ๑ น้ำประสารทอง ๑ ตำลึงตัวผู้ ๑ รากกล้วยตีบ ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเปรียงพระโค ทาปากหายดีนัก

ยาชื่อเทพมงคล (เครื่องยาแลวิธีทำมีแจ้งอยู่น่า ๒๔๖ แห่งเล่มนี้แล้ว ในที่นี้จะว่าด้วยวิธีใช้น้ำกระสาย ซึ่งยังมิได้กล่าวข้างต้นนั้นต่อไป) ยาเทพมงคลขนานนี้แก้หละทั้ง ๘ จำพวก ถ้าหละสีแดงให้ละลายน้ำฝางกวาด ถ้าสีเหลืองให้ละลายน้ำขมิ้นเครือกวาด ถ้าสีดังควันเทียนให้ละลายน้ำหอมเอาดีงูรำหัดกวาด ถ้าสีดังดอกตะแบกช้ำให้ละลายน้ำผลเถาคันสุก เอาเกลือรำหัดกวาดหายสิ้นดีนัก

ยาชะโลมดับพิศม์หละ ขนานนี้ท่านให้เอา ใบระงับทั้ง ๒ ใบตำลึงตัวผู้ ๑ ใบโคกกระออม ๑ ใบจันทน์หอม ๑ ใบชะบา ๑ ใบฟักเข้า ๑ ดินประดิวขาว ๑ ดินสีผ่อง ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้า ชะโลมสำหรับหละ ๘ จำพวกหายดีนัก

ยากินแก้พิศม์หละจับหัวใจ ขนานนี้ท่านให้เอา สังกระณี ๑ เนระภูสี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ กระว่าน ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ ข่าแก่ ๑ หอมแดง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ กะชาย ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ รากไคร้เครือ ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๒ ผลราชดัด ๑ น้ำนมราชสีห์ ๑ พรรผักกาด ๑ ปลาไหลเผือก ๑ ในเสนียด ๑ ใบน้ำเต้า ๑ ใบพลูแก ๑ มะกล่ำเครือ ๑ รวมยา ๒๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ ละลายสุราทั้งกินทั้งทา แก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง แก้พิศม์หละจับหัวใจแลให้หอบพัก ให้ระส่ำระสายก็ดี หายสิ้นดีนักอย่าสนเท่ห์เลย

ขนานหนึ่งท่านให้เอา หมึกหอม ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบสันพร้าหอม ๑ ใบพิมเสน ๑ ข่าแก่ ๑ ดีงู ๑ พิมเสน ๑ ชมด ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้กินบ้างทาคางบ้างหายดีนัก

ยาแก้หอบ ขนานนี้ท่านให้เอา มูลแมลงสาบ ๑ กฤษณา ๑ จันทน์เทศ ๑ เปลือกสันพร้านางแอ ๑ พันงูแดง ๑ ผลผักชี ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ เขากวาง ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ ถ้าเปนเพื่อไข้ให้ละลายน้ำดอกไม้ก็ได้ น้ำใบทับทิมต้มก็ได้ กินแก้ลิ้นกระด้างคางแข็งหอบพักหายดีนัก

จบลักษณะหละมหานิลกาฬประจำทรางโจรแต่เพียงนี้

ทีนี้จะว่าด้วยละอองพระบาท อันชื่อว่าละอองเปลวไฟฟ้า ชื่อว่าละอองทับทิม ก็ว่าอันประจำทรางโจรนั้นต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขป

อันว่าลักษณะละอองพระบาทเปลวไฟฟ้า ละอองทับทิมก็ว่านั้น เมื่อจะตั้งก็บังเกิดขึ้นเม็ดยอดแดงดังน้ำชาต มิฉนั้นดุจดังยอดทับทิม กระทำพิศม์ ให้ลิ้นกระด้างคางแข็งแลให้ตาแข็ง ให้ชักเท้ากำมือกำให้ตัวร้อนเปนกำลัง ถ้าแก้มิทันท่านกำหนดไว้แต่เช้าจนเที่ยงตาย ถ้าแพทย์จะรักษาท่านห้ามอย่าให้วางยาอันร้อน เข้าเหล้าน้ำมันน้ำส้มนั้นเลย ท่านให้แก้ด้วยยาอันเย็นหอมฝาดขม นั้นจึ่งรอดชีวิตรแลลอองพระบาท ๗ ประการนี้ดุจกัน

ยาแก้ละอองเปลวไฟฟ้า ละอองทับทิม ให้เอาปู่เจ้าพุงแก ๑ ปู่เจ้าสมุงกุย ๑ ตับเต่าทั้ง ๒ สีหวดทั้ง ๒ นมแมวทั้ง ๒ ฉัตร์พระอินทร์ ๑ รากไคร้เครือ ๑ ระย่อม ๑ พิศม์นาด ๑ เนระภูสี ๑ จันทน์ทั้ง ๒ งวนหมู ๑ รากประคำดีควาย ๑ โคนไม้ไผ่ป่า ๑ ผักแพวแดง ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้ น้ำปูนใสก็ได้ ทาปากกุมารหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา รากทองหลางหนาม ๑ รากพุงดอ ๑ รากมะกล่ำเครือ ๑ กฤษณา ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ผลเบ็ญจกานี ๑ สีเสียดเทศ ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำทลายหมากดิบทาปากก็ได้ กวาดก็ได้ หายแล

ยาอมสำหรับกัน ขนานนี้ท่านให้เอา เปลือกคล้ากำมือ ๑ ผักบุ้งขันกำมือ ๑ ใบหว้า ๓ ใบ ต้ม ๓ เอา ๑ แซกดีเกลือแต่น้อย รินออกไว้ให้เย็นให้แซกฝิ่นลงอมหายดีนัก

ยาชื่อสุวรรณธารา ขนานนี้ท่านให้เอา คงคาเดือด ๑ สมุดเกลื่อน ๑ ใบระงับ ๑ ใบน้ำดับไฟ ๑ รากพุมเรียงป่า ๑ รากหญ้านาง ๑ รากพุงดอ ๑ ใบท้าวยายม่อม ๑ รากสลอดน้ำ ๑ รากมะเดื่อ ๑ รากนางนูน ๑ รากจิงจ้อ ๑ นมผา ๑ รากงิ้ว ๑ รากฝาง ๑ ขี้ตะกรันเหล็ก ๑ ดินสีผ่อง ๑ ฝุ่นจีน ๑ ดินประสิวขาว ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าชะโลมก็ได้ กินแก้ระหายน้ำก็ได้ กินแก้พิศม์ภายในก็ได้สิ้นทุกอย่างดีนัก

ยาชื่อเบ็ญจโกฐ (ใหญ่) ขนานนี้ท่านให้เอา โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ สมอทั้ง ๓ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เกสรบัวน้ำทั้ง ๗ ดอกจำปา ๑ ดอกกะดังงา ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกมะลิซ้อน ๑ ดอกมะลิลา ๑ ดอกสลิด ๑ ดอกคำไทย ๑ ดีปลี ๑ แห้วหมู ๑ ผลจิงจ้อ ๑ ดีงูเหลือม ๑ ฝิ่น ๑ อำพันทอง ๑ ชมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๔๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ให้บดกลางคืน ให้แล้วแต่ในวันเดียวนั้น ปั้นแท่งตากลมไว้ ๓ วัน แล้วจึงเอาออกผึ่งแดดแต่พอแห้งสนิท แล้วจึงเอาบันจุขวดไว้ แก้พิศม์ละอองพระบาทอันบังเกิดเพื่อทรางทั้ง ๗ วันนั้น กระทำพิศม์ให้กลุ้มจับหัวใจให้กระสับกระส่ายต่างๆ แลให้สลบไปก็ดี ถ้าจะแก้ทรางขึ้นตาละลายน้ำมะนาวหยอดตา แล้วจึ่งเอาทากระหม่อม แลทาคางทั้ง ๒ ข้าง ทาอกบ้างแก้หิวหอบระส่ำระสาย ถ้าจะแก้เชื่อมมึนแลกระหายน้ำ ให้ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้ได้ทั้งเด็กแลผู้ใหญ่หายแล

จบลักษณะละอองเปลวไฟฟ้าประจำทรางโจรแต่เพียงนี้

ทีนี้จะว่าด้วยลมอันชื่อว่าลมกุมภัณฑ์ แลบาทยักษ์คู่กัน ซึ่งบังเกิดขึ้นมาประจำทรางโจรนั้นต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้ลักษณะโดยสังเขป

อันว่าลักษณะลมกุมภัณฑ์ แลบาทยักษ์ซึ่งบังเกิดนั้น เมื่อจะเกิดให้จับตาช้อนดูสูงหน้าเขียว ให้ชักเท้ากำมือกำหลังแอ่น ให้กัดฟันจับเอาเมื่อกุมารเปนเพื่อพิศม์ต่าง ๆ แลลมจำพวกนี้จึงบังเกิดพลอยด้วยเมื่อขณะนั้น ถ้ามิดังนั้นก็เกิดเพราะบาดเสี้ยนแลหนาม เปนบาดแผลเข้าที่ใดๆ ย่อมเปนไข้พิฆาฎ จึ่งเปนกำเนิดลมกุมภัณฑ์ ลมบาทยักษ์แลลมจำปราบก็พลอยด้วยดุจกล่าวมาดังนี้

ถ้าจะแก้ท่านให้เอา เมล็ดในลูกสะบ้าปิ้งไฟ ๑ ลูกคนทีสอขั้ว ๑ พริกไทยขั้ว ๑ ใบกระเม็งขั้ว ๑ ใบสหัศคุณ ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงเอาน้ำใบกระเม็งเปนกระสาย บดแล้วเศกด้วยพระคาถานี้

“สก์กัต๎วา พุท์ธรตนํ ฯ ธัม์มรตนํ ฯ สังฆรตนํ ฯ โอสถํ อุต์ตมํ วรํ หิตํเทวมนุส์สานํ ปริฬาหูปสมนํ อาหุเนย์ยํ ปาหุเนย์ยํ พุท์ธเตเชนะ ฯ ธัม์มเตเชนะ ฯ สังฆเตเชนะ ฯ โสต์ถินา นัส์สัน์ตุปัททวา สัพ์เพทุก์ขา ฯ สัพ์เพภยา ฯ สัพ์เพโรคา วูปสเมน์ตุเต” ๑๐๘ จบ

แล้วจึงปั้นแท่งไว้กินแก้ลมกุมภัณฑ์ลมบาทยักษ์ อันจับให้ชักเท้ากำมือกำ ให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง ดุจดังกล่าวมาแต่หลังนั้นหายสิ้นทุกประการดีนักใช้ได้ ๑๐๘ ยาขนานนี้ชื่อว่ามูลจิตร

ยาแก้กุมภัณฑยักษ์ ขนานนี้ท่านให้เอา ตาอ้อยแดง ๑ ดอกผักคราด ๑ ผิวมะกรูด ๑ ผิวมะนาว ๑ ผิวไม้ไผ่ป่า ๑ ผิวไม้สีสุก ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ เมล็ดในแตงโม ๑ เมล็ดในแตงกวา ๑ ผลผักชี ๑ มือฟัก ๑ มือน้ำเต้า ๑ ผิวไม้บง ๑ หัวคูน ๑ รากถั่วไก่ ๑ รวมยา ๑๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำซาวเข้าเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้ลมกุมภัณฑ์ลมบาทยักษ์หายดีนัก

ยาแก้ชักเส้นกระเหม่นตัว ขนานนี้ท่านให้เอา รากมะกล่ำเครือ ๑ รากหญ้านาง ๑ รากกรุงเขมา ๑ ข่าแก่ ๑ เบี้ยผู้เผา ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำกินหาย

ยาทาตัวแก้ชัก ขนานนี้ท่านให้เอา ใบแมงลักทั้ง ๒ ใบโหระพา ๑ กะชาย ๑ ใบผักเป็ด ๑ ใบกะเม็ง ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำส้มซ่าน้ำส้มสาชู ก็ได้ทาหายดีนัก ใช้มามากแล้ว

ยาชื่อปทานพิศม์ ขนานนี้ท่านให้เอา แก่นมหาด ๑ จันทน์ทั้ง ๒ เกสรบัวหลวง ๑ ชลูด ๑ กรักขี ๑ โกฐทั้ง ๙ ผลชะเอมเทศ ๑ กานพลู ๑ เบ็ญจกานี ๑ เนระภูสี ๑ ยา ๑๙ สิ่งนี้ เอาสิ่งละ ๗ สลึง การะบูร ๓ บาท ชมด ๑ พิมเสน ๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง รวมเปนยา ๒๒ สิ่งด้วยกันทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดปั้นแท่งเท่าเมล็ดถั่วภู กิน ๗ เม็ดแก้พิศม์ฝีแลไข้สันนิบาต แลแก้ตานทรางอันให้ชักนั้น แลแก้ลมอันเปนพิศม์ ให้ร้อนทุรนทุราย แลตัวร้อนให้ชักจำหระข้างหนึ่งก็ดี ทั้งสองข้างก็ดี ยาขนานนี้อาจบำบัดได้สิ้นทุกประการดีนัก

ถ้าจะแก้ด้วยยาขนานใดๆ มิฟัง แลโรคนั้นกล้าดุจกล่าวมา ให้แพทย์ตั้งยาอันชื่อว่า พระสุริยมณฑล ขนานนี้แก้ต่อไปเถิด

ยาชื่อพระสุริยมณฑล ขนานนี้ท่านให้เอา ชมดเชียง ๑ พิมเสน ๑ อำพันทอง ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง โกฐทั้ง ๙ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ สังกระนี ๑ เนรภูสี ๑ รากสาระพัดพิศม์ ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ดีงูต้น ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เปราะหอม ๑ กะถินแดง ๑ พริกหอม ๑ พริกหาง ๑ พริกล่อน ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รากปลาไหลเผือก ๑ บาท จันทน์เทศ ๑ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ รากไคร้เครือ ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๑ กานพลู ๑ น้ำนมราชสีห์ ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท ทองคำเปลว ๑๐๘ แผ่น รวมยา ๓๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เทศน้ำกุหลาบก็ได้เปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ กินแก้ชักลิ้นกระด้างคางแข็ง แลแก้พิศม์ไข้เหนือแลตานทรางก็ดี แลแก้ลมกุมภัณฑ์แลบาทยักษ์ แก้ได้ทุกประการเปนมหาวิเศษนักได้เชื่อมาแล้ว

ยังลักษณะลมอันหนึ่งชื่อว่า ลมจำปราบ ร้ายนัก กระทำพิศม์ดุจพิศม์งู เมื่อจะจับนั้นให้ดิ้นเสือกไปก่อนแล้ว จึงให้ชักหลังแอ่นไปถึงตะโพก แลให้ตัวเย็นขนกลับขึ้นเบื้องบน ถ้ามิรู้แก้ตายทันที แลโลหิตแตกทุกเส้นขน

ยาแก้ลมจำปราบ ให้เอา โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ เปลือกพุดทรา ๑ เปลือกตะคร้อ ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย

ยาอาบสำหรับกัน ขนานนี้ท่านให้เอา มะขามเปียก ๑ ผลผักชีล้อม ๑ ผลผักชีลา ๑ ผลกระเช้าแดง ๑ รากกระเช้าขาว ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้มอาบให้ทั่วตัวแล้วให้นวดด้วยจึงหาย ยาต้มอาบนั้นอย่าให้ร้อนนักทั้งกินทั้งพ่น ให้เศกด้วยมนต์นี้

“โอมจำปราบจำเปลว โอมบังพระคลังกระพองสวาหะ”

๗ คาบ แล้วให้เศกเปลือกพุดทรา เปลือกตะครองพ่นอิก ห้ามอย่าให้พ่นด้วยสุรา น้ำมัน ถ้าจะผายยาเข้าสลอดจะตายเสีย ท่านให้ผายด้วยยาอันชื่อเบ็ญจอำมฤตมหาอำฤตทั้งคู่นั้น แลลมจำปราบจำพวกนี้ แพทย์ผู้ใดจะรักษาเปนอันยากนัก ให้ดูลักษณะจงแม่นแท้แล้วจึ่งให้วางยา อันว่าลักษณะนั้นดุจกันกับป่วงงูเห่า แต่ทว่าป่วงงูเห่านั้นให้ลงให้รากก่อนจึ่งเปน แล้วให้ตัวแดงขนกลับลุกขึ้นทุกเส้น ให้ดิ้นเสือกไปแล้วก็สลบ อันว่าลักษณะลมจำปราบนั้นก็ดุจกัน แต่ทว่าแปลกกันที่ให้ตัวนั้นคล้ำดำเข้า นี้เปนลักษณะลมจำปราบ อาการตายนั้นบอกดุจกันให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้สำคัญดูจงแม่น เด็กผู้ใหญ่ก็มีเหมือนกันดุจกล่าวมาดังนี้

ยาชื่อเบ็ญจอมฤต ขนานนี้ท่านให้เอา มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ สิ่งละส่วน รงทอง ๒ ส่วน มะกรูดใหญ่ ๓ ผล แล้วจึงเอา มหาหิงคุ์ รงทอง ยาดำ ทั้ง ๓ สิ่งนี้ยัดเข้าในผลมะกรูดสิ่งละผล แล้วจึ่งเอามูลโคสดพอกสุมไฟแกลบให้สุกระอุดี แล้วจึ่งเอารากตองแตก ๔ ส่วน ดีเกลือ ๑๖ ส่วน ทำเปนจุณแล้วประสมกันเข้า จึงบดทั้งเนื้อมะกรูดปั้นแท่งไว้เอาหนัก ๑ สลึง ละลายน้ำส้มมะขามเปียก กินลงสดวกดีนัก ยาขนานนี้ถ้ากุมารได้ ๓, ๔, ขวบกินก็ได้ดีเหมือนกัน

ยาชื่อมหาอมฤต ขนานนี้ท่านให้เอา เทียนทั้ง ๕ ตรีกะฎุก สมอไทย ๑ ยาดำที่ดี ๑ ผิวมะกรูด ๑ รากตองแตก ๑ เอาสิ่งละส่วน มหาหิงคุ์ ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ ว่านน้ำ ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน โกฐน้ำเต้า ๑๐ ส่วนครึ่ง รวมยา ๑๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำมะขามเปียกเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำร้อนกินแก้ทรางเพื่อลม ถ้าจะชำระมูกเลือดให้ละลายน้ำใบเทียนใบทับทิมต้มกินหายดีนัก

ยาชื่อแท่งทอง ขนานนี้ท่านให้เอา โกฐสอ ๑ โกฐเชียง ๑ โกฐหัวบัว ๑ เทียนดำ ๑ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ชลูด ๑ ขอนดอก ๑ สมุลแว้ง ๑ ดอกบุนนาก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ทองคำเปลว ๑ ชมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณแล้วเอา จันทน์เทศ ๑ กฤษณา ๑ ดอกมลิ ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกโยทะกา ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาสิ่งละ ๑ บาท ต้มเอาน้ำเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ แก้ลมกุมภัณฑ์ลมบาทยักษ์ ปวดขบในอกให้นอนมิหลับสวิงสวายร้อนในอกก็ดี ให้ละลายน้ำดอกไม้แซกผลจันทน์ ๑ หัวมหากาฬ ๑ กินหายดีนักได้เชื่อแล้วอย่าสนเท่ห์เลย

ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ลมทรางทั้ง ๗ จำพวก ให้ดูลักษณะแห่งโรคนั้นก่อน ถ้าวางยาเปนสุขุมมิชอบ, จะชอบยาร้อน ก็ให้แพทย์ทวียาเปนอันดับขึ้นไป ตามอายุโรคกุมารกุมารีนั้น ท่านให้วางยา ๗ ขนานนี้ก่อน คือยาหิงคุ์หนึ่ง ยาอินทรจักรหนึ่ง ยามหาจักร์หนึ่ง ยามหากะเพราหนึ่ง ยาประสระน้ำขิงหนึ่ง ยาประสะดีปลีหนึ่ง ยามหากะเพราใหญ่หนึ่ง ยาทั้ง ๗ ขนานนี้เปนกลางให้วางดูก่อน ถ้ามิฟังจึงให้ประกอบยานี้แก้ต่อไปดุจกล่าวมาดังนี้

ยาชื่อวาโยพินาศ ขนานนี้ท่านให้เอา ตรีกะฎุกสิ่งละ ๔ ส่วน กานพลู ๕ ส่วน หิงคุ์ยางโพ ๑ ดองดึง ๑ เอาสิ่งละ ๖ ส่วน พริกล่อน ๑ รากเจ็ตมูลเพลิง ๑ การะบูร ๑ เอาสิ่งละ ๘ ส่วน ใบหนาด ๒๐ ส่วน รวมยา ๑๐ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะกรูดกิน เปนยาประจำท้องแก้ลมทรางทั้ง ๗ จำพวกหาย

ยาชื่อมหาไชยวาต ขนานนี้ท่านให้เอา ผลโหระพา ๑ กระวาน ๑ เกลือกะตัง ๑ โกฐสอเทศ ๑ การะบูร ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ เปลือกมะรุม ๑ รากจิงจ้อ ๑ เอาสิ่งละส่วน กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ พริกล่อน ๑ ว่านน้ำ ๑ ใบหนาด ๑ ขิงแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน ยาดำ ๑ เทียนดำ ๑ กานพลู ๑ หัศคุณเทศ ๑ ดองดึง ๑ รากเจ็ตมูลเพลิง ๑ ดีปลี ๑ สมอเทศ ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน มหาหิงคุ์ ๘ ส่วน รวมยา ๒๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณไว้เปนผงก็ได้ บดปั้นแท่งก็ได้ ละลายน้ำส้มซ่า น้ำขิง น้ำข่า ก็ได้ ให้กินยาขนานนี้อาจสามารถจะประหารเสียซึ่งลมทรางทั้ง ๗ จำพวก ให้ปราไชยพ่ายแพ้ได้โดยง่าย แลแก้ได้ทั้งลมผู้ใหญ่ คือลมอำมะพาธ ลมราชยักษ์ ลมทักขิณคุณ ลมประวาตคุณ ลมสันดาน ลมกล่อน ลมปัตฆาฎ แลลมทั้งปวงหายดีนัก

ยาชื่อหิงคาธิจร ขนานนี้ท่านให้เอา ลำพันทอง ๑ สะค้าน ๑ ว่านน้ำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ รากชาพลู ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ รากไคร้เครือ ๑ พริกล่อน ๑ เอาสิ่งละส่วน รากทนดี ๑ กะเทียม ๑ เทียนขาว ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน เทียนดำ ๓ ส่วน โกฐกะดูก ๖ ส่วน ขิงแห้ง ๑ เจตพังคี ๑ เอาสิ่งละ ๘ ส่วน ดีปลี ๑๐ ส่วน สมอไทย ๑๑ ส่วน รวมยา ๑๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้หรือทำผงไว้ก็ได้ ตามแต่แพทย์จะยักกระสายเอาตามคัมภีร์สรรรพคุณนั้นเถิด แลแก้ลมสันดาน ลมดาลคุณ ลมจุกเสียด แก้ลมแน่นอกขัดอก แลแก้ตกช้าง, ม้า, วัว, ควาย, เส้นช้ำเอ็นแคลงภายในชำรุด แลแก้ลมกุมภัณฑ์บาทยักษ์ แลแก้ลมทรางทั้ง ๗ จำพวก หายดีนักได้เชื่อมาแล้ว

ยาชื่อหิงคุวาตา ขนานนี้ท่านให้เอา เทียนเยาวภานี ๑ เทียนทั้ง ๕ โกฐทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ กระวาน ๑ ผลกราย ๑ กานพลู ๑ ดอกสน ๑ สมุลแว้ง ๑ รากเจ็ตมูล ๑ ใบคนทีสอ ๑ อุตรพิศ ๑ บุก ๑ กลอย ๑ กระดาดทั้ง ๒ รากชุมเห็ดไทย ๑ เปล้าทั้ง ๒ ขิงแห้ง ๑ รากขี้กาทั้ง ๒ รากจิงจ้อใหญ่ ๑ ผลสมอไทย ๑ มหาหิงคุ์ ๑ รากทนดี ๑ แก่นแสมทั้ง ๒ เอาสิ่งละส่วน ยาดำ ๖ ส่วน น้ำประสานทอง ๑ สหัศคุณ ๑ เอาสิ่งละ ๑๒ ส่วน พริกไทย ๑๔ ส่วน ดีปลี ๒๔ ส่วน รวมยา ๔๑ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ก็ได้ ทำผงไว้ก็ได้ ให้ละลายน้ำขิง น้ำส้มซ่าก็ได้ ให้กินแก้ตานโจร แก้ไข้ชรา แก้ลมชักเท้ากำมือกำ แลแก้ลมทั้ง ๑๘ จำพวกหายดีนัก

ยาชื่อสว่างอารมณ์ ขนานนี้ท่านให้เอา เปลือกตีนเป็ดต้น ๑ เปลือกตีนเป็ดเครือ ๑ เปลือกมรุม ๑ เปลือกทองหลาง ๑ สะค้าน ๑ ชาพลู ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ขมิ้นเครือ ๑ เบ็ญจราชพฤกษ์ ๑ เบ็ญจขี้เหล็ก ๑ เปลือกกันเกรา ๑ ใบแมงลัก ๑ ใบรักขาว ๑ ใบสลัดได ๑ ใบสลอดกินลง ๑ ใบมะตูม ๑ ใบสวาด ๑ ใบเสนียด ๑ ใบคนทีสอ ๑ รากจิงจ้อทั้ง ๒ ตรีผลา ใบกะเม็ง ๑ ผลพิลังกาสา ๑ สหัศคุณทั้ง ๒ ไฟเดือนห้า ๑ ข่าตาแดง ๑ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ รวมยา ๔๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาพริกไทยกึ่งยาทั้งหลายทำเปนจุณ ละลายน้ำร้อนน้ำส้มซ่าน้ำมะกรูดก็ได้ กินแก้ลมใหญ่ทั้ง ๗ จำพวกหาย ดุจดังพระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวมาแต่หนหลังนั้นเปนมหาวิเศษนัก

พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวมา ในลักษณะกุมารเกิดวันเสาร์ เปนกำเนิดแห่งทรางโจรเปนเจ้าเรือนกระทำโทษ กำหนดทรางนางริ้นเปนทรางจร สำหรับแซกทรางโจรกระทำโทษ กำเนิดหละอันชื่อว่ามหานิลกาฬกระทำโทษสำหรับประจำทรางโจร กำเนิดละอองพระบาทอันชื่อว่าละอองเปลวไฟฟ้าก็ว่า ละอองทับทิมก็ว่า กระทำโทษประจำทรางโจร กำเนิดลมอันชื่อว่ากุมภัณฑ์บาทยักษ์ แลลมจำปราบแซกกระทำโทษสำหรับทรางโจร จบบริบูรณ์แต่เพียงนี้

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ