ว่าด้วยโรคไภยต่าง ๆ แห่งกุมาร

จะกล่าวในลมทราง มีต่างๆ หลายชาติ อุทรวาตมันตั้ง ทารกยังอยู่ใน ครรภ์นั้นให้มารดา จุกเสียดหน้าแทงหลัง ลมนี้ตั้งติดพัน คลอดจากครรภ์มารดา อยู่ในนาภีนั้น ลมสำคัญกองใหญ่ จับพัดไปในเส้น ตามแถวเอ็นสันหลัง ขึ้นไปยังกระหม่อม เลี้ยงอยากย่อมแสนเข็ญ เวลาเย็นร้องไห้ ยาห่อนได้ห่อนคลาย สามเดือนหายหยุดเอง ลมหนึ่งเกรงสืบไป มันจักให้ซูบผอม ท้องขึ้นย่อมอาเจียน จุกเสียดเวียนช้อนตา ชักบาทากำมือ สมมุติชื่อต่างๆ แพทย์ลางบางเรียกว่า ตะบองราหูจับ บ้างเนื่องนับเข้าใน สะพั้นไฟให้โทษ

นามหนึ่งโสดกุมาร ขลุงสันดานมันจับ ข้างขึ้นนับแต่ตาย ข้างแรมคลายพอรอด ลมหนึ่งคลอดจากครรภ์ วาตะภักษ์นั้นจึ่งเกิด ด้วยกำเนิดทารก เมื่อแรกตกฟากหงาย โลหิตร้ายมารดา ในโอฐอ้าร้องไห้ ไหลเข้าในนาภี โรคจึ่งมีต่างๆ เขม่าทรางหลายพัน

โทษหนึ่งนั้นกุมาร เสมหะดาลอยู่ใน นาภีให้ตัวร้อน ลงท้องนอนซึมมึน ทดท้องขึ้นหอบพัก อาเจียนชักช้อนตา ดูสูงหน้าเขียวคล้ำ เท้ามือกำหลังแขง โรคเกิดแห่งกุมาร เหตุด้วยดาลเลือดร้าย โทษนี้ตายเปนต้น ไปไม่พันในวันสาม สัตหะตามคำภีร์ กล่าวมานี้เปนมั่น

อนึ่งกุมภัณฑ์ลมบาท ยักษ์ชาติสองเภท เมื่อจับเหตุกุมาร ไข้บันดานเพื่อพิศม์ เสี้ยนหนามติดบาดแผล ตกอู่แคร่บันได วิ่งเล่นไล่ไม้ลัด ล้มหน้าฟัดอกช้ำ มันจึ่งทำเมื่อนั้น ให้กัดฟันกลอกตา ชักเท้าง่ามือกำ มันแทรกซ้ำทั่วไป ทุกหมู่ไข้ทุกทราง จำปราบพางพิศม์งู ขบกัดตูเภทมัน เมื่อจับนั้นดิ้นรน กายเย็นขนกายกลับ เขียวคล้ำสรรพสรรพางค์ ชักฅอคางแหงนหงาย หลังแอ่นปลายบาทา จดเกษาตามพันธุ์ ยามิทันขาดใจ โลหิตในขุมขน จักไหลล้นออกมา

หนึ่งเรียกว่าป่วงงู เห่าให้ดูอาการ มีสัณฐาณเหมือนกัน ผิดสำคัญกายแดง ลงรากแรงดิ้นรน ลมหนึ่งยลนามมี หัศดีนั้นให้ เสโทไหลท้องขึ้น เท้าเย็นมึนถึงเข่า จับชักเท้ามือกำ ขนลุกซ้ำหลังแขง โรคนี้แรงกึ่งวัน จับเช้านั้นโทษตาย จับบ่ายคลายยาได้ เร่งแพทย์ให้เร่งยา ผู้รักษาจงจำ ห้ามอาบน้ำเช้าเย็น วางยาเปนสุขุม ยาร้อนรุ่มคือยา กระสายสุราน้ำมัน สลอดนั้นควรห้าม โรคทั้งสามกล่าวมา ชอบรศยาเหมือนกัน จำปราบพันธุ์ป่วงงู เรียนรู้ดูจงแน่

ยากินแก้พ่นทา น้ำอาบยาแช่ไว้ เศกมนต์ใส่ให้กัน สพั้นพันธุ์ปักษี สี่ตนมีต่างๆ ยักย้ายอย่างทำไป จับในไฟท้องขึ้น ให้เชื่อมมึนหลังร้อน แน่นอนถอนใจราก ไหลออกปากออกจมูก โทษนี้ถูกปักษี นนทปักษีมีนามทำ เข้าตามลำในไส้ ปนไปในเสมหะ เมื่อเข้าจะย่อมเปน เดียระฉานเข่นเขี้ยวร้อง ออกตามช่องทวารหนัก เมื่อมันจักออกสัตว์ รบกวนกัดขบกัน เมื่อเข้านั้นเช้าตรู่ มุดเมี้ยนอยู่ทั้งวัน สิ้นแสงฉันจึ่งไป มันกลัวใบหนาดหิงคุ์ นี้สองสิ่งเปนยา ทั้งรมทาปัดพ่น

เทพีตนหนึ่งนั้น เพศพันธุ์มันออกไฟ สามเดือนให้ช้อนตา เหลือกซ้ายขวาท้องขึ้น เท้ามือมึนเยือกเย็น นอนดูเห็นเงื้อง่า เสียงลมฟ้าฆ้องกลอง ตกใจร้องมันเข้า ออกเมื่อเช้าก่อนงาย เช้าเมื่อบ่ายสายัณห์ เสียงโศกสัลย์ร้องไห้ มันจึ่งไปเมื่อนั้น เช้าทางถันมันออก ทางเท้าบอกโบกควัน สุพรรณถันอิกใบ พลับพลึงใส่ประสม เปนยารมยาทา มันกลัวยามันหนี

อนึ่งปักษีชื่อกาฬ ออกไฟนานห้าเดือน ปีศาจเลื่อนเข้าอยู่ นอกไส้ดูอนาจ นอนหลับหวาดร้องไห้ ถอนใจใหญ่ไส้พอง รากออกช่องนาสา เมื่อมันมาทางปาก ทางไปจากทวารเบา ย่ำค่ำเข้ายามนอน ออกทินกรไขศรี เสียงสัตว์มี่รบกัน ไม้ไล่ครั่นครื้นหัก ตกใจทักแต่เข้า ยินสัตว์เร้าร้องไป สาบแร้งใส่สาบกา เผาเขาผ้าเมาะรม หยูกยาพรมเร่งขับ

อสุนนทจับเข้าอยู่ ในตับดูเพศมัน ทางเข้านั้นนาสา ออกตามตาตามฟัน เข้ากลางวันเมื่อเที่ยง สองยามเลี่ยงหลีกไป แขกทางไกลมาสู่ กำนั้นผู้พาให้ สัตว์น้อยใหญ่ไม่ว่า สี่บาทาสองเท้า มันเข้าเข้าไม่กิน นมไม่ยินยินน้ำ ตัวร้อนร่ำรำคาน ดิ้นแดดานเมื่อนอน หวาดไหวห่อนไม่หลับ มันได้ศัพท์สำเนียง คนทุ่งเถียงกันไป กลัวขนไก่ขนกา เร่งเอามาใส่เผา เมาะผ้าเย่าเรือนรม หยูกยาพรมแก้ร้อน เด็กนั้นอ่อนนับเดือน สิบเอ็จเลื่อนลงมา ตามตำราท่านไว้ กำหนดในปักษี

ล่วงขวบมีแต่ทราง ร้ายต่างๆจักเกิด นี้กำเนิดอย่าเบา โทษหนึ่งเล่าหละนั้น มีสีพรรค์สันฐาน อุไทยกาลสีแดง ขึ้นร้องแรงถีบเท้า ปิดหนักเบาไม่ออก ดิ้นรนกลอกกลับตา ชักบาทากำมือ ลอองชื่อไฟฟ้า สีแดงดาดังชาด พิศม์มันสาดแสนสา หัศชิวหากระด้าง ช้อนตาค้างคางแข็ง ตัวร้อนแรงรุมทำ เท้ามือกำฟันชิด ถ้าแก้พิศม์มิทัน เข้ากึ่งวันขาดใจ

หละหนึ่งในนามมี เนระกันถีสีเขียว สายเลือดเลี้ยวผ่านไป อยู่ที่ในยอดนั้น ขึ้นห้าวันมันให้ เสียงแหบไปปากแห้ง ท้องขึ้นแขงลงท้อง ละอองแก้วมรกฎ สีเขียวสดใบไม้ ขึ้นเขียวไปทั้งหน้า ให้ลิ้นตาคางแข็ง โตษร้ายแรงยิ่งนัก ปากชิดชักมือกำ ยามิยำมิทัน ครึ่งกึ่งวันขาดใจ

หละหนึ่งไซ้นามนั้น แสงพระจันทร์เหลืองใส แรกขึ้นให้ลงท้อง ตัวเย็นร้องร่ำไห้ น้ำตาไม่มีมา คางแข็งหน้าผากตึง ละอองหนึ่งชื่อกาฬ สิงคลีพาลเภทมัน แรกขึ้นนั้นสีขาว วันหนึ่งราวสองวัน สีมันนั้นกลับเหลือง สี่ห้าเรื่องรายวัน อาการมันแปรไป ลงเหลืองให้กระหาย เชื่อมมึนกายผิวภักตร์ เหลืองยิ่งนักจนใน กระดูกให้เหลืองสิ้น ดังขมิ้นราดรด ยามิถดถอยหาย เจ็ดวันตายเปนมั่น

หละหนึ่งนั้นชื่อนิล กาฬยินยอดดำ ขึ้นพิศม์ทำต่างๆ สรรพสรรพางค์เจ็บหนัก หายใจพักหลังแข็ง สองวันแรงรุมโทษ ยอดหนึ่งโสดขึ้นมา ในต้นขากันไกร สลักเพ็ดได้คู่กัน ถ้วนสามวันมันไห้ ตายแน่ไปกึ่งตน จักดิ้นรนห่อนได้ มันไม่ให้ร้องออก ละอองบอกหนึ่งนาม มหาเมฆตามตำรา สีแดงดาดังดอก ตระแบกชอกชายช้ำ มันขึ้นทำพิศม์ให้ หน้าดำไปปิดมูล ท้องขึ้นภูลขัดเบา ชักมือเท้าช้อนตา มิรู้ยามิทัน จักตายพลันเที่ยงแท้ แลนา

จักกล่าวกำเนิดทราง ร้ายต่างๆ ตามตำรา มีครรภ์ในเดือนห้า หกเจ็ดว่ากำหนดใน อาจาริย์ท่านกล่าวมา ในตำราอย่าสงไสย สามเดือนนี้ทายไป ถ้าออกในรวิวัน อังคารพุฒเสารี พระสุริยศรีบ่ายแสงฉัน ทารกคลอดมานั้น เลี้ยงยากครันอย่าไว้ใจ

กำเนิดโทษปักษี ทั้งสี่เภทเหตุทรางไฟ ทรางแดงขึ้นแกมใน นิลปัฏเปนคู่กัน นิลมาเกิดแกมทราง โจรต่างๆ ร้ายหลายพัน มันย่อมแทรกซ้ำกัน เกิดเด็กนั้นย่อมแรงกรรม์ กำเนิดแห้งทรางไฟ มีแม่ใหญ่สี่ประจำ บริวารสี่สิบซ้ำ แทรกไปขึ้นทั่วทั้งกาย เมื่ออายุกุมาร สามเดือนดานหกเดือนปลาย เก้าเดือนนั้นท่านทาย สามขนอนคาดสำคัญ บริวารทรางทั้งหลาย เดิมมันรายอยู่ไกลกัน ครั้นถึงกำหนดมัน กลับประชุมรอบนาภี ให้รากให้ลงท้อง เปนเลือดหนองบ้างลางที เสมหะตกมากมี เปนน้ำเข้าน้ำคาวปลา บ้างเปนน้ำส่าเหล้า น้ำไข่เหน้าตกออกมา แม่ทรางในบาทา ให้เท้าฟกขบขัดใน บริวารผุดออกมา นอกกายาแดงดาษไป ยอดเกรียมดังถูกไฟ ฝ่ามือเท้าทวารแดง ถ้าพร้อมโทษดังนั้น สิบห้าวันอย่าได้แคลง อาการมันสำแดง ออกให้เห็นซึ่งความตาย

ทรางแดงหกแม่นั้น บริวารมันมีมากหลาย ถึงเจ็ดสิบสองทาย รายเปนเรื่องอายุมา สามเดือนหกเดือนเลื่อน สิบเอ็จเดือนในตำรา ถึงยี่สิบเดือนตรา ขนอนคาดกำหนดใน บริวารทรางทั้งหลาย มักจักรายกันทั่วไป แต่เท้าสุดถึงใน กระหม่อมย่อมเห็นอาการ ผมสองเพรียงหูนั้น เปนเสี้ยนชันเสียงแหบปาน วิลาตาซมซาน หางตาเหลืองเงื่องหงอยไป ขี้ตาไม่รู้ขาด ปากแดงดาษผอมหอบใจ เข้านมไม่อาไลย ไห้หิวแห้งเชื่อมซึมมัว ตกเลือดตกหนองน้ำ ผิวหน้าคล้ำเกรียมทั้งตัว บ้างผุดออกเปนหัว สีลูกหว้าดาดาษไป ให้ต้องดูแข้งขา ถ้าด้านส่ากำหนดใน เจ็ดวันอย่าอาไลย หยูกยายากพ้นประมาณ ยวดยิ่งคุณยานัก จักเลื่อนไปในอาการ เพียงสิบห้าวันวาร ตายเปนแท้อย่าสงกา

ทรางโจรแปดยอดใหญ่ บริวารในท่านกล่าวมา สามร้อย ห้าสิบปรา กฎกำเนิดแห่งเภทมัน สามเดือนหกเดือนเลื่อน สิบเอ็จเดือนเขตรสำคัญ ถึงสิบแปดเดือนนั้น หัวเอกทรางทั้งบริวาร มันจักรายกันไป ขึ้นที่ใดให้อาการ เจ็บปวดแม้นเหมือนปาน ทรางข้างหลังดังกล่าวมา เภทพืชทรางทั้งนั้น มันมักอยากเค็มกุ้งปลา กินเข้าผิดเวลา จำเจซูบผอมแห้งไป ท้องลงไม่รู้หยุด สุดหยูกยายากแก้ไข แข้งขาคมคายไป ตกเลือดหนองดากออกมา สำแดงความตายนั้น มันย่อมขึ้นในลูกตา ฟกบวมแตกออกมา ทรางสำคัญจึ่งขึ้นใน ลำฅอสามดวงกาฬ ตัดอาหารไม่อาไลย ต้อขึ้นคุ้มขาดใจ เก้าวันให้กำหนดมา ชัณสูตรดูเมื่อตาย จักเปนลายทั่วกายา ดำแดงผุดออกมา กำหนดไว้เปนสำคัญ ทรางทั้งสามแม่นี้ มีโทษร้ายตายเหมือนกัน รักษาอย่าสำคัญ ไว้วางใจให้เร่งยา

จักกล่าวรูปทารก ท่านย่อมยกโทษเรียงมา ดูให้ต้องตำรา จะรักษาโรคกุมาร มะหัศรูปกระหม่อมใหญ่ มักหวาดไหวอันทยาน อยู่ในเรือนไฟตาน ทรางเขม่าบอห่อนเปน ด้วยกินน้ำนมแม่ รศร้อนแลจึ่งดับเข็ญ อาการที่มันเปน รากน้ำนมทางนาสา ออกไฟได้ห้าเดือน โรคาเตือนประมวญมา เสียงร้องดังวิลา ไส้พองท้องขึ้นไม่วาย เสมหะโลหิตธาตุ ชาติกำเนิดนี้ทรางตาย นิลมาเกิดกับกาย เด็กใดร้ายยากรักษา

อาทิตย์รูปนั้น มีสำคัญอยู่เปนตรา จงดูเมื่อเกิดมา กระหม่อมลึกเปนสำคัญ คือทรางแดงตัวผู้ แพทย์จงรู้กำเนิดมัน เมื่ออยู่เรือนไฟนั้น เขม่าขึ้นพอประมาณ ทรางขึ้นสุดปลายลิ้น ครั้นหล่นสิ้นในสัณฐาน เรือนไฟให้บันดาล เปนเสมหะคละอาจม เสมหะก้อนเปนธาตุ ดาษดาลทรวงเร่งปรารมภ์ รักษาอย่าชื่นชม จงรีบยาให้ถึงใจ

หะริรูปนั้นเห็น กระหม่อมเปนร่องลงไป เมื่อคลอดอยู่เรือนไฟ เขม่าขึ้นดาษดา แต่อกสุดปลายลิ้น ครั้นหล่นสิ้นตกลงมา ลำไส้จึ่งให้ปรา กฎด้วยรากลงก็มี โลหิตนั้นเปนธาตุ ชาติทรางร้ายแสนทวี นิลปัฏมาย่ำยี จะรักษาอย่าดูเบา

หนึ่งรูปอมนุษย์ สุดแสนร้ายโทษกำเดา ทรางโจรกำหนดเข้า เมื่อแรกยังอยู่ในครรภ์ ของคาวเนื้อปลาพล่า มารดาอยากเปนนิรันต์ร ตั้งแต่คลอดจากครรภ์ ทรางเกิดขึ้นแปดประการ แต่ทรวงถึงกระหม่อม อกรัดผอมรูปสาธารณ์ โรคนี้เปนโบราณ กรรมทารกติดตามมา

จักกล่าวทรางตั้งให้ปรา กฎโดยโทษา อันเกิดแก่เด็กทั้งปวง ขึ้นตาตาแดงดุจดวง จักขุคือยวง แลเยื่อลำไยพะพาน เปนต้อเปนเกล็ดซมซาน หมอกมืดงมงาน บ้างเหลืองแลลายทั้งตา ขึ้นหูหนวกหนองไหลมา ทราบซึมหูตา ด้วยเมื่อยแลน่าอาเกียรณ์ ขึ้นศีศะผมเหี้ยนเกรียน ขึ้นกระหม่อมย่อมเวียน ให้ฟกให้บวมซ่านไป ขึ้นนาสิกแสบข้างใน เพดาลหายใจ ให้คัดจมูกเหลือทน ปวดหัวหลับตาร้องรน ดูดนมเวียนวน แต่อ้าโอฐหายใจไป กินนมไม่ได้ขัดใจ ปากฅอแห้งไป แลเภทดังหวัดรำคาญ ขึ้นปากปากร้อนร้าวราน เปื่อยเหน้าแดงดาน เปนเม็ดเปนขุมขาวไป ขึ้นฅอขึ้นลิ้นไก่ไอ เอือกอวกกรุ่นไป ย่อมตัดอาหารน้ำนม ขึ้นหลังไหล่รวบระทม ตัวร้อนระงม ขึ้นทรวงให้เชื่อมมึนมัว ขึ้นไส้แก่ทวารหนักกลัว จุกเสียดบิดตัว ในท้องนั้นแน่นผูกพัน ขึ้นในลำไส้อ่อนมัน ให้ลงสำคัญ คูธเขียวเปนเม็ดรายๆ ขึ้นหัวเหน่าเพาะมูตรทาย ขัดเบามั่นหมาย ทั้งมูตรก็ค่นขาวไป ขึ้นเพาะเข้าเข้าตกใน เพาะกลับรากไป อาหารบ่อได้นำพา ขึ้นม้ามม้ามหย่อนลงมา จับเปนเวลา ให้ตกเสมหะนองเนือง มูตร์คูธไนยเนตรเนื้อเหลือง ปวดมวนขัดเคือง ให้ซูบให้ผอมหงอยไป ขึ้นปอดระหายหอบใจ ถ้าขึ้นสันใน ให้ตกโลหิตสดมา ขึ้นตับชายตับนั้นอา จมที่ลงมา เปนเลือดแลเน่าดำไป

ทรางโจรนางริ้นนั้นใน อาการต่างไป ทั้งเภทก็ผิดเพี้ยนกัน ขึ้นเพาะเข้าคูธโทษมัน เหม็นโขงคาวอัน ขาวหยาบเปนส่าเหล้าไป กินเข้าจำเจชอบใจ เค็มคาวตับไต ทั่งเนื้อแลมันกุ้งปลา ขึ้นทรวงอกรัดกายา แลลายคือปลา กะทิงเปนเกล็ดเภทพรรค์ ขึ้นพุงให้ลงหนักมัก ขึ้นแข้งขาคัน ให้คมให้คายสากไป ขนกลับมีตัวกินใน ผิวหนังซ่านไป ทุกขุมแลขนเส้นเอ็น หนึ่งดูอาจมเหลวเปน สายไหมเหลืองเห็น ทารกก็ให้ทายไป ว่าตั้งดาลเสมหะใน นาภีนานไป จะจับให้เท้ามือเย็น ตัวร้อนตาดูสูงเปน ล่วงสามเดือนเห็น จะชักให้เท้ามือกำ ที่ตั้งทรางนี้เราทำ อ่านให้ง่ายจำ กำหนดสำเนียงอักขรา คำภีร์อไภยสันตา ปฐมจินดา ที่กล่าวมานี้เหมือนกัน ล้วนแต่ใจความแกล้งสัน ไว้เปนพวกพรรค์ ผู้เรียนมีไห้ยากใจ บรรดาทรางกล่าวมาใน นี้จงแจ้งใจ ถ้าพร้อมด้วยโทษยากยา ไม่พร้อมตามในกล่าวมา น้อยโทษพอยา รักษาไปตามเภทมัน

อนึ่งตานโจรท่านรำพรรณ กล่าวมาสำคัญ กำหนดอายุกุมาร ห้าขวบสิ้นทรางจึ่งตาน โจรเกิดอาการ กำเนิดด้วยทรางเจ็ดวัน

อาทิตย์ทรางไฟสำคัญ ทรางน้ำวันจันทร์ ทรางแดงนั้นวันอังคาร วันพุฒทรางสกอก่อการ ครูวันบันดาน กำเนิดนั้นทรางคาวี วันศุกรทรางช้างเสารี ทรางโจรนั้นมี กำเนิดประจำตามวัน ครั้นกินอาหารหวานมัน เนื้อปลาสาระพรรณ์ อันหยาบอันช้าสาธารณ์ ธาตุนั้นแปรปรวนบันดาน ทรางเสียเภทพาล ที่เกิดประจำตามวัน ธาตุแปรทรางแปรทุกพรรค์ ทรางโจรนั้นมัน ไปเกิดในวันระวิวาร์ ทรางไฟนั้นกลับโจรมา จากวันระวิวาร์ มาเกิดในวันเสารี หละทรางละอองนั้นมี เภทพรรค์ดังนี้ จงรู้ทั้งสิ้นเหมือนกัน โจรลักเภทผิดเปลี่ยนวัน ทุกทรางทุกพรรค์ กำเนิดจึ่งเรียกตานโจร ธาตุแปรเปรียบพฤกษาโกร๋น รดน้ำชุ่มโชน ก็ยากจะฟื้นคืนงาม

จักเรียงเรื่องธาตุไปตาม คำภีร์หนึ่งนาม บุระธาตุบททรางไฟ เบื้องต้นมันให้ลงไป เสมหะเหน้าใน โลหิตระคนปนกัน อยากสดอยากคาวมี่มัน อาการเภทพรรค์ ให้ซูบให้ผอมตัวตา โรคกำลังน้อยไข้ดา ล่วงหลายเดือนมา จึ่งฆานธาตุต่อไป เบื้องปลายเปนยอดขึ้นใน นาสิกหนองไหล บทชิวหะธาตุดาษดา ขึ้นในต้นปลายชิวหา น้ำลายตกมา ในฅอให้แห้งผากไป ตัดอาหารไม่อาไลย จะยาต่อไป ให้แก้แต่ลิ้นกับฅอ ตกสิ้นกินอาหารพอ มีกำลังต่อ อายุให้ยืดยาวไป จึ่งวางยาล้างข้างใน ลำไส้ลงไป สิ้นร้ายจึ่งหน่วงปลายมือ

สันตาธาตุโทษนั้นคือ ทรางน้ำปลายมือ ให้ท้องนั้นขึ้นตัวเย็น ผูกหนักขักเบาเบื้องเปน นิ่วน้ำนมเห็น วิบัติวิบากนานา มูตร์ขึ้นขาวเรื้อรังมา นมน้ำเข้าปลา ไม่เอื้อไม่เฟื้ออาไลย โทษนี้ล่วงสามเดือนไป มันกินภายใน ให้ลงเปนโลหิตมา ตับโตผอมเผือดภักตรา ลมหนึ่งเกิดมา อุทระวาตนามมัน จับใจไส้พองขนชัน เชื่อมมึนนักมัน ให้หอบกระหายยากยา

พลพาหะทรางแดงตรา ต้นลิ้นรักษา ไม่ขาดจึ่งเกิดติดพัน ดาลเสมหะในไข้วัน เท้ามือเย็นมัน ให้ตัวนั้นร้อนรุ่มไป จึ่งพรหมสรกิจเกิดใน ลำไส้ดังไร เปนกลุ่มเปนก้อนปากดำ กินอาหารไม่เปนคำ เค็มคาวเจจำ อาจมเปนส่าเหล้าไป หน้าซีดเผือดผอมหอบใจ ล่วงสามเดือนไป กำหนดให้ร่วงลงมา เปนน้ำล้างเนื้อคาวปลา แล้วมันแปรมา เปนเลือดเสลดปวดมวน ดากออกร่างร้ายเรรวน แข้งขาคายควร แลคมดังเสี้ยนหนังปลา แล้วผุดเปนเม็ดขึ้นมา ทั่วทั้งกายา ดังผดแลหัดเต็มไป เปนต้อเปนเกล็ดขึ้นใน ตามืดฟางไป ในหูก็ขึ้นพุพอง เปนน้ำหนวกเน่าหนองนอง ท้องใหญ่ไส้พอง กำลังนั้นน้อยถอยแรง แม่ทรางต้นลิ้นสำแดง กำเริบร้ายแรง ให้ตัดอาหารน้ำนม แก้ตาลิ้นแข็งคายคม ตกได้ควรชม กุมารจะรอดสืบไป

ธาตุหนึ่งนามคงตะพั้นไฟ สะกอเกิดใน นาภีกำหนดแปดวัน โทษดังฝีอัคนีสัน กลับเข้าในมัน ให้ลงโลหิตสดมา บ้างเปนแต่น้ำคาวปลา บางทีตกมา เปนเลือดเสลดปนกัน ถ้ายืดยาวไปหลายวัน ยากินแก้กัน ไม่ถอยจะเน่าปวดมวน เชื่อมมึนกระหายหอบรวน ตัดอาหารชวน กำลังให้น้อยผอยไป มันกินตับปอดหัวใจ ล่วงพ้นเดือนไป จะยานั้นยากควรจำ

กาลธาตุทรางโคขึ้นทำ ยอดไม่มีน้ำ ดังหัดทั้งตัวทั่วไป เก้าวันจมเข้าข้างใน ทำท้องลงไป ดังน้ำล้างเนื้อจางๆ อยากคาวอยากเค็มครวนคราง ล่วงสองเดือนทราง อันหนึ่งจะเกิดขึ้นมา ต้นลิ้นแขงดังตาปลา ถ้ากวาดหลายยา มิถอยไปถึงหกเดือน ทรางที่จมไปเปนเรือน จักกลับขึ้นเหมือน ดังก่อนแต่ยอดแดงไป เชื่อมมึนระหายหอบใจ ตัวร้อนรุมไป ให้จับแต่เท้ามือเย็น กุมารผู้ใดถ้าเปน ดังนี้จงเห็น กำเนิดที่โทษยากยา สุจิมุขนั้นอา จมที่ลงมา พิการให้หยาบขาวไป อาหารเค็มคาวชอบใจ ถูกยาหยุดไป สักหน่อยแล้วก็กลับลงมา เวียนลงเวียนหยุดหลายครา เมื่อปลายมือมา ให้ผุดเปนหัวทั่วกาย ขึ้นตาเปนเกล็ดเหลืองหลาย มืดฟางงมงาย ให้ซูบให้ผอมหงอยไป ท้องใหญ่ไส้เดือนเกิดใน ลำไส้เต็มไป ให้จุกให้เสียดขบแทง หน้าซีดผาดเผือดโรยแรง สายตาดูแดง ครั้นตัวมันแก่พร้อมกัน รากออกตามปากพัวพัน บางทีตัวมัน ออกตามทวารเรี่ยราย ถ้าออกดังนื้มากมาย เที่ยงแท้โทษตาย กำหนดแต่ในสิบวัน

สันตุกะมีโทษนั้นมัน ล้มถูกสำคัญ ไข้อภิฆาฏจึ่งเปน จับตัวร้อนเท้ามือเย็น ผุดดังหัดเห็น เปนยอดทั้งตัวทั่วไป แล้วจมกลับเข้าทำใน ท้องร่วงลงไป ให้เน่าเปนบิดปวดมวน ให้เชื่อมกระหายหอบรวน เข้านมเชยชวน ให้กินบอได้นำภา กำลังน้อยโทษยากยา อาการกล่าวมา จะได้นั้นน้อยกว่าตาย สาระพัดกระเหม่นไข้ตาย ซูบผอมหอบกาย สยองทุกเส้นโลมา ยอดขึ้นแตกออกในนา สิกหูไหลมา เปนเลือดเปนหนองปนกัน เปนไปหลายเดือนหลายวัน ดังนี้โทษมัน ขึ้นกินสมองชอนไป แล้วจักกลับตกตามใน ลำไส้ลงไป ดังหนองสมองเหมือนกัน ตัดอาหารตัดโทษมัน เมื่อตายสำคัญ เลือดจะตกทุกทวาร กล่าวมาล้วนแต่โทษตาน โจรถ้าอาการ ละไว้ดังนี้ยากยา

----------------------------

จะกล่าวธาตุทั้งสี่ ในคัมภีร์ย่อมมีมา กุลบุตร์มีปัญญา อันน้อยค่อยกำหนดฟัง เตโชพิการกาล กำเนิดโทษวาโยบัง เกิดจุกแลเสียดหลัง จะหายใจบอิ่มใจ บวมมือแลบวมเท้า อาหารเล่ากินมิได้ ตั้งแต่จะลงไป จนสุดสิ้นกำลังโรย ครั้นสิ้นอาหารใน อุทรให้กระหายโหย หิวน้ำระยำโดย อุจจาระพิการเปน ดังหนึ่งน้ำล้างเนื้อ กลิ่นนั้นเจือก็แม้นเหม็น ตะพาบน้ำอันคาวเปน กำเนิดไฟอันสิ้นไป ปากแห้งแลฅอแห้ง เหตุเพื่อแห่งอาหารใน อุทรนั้นสิ้นไป น้ำลายขาดบค้างฅอ เอามือนั้นบ้ายยา จงล้วงดูในลำสอ ถ้าเย็นเปนเหน็บต่อ จะตายในเมื่อวันเย็น

วาโยพิการนั้น ให้หูตึงกำเนิดเปน น้ำหนวกอันไหลเหม็น ก็หายไปในตาฟาง เมื่อยมือแลเมื่อยเท้า สันหลังฟกก็ดูพาง ผีเอ็นกำเริบลาง บ้างก็อ้วกอาเจียนลม บ้างลงจนสิ้นแรง อาหารแดงในอาจม สิ้นไส้ก็เพื่อลม ในลำไส้จะหนีกาย ครั้นหน่วงด้วยคุณยา ที่ลงมาค่อยห่างหาย กลับรากลำบากกาย เปนดังนี้ด้วยแรงกรรม อาการที่กล่าวมา เจ็ดวันวาจงควรจำ ยายากจะยายำ โทษนี้แท้กำหนดตาย

อาโปให้โทษนั้น ที่แท้ท่านกำหนดหมาย ดีเลือดเสลลทาย ทั้งสามนี้ท่านกล่าวมา

จักกล่าวดีก่อนให้ปรา กฎโดยโทษา ให้แจ้งประจักษ์โดยมี จักตายเหตุนั้นคือดี แตกรั่วบางที ซึมซ่านแลล้นไหลไป ล้นนั้นด้วยโทษแห่งไฟ กำเริบหนึ่งใน อสระพิษฤทธิ์ยา ต้องกายกายร้อนดังกา ยาต้องอาญา วิบากด้วยท่านโบยตี ตกต้นไม้สูงตับดี แตกรั่วบางที ฝีร้ายแลโทษทรางกาฬ ขึ้นดีขั้วดีอติสาร ดีรั่วอาการ ให้ลงแลเหลืองทั้งกาย คนไข้ให้ปากเราะราย โทโษมากมาย ให้บ่นพะเพ้อพิมไป โทษนี้ยากยาแก้ไข้ เต็มช้าจักไป กำหนดแต่เจ็ดจันวาร ดีแตกดีนั้นคือกาฬ จักสิ้นสุดปราณ เมื่อแตกอย่าได้ควรแคลง โทษโลหิตนั้นสำแลง อาหารแสลง พะเอินให้ร่วงลงไป ครั้นสิ้นสุดอาหารใน ลงเปนน้ำใส ระคนด้วยเลือดจางๆ บ้างเปนบิดปวดมวนคราง เน่าเหม็นออกพาง พินาศด้วยรากลมทำ จับนิ่งแน่เท้ามือกำ ตัดอาหารทำ ให้ชักให้ช้อนเหลือกตา ถ้าพร้อมด้วยโทษกล่าวมา ยากแพทย์จะรักษา จะยานั้นยากควรจำ เสมหะหนึ่งอยู่ในลำ ฅอหนึ่งประจำ ในทรวงแลย่อมเต็มทรวง อยู่ทวารหนักหนึ่งทั้งปวง เปนสามคือยวง อยากเยื่อแลย่อมพัวพัน ถ้าไฟลมกล้านักมัน ข้นแค่นแข็งขัน ให้หย่อนให้ย้อยลงไป จากทรวงตั้งอยู่ยังใน ท้องมารกระไษย์ ดังป้างแลม้ามตัวมี ให้จับเชื่อมมึนบางที เปนเวลามี ให้จุกให้เสียดขบแทง เสมหะในทวารสำแดง โทษมันนั้นแรง ให้ลงแลเหลืองทั้งกาย มูตตาเหลืองยาบมิคลาย เมื่อจักใกล้ตาย ก็เน่าเปนบิดปวดมวน เสมหะในลำฅอกวน กินอาหารชวน ให้เหียนให้รากครุ่นไป โทษพร้อมดังกล่าวมาใน นี้จงแจ้งใจ จะยานั้นยากสุดยา

ปัถวีโทษกล่าวมา ออกจากกายา กระดูกแลเนื้อเส้นเอ็น อาหารเก่าหากให้เห็น อาการที่เปน วิบัติที่ในอาหาร ถึงป่วยไข้มาช้านาน ห่อนสิ้นอาหาร อันเก่าแต่ก่อนเดิมมา เมื่อจักสิ้นอายุปรา กฎลงออกมา ให้เน่าแลเหม็นสาธารณ์ เปนเลือดเปนหนองพิการ เสมหะสันฐาน คือมูลมุสิกร่วงราย บ้างดำบ้างเขียวเหลืองลาย สีนั้นย่อมทาย ว่ามูลขี้เทาตกลง เนื้อนั้นคือปลีแขนชงค์ เมื่อจักปลดปลง ชีวิตร์ก็ห่อนเห็นหาย กระดูกย่อมอยู่ในกาย ครั้นเมื่อจักตาย ก็ผอมเหี่ยวแห้งรูปทรง ยังเกิดเห็นอัฐิปลง สังเวทดูคง สันฐานแลกลมเหลี่ยมแบน ชีพจรแต่ก่อนห่อนแคลน เดินอยู่ตามแผน ระริกระรัวพัวพัน สิ้นแรงจักสิ้นอาสัญ สิ้นเส้นสำคัญ สิ้นชีพจรเคยเดิน โทษใครดังนี้พะเอิน จักตายไม่เกิน กำหนดในสามเจ็ดวัน

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ